“ฉิงเย้ ฆ่ามันให้ตาย อย่าให้มันมีโอกาสเพิ่มความสามารถอีก !” เซี่ยกว่างหานสังเกตเห็นจั้นเย้ที่กำลังเพิ่มความสามารถ
เซี่ยกว่างหานเป็นคนที่ระมัดระวังอย่างมาก เขาไม่ชอบให้ศัตรูมีโอกาสพักหายใจ ส่วนเซี่ยกว่างหานในตอนนี้ได้อัญเชิญดวงวิญญาณออกมาสองตัวแล้ว ตัวหนึ่งคือ มารนิรยขาวระดับจักรพรรดิชั้นยอด อีกตัวหนึ่งเป็นหมาป่าพิฆาตกระหายเลือดระดับจักรพรรดิชั้นยอด
“ตกใจอะไรกัน” ฉิงเย้ไม่แยแส เขากวาดตามองไปยังมั่วเย้ราชวงศ์ของตัวเอง แล้วมองไปยังจั้นเย้ที่มีพลังต่อสู้ดื้อดัน พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเยือกเย็นว่า “ลองได้เห็นพลังที่แท้จริงของมั่วเย้ราชวงศ์เถอะ ให้เจ้ารู้ว่าใครคือราชาที่แท้จริง !”
หลังจากพูดจบ กลิ่นไอความมืดบนตัวมั่วเย้ราชวงศ์เข้มข้นมากขึ้น ลำตัวสีดำทั้งหมดราวกับจมอยู่ในพลังความมืดนี้ !
ทันใดนั้น มั่วเย้ราชวงศ์ได้หายไป มีเพียงกลิ่นไอความมืดเข้มข้นนั้นที่กลายเป็นค้อนสีดำด้ามหนึ่ง เล็งไปยังมั่วเย้
“แตกหักงอกใหม่ไม่ใช่ทักษะเกิดใหม่ ทันทีที่อยู่ในภาวะใกล้ตาย ร่างกายที่อ่อนแอยิ่งก็ไม่อาจฟื้นกลับมาได้…”
ฉิงเย้พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “วางใจได้ ข้าจะไม่ให้เจ้าตาย แต่จะให้เจ้าตกอยู่ในภาวะใกล้ตาย ให้เจ้าสัมผัสพลังที่แท้จริงของมั่วเย้ !”
ระหว่างที่ฉิงเย้พูด ค้อนที่เกิดจากพลังสีดำนี้ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ แทบจะถึงด้านบนสุดของผนึก !
“โฮร่ โฮร่ !!!”
มั่วเย้กลุ่มราชวงศ์ส่งเสียงคำรามขึ้น ทันใดนั้น ค้อนสีดำยักษ์ใหญ่นี้ได้ผ่าลงจากด้านบนอย่างน่ากลัว ประกายสีดำแห่งความตายสาดส่องบนค้อนนี้ แทบจะผ่ามิตินี้ออก !!!
พลังนี้รุนแรงอย่างมาก ปีศาจเสือลายที่เต็มไปด้วยบาดแผลด้านข้างแทบจะถูกพลังสีดำของค้อนนี้ผ่าเป็นสองท่อน ถ้าไม่ได้เป็นเพราะเย้หวันเชิงเก็บปีศาจเสือลายกลับมาได้ทันเวลา เกรงว่าปีศาจเสือปีกจะถูกค้อนนี้ตัดเป็นเศษแล้ว !
ส่วนตรงกลางของพลังนี้ จำต้องทนต่อพลังที่มากกว่าปีศาจเสือลาย ในตอนนี้ลายเส้นปีศาจบนเกราะอสูรของจั้นเย้ส่องประกายขึ้น รวมไว้บนกรงเล็บของจั้นเย้ !
จั้นเย้ไม่ได้ทำการป้องกันใด ๆ !
ตอนที่มั่วเย้กลุ่มราชวงศ์กำลังรวมพลัง จั้นเย้ก็กำลังรวมพลังเช่นกัน !
ในตอนที่พลังความมืดรุนแรงนี้ผ่าลง จั้นเย้ได้ตวัดกรงเล็บของตัวเองไปยังค้อนพลังมืดนั้นด้วย !!!
พลังของความมืดปะทะเข้าด้วยกัน พลังที่จั้นเย้ปล่อยออกมาคือกริดแสงยมทูต !
ประกายแสงแห่งความตายได้ปล่อยออกท่ามกลางพลังความมืดเข้มข้น สอดส่องไปทั่วทั้งมิติผนึกแห่งนี้ ราวกับแสงแรกในยามเช้า !
“เพ้ง !!!”
ค้อนสีดำฟาดจากบนลงล่าง จากหัวของจั้นเย้ไปยังบริเวณเอวของจั้นเย้ แผลที่น่ากลัวนี้แทบจะผ่าร่างของจั้นเย้ออกจากกัน พลังมืดเข้มข้นนี้ซึมเข้าร่างกายของจั้นเย้ กัดกร่อนเลือดและอวัยวะภายในของมันอย่างบ้าคลั่ง…
การโจมตีนี้น่ากลัวอย่างมาก มองได้จากแผลกัดกร่อนอันน่ากลัวบนตัวจั้นเย้ได้ ถ้าเป็นดวงวิญญาณอื่นที่มีภาวะชีวิตปกติละก็ เกรงว่าจะต้องตายแล้วเกิดใหม่หลายครั้ง !
ขณะที่จั้นเย้ได้รับบาดเจ็บสาหัส มั่วเย้กลุ่มราชวงศ์ก็ไม่รอด แสงนั้นได้ผ่าความมืดออก ตวัดลงบริเวณใต้คางของมั่วเย้กลุ่มราชวงศ์ !
จั้นเย้อาศัยอยู่ในป่ามั่วเย้ ตอนที่ยังไม่เติบโตเต็มที่ จั้นเย้ได้สู้กับมั่วเย้กลุ่มเดียวกันนับครั้งไม่ถ้วน การเอาชีวิตรอดด้วยความโหดร้ายแบบนี้ทำให้จั้นเย้รู้ถึงจุดอ่อนการป้องกันของกลุ่มตัวเอง
จุดอ่อนการป้องกันนี้แทบไม่เป็นที่พบเห็น อีกทั้งตัวกลุ่มมั่วเย้เองก็จะไม่สังเกตเห็นด้วย มีเพียงจั้นเย้ที่ประสบเหตุการณ์บาดแผลเต็มตัวนับไม่ถ้วนถึงรับรู้ได้
จุดอ่อนของการป้องกันคือบริเวณคาง ! คางของมั่วเย้มีแรงกัดที่แข็งแรง แต่เพื่อให้เส้นเอ็นบริเวณคางเคลื่อนไหวได้ เกราะด้านล่างคางนี้จะอ่อนแอที่สุด !
มั่วเย้ถูกหุ้มด้วยเกราะหมึกแข็งแรงทั้งตัว มีเกราะอ่อนแค่ใต้คางเท่านั้น !
ระหว่างการต่อสู้ มั่วเย้ราชวงศ์ตัวนี้ระวังบริเวณหัวอย่างมาก จั้นเย้เองก็ไม่มีโอกาสมาตลอด แต่ครั้งนี้ในตอนที่ค้อนผ่าลงจากที่สูง กลับเผยให้เห็นใต้คาง !!!
แสงสาดส่องอันโหดร้ายนั้น มุ่งตรงไปยังคางของมั่วเย้ราชวงศ์ !!!
“บึ้ง !!!”
มั่วเย้กลุ่มราชวงศ์ตกจากฟากฟ้า คางแทบจะหลุดออกจากกัน เลือดสดพุ่งออกจากปากอย่างบ้าคลั่ง !
การโจมตีของจั้นเย้ด้อยกว่ามั่วเย้ราชวงศ์อย่างมาก แต่การโจมตีไปยังจุดอ่อนนี้ ทำให้มั่วเย้ราชวงศ์ล้มลงทันที อีกทั้งทำให้มั่วเย้ราชวงศ์ตัวนี้อยู่ในจุดที่ใกล้ตาย !
พลังมืดมหาศาลที่ผ่าลงบนตัวจั้นเย้จนเป็นแผลลึก ทำให้จั้นเย้ไม่สามารถใช้แตกหักงอกใหม่ได้ และตามการกัดกร่อนของพลังมืด พลังชีวิตของจั้นเย้แทบจะตกเป็นศูนย์
แต่ว่าอย่างน้อยด้วยความดื้อดันของจั้นเย้ ที่ตายก่อนต้องเป็นมั่วเย้ราชวงศ์ตัวนั้นแน่นอน !
ฉิงเย้ยืนนิ่งอึ้ง มองไปยังมั่วเย้ราชวงศ์ที่ภูมิใจของตัวเองด้วยความเหลือเชื่อ…
มั่วเย้ราชวงศ์ของเขาเบิกตากว้าง แทบมองไม่เห็นลูกตา ร่างกายกระตุกอย่างแรง คางได้หลุดออกจากกัน พลังชีวิตอ่อนแอถึงที่สุด!
“นี่…นี่เป็นไปได้อย่างไร !!!” ฉิงเย้มองด้วยความตกใจ !
เซี่ยกว่างหานชายตามองไปยังมั่วเย้กลุ่มราชวงศ์ที่ใกล้ตาย พูดด้วยความหงุดหงิดว่า “บอกให้เจ้าจัดการแล้ว เจ้าทำอะไรอยู่ !”
ฉิงเย้เหมือนเป็นบ้า ดวงตาคู่นั้นจับจ้องไปยังจั้นเย้ที่ใกล้ตายเช่นเดียวกัน !
“เจ้า รักษามั่วเย้ให้ข้า ! เร็ว มิฉะนั้น ข้าจะฆ่าพวกเจ้าทั้งหมดและดวงวิญญาณของพวกเจ้าด้วย !!!” ฉิงเย้ชี้ไปยังเย้ชิงจือทันที พูดด้วยน้ำเสียงสั่งให้ทำด้วยความโกรธ
ฉิงเย้ในตอนนี้ต่อให้เก็บมั่วเย้ราชวงศ์กลับเข้าช่องว่างดวงวิญญาณก็ทำอะไรไม่ได้ ยารักษาขั้นสิบก็ไม่อาจหยุดพลังชีวิตที่สูญหายไปได้ มีเพียงทักษะการรักษาของดวงวิญญาณถึงจะช่วยชีวิตของมั่วเย้ราชวงศ์ได้
ดวงวิญญาณของเย้ชิงจือมีกระดิ่งแก้วตา วารีจันทรา ภูตไม้หมุน อสูรนกสวนสงคราม ดวงวิญญาณสามตัวในนี้สามารถช่วยดวงวิญญาณจากภาวะใกล้ตายกลับมาได้ และเป็นเพราะการมีอยู่ของดวงวิญญาณสามตัวนี้ เผชิญหน้ากับฉิงเย้และเซี่ยกว่างหาน ทั้งสามคนถึงทนอยู่ตอนนี้ได้ มิฉะนั้น วิญญาณของพวกเขาคงได้รับบาดเจ็บสาหัสตั้งนานแล้ว
“ได้ยินหรือยัง รักษามั่วเย้ของข้าเดี๋ยวนี้ มิฉะนั้น เจ้าจะตายอย่างไร้ศพ !!!” ฉิงเย้พูดอย่างดุร้าย !
“ได้ ข้าจะรักษาให้เจ้า !” เย้ชิงจือยิ้มอย่างเยือกเย็น
หลังจากพูดจบ เย้ชิงจือสั่งให้กระดิ่งแก้วตาปล่อยทักษะออกมาทันที !
กระดิ่งแก้วตาร่ายคาถาขึ้นราวกับขับร้อง ละอองเกสรพิเศษลอยขึ้นรอบกาย ละอองเกสรเหล่านี้ลอยไปยังตำแหน่งของมั่วเย้ราชวงศ์อย่างช้า ๆ
ละออกเกสรเหล่านี้สาดลงบนตัวมั่วเย้ เข้าไปในร่างของมัน
วินาทีต่อมา พลังชีวิตของมั่วเย้คงที่บ้าง อยู่ในภาวะที่อ่อนแออย่างมาก
เห็นพลังชีวิตมั่วเย้ของตัวเองคงที่แล้ว สีหน้าของฉิงเย้อ่อนลงเล็กน้อย เขากวาดตามองไปยังเย้ชิงจือแล้วพูดขึ้นว่า “ดีมาก เจ้ามีชีวิตต่อไปได้”
“อ้อ” เย้ชิงจือตอบเสียงราบเรียบ “ทว่า มั่วเย้ราชวงศ์ของเจ้าตายแน่”
เพิ่งพูดจบ พลังชีวิตคงที่ของมั่วเย้ราชวงศ์พุ่งลงอย่างรวดเร็ว ไวกว่าก่อนหน้านี้ถึงสิบเท่า !!!
ละอองเกสรที่เข้าไปในร่างกายของมั่วเย้ไม่ได้ช่วยพลังชีวิตของมัน แต่กำลังทำลายอวัยวะภายในทั้งหมดของมั่วเย้ราชวงศ์ !
นี่ไม่ใช่ละอองเกสรรักษา แต่เป็นลอองกเกสรพิษร้ายแรง !
ทันทีที่ต้องละอองเกสรพิษนี้ ต่อให้เป็นดวงวิญญาณที่มีทักษะเกิดใหม่ก็ต้องตาย !!!
ในไม่ช้า พลังชีวิตของมั่วเย้ราชวงศ์ได้กระจายออกไปแล้ว กลายเป็นศพเย็นเยียบ นอนอยู่ตรงหน้าฉิงเย้
ส่วนสีหน้าของฉิงเย้ซีดขาวขึ้นเรื่อย ๆ เห็นได้ชัดว่า เกิดจากสัญญาวิญญาณที่ตัดขาดจากกัน !!!
“เจ้า !!!” เส้นเลือดของฉิงเย้ปูดขึ้น เห็นได้ชัดว่า โกรธถึงที่สุด !!!
“ข้าจะให้พวกเจ้าทั้งหมดตายไปด้วย !!!” ฉิงเย้ร้องขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ! กลับร่ายคาถาขึ้นในตอนที่วิญญาณได้รับบาดเจ็บ เริ่มอัญเชิญดวงวิญญาณอีกตัวหนึ่ง !!!
วินาทีที่ฉิงเย้ร่ายคาถาขึ้น กลิ่นไอที่รุนแรงยิ่งกว่าได้กระจายออก !
กลิ่นไอนี้ แข็งแกร่งกว่าจักรพรรดิชั้นยอดหนึ่งถึงสองขั้น เห็นได้ชัดว่า เป็นดวงวิญญาณที่เข้าใกล้ระดับเทียบเท่าราชันแล้ว !!!
ดวงวิญญาณของทั้งสามคนรวมกันถึงจะสู้กับหมาป่าพิฆาตกระหายเลือดจักรพรรดิชั้นยอดของเซี่ยกว่างหายและแมลงทองคำร้ายระดับจักรพรรดิชั้นยอดของฉิงเย้ได้บ้าง ในภาวะแบบนี้แทบทนได้ไม่กี่นาที เกรงว่าคนทั้งหมดจะพ่ายแพ้
และในตอนนี้ ถ้ามีจักรพรรดิชั้นยอดอีกตัวหนึ่งปราฏตัว ในเวลาหนึ่งนาที พวกเขาจะถูกฆ่าตายหมดแน่นอน !
“ข้ารู้สึกว่า มีคนกำลังทำลายผนึก อาจเป็นเพราะฝ่ายจัดการประลองสังเกตเห็นความผิดปกติที่นี่แล้วเข้ามาช่วยเหลือ พวกเราแค่ทนถึงตอนที่ผนึกถูกเปิดออกก็พอ ตอนนั้นเราจะมีชีวิตออกไปได้ !” ช่วงเวลาสำคัญ องค์หญิงจิ่งโหลวใช้ร่ายวิญญาณพูดกับพี่น้องตระกูลเย้
เย้ชิงจือพยักหน้าด้วยความฝืน เย้หวันเชิงได้กวาดตามองไปยังจักรพรรดิชั้นยอดที่กำลังจะถูกฉิงเย้อัญเชิญออกมา ใช้ร่ายวิญญาณพูดขึ้นว่า “พวกเราอาจทนไม่ถึงหนึ่งนาที ผนึกนี้จะเปิดออกได้ในหนึ่งนาทีไหม”
“ไม่ได้ ข้าคาดว่าฝ่ายจัดการประลองต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองนาที อีกทั้งถ้าเซี่ยกว่างหานรู้ว่ามีคนจะทำลายผนึกละก็ เขาจะอัญเชิญดวงวิญญาณแน่นอน จะฆ่าพวกเราทั้งหมดเพื่อปกปิดทุกอย่าง…ข้าจะอัญเชิญพลังหลับใหลของมารนิรยขาวข้า ขอให้พวกเจ้าเอาพลังทั้งหมดออกมา พวกเรายังมีหวัง” องค์หญิงจิ่งโหลวบอก
องค์หญิงจิ่งโหลวไม่รู้ว่า พี่น้องคู่นี้จะมีพลังที่แข็งแกร่งที่สุดหรือไม่ ถ้าไม่มีละก็ พวกเขาจะต้องตายที่นี่แน่นอน
“องค์หญิง ข้าอาจทำให้พวกเจ้ามีชีวิตต่อไปได้…” เย้ชิงจือใช้ร่ายวิญญาณพูดกับองค์หญิงจิ่งโหลว
“ข้ารู้ แค่มีชีวิตรอดไปได้ ข้าจะให้สองคนนี้ตายอย่างไม่มีที่ซ่อน !” องค์หญิงจิ่งโหลวพูดอย่างจริงจัง
สองคนนี้ได้วางกับดักเอาไว้ ทำให้พวกเขาทั้งหมดตกอยู่ในกับดักนี้ ที่น่าโมโหที่สุดคือ ชู่มู่เองก็ตายในลานกว้างเพราะแผนการของพวกเขา
ดังนั้น ครั้งนี้จะต้องมีชีวิตรอดออกไปให้ได้ องค์หญิงจิ่งโหลวจะไม่ปล่อยให้สองคนนี้รอดไปได้แน่นอน !!!