คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ – 114: ฉันไม่ชอบลิปสติก สู้รสชาติของเธอไม่ได้

114: ฉันไม่ชอบลิปสติก สู้รสชาติของเธอไม่ได้

ยาวไป ไม่อยากอ่าน คืนนี้เจอกัน] เควิน ตอบแบบสั้นๆง่ายๆ

แฝงด้วยความสูงส่งและความเป็นผู้ดี

เขาเป็นผู้แข็งแกร่ง รู้สึกไม่มีอะไรมาข่มขู่ เขาได้

และเป็นคนน่ากระทืบมาก!

พิงกี้ “

นอกจากหัวเราะเฮอๆ ยังมีสีหน้าอะไรที่ เหมาะกับอารมณ์นาทีนี้ของเธอ?

ชั้นบนสุดของโมเดิร์นกรุ๊ป ออฟฟิศของ ท่านประธาน

พายุมองดูเควินที่กำลัง“ยุ่งมาก นั่งจิบชา

อยู่ชิวๆ

สายตาเต็มไปด้วยความนับถือ ต่อไป ตอน

ที่เธอจีบผู้หญิง
จะต้องเอาเจ้านายเป็นตัวอย่าง ต้องหน้า ด้านและใจดำ

ไม่ได้ตามเป้าหมายไม่ยอมเลิก ลา!—–กระวนกระวายรอจนถึงช่วงค่ำ

พิงกี้รอแล้วไม่เห็นเควินมาสักที ในใจเธอ รู้สึกโล่งอกไปที

ไม่มาก็ดี ใครจะไปรู้ว่าน้ำผึ้งจะแอบจับตาดู อยุ่หรือเปล่า?

และแอบล้วงความลับเธอได้หรือเปล่า?

แต่ว่า พอตอนที่เธอทานข้าวเสร็จกลับมา

ถึงที่ห้อง

ตอนที่คิดเรื่องไปด้วยปิดประตูไปด้วย

จู่ๆเสียงที่ทุ้มต่ำเสนาะหูดังมาจากข้างหลัง เธอ ท่าเธอตกใจจนสะดุ้ง
“ฉันรอเธอนานแล้ว”

“อ๊า! พิงกี้ตกใจร้องไปทีนึง แก้วน้ำที่อยู่ ในมือจับไม่แน่นจนหล่นลงไป

มองดูแก้วที่กำลังจะหล่นลงไปแตกเป็น

เสี่ยงๆ

เงาที่แข็งแกร่งเหมือนเสือชีต้าร์พุ่งมาที่ตรง หน้า ก้มตัวลงและยื่นมือออกมา

ในเสี้ยววินาทีได้เปลี่ยนแปลงชะตาของ

แก้วใบนี้

แม้กระทั่ง น้ำในแก้วก็ไม่ได้สาดออกมา

เลยแม้แต่น้อย

“แก้วของเธอ “เควินสีหน้าเรียบเฉยยื่น

แก้วน้ำให้พิงกี้

แต่แววตากลับมีความรื่นรมย์
“อ๋อ….”พิงกี้ยื่นมือมารับอย่างอึ้งและนิ่ง ไว้ เธอจับแก้วน้ำช่วงบนไว้

มือของเควินจับช่วงล่างของแก้วไว้ เธอ อยากเอาแก้วคืน

แต่เขาไม่ยอมปล่อยมือ สายตามองรอย ลิปสติกลางๆที่อยู่บนแก้วไว้

ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ความแดงก่ำ ค่อยๆคืบคลานมาที่แก้มของพิงกี้

ทั้งสองยืนอึดอัดและแข็งทื่อไว้ บรรยากาศ ในห้องก็ค่อยๆรู้สึกบอกไม่ถูก

พิงกี้เริ่มทนไม่ได้ก่อน เธอดึงมือกลับ เสี้ยว วินาทีที่ปล่อยมือกลับถูกผู้ชายกุมไว้

เอาแก้วใส่เข้าไปในอุ้งมือเธอ

“จับไว้”
“…อืม”

“ต่อไปไม่ต้องทาลิปสติก

“?” พิงกี้เงยหน้ามองเขาด้วยความ

สงสัย

แต่กลับเห็นนิ้วมือที่เรียวยาวของผู้ชาย สัมผัสที่คราบลิปสติกบนแก้วน้ำ

และส่งเข้าปากลิ้มลองรสชาติ จากนั้น เขา ขมวดคิ้วอย่างเย็นชา

“ฉันไม่ชอบลิปสติก สู้รสชาติของเธอไม่

ได้”

ใบหน้าที่สวยใสแดงก่ำ พิงกี้รู้สึกเหมือน ร่างกายกำลังจะเผาขึ้นมา

ผู้ชายคนนี้ดูเย็นชาและมาดเข้ม แต่ว่า

ความเคยชินที่แค่พูดจาไม่ถูกคอ ก็กลั่นแกล้งทําให้คนอยากเป็นบ้าจริงๆ!

แต่เขาดันไม่รู้ตัวเลยสักนิด นึกว่าตัวเอง กำลังพูดเรื่องเข้มงวดอยู่

ดีตรงที่เควินไม่ได้ยินและใส่ใจกับเรื่องนี้

เขาถาม“วันนี้เรียกฉันมามีเรื่องอะไร?”

“ฉันส่งข้อความให้คุณ เรื่องก็เขียนไว้ ชัดเจนหมดแล้ว!อย่างอีก

ฉันไม่ได้เรียกคุณมา แต่คุณนั่นแหล่ะที่จะ

มาเอง!”

เควินนั่งลงที่เก้าอี้ ขาที่เรียวยาวนั่งไขว่ห้าง

อย่างดูดี

บารมีที่แข็งแกร่งและน่าเกรงขามค่อยๆ

กระจายออกมา

มาก
ในเสียงมีความรู้สึกที่ไม่อาจปฎิเสธ “ฉัน อยากฟังเธอพูด

“พิงกี้ยอมรับชะตากรรม “ ก็ได้”

เริ่มพูดตั้งแต่สายเรียกเข้าของปราณีจนถึง วันนี้ จากนั้นพิงกี้ก็ถามเขา

“คุณจะรับมือยังไง คุณน่าจะไม่ได้ทิ้ง เบาะแสอะไรไว้ใช่ไหม?”

เควินกลับเงยหน้าขึ้น เมื่อเธอพูด อะไร?”

พิงกี้หายใจติดขัด ที่แท้ เมื่อกี้คำพูดของ เธอพูดไปเปล่าๆ?

“เมื่อกี้ที่ฉันพูด คุณไม่ได้ยินเลยหรือ?”

“ได้ยิน”

“แล้วทำไมคุณยังมาถามฉันอีกว่าเมื่อกี้ฉันพูดอะไร?”

เควินหันสายตาไปอย่างตกที่นั่งลำบาก มือ ที่วางไว้ตรงเข่าเคาะอยู่เบาๆ

ถ้าคุณหญิงหทัยรัตน์อยู่ที่นี่ ก็ต้องสังเกต เห็นลูกเขาร้อนตัวอยู่แน่ๆ

ตอนที่ในใจเขามีความลับที่บอกไม่ได้ ก็จะ ทำท่าทางแบบนี้! แต่พิงก็ไม่รู้

ถึงเธอตามจีบเควินมาเกือบแปดปี ในแปด ปีนั้นไม่เคยใกล้ชิดเขาเลย

ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าท่าทางเล็กน้อย ความหมาย

ว่าอะไร

เธอยังนึกว่าเขากำลังตั้งใจครุ่นคิดอยู่

“ฉันกำลังคิดปัญหา….” ไอใสๆไปสองทีเควินเปิดปากถาม

“วันนั้นปราณีโทรหาคุณเมื่อไหร่?

“เวลานี้สำคัญมากไหม?”

“อืม” จำไม่ได้แล้ว ยังดีที่มือถือยังมีข้อมูล

บันทึกอยู่

พิงกี้หยิบมือถือออกมาดู และบอกเวลาให้

เขาพยักหน้าเบาๆเพื่อแสดงว่ารู้แล้ว จาก

นั้นก็ถามต่อ

“เธอรู้สถานการณ์ทางบ้านของประพันธ์

กับน้ำผึ้งไหม?”

