Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ – Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ – ตอนที่ 603

Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 603
ตอนที่ 603 ครึ่งมารเมืองหลี? ครึ่งมารเทียนเซี่ย?

ชู่มู่ครึ่งมารเห็นท่านอาวุโสหลิ่วไม่ได้เข้ามาอีก จึงลอยไปด้านหลังอย่างช้า ๆ

“ช่วย…ช่วยข้า…เขาคือ…เขาคือ…” เทียนทิงเห็นกลุ่มองค์กรวิญญาณมุ่งหน้าเข้ามาแล้ว เขาในตอนนี้ยังคงต้องดิ้นรนต่อความตาย

ราชันวิญญาณแต่ละคนไม่กล้าทำอะไร ทำได้แค่มองไปยังประธานเทียนทิงทรงอำนาจในเมื่อวานกลับเหมือนสิ่งหนีตายที่ดิ้นรนอยู่ในมือของครึ่งมาร

แม้แต่ท่านอาวุโสยังไม่สามารถเข้าช่วยเหลือได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่น ผู้แข็งแกร่งองค์กรวิญญาณเหล่านั้นทำได้แค่ยืนอยู่บนด้านหลังปักษาเทวดาระดับราชันชั้นยอดของท่านอาวุโสมองดูครึ่งมารชั่วร้ายลอยไปด้านหลังทีละนิด….

พวกเขาไม่รู้ว่า ครึ่งมารจะจัดการกับเทียนทิงที่เหลือชีวิตแค่ครึ่งเดียวอย่างไร แต่มั่นใจได้ว่า ประธานเทียนทิงจะต้องมีจุดจบที่อนาถที่สุดแน่นอน

เงาที่มีสายตาเยือกเย็น สันโดษลอยไกลออกไปช้า ๆ กลายเป็นประกายสีขาวเล็ก ๆ ในที่สุด หายไปท่ามกลางท้องฟ้าในยามค่ำคืน

“ท่านอาวุโส พวกเราไม่ตามไปเหรอ ถ้าครึ่งมารยังอยู่ละก็ ไม่รู้จะมีคนต้องรับเคราะห์อีกมากเพียงใด” เหล่าเจ้าโลกเริ่มถามขึ้นอย่างกังวล

การปรากฏตัวของครึ่งมารแต่ละตัวจะนำมาสู่ความหายนะ ตอนนี้ครึ่งมารหนีออกจากเมืองเทียนเซี่ย ถ้าครึ่งมารไม่ตาย อาจปรากฏตัวสักที่ในอนาคตก็ได้

ในเขตโลก ไม่มีทางที่จะมีผู้แข็งแกร่งราชันวิญญาณมากมายมาจัดการครึ่งมารได้ ดังนั้น ถ้าไม่กำจัดมันก่อน เขตโลกทั้งหมดจะกลายเป็นเป้าหมายต่อไปได้

“หมวดลับจะไม่ทิ้งร่องรอยให้สะกดตามได้ ถ้ามันหนีไปอย่างเต็มกำลัง ต่อให้เป็นปักษาเทวดาของข้าก็ตามมันไม่ทัน” ท่านอาวุโสเองได้ถอนหายใจ

“นี่จะกลายเป็นภัยในภาคหน้าจริง ๆ ครึ่งมารเมืองหลีในตอนนั้นยังไม่ทันได้จัดการ ผ่านมาไม่นาน เมืองเทียนเซี่ยมีครึ่งมารอีกแล้ว” ผู้อาวุโสถิงพูดขึ้น

พูดจบ ผู้อาวุโสถิงกวาดตามองไปยังผู้อาวุโสเย้เทาวังมารนิรย สายตานี้กำลังกล่าวโทษคนของวังมารนิรย พวกเขาเองที่สร้างปีศาจชั่วร้ายแบบนี้ขึ้น

เย้เทาวังมารนริยในตอนนี้ไม่มีเวลาสนใจสายตาของผู้อาวุโสถิง เขาในตอนนี้กำลังใช้ความคิดอยู่ “ครึ่งมารที่เป็นพวกเดียวกับมังกรจำศีลมรกตในเมืองหลีตอนนั้น คาดว่ามีสติอยู่ ตอนนี้ครึ่งมารในเมืองเทียนเซี่ยนี้มีสติเหมือนกัน หรือว่าจะเป็นครึ่งมารเดียวกัน”

ครึ่งมารอยู่ได้ทั้งนานและไม่นาน โดยปกติ ถ้าไม่นานมักจะเป็นเพราะมนุษย์ไม่สามารถทนต่อความทรมานนั้นได้อีก เลิกต่อต้าน กลายเป็นมาร นี่จะเป็นเวลาต่อสู้ครั้งหนึ่ง

ถ้านานละก็ ขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นและวิญญาณที่ไม่ดับของมนุษย์นั้น ต่อสู้กับมารมาตลอด วังมารนิรยเคยมีครึ่งมารต่อเนื่องสิบปีอยู่ !

แน่นอนว่า ครึ่งมารไม่ดับนี้ถูกผนึกไว้ตั้งนานแล้ว มิฉะนั้น ทั้งโลกนี้จะไร้ซึ่งความสงบแน่นอน

“ท่านอาวุโส ตอนนี้พวกเรา…” ราชันวิญญาณทั้งหมดเริ่มถามขึ้น

ราชาหลีหงไม่อยู่ในเมืองเทียนเซี่ย อำนาจสูงสุดอยู่ที่เทียนทิง เทียนทิงถูกครึ่งมารจับไป ตอนนี้คนทั้งหมดย่อมต้องเชื่อฟังคำสั่งของท่านอาวุโสที่มีความสามารถแข็งแกร่งที่สุด

“ผู้อาวุโสแต่ละคนพาราชันวิญญาณห้าคนกระจายไปตามทิศทั้งแปดของเมืองเทียนเซี่ย ไม่ว่าครึ่งมารจะบุกเข้ามาอีกหรือไม่ หนึ่งเดือนนี้ใครก็ห้ามออกจากตำแหน่งของตัวเอง !” ท่านอาวุโสพูดกับราชันวิญญาณทั้งหมด

ท่านอาวุโสหลิ่วเป็นท่านอาวุโสของตำหนักวิญญาณ ปกติแล้ว น่าจะมีเพียงสมาชิกตำหนักวิญญาณที่ต้องเชื่อฟัง

แต่ว่า หลังจากท่านอาวุโสหลิ่วออกคำสั่ง กลับไม่มีใครกล้าขัดขืนคำสั่งนี้

ผู้แข็งแกร่งยังคงเป็นที่เคารพนับถือมาตลอด พลังของปักษาเทวดาท่านอาวุโสคนเดียวก็เพียงพอที่ควบคุมดวงวิญญาณหมวดปีกของคนทั้งหมดได้แล้ว

ในไม่ช้าเหล่าผู้อาวุโสที่อยู่ในเมืองเทียนเซี่ยนี้ได้พาราชันวิญญาณบินไปยังทิศทางทั้งแปดของเมืองเทียนเซี่ย

“ให้คนทำความสะอาดที่นี่ อย่าให้เหลือร่องรอยอะไรก่อนฟ้าสว่าง อย่าให้ภายนอกรู้เรื่องการปรากฏตัวของครึ่งมาร บอกว่ามารนิรยขาวระดับราชันชั้นยอดบุกก็พอ” ท่านอาวุโสกวาดตามองไปยังราชันวิญญาณที่กุมอำนาจเมืองเทียนเซี่ยที่เหลือแล้วพูดกับพวกเขา

“ขอรับ” ราชันวิญญาณเหล่านี้ได้บินลงจากฟ้า เริ่มรวบรวมผู้เฝ้าเมืองในเขตนี้ ให้พวกเขาทำความสะอาดศพที่กระจายในพื้นที่นี้

หลังจากท่านอาวุโสสั่งการคนทั้งหมดแล้ว นั่งอยู่บนหลังปักษาเทวดาแล้วใช้ความคิด

หลังจากผ่านไปสักพัก ท่านอาวุโสหลิ่วเหมือนนึกบางอย่างขึ้นมาได้ กวักมือเรียกคนมา และคนที่มาคือ เจ้าตำหนักหยู่ที่ไม่ได้ไปทำภารกิจเพียงคนเดียว

เจ้าตำหนักหยู่อยู่ด้านหลังกลุ่มใหญ่ ระหว่างนี้ สีหน้าของเจ้าตำหนักหยู่ซับซ้อนมากกว่าคนทั้งหมด เพราะเขาเป็นคนเดียวที่ได้เห็นครึ่งมารเมืองหลีกับครึ่งมารเทียนเซี่ย !

“เมื่อกี้เจ้ามีเรื่องจะพูดใช่ไหม ตอนนี้พูดมา” ท่านอาวุโสหลิ่วกวาดตามองไปยังเจ้าตำหนักหยู่ แล้วพูดขึ้น

“เขาคือครึ่งมารเมืองหลี” เจ้าตำหนักหยู่พูดอย่างมั่นใจมาก

เจ้าตำหนักหยู่ไม่รู้ว่า ครึ่งมารเหมือนกันหมดไหม แต่จากความรู้สึกของเจ้าตำหนักหยู่แล้ว ครึ่งมารเทียนเซี่ยนี้คือครึ่งมารเมืองหลี ความชั่วร้ายแบบนั้น สายตาดุร้ายเยือกเย็นชาญฉลาด…

ท่านอาวุโสหลิ่วก็เดาได้ หลังจากรอให้คืนนี้สงบลงแล้ว จะปรึกษากับผู้อาวุโสเย้เทาอีกครั้ง

“ยังพบอะไรอีกไหม” ท่านอาวุโสหลิ่วเห็นเจ้าตำหนักหยู่เหมือนจะพูดบางอย่าง จึงถามต่อ

เจ้าตำหนักหยู่ลังเล ไม่รู้ว่าควรพูดเรื่องนี้หรือไม่

ความจริงเจ้าตำหนักหยู่สงสัยว่า ครึ่งมารเมืองหลีมีความเกี่ยวข้องพิเศษกับชู่มู่ วันนี้ได้เห็นอีกครั้ง การคาดเดาของเขานี้จึงมีความมั่นใจมากขึ้น แต่ว่าวัยหนุ่มอายุยี่สิบกว่าปีนี้กลายเป็นครึ่งมารเองได้ อีกทั้งมีพลังแข็งแกร่งอย่างราชันขั้นสูง นี่ทำให้เจ้าตำหนักหยู่รู้สึกเพ้อเจ้อเกินไป

ในที่สุด เจ้าตำหนักหยู่ยังคงส่ายหัวแล้วพูดขึ้นว่า “ไม่มีแล้ว”

ท่านอาวุโสหลิ่วพยักหน้า หันกลับมามองเจ้าตำหนักหยู่ ใช้ร่ายวิญญาณพูดกับเจ้าตำหนักหยู่” ช่วยจัดการเรื่องหนึ่งให้ข้าหน่อย อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้”

“เชิญท่านอาวุโสสั่ง” เจ้าตำหนักหยู่รีบโค้งคำนับ

ท่านอาวุโสหลิ่วได้ส่งคำพูดด้วยร่ายวิญญาณเข้าไปในหัวของเจ้าตำหนักหยู่

เจ้าตำหนักหยู่ตั้งใจฟังตลอด แต่ในตอนที่เขารู้ว่า ทำเรื่องนี้เพื่อใคร ในใจของเจ้าตำหนักหยู่สะเทือนอย่างมาก ในตอนนี้ยิ่งมั่นใจได้ว่า ชู่มู่มีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับครึ่งมาร !

“อ๊า !!!”

บนยอดสูงสุดของประตูโลกมรณะ เสียงร้องสะเทือนดังก้องกังวาน ฟังแล้วชวนขนลุกอย่างมาก !

คนที่ส่งเสียงร้องแบบนี้ได้ คือเทียนทิงที่ถูกชู่มู่ครึ่งมารจับตัวเอาไว้

ชู่มู่ไม่ได้ฆ่าเทียนทิงทันที อยากรู้จากปากของเทียนทิงว่า ยังมีใครที่รู้ความลับของตัวเองอีก

โอกาสของครึ่งมารมีจำกัดมาก ถ้ายังมีคนรู้ความลับอีกละก็ ชู่มู่จะพุ่งเข้าไปในเมืองเทียนเซี่ยอีกครั้งแน่ๆ กำจัดคนนี้ ไม่ทิ้งภัยให้กับตัวเองในวันข้างหน้า

“ไม่…ไม่มีแล้ว…เรื่องนี้…เรื่องนี้เจ้าองค์กรบอกให้ข้าทำ…เขาไม่หวัง…เขาไม่หวังให้ใครรู้…แล้วก็…ต่อให้…ต่อให้เป็นข้า…ก็ไม่รู้ว่าสิ่งนั้น…คืออะไรกันแน่….” เทียนทิงพูดติดขัด เห็นได้ชัดว่า อ่อนแอถึงที่สุดแล้ว

ลองคิดดูว่า ถูกไฟปีศาจระดับราชันขั้นสูงทรมานวิญญาณเกือบครึ่งชั่วโมง จะมีใครทนอยู่อีกได้

“ถ้าอย่างนั้น มีใครบ้างที่รู้ว่า คืนนี้ข้ากับเจ้าจะแลกของกันที่ประตูโลกมรณะ” ชู่มู่ถามอีกครั้ง

ชู่มู่เพิ่มการโจมตีจิตกับเทียนทิง การโจมตีจิตแบบนี้ เทียนทิงไม่มีทางโกหกได้

“เฉินหง…เจี่ย…เจี่ยซุ่นติง…ลี่เถิง…หม่า….หม่าอี้หลู่…มี…มีแค่นี้…” เทียนทิงอยู่ระหว่างความเป็นกับตาย ความทรมานแบบนี้ทำให้เขาไม่มีจิตใจที่คิดจะวางแผนโกงแม้แต่น้อย แต่อยากจะจบชีวิตตัวเองให้เร็วที่สุด

บางครั้งเทียนทิงคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่า ตัวเองจะมีวันนี้ อีกทั้งยังถูกวัยหนุ่มอายุยี่สิบกว่าปีทรมานแบบนี้

เทียนทิงปิดปากเฉินหงแล้ว เจี่ยซุ่นติง ลี่เถิง หม่าอี้หลู่ ทั้งสามคนนี้ชู่มู่ไม่ปล่อยให้รอดแม้แต่คนเดียว ถูกผนึกสลายฟ้าขยี้เป็นเศษหมดแล้ว ปนอยู่กับศพของสมาชิกกลุ่มองค์กรวิญญาณหมดแล้ว

คนที่รู้การแลกเปลี่ยนระหว่างเทียนทิงกับชู่มู่มีแค่นี้จริง ๆ เพราะเทียนทิงจงใจวางแผนร้าย กลัวว่าท่านอาวุโสกับท่านหญิงจะโทษตัวเอง จึงไม่เปิดเผยเรื่องนี้ออกไป

เทียนทิงคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่า แผนการที่ตัวเองระวังอย่างมากกลับถูกชู่มู่มองออก อีกทั้งยังเป็นการช่วยชู่มู่กำจัดภัยในภายภาคหน้าด้วย ทำให้ชู่มู่ไม่ต้องเสี่ยงกับการล้อมโจมตีของราชันวิญญาณแล้วยังต้องไปฆ่าล้างในตำหนักเทียนทิงอีก

ก่อนหน้านี้ที่ชู่มู่กับท่านอาวุโสหลิ่วเจรจากันคือ จะให้ตัวเองไปคืนของที่ตำหนักเทียนทิงด้วยตัวเอง ดังนั้น ท่านอาวุโสคิดว่า ชู่มู่อยู่ในตำหนักเทียนทิงมาตลอด

ส่วนเจียจิ้งที่ส่งข่าว ชู่มู่กลับไม่ได้ฆ่าปิดปาก แต่ก่อนที่จะออกมา ได้ให้มั่วเย้เสกคาถาเนตรร้ายสะกดวิญญาณ สลายความทรงจำของเธอ

การสลายความทรงจำแบบนี้ทำได้แค่กับคนที่ร่ายวิญญาณอ่อนแออย่างมาก เดิมเจียจิ้งเป็นแค่ศิษย์วิญญาณตัวน้อยคนหนึ่ง ย่อมต้านทานไม่ได้ หลังจากที่ปล่อยทักษะนี้แล้ว เจียจิ้งคงจะป่วยหนักแน่นอน

“ฆ่า…ฆ่าข้าเถอะ…ไม่…ไม่มีใครรู้…ไม่มีใครรู้แล้ว…ขอร้องละ..ฆ่าข้าเถอะ” เทียนทิงอ้อนวอน

เทียนทิงรู้ว่า ถ้ามีคนรู้ความลับนี้อีก ปีศาจนี้จะไม่ปล่อยเขาแน่นอน เทียนทิงเองก็มั่นใจว่า ไม่มีใครรู้อีก…

หลังจากที่ชู่มู่มั่นใจว่า เทียนทิงไม่ได้โกหก ฝ่ามือเปิดออกช้า ๆ ฉีกยิ้มชั่วร้ายแล้วพูดขึ้นว่า “เจ้ายังลืมให้อะไรกับข้า”

“นี่…นี่เป็นแหวนจับวิญญาณ ในนี้…ในนี้มีดวงวิญญาณ…ดวงวิญญาณราชันตัวอ่อนนั้น…” เทียนทิงพูดอย่างอ่อนแอยิ่ง

ชู่มู่รับแหวนจับวิญญาณนั้นมา ไม่รีบเปิดออก แต่หยิบแหวนช่องว่างในมือของเทียนทิงมาด้วย มิฉะนั้น จะถูกเปลวไฟของตัวเองเผาจนหมด

ราชันวิญญาณที่มีราชันขั้นสูง และเขาระมัดระวังอย่างมากที่จะเก็บของมีค่าไว้ที่ลึกลับกว่านี้ ในแหวนช่องว่างติดตัวจะต้องมีของมีค่าไม่น้อยแน่นอน

ถ้าชู่มู่เป็นครึ่งมารจริง จะไม่เห็นแก่ของพวกนี้ อย่างไรก็ตาม ผลครึ่งมารของตัวเองหายไป จะต้องฝึกอย่างหนักแล้ว และของที่อยู่ในแหวนช่องว่างของเทียนทิงจะต้องเป็นประโยชน์ต่อตัวเองอย่างมากแน่นอน

Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์

Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์

Status: Ongoing

ตอนที่ 1 – 550 อ่านนิยาย

(ช่วงแรกจะเป็นคนแปลคนเก่า) อ่านต่อข้างล่าง


โลกที่มนุษย์อยู่ร่วมกับสัตว์ดวงวิญญาณนานาชนิด มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่อยู่รอด! เด็กชายผู้คุมดวงวิญญาณกำลังเผชิญหน้ากับความตายที่คืบคลานเข้ามาทุกวินาที ปีศาจในร่างจ้องจะกินวิญญาณของเขา วิธีรอดมีเพียงทางเดียวคือการทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น! หนทางของผู้พิชิตย่อมเต็มไปด้วยขวากหนาม สุนัขจิ้งจอกแสงจันทร์ดวงวิญญาณหลักของเขาถูกมองว่าเป็นดวงวิญญาณที่อ่อนแอที่สุด แต่ใครเล่าจะรู้ถึงความลับในสายเลือดของเจ้าจิ้งจอกตัวนี้

ที่นำพา ‘ชู่มู่’ เด็กหนุ่มผู้เคยถูกเย้ยหยันในวันนั้นไปสู่ผู้แข็งแกร่งที่น่าเกรงขามในวันข้างหน้า!

Show less 

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท