บทที่ 61: พ่อที่ไร้ยางอาย
พิงกี้อาบน้ำเสร็จ เธอออกไปเคลียร์ค่าคอมของเมือ
คืนกับเจ๊แดง
เธอเดินไปและโทรหาเตชิตไป ได้ยินว่าเขาสบายดี เธอก็รู้สึกโล่งอกไปทีนึง
เธอไม่สนคำเห่าหอนเค้นถามแบบไม่พอใจของเขา
พิงกี้ก็วางสายทิ้งเลย
เรื่องเมื่อคืน ตีให้ตายเธอก็จะไม่เอ่ยถึงสักคำ!
เพราะว่าเตชิตเคยพูดทักทายกับเจ้าของเนเวอร์ แลนด์ ตอนนี้เงินเดือนของพิงกี้ถึงได้
เคลียร์วันต่อวัน ไม่เหมือนคนอื่นที่เคลียร์เดือนละ
แบบนี้เธอถึงจะมีเงินโอนให้โรงพยาบาลทุกวัน เพื่อ
จ่ายค่ารักษาของยายสมศรี
เดินไปถึงหน้าออฟฟิศของเจ๊แดง เธอเคาะประตู
* เข้ามา!” เสียงของเจ๊แดงดังมาจากข้างใน ผลัก
ประตูเข้าไป
พิงกี้สังเกตเห็นในห้องนั่งอยู่หลายคน ดูแล้ว
เหมือนประชุมอยู่
ทันใดนั้นเธอพูดอย่างเกรงใจ “ ขอโทษค่ะ ฉันไม่รู้ ว่าเจ๊แดงประชุมอยู่
เดี๋ยวดิฉันค่อยมาใหม่ค่ะ
* ไม่เป็นไรจร่า เธอเข้ามาเลย เงินของเธอตอนเช้า เจ๊ก็คิดไว้ให้แล้ว
เจ๊แดงกวักมือเรียก พิงกี้ลังเลไปครู่นึงและเดินไป
หาเจ๊แดง
ตอนที่เจ๊แดงหาบิลเคลียร์เงินจากกองเอกสาร พิงกี้ รู้สึกผู้คนที่เหลือต่างมองมาที่เธอ
สายตาที่ดูเธอเหมือนแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก เธอ ขมวดคิ้ว ไม่รู้เพราะสาเหตุอะไร
เธอก็ไม่มีอารมณ์ไปสนใจ ” หาเจอแล้ว เธอเซ็นต์
ชื่อเถอะ ”
เจ๊แดงเอาบิลเคลียร์ตังค์วางตรงหน้าพิงกี้ และเอา
เงินให้เธอ
พิงกี้เซ็นต์ชื่อเสร็จอย่างรวดเร็ว เธอรับเงินจากเจ๊แดงพร้อมยิ้มแย้ม
ขอบคุณนะคะ เจ๊แดง
* ไม่เป็นไรจร่า” เจ๊แดงโบกมือให้เธอไป คิดๆแล้ว เธอก็พูดขึ้นมาอีก
“ พิงกี้ เธอทำงานที่นี่ก็มียอดขายก็ใช้ได้นะ แต่ว่า
บางทีอย่าเอาชีวิตแลกกับเงินเกินไป เป็นผู้หญิงต้อง คิดเผื่อตัวเองให้เยอะๆรู้ไหม?
เจ๊รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ดีคนนึง แต่…เฮ้อ
เรื่องของเธอๆต้องคิดไตร่ตรองให้ดีๆนะ
“ ค่ะ ฉันรู้แล้วค่ะ ” พิงกี้นั่งรถเมล์ไปที่โรงพยาบาล จู่ๆเธอนึกถึงคำพูดของเจ๊แดง
เธอถึงเข้าใจที่เจ๊แดงพูด และสายตาที่คนอื่นมอง
เธอแปลกๆ
ดูท่าแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน คนพวกนี้ต่างก็คง คิดว่าเธอเป็นผู้หญิงแบบนั้น
ขายตัวเพื่อแลกกับเงินแล้วมั้ง? พิงกี้ยิ้มขมขื่น
แต่เธอรู้เรื่องแบบนี้อธิบายไปก็แค่นั้น ยิ่งพูดยิ่ง
เหมือนแก้ตัว
พิงกี้มาถึงโรงพยาบาลอย่างรีบร้อน เธอรีบเอาเงิน ฝากเข้าบัญชีของยายเป็นอันดับแรก
พอเธอถึงหน้าห้องพักของยายสมศรี กลับเห็น ชาตรียืนรออยู่หน้าห้องเหมือนกัน
“ พิงกี้ ! ” ชาตรีเดินมาด้วยสายตาวิ้งๆ “ลูกมา
เยี่ยมยายสมศรีหรือ?
ลูกกินข้าวหรือยัง พ่อว่าเราไปกินข้าวกันสักมื้อและ คุยกันหน่อยเถอะ
ไม่ได้เจอลูกมานาน พ่อคิดถึงลูกมากเลย!
คิดถึง? เห็นท่าทีที่เอาใจใส่ของชาตรี พิงกี้หัวเราะ
“ วันนี้คุณมาหาฉันก็เพื่อให้ฉันสัญญาขายตัวใช่
ไหม? ”
ก็มีแต่เรื่องนี้แหล่ะที่จะทำให้ชาตรีใส่ใจ เพราะยังไง
ขอแค่เธอเซ็นต์สัญญาไป
เขากจะสามารถเอาเครงการจากเควนโดหลาย
โครงการ
เป็นสัญญาขายตัวที่ไหนหล่ะ?” ชาตรียิ้มอย่างน่า
ชื่นตาบาน
“ คุณเควินชอบลูกถือเป็นบุญวาสนาของลูก
ขอแค่ลูกได้รับความรักความลุ่มหลงจากคุณเควิน ต่อไปก็จากอยู่เหนือคน
ถึงเวลานั้น พ่อเจอหน้าลูกพ่อยังต้องทำความเคารพ
ลูกเลย
* อยู่เหนือคน? ฉันว่าเป็นเมียน้อยที่เจอผู้คนไม่ได้
มากกว่ามั้ง! ”
น้ำเสียงที่เย็ชาของพิงกี้แฝงไปด้วยการเหน็บแนม
“คุณชาตรี คำพูดบางคำฉันจะพูดแค่ครั้งเดียว ขอ
ให้คุณฟังให้ดีๆ
อย่ามาตามราวีฉัน ! ยายสมศรีฉันจะดูแลเอง ไม่ต้อง
ให้พวกคุณมาเสียสละอะไร
และความคิดชั่วๆของคุณดีที่สุดก็ล้มเลิกไปซะ
ฉันไม่มีทางให้ตัวเองเป็นผู้หญิงที่น่าสงสารและ ต่ำต้อยแบบนั้นหรอก!
ของเล่นที่เวลาอยากก็เรียกมาเบื่อก็ไล่ไป? เควินคิด
ผิดแล้ว
ถึงเธอจะจนแค่ไหน? จะรีบร้อนใช้เงินแค่ไหนก็ไม่ทิ้ง ศักดิ์ศรีของตัวเองเด็ดขาด!
เธอมีมือมีเท้า ถึงจะเหนื่อยให้ตายก็จะอาศัยแรงตัว
“ พิงกี้ ลูกอย่าหัวดื้อเลย ขอแค่ลูกกลายเป็นผู้หญิง
ของคุณเควิน
อย่าว่าเมียน้อยเลย ถึงเป็นเมียที่สามสี่ห้า
ผู้คนเกือบครึ่งค่อนเมืองก็ยังต้องมาประจบลูกเลย
สิ่งที่ลูกจะได้เหนือกว่าที่ลูกคาดคิดอีกเยอะ! เชื่อคำ
พูดของพ่อ
อย่าทำตัวนิสัยไม่ดีกับคุณเควินเลยนะ?”
“ คุณก็พูดได้สิ! ถ้าคนที่เป็นเมียน้อยคือลิสา คุณยัง
จะพูดแบบนี้ไหม? ”
พิงกี้โมโหจนอยากหัวเราะ คนอย่างชาตรีเห็นอำนาจ
เหนือกว่าสิ่งอื่นใด
แต่ก็ถือว่ามีความเอ็นดูให้ลิสาไม่น้อย เธอไม่เชื่อ
หรอก
ถ้าเควินให้ลิสาเป็นแค่ของเล่นบนเตียง
คนอย่างชาตรีจะตอบตกลงแบบนี้ไม่คิดอย่างนี้!
” มีอะไรไม่ได้หล่ะ?” เหนือความคาดหมาย ชาตรี
กลับไม่เห็นความสำคัญ
และพูดด้วยสีหน้าเฉยเมย “ เมื่อกี้พ่อก็บอกแล้ว ขอ แค่ได้เป็นผู้หญิงของคุณเควิน
ได้ความรักจากคุณเควิน ไม่มีฐานะเหมือนเมียหลวง
ก็ไม่เป็นไร
แต่ถ้าลูกมีปัญญาไต่เต้าขึ้นเป็นคุณนายของตระกูล
ภิรมย์ภักดี
คนเป็นพ่อก็ย่อมดีใจแทนลูกอยู่แล้ว เพราะยังไงลูก ถึงเป็นลูกแท้ๆในไส้ของพ่อ! ”
พิงกี้รู้สึกเหลวไหลสิ้นดี
ตอนนี้เขาคิดขึ้นมาได้แล้วหรือว่าเธอถึงเป็นลูกแท้ๆ
ในไส้ของเขา?
ก่อนหน้านั้นไล่เธอออกจากบ้าน แม้แต่เรียกหมอมา ดูอาการให้เธอก็ยังไม่ยอมเลย
“ พิงกี้…. ”
“ พอแล้ว! “พูดตัดหน้าชาตรี ดวงตาที่สว่างใส
ชายตามองเขา
‘ ดีที่สุดรีบไปเดี๋ยวนี้ ถ้าขืนอยู่ต่ออีกวินาทีเดียว ฉัน จะพูดเรื่องไม่ดีของคุณให้เควินฟัง
บอกเขาไม่ต้องให้โครงการคุณทำ
คุณเชื่อไหมว่าคุณเควินหลงฉันยิ่งกว่าหลงลูกสาว
คุณอีก?”
ชาตรีเชื่อ เขาเชื่ออยู่แล้ว! เขาก็เป็นผู้ชาย แค่ดูก็รู้
ว่าพิงกี้พิเศษกับเควิน
มันเป็นความอยากครอบครองลึกซึ้งที่ผู้ชายมีให้ผู้
แตกต่างกับตอนที่เขาอยู่กับลิสามีแต่ความเงียบสงบเพราะฉะนั้น วันนี้ที่เขาโผล่อยู่ที่นี่
ก็เพื่ออยากจะสายสัมพันธ์กับลูกสาวคนเล็กของตัว
เอง ว่าไปแล้ว
พิงกี้ถึงจะเป็นลูกในสายเลือดแท้ๆของเขา แต่ลูก แท้ๆของเขาคนนี้นิสัยดื้อรั้นเกินไป
ยังไงก็ลูกสาวตัวปลอมของเขาเชื่อฟังกว่าเยอะ
* ได้ๆๆ พ่อจะไปเดี๋ยวนี้ ครั้งหน้า….” คิดถึง สัญญาที่อยู่ในกระเป๋า
ชาตรีพูดอย่างหน้าด้าน “ ครั้งหน้าพ่อมาหาลูกใหม่
เราสองพ่อลูกกินข้าวด้วยกันนะ
เฮอะๆ ” พิงกี้หันหลังจะเดินเข้าไปที่ห้องยาย
สมศรี
ไม่อยากต่อปากต่อคำกับเขาอีก
“ รอก่อน! ” ชาตรีรั้งเธอไว้ ภายใต้สายตาที่เย็นชา
ของเธอ
เขาเอาเอาซองกระดาษสีน้ำตาลที่หนาปีกนึงออกมา
“ นคือนําใจเล็กๆน้อยๆของพ่อ….
พูดจบ
พิงกี้ก็แย่งซองมา “ปัง”เธอปิดประตูเสียงดัง
ปล่อยให้ชาตรีที่ปั้นหน้าฝืนยิ้มยืนอยู่ข้างนอก ถึงไม่
ชอบขี้หน้าชาตรี
แต่เธอจะใส่อารมณ์กับเงินไม่ได้ เงินเป็นของ
บริสุทธิ์!
เงินพวกนี้ถือว่าชาตรีชดใช้ค่าดำเนินชีวิตของเธอก็ แล้วกัน! คิดถึงตัวเองภาระเบาลง
ใบหน้าที่ขาวใสของพิงกี้มีรอยยิ้มขึ้นมา เธอนั่งลงที่
ข้างเตียงอย่างเบาๆ
กลัวจะส่งเสียงรบกวนยายสมศรี แต่ว่า พอนั่งลง
จู่ๆเธอเห็นรูปถ่ายใบนึงที่แอบไว้ใต้หมอน เดิมทีนี่ก็
ไม่ถือว่าเป็นอะไร
แต่ว่าเห็นรูปนี้แว๊บแรก พิงกี้รู้สึกคนในรูปหน้าคุ้น
ลุ้นจน…เธอหยิบรูปถ่ายขึ้นมาดูด้วยความสงสัย