เควิน

คนนึงถาม คนนึงตอบ รู้ตัวอีกทีก็ห้าทุ่ม

แล้ว
พิงกี้ยุ่งมาทั้งวัน นาทีนี้เธอเหนื่อยล้าจนจะ ไม่ไหวอยู่แล้ว เธอฝืนทนลืมตาไว้

“คุณเควิน ฉันก็พูดมาเยอะพอสมควรแล้ว คุณยังมีอะไรจะถามอีกไหม?”

“มี”เควินสีหน้าจริงจัง

“รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง นี่

ถือว่าเป็นรายละเอียด

ปัญหาหลายๆอย่างเราจำเป็นต้องมีความ

พิงกี้ “

เอาเถอะ เธอรู้สึกที่พูดมาไม่ผิด แต่ว่า…..

“คืนนี้ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ค่อยคุยต่อ เถอะ” เธอพูดให้คำแนะนำ

รอมาทั้งคืน ในที่สุดค่านี้ที่รอคอยก็มาถึง
แววตา คมลึกของเควินมีความรื่นรมย์แบ

เข้ามา

แต่แล้วการควบคุมตัวเองที่แข็งแกร่ง ทําให้เขากดทับรอยยิ้มที่มุมปากไว้

“ได้”เขาลุกขึ้น และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม

เสนาะหู

“พรุ่งนี้ฉันจะมาหาเธออีก เธอวางใจเถอะ”

“ก็ได้ๆ” ถึงไม่ไว้ใจเลยสักนิด แต่ตอนนี้ พิงกี้แค่อยากไปอาบน้ำแล้วนอน

ใช้สายตาส่งเควินปืนออกไปจากหน้าต่าง

รูปร่างที่แข็งแรงหายไปในความมืดมน อย่างไว

จู่ๆ พิงกี้รู้สึกที่นี่อันตรายมาก ใครก็ สามารถปีนเข้ามาจากหน้าต่างได้
ถ้าเกิดเธอเจอกับพวกโรคจิตเข้า เธอจะไป ร้องไห้ให้ใครฟัง?

แต่ อยู่นี่นานสุดก็แค่เดือนเดียว รอให้บาร์ ตกแต่งเสร็จ

เธอก็ต้องย้ายออกแล้ว ปัญหานี้ไม่ต้องไป

ใส่ใจมาก

ตอนที่ไม่มีคน พิงกี้ก็ย่อมทำตัวตามสบาย อยู่แล้ว เธอถอดกางเกงขายาวออก

และไขว้มือล้วงเข้าไปในเสื้อ แล้วถอดบรา

โยนใส่บนเตียง

กำลังเอาเสื้อผ้าเตรียมจะเข้าไปอาบน้ำ

พอหันตัวกลับก็สบตากับแววตาที่คมลึก เข้า ผู้ชายที่สูงหล่อยืนอยู่ตรงหน้าเธอ

เธอถอยหลังอย่างควบคุมไม่ได้ “คุณ คุณ กลับมาอีกทําไม?
จากนั้น เธอก็เห็นผู้ชายที่เย็นชามาดเข้มมา

โดยตลอด

ใบหูค่อยๆแดงขึ้น มา ดวงตาที่คมลึกยืน

มองเธอไปหลายวิ

จากนั้น ไม่พูดสักคำก็ปีนออกไปทาง หน้าต่าง จากไปอย่างเก๋ไก๋

ท่าทางครั้งนี้ไวกว่าครั้งแรกตั้งเยอะ

คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

พอตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเองมีอะไรกับพีเขย? รู้สึกยังไงกับ ประสบการณ์? ฟังก็กล่าวเปรียวสะใจมาก! การวางแผนสับเปลี่ยน ครั้งนึง ทำให้พิงกีกับลิสาถูกสลับสับเปลี่ยนฐานะ เกิดเป็นสายเลือด แท้ๆของตระกูล ดำรงกูล ตั้งแต่วันที่ฟังก็กลับมาที่บ้านดำรงกูล พ่อ ไม่เอ็นดูแม่ไม่รัก มีแต่ความลำบากกับความทุกข์ใจ ไม่มีใครรักเธอ เลย และลิสาก็แย่งฐานะลูกสาวสุดที่รักของพ่อแม่ไปจากเธอ แย่ง พ่อแม่เธอไป แถมยังวางแผนพยายามกำจัดเธอให้สิ้นซาก

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท