เวลาเกือบการจราจรบนท้องถนนไม่ ค่อยดี บางทีก็แออัดมาก
เควินใช้เวลาครึ่งชั่วโมงเต็ม ในการมาถึง โรงพยาบาลที่ลิสาอยู่ ลงจากรถอย่างสงบ
ล็อครถแล้วเดินไปยังแผนกผู้ป่วยใน ออก จากลิฟท์ เดินตรงไปยังหน้าห้องของลิสา
กลับไม่ได้ยินเสียงที่โกลาหลอย่างที่คาด ไว้ รวมถึงไม่เห็นคนที่อาละวาดอยู่หน้าประตู
เขาขมวดคิ้วเข้ม หรืออาจจะเป็นเพราะลิสา รู้ว่าวันนี้เขาจะไปรับพิงกี้ที่ออกจาก
โรงพยาบาล จึงออกกลอุบายกุเรื่องขึ้นให้ เขากับมาจากโรงพยาบาลประชารัฐที่สามนั้น
แต่ว่าเขาก็ไม่รู้ว่าจะได้รับโอกาสนั้นจากพิง กี้หรือไม่ เมื่อก้าวจนจะถึงหน้าประตู
กลับได้ยินเสียงร้องไห้เบาๆ ดูไปแล้วอาจ จะเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ เขาเลิกสังสัยแล้วเร่งเท้าเดินให้เร็วขึ้น
เมื่อเปิดประตูเข้ามา เควินเห็นลิสาที่นั่ง หมอบอยู่บนเตียงในชุดผู้ป่วย
มือข้างหนึ่งปกปิดใบหน้าที่ซีดเซียวของ เธอ แล้วสะอื้นไห้อยู่ตรงนั้น มืออีกข้างกำปั้นอยู่ บนหัวเข่า
กําแรงจนเห็นข้อต่อที่เป็นสีขาว น้ำตาที่ เหมือนคริสตัลร่วงหล่นลงมาจากดวงตาทั้งคู่ที่
แดงก่ำของเธอผ่านลงมายังแก้มที่ขาวซีด
เหมือนดอกไม้อันบอบบางที่ถูกซัดด้วย คลื่นพายุและกลุ่มฝนที่โหมกระหน่ำ
ถูกทําลายอย่างน่าสงสาร ทำให้คนที่แรก
พบเห็นก็ยังสงสาร
หยาดทิพย์ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ นั่งอยู่ข้างเตียง ไม่รู้ว่าใช้ทิซซู่ซับน้ำตาไปกี่ครั้งแล้ว
พูดขึ้นด้วยความโกรธ ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไร ขึ้นกับคนพวกนั้น
เพียงเจอกับคุณเข้าก็เข้ามาโจมตีอย่างไม่รู้ สาเหตุ ฉันว่าพวกเขาต้องตาบอดกันแล้วแน่ๆ
หากไม่เพราะว่าคุณมีเมตตาปล่อยคนพวก นั้นไป ฉันนี่โมโหอยากจะแจ้งความจะแย่แล้ว ค่ะ!”
“เรื่องเป็นมายังไง?” เควินถามขึ้น
เมื่อได้ยินเสียง คนในห้องเพิ่งรู้ถึงการมา ของเขา มองไปทางเขาเป็นตาเดียวกัน
“เควิน !”
ทันใดนั้นลิสารีบลงจากเตียง ตรงไปทาง เขา เดินได้ไม่กี่ก้าวก็ร้องไห้ออกมากระโจน
เข้าสู่อ้อมแขนของเขา กอดเควินไว้ แน่น“เควิน ลิสาคิดว่าเกือบจะไม่ได้พบกับคุณ อีกแล้ว
ลิสากลัวมากเลยค่ะ.….
เควินยืนตัวแข็งทื่อ ผลักเธอออกเบาๆ เกิด อะไรขึ้น แล้วพวกที่มาก่อกวนล่ะ? ”
“ลิสานี่เจอภัยพิบัติอย่างไม่มีสาเหตุเลย จริงๆคะเนี่ย ดูเหมือนคนพวกนั้นจะหาผิดที่แล้ว
บอกว่าจะมาหามือที่สามที่ทำให้ความ สัมพันธ์ของคนอื่นแตกร้าว ปรากฎไม่รู้ทำไมถึง หามาที่ลิสา
สาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทําไมเป็นแบบนี้ไป
ได้………..………….”
ลิสาเช็ดน้ำตาที่ยังติดอยู่บนใบหน้า เมื่อ ไม่มีมือคอยปิดใบหน้า
ผมที่ย้อยลงมาประปรายก็ไม่สามารถ ปิดบังรอยฝ่ามือบนใบหน้าเธอได้ ดูไปแล้ว ทําให้ตกตะลึง
เควินไม่ทันได้สังเกตท่าทีเล็กๆของเธอ กลับแค่ถามขึ้น
“ผิดคนอย่างงั้นเหรอ ?”
“อืม” ลิสาพยักหน้า
“คนที่พวกเขาตามหาหน้าคล้ายคุณมาก
หรอ?”
ไม่……… ” ลิสาอธิบายด้วยแววตาที่สั่น
ไหว
“ดูเหมือนคนพวกนั้นกำลังจะแก้แค้นให้กับ ผู้หญิงคนหนึ่ง….…..…..
เพียงไม่กี่คำพูด ก็ทำให้ลิสามีความมั่นใจ กับเหตุผลตัวเองมากขึ้น เธอพูดต่อ
“ผู้หญิงที่มาในวันนี้แต่งงานกับผู้ชายคน นั้นแล้ว ปรากฎว่าผู้ชายคนนั้นกลับไปยุ่งกับผู้
หญิงอีกคน มีความสัมพันธ์กับผู้หญิงที่ไม่ บริสุทธิ์คนนึง ผู้หญิงคนนั้นรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ตั้ง ครรภ์แล้ว
จึงอยากหาวิธีกําจัดเด็กออก………ไม่รู้ว่า คนพวกนั้นได้ข่าวมาจากไหนว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่ โรงพยา
บาลนี้ จึงวิ่งมาคิดบัญชีที่นี่ แต่ปราก
ฎว่าไม่ทันระวังก็หามาถึงที่บนหัวของลิ
เควินที่ได้ฟัง เรื่องราวยุ่งเหยิงของชาย หญิงคู่หนึ่ง กลับขมวดคิ้วเข้มขึ้นไปอีก
โดยปกติผู้ชายจะตื้นกับเรื่องวุ่นวายระหว่างชายหญิงอยู่แล้ว ยิ่งไม่มีความ กระตือรือร้นที่จะถาม
เควินที่ปกติจะเป็นคนสุขุม ชาญฉลาดและ ยอดเยี่ยมมากกว่าผู้ชายทั่วไป
แต่พอเจอกับเรื่องแบบนี้ก็เหมือนผู้ชาย ทั่วไปที่ไม่อยากมีปัญหา
“คุณไม่เป็นไรใช่มั้ย?” เขาห่วงแค่เรื่องนี้
ไม่เป็นอะไรก็โอเคแล้ว
“ลิสาไม่เป็นไรค่ะ” ลิสาส่ายหัวเบาๆ
ถึงแม้ว่าจะพูดแบบนั้น เธอกลับใช้มือจับไป ยังรอยแดงขึ้นบนหน้า เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย
ตาคู่สวยที่มองไปยังเขาอย่างคาดหวัง เหมือนกำลังร้องขอที่พักพิง ดูอ่อนแอและช่าง น่าสงสาร
เควินได้แต่พยักหน้าอย่างใจเย็น
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว แต่ว่าก็ต้องให้หมอมา ตรวจดูหน่อย เผื่อยังมีบาดแผลที่คุณเองยัง สังเกตุ
ไม่เห็น หยาดทิพย์ดูแลคุณลิสาให้ดี มีเรื่อง อะไรก็รีบให้รายงานฉัน”
“เควินคะ….เอ่อ คุณจะไปตอนนี้เลยหรือ คะ? ” ลิสารีบคว้าชายเสื้อเขาไว้
ถามขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ “เควินคะ คุณอยู่ เป็นเพื่อนลิสา หน่อยไม่ได้หรอคะ?
ลิสาอยู่ที่นี่คนเดียวรู้สึกกลัวจังเลยค่ะ”
“ผมจะเพิ่มความปลอดภัยที่นี่ให้คุณ จะ ไม่มีใครมาคุกคามคุณได้อีก อีกอย่าง
หยาดทิพย์อยู่เป็นเพื่อนคุณได้
“เควิน…..”
“พรุ่งนี้ผมค่อยมาใหม่
บลงบนบ่าของลิสาเบาๆ เควินห้นกายเดิน
จากไปอย่างเรียบง่าย
ในไม่ช้าร่างที่สูงสง่าก็เดินหายไปต่อหน้า
ลิสา “
ใจของเธอเต็มไปด้วยความโกรธและ
อับอายไม่รู้จบ
หากไม่เพราะพยายามควบคุมความโกรธ ไว้ คงกรีดร้องตะโกนระบายความหดหู่ใจนี้ออก มา
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเธอ ในสายตาของ -ควินไม่มีความอ่อยโยน
เธอ
เธอมองไม่เห็นถึงความสงสารที่มาจาก สายตาของเขา เหมือนกับหมดความห่วงใยที่มี ต่อเธอแล้ว
ทั้งหมดเป็นเพียงการคาดเดาของเธอ
เธอแสดงออกชัดเจนขนาดนี้ เขากลับไม่ ถามเธอสักคำเกี่ยวกับความเจ็บบนใบหน้า
ไม่เพียงแค่นั้น แม้แต่ชื่อที่เรียกยังไม่อยาก ให้เธอใช้ “คุณลิสาดำรงกูล” แต่เป็นแค่
“คุณลิสา”เฉยๆ ทำให้เธอเหมือนถูก เหยียดหยาม
สองมือที่กำแน่นอยู่ข้างลำตัวจนข้อนิ้วขาว ซีด หน้าที่ซีดกลับแดงด้วยความโกรธ
ริมฝีปากที่ขาวซีดถูกกัดจนเลือดไหลซิบ ในดวงตาที่เคยมีแต่ความน่าสงสารกลับ
เหลือเพียงความเกลียดชัง
นังพิงกี้ ทำไมไม่ตายๆไปซะ!
ยังมีตระกูลยืนยงศิลป์ที่โลภมากและไร้ ยางอายอีก
เป็นคนทำให้ลูกตัวเองตายไปแท้ๆยังให้ เธอมาเป็นแพะรับบาปอีก สมควรตายกันให้
หมด
ใบหน้าที่มืดมน ลิสานั่งลงบนเตียงอีกครั้ง ด้วยอารมณ์ที่ถูกเก็บไว้จึงกลับมานั่งอย่าง
สง่างามและมีภูมิฐานอีกครั้ง หยาดทิพย์ที่ เพิ่งจะพูดปลอบพิงกี้ กลับยืนขึ้นเงียบๆอยู่ด้าน
ข้าง
มองด้วยความตกตะลึง เธอไม่อยากเชื่อ กับสิ่งที่ได้ยิน คุณลิสากำลังพูดโกหกอยู่แน่
ทั้งๆที่คนพวกนั้นรู้จักเธอ และยังเรียกชื่อ เธอด้วย แต่หยาดทิพย์ก็ไม่อยากคิดอะไรให้ มาก
หากงานที่ทําอยู่หลุดมือไปดูจะน่ากลัวยิ่ง กว่า อาจจะเกิดเรื่องที่ยุ่งยากตามมาก็ได้
หยาดทิพย์ที่กำลังตัดสินใจอย่าง ระมัดระวัง กลับถูกขัดด้วยเสียงของลิสา
เธอกำลังคุยโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงที่ดุร้าย
“ลิขิต ฉันมีงานให้แกท่า หลังจากสําเร็จ ฉันจะให้แกห้าแสน
“ใช่ จ่ายเงินสด!