แววตาของเตชิตมีแสงระยิบระยับอยู่ มอง เธอด้วยสายตาเร่าร้อนและคาดหวัง
“ฮ่า ฮ่าๆ…..” พิงกี้ยิ้มแห้งๆไปสองคำ “จะเป็นไปยังไง ฉันมิบังอาจคิดอะไรกับคุณ หรอกค่ะ คุณชอบแต่สาวเวอร์จิ้นเท่านั้น ฉัน เจียมเนื้อเจียมตัวดีค่ะ!”
ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าเขาแค่อยากคาดเข็มขัด นิรภัยให้ เธอก็จะไม่ตื่นเต้นแบบนี้ ! ทำซะตกใจ
เลย
เตชิตหน้าบูดบึ้งและหายใจชะงัก
แม่งเอ๊ย! เธอลืมประวัติอันมืดมนของเขา
ไม่ได้เลยใช่มั้ย?!
ตอนนี้เขารู้สึกเสียใจมาก ทำไมต้องพูด พร่ำเพรือต่อหน้าผู้หญิงคนนี้ ทำไมต้องพูดเรื่อง ที่เป็นไปไม่ได้แบบนั้นด้วย ก็เพื่อเอาหน้างั้น หรอ? แต่ตอนนี้เขาไม่เพียงแต่ไม่มีหน้า แถมใน สายตาเธอเขาก็กลายเป็นผู้ชายแบบนั้นไปแล้ว
“ขอบคุณนะคะ แต่ว่าครั้งหน้าคุณไม่ต้อง เข้าใกล้ฉันขนาดนี้ก็ได้นะค่ะ” ไม่รู้ว่าในใจเต ชิตกำลังร้องไห้ พิงกี้พูดด้วยสีหน้าจริงจัง
เตชิตรู้สึกยังมีความหวังเล็กน้อย “เพราะ อะไร เพราะเธอตื่นเต้นหรอ?”
“ไม่ใช่ ฉันกลัวว่าฉันจะจาม”
“ถ้าจามใส่หน้าคุณ ฉันจะรู้สึกเกรงใจมาก เพราะไม่ว่ายังไงหน้าตาคุณก็ดูดีซะขนาดนี้” พิงกี้หันหน้ามองไปที่ผู้ชาย
ต้องยอมรับว่าไอ้ตาบ้าคนนี้หน้าตาดูดีมาก
“พิงกี้ เธอไม่ทําลายบรรยากาศนี่จะตาย
หรอ?”
ด่าคนออกมาทีนี่บุคลิกภาพที่ดูดีหายไป
จริงๆเลย
น่าจะไม่ตาย อ๊า!
เตชิตสตาร์ทรถและซึ่งไปอย่างไว แรง ผลักดันย้อนกลับที่รุนแรงนี้ทำให้พิงกี้ตกใจมาก แผ่นหลังชนที่เบาะนั่งอย่างแรง เสียงกรี๊ดเสียง นี้ทําให้จบการสนทนาที่ไม่รื่นรมย์ครั้งนี้ไป
สองชั่วโมงผ่านไป
พิงกี้ถูกเตชิตพามาที่ธุรกิจในเครือของเขา อีกที่หนึ่ง คอนโดแสนสิริ เป็นโครงการขนาด เล็กโครงการหนึ่ง
รูปลักษณ์ภายนอกดูดี แต่พื้นที่ไม่ค่อย กว้างใหญ่เท่าไหร่
เพราะว่าเล็กเกินไป พิงกี้รู้สึกที่นี่ไม่เหมือ นที่ๆเตชิตจะมาลงทุน เขาเป็นคนชอบอะไรที่อลังการขนาดนี้ จะยอมอยู่ห้องที่มีขนาดแค่
สิบตารางเมตรหรอ?
พิงกี้ลงจากรถและถามด้วยความแปลกใจ “ไม่ไปที่วิลล่าของคุณหรอ?”
“เควินรู้ที่นั่น วันนี้ฉันทุ่มแรงตั้งเยอะถึงพ้นจากคนของเขาและพาเธอมาที่นี่ได้ เธอก็จง พึงพอใจเถอะ” เตชิตยักคิ้ว สีหน้าเหมือนดูถูก ที่พิงกี้เรื่องมาก
คอนโดนี้เป็นห้องที่เขาซื้อมาสองวันก่อน และใส่ชื่อคนอื่น ตั้งใจให้เธอไว้ใช้หลบภัย
“ฉันไม่ใช่ไม่พึงพอใจ เดิมทีฉันแค่อยาก เล่นเกมส์เป็นเพื่อนคุณ เพื่อทดแทนบุญคุณที่ คุณช่วยฉัน ในเมื่อตอนนี้ไม่มีเงื่อนไข งั้นก็เอา ตามที่ฉันสบายใจเลยนะ
เธอใจดีขนาดนี้เลย?” เตชิตไม่เชื่อ
“ฉันไม่ดีกับคุณรึไง? ”171 คน เลนนกำลังขับยานเธออยู่
“เธอกับฉันจะตาย ดีกับฉันตรงไหน?”
“ฉันดีกับคุณทุกอย่าง ถ้าไม่ใช่เพื่อคุณ คุณคิดว่าฉันอยากเล่นเกมส์นั่นหรอ?”
“เธอเป็นคนอยากเล่นแท้ๆ ยังโยนมาให้ฉัน อีก ไร้ยางอายจริงๆ!”
ไม่รู้เพราะอะไรในใจของเตชิตกระโดด โลดเต้นอย่างมีความสุข เขาอยากหัวเราะเสียง ดังออกมา แต่พอเห็นสายตาที่โกรธโมโหของ พิงกี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะเงยคางขึ้น และส่ง เสียง”เชอะ” เย็นชาไปทีนึง จากนั้นก็ปิดประตู แล้วเดินจากไป
ระหว่างเดิน แววตาของเขากลับมีรอยยิ้ม
ซ่อนอยู่
พิงกี้เดินตามไป “เฮ้ย เมื่อกี้คุณว่าใครไว้ ยางอาย? คุณคุยกับฉันให้รู้เรื่องเลยนะ! ใช่ แล้ว เมื่อกี้คุณบอกหนีพ้นจากคนของเควิน เขา ส่งคนให้มาตามฉันหรอ?”
“เธอให้ฉันพูดฉันก็พูดงั้นหรอ เธอคิดว่า ฉันเป็นคนโง่ไง?”
“คุณก็โง่อยู่แล้วนี่คะ!”
เพิ่งเข้ามาถึงที่ห้อง พิงกี้ก็ทิ้งตัวลงไปที่ โซฟาเหมือนคนไม่มีกระดูก
“เธอเป็นอะไร ทำหน้าเหมือนคนกำลังจะ ตาย ไม่ได้กินข้าวมารึยังไง?” เตชิตเตะเธอ
“คุณพอได้แล้ว อย่ากวนฉันอีกเลย” พิงกี้ หันหน้าไปอีกข้าง
ไม่ เธอไม่ใช่ไม่ได้กินข้าว แต่ถูกป้อนอิ่มจน จุก(ถูกเควินป้อนจนจุกเกินไป)
ถึงแม้พักผ่อนมาเต็มๆทั้งวัน แต่ถ้าเธอ อยากกลับไปมีเรี่ยวแรงเหมือนเดิม ดีที่สุดก็ต้อง พักสักสามสี่วัน
“ไม่กวนก็ไม่กวน……” ปนเสียงเบาไป หนึ่ง เตชิตนั่งตรงพรหมที่อยู่หน้าโซฟาและเปิด
ผ่านไปหลายนาที ไม่ได้ยินเสียงของคน ด้านหลัง เขาหันไปมองก็เห็นพิงกี้หลับอย่าง ไม่มีการป้องกันตัวเลย
เพราะนอนคว่ำอยู่ ทำให้ใบหน้าที่งดงาม ของเธอถูกบีบจนเหมือนแก้มเด็ก ริมฝีปากชมพู ระเรื่อ เหมือนดอกไม้ที่เพิ่งผลิบาน มีแรงดึงดูด ทําให้คนอยากเด็ดดอกไม้ดอกนี้…..
เตชิตกลืนน้ำลาย แววตาเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมา
นิ้วมือสัมผัสเส้นผมที่อยู่ข้างใบหน้าอย่าง เบาๆ เขาทั้งดีใจและทั้งโกรธ “ยัยโง่ ไม่ป้องกัน ตัวเลย ไม่กลัวฉันเลยรึไง เชื่อใจฉันขนาดนี้เลย หรอ ?”
อยากหอมแก้มก็ไม่กล้าหอม ทรมานใจ
จริงๆ!
เวลาใกล้ค่า
ขยี้ตาไปครู่หนึ่ง พิงกี้ตื่นขึ้นมาจากโซฟา และบิดขี้เกียจ เธอเหลือบไปเห็นเตชิตที่นอน อยู่บนโซฟาด้านข้าง ยกขาเตะไปที่เขาทีหนึ่ง “คุณเตชิต ฉันหิวน้ำ อยากดื่มน้ำ”
เตชิตถูกเธอเตะจนตื่น คิ้วที่ดกดาคมเข้ม ขมวดไว้แน่น
“ฉันอยากดื่มน้ำ”
..ยัยบ้าเอ๊ย” เตชิตด่ามาคำหนึ่ง จาก นั้นก็ลุกไปหยิบเบียร์สองกระป๋องที่ห้องครัว เขาโยนมาให้พิงกี้กระป๋องหนึ่ง “จะดื่มก็ดื่มซะ ไม่ดื่มก็ไสหัวไป”
เขาขี้เกียจต้มน้ำ
พิงกี้“……”
จู่ๆทำให้เธอนึกถึงเควิน ตอนที่เธอเอาขวด ยัดให้เขา เขาคงอยากจะฆ่าเธอมากเลยมั้ง?
เบียร์ที่เย็นฉ่ำได้ผ่านลําคอไป ไม่นานก็ ทำให้เธอตื่นตัวหายง่วงขึ้นมา ดูนาฬิกาแขวน บนผนัง พบว่าตัวเองก็หลับไปแค่ประมาณชั่วโม งกว่าๆ เธอก็ไม่ได้หลับนานมาก
ถึงเวลาทานข้าวเย็น ท้องก็เริ่มหิวแล้ว
หาอะไรทานเสร็จ พิงกี้กลับมากระปรี้กระ เปร่าขึ้น เธอเตะเตชิตที่อยู่ข้างกายอีกที “คุณ เตชิต ที่คุณพูดก่อนหน้านี้หมายความว่ายัง ไง?”
“อะไรหมายความว่ายังไง?
“คุณบอกหนีพ้นจากคนของเควิน”
“อืม”
“คนพวกนั้นเป็นบอดี้การ์ดของเควินหรอ?” ถาม “ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็หมายความว่า พอพวกเราออกมาปุ๊บ พวกเขาก็ช่วยเควินไปแล้ วน่ะสิ?”
“ไม่ใช่ เป็นคนที่ติดตามเธอ” เตชิตแปลก ใจเล็กน้อย “ผู้หญิงสองคนคอยตามเธออยู่ ตลอด เธอไม่รู้หรอ?”
“ห้า?” พิงกี้อึ้งจนตาค้าง “ผู้หญิงอะไร?”
“ผู้หญิงสองคนที่หน้าตาธรรมดา เวลาเดิน เข้าไปในหมู่คนก็หาตัวไม่เจอแบบนั้น เป็นคนที่ มีฝีมือการอำพรางตัวเก่งมาก อาจจะเป็นคนที่ เควินใช้ให้มาปกป้องเธอ…..เชอะฉันนึกว่าเธอ รู้ซะอีกว่ามีคนคอยติดตามเธอ คิดไม่ถึงว่าเธอ จะไม่รู้ ดูท่าแล้วเควินไอ้โรคจิตนั่นคงจับตาดู เธออยู่”