Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ – Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ – ตอนที่ 616 ภัยแร้งครั้งใหญ่ ดวงอาทิตย์สีเลือด

Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 616 ภัยแร้งครั้งใหญ่ ดวงอาทิตย์สีเลือด
ตอนที่ 616 ภัยแร้งครั้งใหญ่ ดวงอาทิตย์สีเลือด

ชู่มู่คอยสังเกต หลังจากที่มังกรจำศีลน้อยฆ่าศัตรูแต่ละตัวแล้ว จะมีวิญญาณพิเศษลอยขึ้น แล้วเข้าไปในไข่มุกวิญญาณมังกร

คนอื่นไม่สามารถสังเกตเห็นวิญญาณนี้ได้ มีเพียงมังกรจำศีลน้อยกับชู่มู่ที่มีวิญญาณเชื่อมกับมังกรจำศีลน้อยถึงจะมองเห็นได้

และผ่านการเชื่อมต่อวิญญาณกับมังกรจำศีลน้อย ชู่มู่เองได้เข้าใจแล้วว่า ในไข่มุกวิญญาณของมังกรจำศีลน้อยได้รวบรวมวิญญาณเข้ามามากเท่าไรแล้ว !

“ช่างเถอะ สู้สักตั้ง!” ชู่มู่กัดฟันแน่น ตัดสินใจเพิ่มหมวดวิญญาณให้มังกรจำศีลน้อยแล้ว !

ของอย่างไข่มุกวิญญาณมังกรนี้พิเศษอย่างมาก อีกทั้งยังได้รวมวิญญาณของศัตรูทั้งหมดที่ฆ่าตายไปด้วย ในเมื่อหมวดวิญญาณจะกลายเป็นหมวดทรงพลังของมัน เพื่อให้ได้มังกรจำศีลที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า ชู่มู่ทำได้แค่สู้ตายแล้ว!

“ในเมื่อตัดสินใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นนายท่านต้องหาวัตถุวิญญาณหมวดวิญญาณก่อนที่มังกรจำศีลน้อยลอกคราบจากลักษณะสองไปสาม วัตถุวิญญาณแบบนี้อาจหายากมาก แต่ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล น่าจะหาได้” ผู้เฒ่าหลีบอก

ชู่มู่พยักหน้า แต่ในใจกลับกระอักเลือด !

มังกรจำศีลน้อยอยู่แค่ลักษณะสอง นับว่าเป็นดวงวิญญาณตัวอ่อน แรงกายมีจำกัด ก่อนหน้านี้หลังจากปล่อยทักษะ จะเสียแรงกายไม่น้อย การต่อสู้ต่อจากนี้ ได้ฆ่าเสือดำหินระดับทาสประมาณหนึ่งพันตัวอีก

เมื่อรวมแล้ว มังกรจำศีลได้ฆ่าศัตรูประมาณหนึ่งพันห้าร้อยตัว ได้เก็บวิญญาณของระดับทาสประมาณ หนึ่งพันกว่าตัว

แน่นอนว่า วิญญาณเหล่านี้ไม่มีประโยชน์ใดๆ หลังจากที่แรงกายของมังกรจำศีลน้อยเหลือไม่มากแล้ว ชู่มู่ไม่ได้อยู่ที่นี่ต่อ พามังกรจำศีลน้อยกลับไปยังตำแหน่งด้านบนกำแพงเมือง

ตอนที่ถึงกำแพงเมือง ชู่มู่ได้เก็บมังกรจำศีลน้อยกลับช่องว่างดวงวิญญาณ

มังกรจำศีลน้อยได้ช่วยกำจัดศัตรูมหาศาล ลดภาระให้เหล่านักรบวิญญาณรับจ้างไม่น้อย การต่อสู้ต่อจากนี้น่าจะไม่ยากมาก เหล่านักรบวิญญาณน่าจะกำจัดกองทัพระดับทาสทั้งหมดได้ในตอนเที่ยงวัน

หลังจากชู่มู่เก็บมังกรจำศีลน้อยกลับมาก็ไม่ได้อยู่ต่อนาน หลังจากทักทายชู่ซือแล้ว ตรงไปยังเรือนตระกูลชู่ทันที

หลังจากที่ชู่มู่หันหลังจากไป หัวหน้าเจิ้งหนาน ชู่ซือ รวมถึงหัวหน้าที่อยู่บนตึกต่างมีใบหน้าแข็งทื่อ!

สำหรับผู้คุมดวงวิญญาณมากประสบการณ์ หากประเมินลักษณะขั้นของดวงวิญญาณจากรูปร่างภายนอกกับกลิ่นไอนั้นแล้ว ก่อนหน้านี้ที่มังกรจำศีลน้อยของชู่มู่ตกอยู่ในกองทัพระดับทาส เจิ้งหนาน ชู่ซือและเหล่าหัวหน้ารู้สึกห่างไปหน่อย เดาได้แค่ว่าเป็นดวงวิญญาณต่ำกว่าลักษณะห้า

จากที่ชู่มู่กลับมาเมื่อกี้ หลังจากที่คนพวกนี้เห็นมังกรจำศีลน้อยชัดเจนแล้ว ต่างเผยสีหน้าเหลือเชื่อออกมา!!!

“นั่น…นั่น…เป็นแค่ดวงวิญญาณตัวอ่อนที่มีแค่ลักษณะสามโดยประมาณ!!!”

ก่อนหน้านี้คนเหล่านี้ประเมินว่า ดวงวิญญาณตัวนี้ของชู่มู่เป็นจักรพรรดิขั้นสูง เพราะจักรพรรดิขั้นสูงถึงจะระเบิดความสามารถแบบนี้ออกมาได้

ตอนเห็นใกล้ๆ ในตอนนี้ถึงรู้ได้ว่า นั่นเป็นดวงวิญญาณตัวอ่อนประมาณลักษณะสาม ดวงวิญญาณตัวอ่อนลักษณะสามที่ระเบิดความสามารถแบบนี้ออกมา จะต้องมีระดับสูงมากเพียงใดกันแน่ !!!

ชู่มู่ย่อมไม่รู้ว่า พวกชู่ซือตกใจกับมังกรจำศีลน้อยของตัวเองจนลืมสั่งการต่อสู้แล้ว กลับไปยังตระกูลอย่างสบายใจ

ตอนที่ชู่มู่เพิ่งก้าวเข้าไปในสวนซ้ายมือของเรือน กลับเห็นสาวน้อยรูปงามนั่งอยู่ข้างบ่อน้ำ กำลังหยิบหินที่อยู่ด้านข้างขึ้นมา โยนลงไปในบ่อน้ำด้วยความโกรธ

ชู่มู่มองไปยังเด็กสาวรูปงามคนนี้ ลังเลเล็กน้อย คิดจะกลับไปยังสวนของตัวเอง ทว่า เด็กสาวคนนี้หันมาพอดี เห็นชู่มู่ยืนอยู่ด้านข้าง ใบหน้าที่เศร้าหมองฉีกยิ้มงดงามออกมาทันที

“พี่ชู่มู่” เด็กสาวน้อยลุกขึ้นทันที ปรากฏตรงหน้าชู่มู่เหมือนเมฆขาวบริสุทธิ์ที่ลอยเข้ามา โอบแขนของชู่มู่ไว้ ทำท่าทีออดอ้อนอย่างมาก

ชู่มู่เห็นว่า เด็กสาวรูปงามที่อยู่ตรงหน้าคนนี้คือน้องสาวชู่อีซุ่ย ครั้งที่แล้วที่เห็นเธอ เธอยังเป็นแค่สาวน้อยคนหนึ่ง ตอนนี้กลับงดงามสะดุดตา เต็มไปด้วยเสน่ห์

ชู่มู่ฉีกยิ้มเล็กน้อย พูดขึ้นว่า “ทำไมนั่งโกรธอยู่ตรงนี้คนเดียวล่ะ”

“หึ ก็พวกคนของประตูเมืองหลัว!!! คนของประตูเมืองหลัวที่พี่สาวพากลับมา อาจารย์อาเหล่านั้นไม่เห็นใครอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย อย่างกับพวกคนขี้ขลาด!” พูดถึงเรื่องนี้ชู่อีซุ่ยโกรธมาก

ชู่มู่เองก็อยากรู้จักคนของประตูเมืองหลัว ในตอนนี้จึงถามชู่อีซุ่ยว่าเกิดอะไรขึ้น

ที่แท้ หลังจากที่ชู่มู่กลับมาไม่นาน ท่านอาห้าของชู่มู่ ชู่เทียนฉีได้พาผู้แข็งแกร่งของประตูเมืองหลัวกลับมาแล้ว

ครั้งนี้ประตูเมืองหลัวมีสิบคน ในนั้นมีวัยผู้ใหญ่ห้าคนและวัยหนุ่มห้าคน ในบรรดาวัยหนุ่มห้าคนนั้น มีคนหนึ่งเรียกตัวเองว่า เป็นเจ้าสำนักประตูเมืองหลัว เป็นผู้แข็งแกร่งแท้จริงที่มีดวงวิญญาณจักรพรรดิชั้นยอดคนหึ่ง ชื่อว่าหลัวชิวฟง!

หลัวชิวฟงมีชื่อเสียงอย่างมากในโลกตะวันตก แม้แต่อาจารย์อาของตระกูลชู่หลักยังต้องเกรงใจเขา

หลัวชิวฟงเองเป็นคนที่เรื่องมาก ทันทีที่ก้าวเข้ามาในตระกูลชู่ได้วิจารย์ตระกูลชู่จนไม่เหลือชิ้นดี

ความสามารถของหลัวชิวฟงแข็งแกร่งยิ่ง คนในตระกูลทำได้แค่เงียบเอาไว้ และภายใต้หลัวชิวฟง ยังมีวัยหนุ่มอีก สี่คนที่เป็นผู้แข็งแกร่งมีจักรพรรดิขั้นสูงอยู่ น้องชายของหลัวชิวฟง หลัวชิวเซิงยิ่งอวดดี บอกว่าดวงวิญญาณตัวเดียวของตัวเองคือความสามารถทั้งหมดของตระกูลชู่รวมกัน

รุ่นผู้ใหญ่ไร้มารยาท วัยหนุ่มประตูเมืองหลัวที่มาด้วยห้าคนนั้นยิ่งกว่า หนึ่งในนั้นมีวัยหนุ่มที่ชื่อหลัวถง ในตอนที่เดินเล่น ได้เห็นความงามของชู่อีซุ่ย จึงพูดจาหยอกล้ออย่างล่วงเกิน ทำให้ชู่อีซุ่ยโกรธแต่ทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายทำได้แค่สิ่งนี้คือ มาระบายอารมณ์กับบ่อน้ำที่นี่

“พีชู่มู่ ข้ารู้สึกว่า คนของอำนาจใหญ่มาที่นี่ ไม่ได้มาช่วยพวกเรา เหมือนมาหาเรื่อง ท่านพ่อข้ามักบอกให้อดทน อย่างไรเสีย เขาก็มาจากอำนาจใหญ่ มาหาตระกูลเล็กๆ อย่างพวกเราก็ไม่พอใจอยู่แล้ว ถ้าพวกเรายังต่อต้านพวกเขาอีก ตระกูลจะไม่มีความหวังรับมือกับภัยแร้งแล้ว อีกทั้งเจ้าหลัวถงคิดไม่ดีกับข้า ท่านพ่อข้าก็บอกให้อดทน!”เหมือนว่าในที่สุดชู่อีซุ่ยได้เจอกับคนที่ระบายด้วยได้แล้ว บอกสิ่งที่อัดอั้นในใจออกมาหมด

ชู่มู่คอยปลอบสาวน้อยคนนี้ นึกถึงปัญหาของประตูเมืองหลัวไปด้วย

ประตูเมืองหลัวส่งผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิชั้นยอดมายังตระกูลชู่กะทันหันแบบนี้ เหมือนจะเกินไป ทำให้ไม่เชื่อไม่ได้ว่าพวกนี้ไม่มีแผนการอื่น

ชนเผ่าขั้นหนึ่งทั้งหมดเทียบเท่าจักรพรรดิชั้นยอดสามสิบตัว ความสามารถทั้งหมดของภัยแร้งจะเทียบเท่าจักรพรรดิชั้นยอดหกตัว

ส่วนความสามารถของคนประตูเมืองหลัวกลุ่มนี้ก็ไม่เบา ช่วยตัวเองจัดการจักรพรรดิชั้นยอดหลายตัวได้ ความสามารถของชนเผ่าถูกลดลง ชู่มู่จะมีหวังมากยิ่งขึ้น

“คนของประตูเมืองหลัวอวดดีเกินไปแล้ว ต้องสั่งสอนพวกเขาหน่อยแล้ว!” ชู่มู่แอบคิดในใจ

การมาถึงของภัยแร้งเร็วกว่าที่ตระกูลชู่ประเมินก่อนหน้านี้มาก

กองทัพทาสมีจำนวนประมาณสามหมื่น ในวันนั้นจัดการไปแล้วหนึ่งหมื่น ตอนถึงวันที่สาม กลับเกิดภัยแร้งที่มีกองทัพระดับทาสกับกองทัพระดับแม่ทัพพร้อมกัน !

กองทัพระดับแม่ทัพมีทั้งหมดประมาณหนึ่งพัน ส่วนกองทัพระดับทาสมีประมาณหนึ่งหมื่น

กองทัพเหล่านี้ให้นักรบรับจ้างจัดการไม่ได้แน่นอน ตระกูลชู่ได้ให้ผู้แข็งแกร่งที่ว่าจ้างมาหลายปีขึ้นไปบนกำแพงเมือง สู้รบกับกองทัพระดับทาสกับกองทัพระดับแม่ทัพอยู่นอกกำแพง !

การต่อสู้นี้ยืดเวลานานมาก ต่อสู้หลังจากสองวัน พลังมหาศาลของกองทัพถึงเกิดการลดน้อยลงบ้าง

ตอนที่ถึงภัยแร้งวันที่ห้า เดิมกองทัพระดับทาสหนึ่งหมื่นตัวได้ถูกจัดการไปแล้ว เหลือกองทัพแม่ทัพ ห้าร้อยพุ่งเข้ามาในเมืองเจ็ดสี ทำลายการป้องกันของเมืองเจ็ดสีไม่น้อย กำแพงเมืองหลายจุดก็เกิดการถล่ม

จากเช้าตรู่ถึงอาทิตย์ตกดิน การต่อสู้ครั้งใหญ่นี้ถึงจบลง !

แสงอาทิตย์ตกดินสาดส่องบนเลือดสดที่ไหลไปทั้งในและนอกเมือง ทำให้ร่องรอยหลังการต่อสู้นี้สะเทือนใจมากกว่าเดิม ศพที่กระจายไปตามถนน กำแพงเมือง เนิน และซากปรักหักพังต่างๆ ในนั้นยังมีดวงวิญญาณของมนุษย์อยู่ไม่น้อย บางครั้งยังเห็นศพของผู้คุมดวงวิญญาณได้บ้าง…

ภัยแร้งดุเดือดมากอย่างไม่ต้องสงสัย และนี่ยังเป็นแค่ระยะเริ่มต้น กองทัพระดับผู้นำกับจักรพรรดิยังไม่ปรากฏ ถึงตอนนั้น ทั้งเมืองเจ็ดสีจะมีเลือดที่ไหลเป็นแม่น้ำ

ภัยแร้งไม่ปล่อยให้มนุษย์มีโอกาสพักหายใจ ในเช้าตรู่ของวันที่หก ผู้คุมดวงวิญญาณได้ส่งสารไปทั่วถนน มีกองทัพที่ใหญ่กว่าบุกจากด้านทิศใต้เข้ามาแล้ว น่าจะมาถึงก่อนพระอาทิตย์ขึ้น !

คนของตระกูลชู่คิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่า ภัยแร้งจะดุเดือดขนาดนี้ !

คาดว่าไม่กี่วันหลังจากนี้ จะเป็นภัยแร้งที่รุนแรงที่สุดแล้ว ชู่เทียนเหิงได้ปลุกผู้แข็งแกร่งของประตูเมืองหลัวและตระกูลชู่หลักหลายคืนต่อกัน ให้พวกเขาเตรียมพร้อมรับมือทุกเมื่อ

อาจารย์อาของตระกูลชู่หลักทั้งสี่คนขี้เกียจอย่างมาก เหมือนจะไม่อยากลงมือเร็วขนาดนี้

ส่วนคนของประตูเมืองหลัวยิ่งถือตัว ไม่ปรากฏตัวให้เห็นสักครั้ง แล้วยังประกาศออกมาว่า ถ้ากองทัพระดับจักรพรรดิไม่ปรากฏตัว ก็ไม่ต้องมาเรียกพวกเขา

ไม่ว่าอำนาจทั้งสองจะลงมือหรือไม่ ชู่มู่จะต้องยืนอยู่บนกำแพงเมือง

ความจริงหลายวันที่ผ่านมาชู่มู่ยืนอยู่บนกำแพงเมืองตลอด ทันทีที่พบว่า มีสิ่งมีชีวิตแข็งแกร่งเกินไป ชู่มู่จะให้อสูรสายฟ้านิมิตราตรีฆ่ามันตายทันที มิฉะนั้น คลื่นลูกต่อไปจะรวมกับคลื่นลูกนี้แน่นอน

“อาจารย์อาทั้งหลาย พวกเจ้ารีบลงมือเถอะ กองทัพผู้นำปรากฏตัวแน่นอน ถ้าพวกเจ้าไม่ลงมือละก็ จะปกป้องเมืองนี้ไม่ได้แล้ว” ชู่เชียนพูดกับอาจารย์อาทั้งหลายด้วยความรีบร้อน

“รู้แล้ว รู้แล้ว ก็แค่กองทัพผู้นำ กลัวอะไร” อาจารย์อาพ่อค้าเจ้าเล่ห์พูดอย่างหมดความอดทน

“แหะแหะ ให้ปีศาจนักรบไม้แสดงฝีมือเถอะ!” จางอิงยิ้มออกมา

ตอนที่จางอิงพูดถึงปีศาจนักรบไม้ ชู่มู่ที่อยู่ด้านข้างกวาดตามองไปยังเจ้าแก่จอมหื่นคนนี้

ชู่มู่จะให้ปีศาจนักรบไม้ลงมือเหมือนกัน คาดว่าปีศาจนักรบไม้ของจางอิงอยู่ในจักรพรรดิขั้นสูงเหมือนกัน ตอนที่ภัยแร้งครั้งนี้ปรากฏขึ้น จะได้ดูว่า การฆ่าล้างกลุ่มของปีศาจนักรบไม้ของใครจะแข็งแกร่งกว่ากัน !

——————————————————————-

Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์

Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์

Status: Ongoing

ตอนที่ 1 – 550 อ่านนิยาย

(ช่วงแรกจะเป็นคนแปลคนเก่า) อ่านต่อข้างล่าง


โลกที่มนุษย์อยู่ร่วมกับสัตว์ดวงวิญญาณนานาชนิด มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่อยู่รอด! เด็กชายผู้คุมดวงวิญญาณกำลังเผชิญหน้ากับความตายที่คืบคลานเข้ามาทุกวินาที ปีศาจในร่างจ้องจะกินวิญญาณของเขา วิธีรอดมีเพียงทางเดียวคือการทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น! หนทางของผู้พิชิตย่อมเต็มไปด้วยขวากหนาม สุนัขจิ้งจอกแสงจันทร์ดวงวิญญาณหลักของเขาถูกมองว่าเป็นดวงวิญญาณที่อ่อนแอที่สุด แต่ใครเล่าจะรู้ถึงความลับในสายเลือดของเจ้าจิ้งจอกตัวนี้

ที่นำพา ‘ชู่มู่’ เด็กหนุ่มผู้เคยถูกเย้ยหยันในวันนั้นไปสู่ผู้แข็งแกร่งที่น่าเกรงขามในวันข้างหน้า!

Show less 

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท