เมฆดำเหนือปราสาทโบราณมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว แทบจะปกคลุมครึ่งบนของเนินเมฆดำ พอยืนอยู่ด้านล่างเนิน แทบมองไม่เห็นเหตุการณ์รอบ ๆ ปราสาทโบราณ
ขั้นหนึ่งมีดวงวิญญาณส่งสารมากมายเช่นกัน แต่ว่าดวงวิญญาณส่งสารเหล่านี้ต้องบินไปถึงความสูงระดับหนึ่งเพื่อสำรวจ
อย่างไรก็ตาม การป้องกันของดวงวิญญาณส่งสารอ่อนแออย่างมาก เข้าใกล้สนามต่อสู้มากไปละก็ กลิ่นไอของจักรพรรดิเหล่านั้นจะทำให้ดวงวิญญาณส่งสารสลบได้
และตามที่เมฆดำลอยต่ำลง เหตุการณ์ของเนินเมฆดำถูกปกปิดเอาไว้หมด ดวงวิญญาณส่งสารลอยอยู่แค่ใต้เนินเขา แล้วนำข่าวที่ชู่มู่พามังกรวายุอลนมุ่งหน้าไปยังสถานที่เกียรติสุดท้ายนี้ให้กับผู้ชมลานกว้างรับรู้
ในตอนที่อยู่เจดีย์ป่ามรณะ ดวงวิญญาณส่งสายไม่เห็นขั้นตอนทั้งหมดของเรื่องนี้ ดังนั้น มังกรวายุอลวนที่ปรากฏตัวนี้กลายเป็นหนึ่งในดวงวิญญาณแข็งแกร่งที่ชู่มู่ซ่อนเอาไว้
มังกรวายุอลวนไร้เทียมทานในจักรพรรดิ ถ้าพาดวงวิญญาณแบบนี้เข้าไปในด่านที่สิบ น่าจะกวาดล้างได้พอสมควร นอกจากจะมีสิ่งมีชีวิตประหลาดพอกับมังกรวายุพันมังกรปรากฏขึ้น แต่สิ่งมีชีวิตผิดปกตินี้ไม่ใช่สิ่งที่ใคร ๆ ก็มีได้ หรือจะบอกว่า สิ่งเดียวที่สู้กับมันได้มีเพียงมารนิรยขาวระดับจักรพรรดิชั้นยอดของวังมารนิรยเท่านั้น
ไม่สามารถมองเห็นเหตุการณ์บนเนินเขาได้ ผู้คนในลานกว้างใจร้อนอย่างมาก หวังว่าเมฆดำจะรีบ ๆ กระจายตัวออกไป เพื่อให้พวกเขาได้รู้การต่อสู้สุดท้ายของด่านที่สิบนี้ ต่อให้ผู้คนเดาได้พอประมาณแล้ว ไม่มีใครขัดการก้าวเดินของชู่มู่ที่พาจักรพรรดิไร้เทียมทานกับราชันมุ่งหน้าได้…
แน่นอนว่า ทั้งฝ่ายจัดการประลองยังไม่รู้ ศัตรูที่แท้จริงของชู่มู่ในด่านที่สิบไม่ใช่ผู้เข้าแข่งขัน แต่เป็นผู้หญิงระดับราชันที่วางแผนไว้ตั้งนานแล้ว !
…
ตอนที่ชู่มู่รู้ว่า หุ่นเชิดเด็กสาวอยู่ในตำแหน่งปราสาทโบราณ ได้มุ่งตรงมายังเนินเมฆดำนี้อย่างแน่วแน่
ชู่มู่ยังจำตอนอยู่ด่านที่เจ็ด ใบหน้าสบประหม่าของหุ่นเชิดเด็กสาว ความเย่อหยิ่งอวดดีของเธอนั้น ทำให้อยากจะฆ่าล้างเธอให้สิ้นซากจริง ๆ !
ก่อนหน้านี้ ชู่มู่ยังเห็นใจเด็กสาวทรยศบ้าง รู้สึกว่า เด็กสาวทรยศอาจมีเรื่องลำบากใจ ต่อให้ความลำบากใจของเธอจะไม่เปลี่ยนการตัดสินใจของตัวเอง แต่อย่างน้อย ตอนที่เห็นตัวเอง เธอน่าจะรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำบ้าง
และแล้ว ชู่มู่กลับไม่เห็นความรู้สึกผิดแม้แต่น้อยจากใบหน้าของเธอ แต่กลับทำท่าทีสูงส่งเย่อหยิ่งออกมา ไม่ปกปิดสายตาที่ดูถูกคนอื่นแม้แต่น้อย นี่ทำให้ชู่มู่โกรธมากกว่าเดิม !
จิตใจของชู่มู่แน่วแน่มาตลอด ยากที่จะเกิดความโกรธจริง ๆ แต่เผชิญหน้ากับเด็กสาวทรยศ ชู่มู่กลับโกรธเคืองอย่างมาก !
นอกจากนี้ ถ้าไม่เกิดเรื่องผิดพลาด บ่อน้ำอมตะน่าจะอยู่ในมือของหุ่นเชิดเด็กสาวแล้ว สิ่งที่ทำให้มังกรจำศีลน้อยเติบโตจนถึงลักษณะสิบได้ในเวลาสองปีมีความสำคัญต่อชู่มู่อย่างมาก ชู่มู่จำต้องคว้ามาให้ได้
ฆ่าเธอ ชู่มู่จะได้เกียรติสุดท้ายด่านที่สิบพอดี จะได้รางวัลดวงวิญญาณตัวอ่อนระดับราชัน
ที่สำคัญที่สุดคือผลึกเครื่องในของเธอ สามารถนำมารักษาเย้ชิงจือได้
เหตุผลทั้งสี่นี้ แต่ละอันทำให้ชู่มู่ฆ่าเธออย่างไม่ลังเลได้ !
“อู อู อู อู”
มั่วเย้เหมือนจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอของเด็กสาวทรยศ มันที่กลายเป็นภาวะอาวรณ์วิ่งไปด้านหน้าทันที
ชู่มู่กับองค์หญิงจิ่งโหลวอยู่บนหลังของมังกรวายุอลวน พาหนะของพวกเขาทั้งสองคนถูกฆ่าตายในสถานการณ์แบบนี้ได้อย่างง่ายดาย เพื่อความผลอดภัยของดวงวิญญาณ พวกเขาจึงไม่อัญเชิญออกมา
ส่วนชู่มู่ยังคงอัญเชิญมารนิรยขาวตามติดข้างตัวเอง แม้มารนิรยขาวในตอนนี้เป็นการโจมตีหลักไม่ได้ แต่การปกป้องชู่มู่กับองค์หญิงจิ่งโหลวยังคงเป็นหน้าที่ของมัน
ระหว่างเส้นทางจากเนินเมฆดำมุ่งหน้าไปปราสาทโบราณมีผนึกมากมาย ความสามารถของผนึกเหล่านี้อยู่ระหว่างจักรพรรดิขั้นสูงหรือมากกว่านั้น มังกรวายุอลวนพุ่งชน แทบไม่มีสิ่งมีชีวิตใดขวางทางเดินของมันได้ !
ในไม่ช้า โครงสร้างของปราสาทโบราณปรากฏท่ามกลางเมฆหมอกสีดำนี้
“เธออยู่ที่นั่น !” องค์หญิงจิ่งโหลวชี้ไปยังแผ่นดินสีดำด้านนอกปราสาทโบราณ พูดกับชู่มู่
และแล้ว ชู่มู่เห็นเงาของผู้หญิงคนนั้น ถ้าไม่รู้ความเลวร้ายของผู้หญิงคนนี้มาก่อน เห็นแค่เงาเลือนลางอันงดงามนี้ อาจทำให้สติลอยได้
ชู่มู่กระโดดลงจากหลังของมังกรวายุอลวน มั่วเย้น้อยได้กระโดดขึ้นไหล่ของชู่มู่อย่างคล่องแคล่ว มุ่งหน้าไปยังเด็กสาวทรยศคนนี้พร้อมกับชู่มู่
ชู่มู่รู้ว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นแค่หุ่นเชิด ไม่ใช่ดวงวิญญาณจริงของตัวเอง ฆ่าเธอโดยตรงไม่มีความหมายเท่าไร จำต้องให้เธอพูดถึงที่อยู่ของเด็กสาวทรยศตัวจริงออกมาให้ได้ !
ชู่มู่พามังกรวายุอลวนเดินไปยังตำแหน่งที่เด็กสาวทรยศอยู่
ส่วนหุ่นเชิดเด็กสาวได้กลิ่นไอของชู่มู่ชัดเจน เธอยืนอยู่ท่ามกลางหมอกที่มัวหมอง ดวงตาอ้างว้างคู่นั้นจับจ้องไปยังตำแหน่งที่ชู่มู่เดินมา เผยความตกใจออกมาเล็กน้อย
หุ่นเชิดเด็กสาวรู้เรื่องทั้งหมดของชู่มู่เป็นอย่างดี รู้ว่าความสามารถของชู่มู่เป็นอย่างไร
เธอมองว่า ชู่มู่คว้าเกียรติสุดท้ายขั้นสองเป็นเรื่องที่เก่งมากแล้ว ไม่น่าจะเข้ามาในขั้นที่หนึ่งนี้ได้ !
ทว่า ในตอนที่หุ่นเชิดเด็กสาวเห็นว่ามีมังกรวายุอลวนตัวหนึ่งตามติดหลังชู่มู่ กลับทำท่าทีใช้ความคิด
“หาที่ตายอยู่เรื่อยแบบนี้ ลำบากเจ้าจริง ๆ” คำพูดของหุ่นเชิดเด็กสาวยังคงไม่น่าฟังเหมือนเดิม
ดวงตาของเธอจับจ้องมายังชู่มู่ ความอ้างว้างนั้นไม่เผยอารมณ์ใด ๆ ออกมา ความจริงหุ่นเชิดนี้ไม่มีอารมณ์ใด ๆ เธอทำตามที่เจ้านายสั่งเท่านั้น พูดในสิ่งที่เจ้านายอยากพูด
ชู่มู่กำลังจะพูดบางอย่าง กลับพบว่ากลิ่นไอของหุ่นเชิดเด็กสาวเปลี่ยนไปแล้ว !
ชุดสีดำของหุ่นเชิดพลิ้วไหว กลิ่นหอมดอกไม้ฟุ้งกระจาย กลิ่นนี้ทำให้หลงใหลได้ อีกทั้งยังเต็มไปด้วยสารพิษ ถ้าสูดเข้าไปจริง ๆ เกรงว่าจะถูกควบคุมไว้
ผ้าปิดหน้าของหุ่นเชิดเด็กสาวพลิ้วไหว ผ้าปิดหน้าของเธอไม่ปกปิดแน่นหนาเหมือนขององค์หญิงจิ่งโหลว ในตอนที่ลมพัดขึ้น ยังเห็นใบหน้าของเธอได้บ้าง
ใบหน้างดงามราวกับเทพธิดาของเธอไร้ที่เปรียบจริง ๆ ความสมบูรณ์แบบนั้นน่าตกใจยิ่ง ถ้าผู้ชายได้เห็นเธอแค่เสี้ยววินาที คาดว่าจะสติหลุดเหมือนวิญญาณออกจากร่าง ซูซาที่ภักดีต่อเธอเป็นตัวอย่างที่ดี
สายตาของหุ่นเชิดเด็กสาวเริ่มเปลี่ยนไป เผยให้เห็นประกายลึกลับ ดวงตาคู่นี้เต็มไปด้วยความเยือกเย็น อีกทั้งเผยให้เห็นความเย่อหยิ่งที่มีมาแต่เกิด และความดุร้ายที่เผยให้เห็นความแน่วแน่เยือกเย็นไร้ปราณีในจิตใจของมัน !
ชู่มู่มองไปยังการเปลี่ยนแปลงของหุ่นเชิดเด็กสาวด้วยความประหลาดใจ นี่เหมือนเปลือกนอกที่มีวิญญาณกะทันหัน กลิ่นไอที่เปลี่ยนไป ราวกับคนละคน !
นี่ไม่ใช่เปลือกกายหยาบแล้ว ไม่มีความงาดที่อ้างว้างแล้ว แต่เป็นความงามที่แท้จริง อีกทั้งเผยความเยือกเย็นที่สุดออกมา เหมือนดอกกุหลาบสีแดงที่เต็มไปด้วยหนาม !
“นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่ข้าจะให้เจ้ามีชีวิตอยู่ได้ ทิ้งองค์หญิงจิ่งโหลวเอาไว้ หายไปจากสายตาข้าในสามวินาที !”เด็กสาวทรยศพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นที่สุด
น้ำเสียงนี้เหมือนเป็นการออกคำสั่ง ทำท่าทีเหมือนกุมชะตาชู่มู่เอาไว้หมดแล้ว สามารถทำลายได้ตามใจ
มองดูเด็กสาวทรยศตรงหน้า ชู่มู่รู้ว่า ในตอนนี้ ผู้หญิงที่ทำท่าทีเหมือนราชินีคนนี้ คือตัวเด็กสาวทรยศเอง ชู่มู่สัมผัสได้ถึงการเชื่อมต่อของวิญญาณอันริบหรี่นั้นได้ !