Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ – Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ – ตอนที่ 611

Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 611

ระหว่างมื้อเย็น คนของตระกูลชู่ต่างพูดถึงปัญหาภัยแร้งที่ใกล้เข้ามา ไม่มีใครมีอารมณ์กินอะไร มีเพียงการกลับมาของชู่มู่ถึงทำให้บรรยากาศดีขึ้นเล็กน้อย

แต่ว่าใครก็รู้ว่า ตระกูลชู่ในตอนนี้กำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่ ต้องจัดการปัญหาก่อน

“ภัยแร้งขั้นเก้า เท่ากับว่าจะมีจักรพรรดิชั้นยอดอย่างน้อยหนึ่งตัวปรากฏขึ้น” ในตอนนี้ ชู่หมิงใช้เสียงที่แหบชราพูดขึ้น

ชู่เทียนเหิงมองไปที่ท่านพ่อของตัวเอง รู้ว่าคนแก่คนนี้ไม่อยากจะปกปิดศัตรูที่จะปรากฏในภัยแร้งครั้งนี้แล้ว

เดิมชู่เทียนเหิงไม่อยากบอกโดยตรง อย่างไรก็ตาม ทำแบบนี้จะทำให้คนที่เฝ้าเมืองหวาดหวั่น ถ้าไม่บอกคนทั้งหมด ให้คนทั้งหมดเฝ้าอยู่ อาจทำให้ทุกคนใช้พลังทั้งหมดออกมาได้

แต่ในเมื่อชู่หมิงพูดกระจ่างแล้ว ชู่เทียนเหิงรู้สึกว่าบอกเอาไว้ยังจะดีกว่า

“จักรพรรดิชั้นยอด…ตระกูลชู่พวกเจ้าจัดการได้ไหม” คุณหญิงเสี่ยวหยุนพูดด้วยความตกใจ

เห็นได้ชัดว่า คุณหญิงเสี่ยวหยุนไม่คิดว่า ภัยแร้งจะสาหัสขนาดนี้ อีกทั้งจะมีดวงวิญญาณระดับจักรพรรดิชั้นยอดปรากฎตัวขึ้น ในเมืองตะวันตกทั้งหมดนี้ มีแค่ท่านพ่อของเธอถึงจะมีดวงวิญญาณจักรพรรดิชั้นยอด!

ชู่เทียนเหิงและท่านอาของชู่มู่ต่างส่ายหัวอย่างหมดหนทาง

“ต้องขึ้นอยู่กับผู้แข็งแกร่งของประตูเมืองหลัวกับตระกูลชู่หลักแล้ว พวกเราหมดหนทางแล้ว” ชู่เทียนหลิงบอก

ซุนหยวนที่อยู่ด้านข้างเผยสีหน้าประหลาดใจออกมา เพราะเขาไม่คิดว่า จะมีจักรพรรดิชั้นยอดอยู่ด้วย

ซุนหยวนเองก็ไม่แน่ใจว่า ผู้แข็งแกร่งที่เขาแอบส่งมาจะมีผู้คุมดวงวิญญาณที่มีจักรพรรดิชั้นยอดหรือไม่ ถ้าไม่มีละก็ พวกเขาจัดการภัยแร้งอย่างลำบากเช่นกัน

“จักรพรรดิชั้นยอดหนึ่งตัวในภัยแร้งนี้ เป็นสิ่งที่พวกเราตระกูลชู่จัดการไม่ได้ และในกองทัพภัยแร้งระดับทาส กองทัพระดับแม่ทัพ กองทัพระดับผู้นำ กองทัพระดับจักรพรรดิ ความสามารถของกองทัพระดับจักรพรรดิควบกันน่าจะเทียบเท่าจักรพรรดิชั้นยอดสองตัว กองทัพผู้นำก็เท่ากับจักรพรรดิชั้นยอดหนึ่งตัว กองทัพแม่ทัพเท่ากับจักรพรรดิชั้นยอดหนึ่งตัว จำนวนของกองทัพระดับทาสก็เทียบเท่าจักรพรรดิชั้นยอดหนึ่งตัว…” ชู่เทียนเหิงพูดกับทุกคน

ผู้คนเผยสีหน้าประหลาดใจออกมาทันที ไม่เข้าใจว่า ชู่เทียนเหิงต้องการจะพูดอะไรจากทั้งหมดนี้

“วิธีประเมินความสามารถแบบนี้ ข้าได้มาจากตระกูลชู่หลัก ภัยแร้งขั้นเก้าเท่ากับกลุ่มขั้นเก้า”

“จักรพรรดิชั้นยอดหนึ่งตัวจะปรากฏแน่นอน ภายใต้จักรพรรดิชั้นยอดนั้น มีสิ่งมีชีวิตจักรพรรดิขั้นสูงถึงเทียบเท่าจักรพรรดิ น่าจะมีประมาณสิบกว่าตัว ความสามารถเทียบเท่าจักรพรรดิชั้นยอด 2 ตัวได้ เท่ากับว่า เมื่อรวมความสามารถของสิ่งมีชีวิตระดับจักรพรรดิทั้งหมดของภัยแร้งขั้นเก้านี้ เท่ากับมีจักรพรรดิชั้นยอดสามตัว!”

คำพูดนี้ของชู่เทียนเหิง ทำให้คนทั้งหมดนิ่งอึ้งทันที!

บนโต๊ะมีประมาณยี่สิบกว่าคน ตอนนี้ไม่มีใครพูดอะไรอีก

ชู่เทียนเหิงเห็นใบหน้าของทุกคนอึ้งขนาดนี้ ราวกับเป็นเรื่องที่คาดการณ์ไว้แล้ว ความจริงในตอนที่เขารู้ความหมายที่แท้จริงของภัยแร้งขั้นเก้า สีหน้าของเขาสิ้นหวังกว่านี้อีก

“สิ่งมีชีวิตจักรพรรดิรวมกันเท่ากับจักรพรรดิชั้นยอดสามตัว ภัยแร้งขั้นเก้านี้น่ากลัวเกินไปแล้ว!” ในที่สุด ชู่อิงทำลายความเงียบบนโต๊ะ

ชู่เทียนเหิงพูดต่อด้วยรอยยิ้มฝืนว่า “นี่เป็นแค่พลังของระดับจักรพรรดิ ผู้นำจะมีประมาณสามร้อยกว่า ความสามารถรวมกันจะเท่ากับจักรพรรดิชั้นยอดหนึ่งตัว ระดับแม่ทัพมีจำนวนสามพันกว่า รวมกันแล้วเท่ากับจักรพรรดิชั้นยอดหนึ่งตัวเช่นกัน ระดับทาสจะมีสามหมื่นกว่ากว่า รวมกันแล้วมีพลังเท่ากับจักรพรรดิชั้นยอดหนึ่งตัวเช่นกัน เท่ากับว่า เวลาครึ่งเดือนนี้พวกเราต้องเผชิญกับพลังของกองทัพที่เทียบเท่าจักรพรรดิชั้นยอดหกตัว”

เดิมบรรยากาศบนโต๊ะอาหารก็ประหลาดอย่างมากแล้ว แต่ละคนอึมครึมอย่างมากแล้ว และในตอนนี้ที่ชู่เทียนเหิงได้บอกเรื่องภัยแร้งขั้นเก้าทั้งหมดออกมา ทำให้คนทั้งหมดนิ่งอึ้งเข้าไปอีก !!!

“นี่…นี่จะจัดการได้อย่างไร !!! ในเมื่อเจ้ารู้ว่า น่ากลัวขนาดนี้ ทำไมไม่รีบบอก รีบออกจากที่นี่ก่อน เจ้าอยากให้คนทั้งหมดตายที่นี่หรือ” คุณหญิงเสี่ยวหยุนลุกขึ้นทันที พูดอย่างใจร้อน

พอคุณหญิงเสี่ยวหยุนพูดแบบนี้ คนอื่นในตระกูลเริ่มท้อแท้แล้ว

พลังที่เทียบเท่าจักรพรรดิชั้นยอดหกตัว ผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิขั้นสูงที่ตระกูลชู่เชิญมามีเท่าที่นับด้วยนิ้วได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจักรพรรดิชั้นยอดแล้ว !

ในตอนนี้ ความคิดในใจของคนทั้งหมดเหมือนกันหมด ยังจะกินอะไรอีก ควรรีบเก็บของออกจากที่นี่ก่อน !

“อย่ารุกรน นี่เป็นการรวมพลังสิ่งมีชีวิตทั้งหมดของภัยแร้งในเวลาสิบวัน ภัยแร้งขั้นเก้าไม่ออกจากรังทั้งหมดในวันเดียวหรอก”

“ถ้าภัยแร้งต่อเนื่องสิบวัน ถ้าอย่างนั้นการโจมตีที่ต้องรับในแต่ละวันจะเท่ากับพลังของจักรพรรดิชั้นยอดศูนย์จุดหกตัว เวลาสิบวัน ดวงวิญญาณของทุกคนผลัดกันต่อสู้ได้” ชู่เทียนเหิงเห็นสีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป รีบพูดอธิบาย

ชู่เทียนเหิงอธิบายแบบนี้ อารมณ์ของทุกคนถึงผ่อนคลายลง

หากเป็นเช่นนั้นจริง ภัยแร้งไม่มีทางออกจากรังพร้อมกันในคราวเดียว ถ้าเฝ้าเมืองแบบนี้ทุกคนจะพักหายใจได้บ้าง

“คุณหญิงเสี่ยวหยุน ท่านเชิญท่านเจ้าเมืองได้หรือไม่” ชู่เทียนหลิงถามอย่างสุภาพ

เสี่ยวหยุนส่ายหัว” ท่านพ่อของข้าไม่มีทางลงมือเอง ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เมืองตะวันตกนี้จะชุลมุนยิ่งขึ้น ข้าทำได้มากสุดแค่เชิญผู้ใหญ่สองคนที่มีจักรพรรดิขั้นสูงคนละตัวมาช่วยเหลือเท่านั้น นอกจากนั้นเชิญผู้เฝ้าอีกกลุ่มมาช่วยเหลือ”

“แบบนี้ก็ดีแล้ว รอคนของประตูเมืองหลัวกับตระกูลชู่หลักพรุ่งนี้ ถ้าพวกเขามีผู้แข็งแกร่ง อาจยังมีหวังอยู่บ้าง” ชู่เทียนเหิงฝืนยิ้มออกมา

ตอนที่พูด ชู่เทียนเหิงได้แต่มองไปยังชู่มู่

ความจริง ตลอดที่พูดคุยมีคนไม่น้อยที่คอยสังเกตท่าทีของชู่มู่ โดยเฉพาะชู่เทียนเหิง เขาพบว่า ไม่ว่าตัวเองพูดความจริงเรื่องภัยแร้งหรือถามหาความช่วยเหลือ ชู่มู่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม สีหน้าไม่เปลี่ยน นิ่งเหมือนปกติ ราวกับเป็นคนนอก

“ชู่มู่ ทำไมไม่พูดอะไร” ชู่เทียนเหิงอดไม่ได้เอ๋ยปากถามขึ้น

ซุนหยวนกวาดตามองไปยังชู่มู่ พูดกึ่งประชดว่า “หรือว่าจะกลัวจนนิ่งไปแล้ว”

จิตของชู่มู่ไม่อยู่กับตัว เพราะเขาในตอนนี้กำลังคิดหาวิธีจัดการชนเผ่าขั้นหนึ่งที่มีแหล่งวิญญาณนี้ แต่ไม่ใช่กลุ่มขั้นเก้านี้…

เหตุที่ชู่มู่ไม่ได้พุ่งเข้าไปในชนเผ่านั้นทันที ก็เป็นเพราะความสามารถของตัวเองไม่พอ

ชนเผ่าทั้งหมดใหญ่มาก ชู่มู่อาจให้มั่วเย้จัดการเทียบเท่าราชันตัวนั้นได้

แต่เทียบเท่าราชันไม่ใช่ผู้นำที่บ้าคลั่ง จะออกมาให้ชู่มู่ฆ่าโดยตรงได้อย่างไร คาดว่ามันจะส่งลูกน้องนับไม่ถ้วนมาลดพลังต่อสู้ของมั่วเย้…

ราชาจัดการได้ง่าย แต่ลูกน้องนับหมื่นนี่น่ารำคาญเกินไป อีกทั้งราชาจะหลบอยู่หลังลูกน้องพวกนี้แน่นอน คาดว่าจะต้องฆ่าล้างเปิดทางถึงจะมีโอกาสเป็นไปได้

ตอนที่ชู่เทียนเหิงพูดถึงจำนวนของภัยแร้งขั้นเก้า ชู่มู่เองก็ลูบคางคำนวณจำนวนของชนเผ่าขั้นหนึ่งอยู่

ผู้เฒ่าหลีได้ประมาณจำนวนของชนเผ่าขั้นหนึ่งไว้ว่า ภายใต้พวกมันเทียบเท่าราชันหนึ่งตัว จะต้องมีจักรพรรดิชั้นยอดสามตัวขึ้นไป อีกทั้งภายใต้จักรพรรดิชั้นยอดสามตัวนี้ จะมีจักรพรรดิขั้นสูงกับขั้นกลางประมาณสิบกว่าตัวอีก

แค่จากจักรพรรดิชั้นยอดไปยังจักรพรรดิขั้นสูงนี้ มีจักรพรรดิชั้นยอดสามตัว จักรพรรดิขั้นกลางขั้นสูงสิบตัว ถ้าให้รวมพวกมันไว้ด้วยกัน พลังต่อสู้ของพวกมันจะเทียบเท่าจักรพรรดิชั้นยอดห้าตัวแล้ว

และจากจักรพรรดิขั้นกลางไปถึงเทียบเท่าจักรพรรดิ จะมีจำนวนประมาณหนึ่งร้อยกว่าตัว ถ้าไม่มีจักรพรรดิชั้นยอดสามตัว คงจัดการไม่ได้แน่นอน

ดังนั้น ในชนเผ่าขั้นหนึ่ง พลังจักรพรรดิทั้งหมดนี้รวมกัน ออกจากรั้งพร้อมกันละก็ จะเท่ากับว่ามีพลังต่อสู้จักรพรรดิชั้นยอดสิบตัว

และจักรพรรดิชั้นยอดสิบตัว จะสู้เทียบเท่ากับราชันปกติได้แล้ว !

ในวงการต่อสู้ดวงวิญญาณของชู่มู่ มั่วเย้ต้องเทียบเท่าราชันตัวนั้นแน่นอน

มารนิรยขาวเป็นจักรพรรดิไร้เทียมทาน จัดการจักรพรรดิชั้นยอดได้มากสุดสามตัว

จั้นเย้ที่ผ่านดวงใจแห่งมังกรหาญกับแตกหักงอกใหม่ จัดการจักรพรรดิชั้นยอดสองตัวได้ไม่มีปัญหา

ปีศาจนักรบไม้ที่ต่อสู้แบบกลุ่มอย่างไร้เทียมทาน ถ้าโยนปีศาจนักรบไม้ไว้ท่ามกลางจักรพรรดิขั้นกลางกับเทียบเท่าจักรพรรดิ ผลของปีศาจนักรบไม้จักรพรรดิขั้นสูงจะเทียบเท่าจักรพรรดิชั้นยอดได้

ภูตพันวายุกับราชันผีหินผาต้องร่วมมือกัน ราชันผีหินผาทำหน้าที่ป้องกัน คอยต้านทานการโจมตีส่วนใหญ่ และทักษะหมวดลมที่ภูตพันวายุปล่อยออกมาจะทำการฆ่าล้างได้ จักรพรรดิขั้นสูงสองตัวนี้ร่วมมือกัน พลังต่อสู้จะเทียบเท่ากับจักรพรรดิชั้นยอดตัวหนึ่งได้เช่นกัน

พลังทำลายล้างของภูตเวหาน้ำแข็งจักรพรรดิชั้นยอดยิ่งแข็งแกร่ง ถ้าร่วมมือกับราชันผีหินผาละก็ จัดการกองทัพที่เทียบเท่าจักรพรรดิชั้นยอดสองตัวได้ไม่มีปัญหา

การต่อสู้แบบกลุ่มของอสูรสายฟ้านิมิตราตรีจะอ่อนกว่าอย่างชัดเจน แต่ด้วยความเร็วของมัน บวกกับเกราะวิญญาณขั้นเก้า ถ้าต่อสู้ในตอนกลางคืนละก็ วิ่งวนกับจักรพรรดิชั้นยอดตัวหนึ่ง มันยังทำการรั้งไว้ได้บ้าง

ดวงวิญญาณทั้งหมดของชู่มู่รวมกัน ไม่สามารถรับมือกับเทียบเท่าราชันตัวหนึ่งได้ แต่ในการต่อสู้กลุ่มจะต่างกัน พลังของพวกมันจะเสริมกันและกัน ต่อต้านกับกองทัพระดับจักรพรรดิได้

แน่นอนว่า ชู่มู่ไม่สามารถอัญเชิญดวงวิญญาณทั้งหมดออกมาต่อสู้พร้อมกัน คิดจะหาโอกาส ก็ต้องยืดเวลาต่อสู้ให้ยาวออกไป

จำนวนของชนเผ่ามหาศาล ชู่มู่แค่ครอบครองพื้นที่บางแห่ง จักรพรรดิทั้งหมดในชนเผ่าก็ไม่มีทางออกจากรังทั้งหมดเพราะมีผู้บุกรุกสามตัว

ต่อให้ออกจากรังทั้งหมด ชู่มู่แค่หนีไป ดวงวิญญาณแค่สามตัว ความคล่องตัวสูง ที่ตามทันก็คงมีแค่เทียบเท่าราชันกับจักรพรรดิชั้นยอด

ดังนั้น ชู่มู่แค่รวมพลังทั้งหมดได้ก็พอแล้ว อัญเชิญพร้อมกันได้หรือไม่ ไม่ใช่ปัญหาที่ใหญ่เท่าไร

ปัญหาอยู่ที่ว่า ในชนเผ่ายังมีกองทัพระดับผู้นำ ระดับแม่ทัพ ระดับทาส

จำนวนของระดับแม่ผู้นำจะมากถึงหนึ่งพันต้องมีจักรพรรดิชั้นยอดสามตัวถึงจะจัดการได้

จำนวนของระดับแม่ทัพจะมากถึงหนึ่งหมื่น ต้องใช้จักรพรรดิชั้นยอดสามตัวถึงจะจัดการได้เช่นกัน

จำนวนของระดับทาสน่าจะมากถึงหนึ่งแสน ต้องใช้จักรพรรดิชั้นยอดอย่างน้อยสามตัว

ที่สำคัญที่สุดคือ ระดับผู้นำ ระดับแม่ทัพ ระดับทาสจะต้องเป็นกองหน้าแน่นอน แค่จัดการพวกนี้ พลังของมั่วเย้ระดับราชันอาจไม่เหลือแล้วก็ได้

สิ่งที่ผู้เฒ่าหลีคอยพูดเตือนชู่มู่ตลอดคือ “จะกวาดล้างชนเผ่าขั้นหนึ่งในคราวเดียว ต้องมีเทียบเท่าราชันอย่างน้อยสามตัวออกสู้พร้อมกันถึงจะมีโอกาสชนะได้ ถ้าไม่มีละก็ ต้องวางแผนให้ดี ต้องใช้วิธีอื่นๆ แล้ว”

————————————————————————

Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์

Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์

Status: Ongoing

ตอนที่ 1 – 550 อ่านนิยาย

(ช่วงแรกจะเป็นคนแปลคนเก่า) อ่านต่อข้างล่าง


โลกที่มนุษย์อยู่ร่วมกับสัตว์ดวงวิญญาณนานาชนิด มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่อยู่รอด! เด็กชายผู้คุมดวงวิญญาณกำลังเผชิญหน้ากับความตายที่คืบคลานเข้ามาทุกวินาที ปีศาจในร่างจ้องจะกินวิญญาณของเขา วิธีรอดมีเพียงทางเดียวคือการทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น! หนทางของผู้พิชิตย่อมเต็มไปด้วยขวากหนาม สุนัขจิ้งจอกแสงจันทร์ดวงวิญญาณหลักของเขาถูกมองว่าเป็นดวงวิญญาณที่อ่อนแอที่สุด แต่ใครเล่าจะรู้ถึงความลับในสายเลือดของเจ้าจิ้งจอกตัวนี้

ที่นำพา ‘ชู่มู่’ เด็กหนุ่มผู้เคยถูกเย้ยหยันในวันนั้นไปสู่ผู้แข็งแกร่งที่น่าเกรงขามในวันข้างหน้า!

Show less 

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท