วาห์นยังคงยืนถัดจากแนวต้นไม้และกำลังดูผลของลูกศรที่เขาเพิ่งปล่อยมันไปยังตัวหัวหน้า ในตอนนั้นเขาไม่อาจเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปได้ แม้ว่าตอนแรกเขาจะวางแผนลดจำนวนพวกก็อบลินลงและใช้ประโยชน์จากลูกศรหัวระเบิดในภายหลัง เขาประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในค่ายเป็นอย่างมาก แทนที่พวกก็อบลินจะพุ่งเข้ามาที่ตำแหน่งของเขาในทันที พวกมันกลับดูวุ่นวายกว่าเดิมเมื่อหัวหน้าเผ่าก็อบลินปรากฏตัวขึ้น
วาห์นสังเกตเห็นว่าหัวหน้าเผ่าทำท่าทางแปลกๆ ซึ่งต่างจากที่เขาคาดคิดไว้ในตอนแรก เขาสังเกตเห็นถึงท่าทางของตัวหัวหน้าที่ไม่กล้าตัดสินใจและการดูถูก เป็นเวลาเกือบหนึ่งนาทีที่มันเอาแต่ยืนอยู่ในจุดเดิมและสังเกตสภาพความวุ่นวายในค่ายพร้อมกับดูเหมือนกำลังครุ่นคิดในสิ่งที่จะทำต่อไป
มันเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่ทำให้วาห์นตัดสินใจเปลี่ยนแผน หากหัวหน้าเผ่าก็อบลินมัวยืนอยู่ตรงนั้นอย่างไร้จุดหมาย ทำไมเขาถึงไม่ลองสังหารมันเสียตอนนี้เลยล่ะ?
วาห์นเตรียมคันธนูและลูกศรเวทมนตร์ คราวนี้เขาจะส่งพลังเข้าไปในคันธนูให้มากกว่าที่เขาได้ทดสอบเอาไว้ เขาให้อักขระรูนดูดซับพลังงานมากพอที่จะทำให้พลังโจมตีของธนูเพิ่มเป็น 200 วาห์นมองไปยังสายธนูที่เริ่มเรื่องแสงและเขาต้องออกแรงมากขึ้นเพื่อรั้งสายจนสุด
เขาเล็งไปที่ตัวหัวหน้าเผ่าและเริ่มใส่พลังเข้าไปในลูกศรจนถึงระดับสูงสุดที่มันจะรับไหว ชั่วขณะก่อนที่มันจะถูกใส่พลังจนเต็ม ตัวหัวหน้าก็หลุดออกจากสภาวะเหม่อลอยและใช้คทาในมือเผาก็อบลินตัวใหญ่ที่กำลังดิ้นรนอยู่บนพื้น สีหน้าของมันเปลี่ยนเป็นความเกลียดชังและโหดร้ายขณะที่มองไปยังผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาที่กำลังกระเสือกกระสน ขณะที่ตัวหัวหน้าชูไม้คทาขึ้นไปบนฟ้า วาห์นก็ปล่อยลูกศรที่ถูกเพิ่มพลังจนถึงขีดสุดออกไป
ลูกศรเดินทางด้วยความเร็วมากกว่าครั้งไหนๆ ในขณะที่เขากลั้นหายใจรอดูผลลัพธ์ของมัน
ดูเหมือนหัวหน้าเผ่าก็อบลินจะรู้สึกถึงลูกศรที่กำลังพุ่งเข้ามา มันยกไม้คทาขึ้นมาสกัดลูกศรที่พุ่งไปตามเส้นทาง มันแสดงท่าทางพึงพอใจและดูหมิ่นเนื่องจากลูกศรถูกสกัดเอาไว้ได้…
*ตู้มมมม!!!!*
ขณะที่สีหน้าอันภาคภูมิใจที่ป้องกันตัวสำเร็จยังคงฉายอยู่บนใบหน้าของมัน หัวหน้าเผ่าและก็อบลินทุกตัวในระยะ 15 เมตรก็ถูกแรงระเบิดที่ติดมากับลูกศรเข้าไปอย่างจัง
เพราะก่อนหน้านี้พวกมันทุกตัวในค่ายกำลังดูหัวหน้าเผ่าเผาก็อบลินตัวใหญ่ทั้งเป็น สมาชิกเผ่าที่เหลืออยู่จึงยืนกันอย่างขวัญผวาหลังจากการระเบิด หัวหน้าเผ่าที่ครั้งหนึ่งเคยทำให้พวกมันทั้งเคารพและหวาดกลัวในหมู่เผ่าพันธุ์เดียวกัน บัดนี้กลับแหลกละเอียดเป็นผุยผงต่อหน้าต่อตาของพวกมัน ไม้คทาที่เคยเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจของผู้นำ ตอนนี้กระเด็นไปติดกับกำแพงของกระท่อมที่ใหญ่ที่สุดของค่ายในสภาพแตกเป็นเสี่ยงๆ
พวกมันยังคงจ้องมองต่ออีกครู่หนึ่งขณะที่เศษซากของหัวหน้าเผ่ากลายเป็นผุยผงพร้อมกับหน่วยคุ้มกันที่เหลือและพวกมันอีกหลายตัว เมื่อหายจากความมึนงงแล้ว ความโกลาหลยิ่งกว่าแต่เก่าก็อุบัติขึ้นมาอีกครั้ง พวกมันเริ่มหนีออกไปทุกทิศทาง หลายตัวเลือกที่จะกระโดดลงไปในกระแสน้ำอันเชี่ยวกรากของแม่น้ำที่อยู่ติดกับค่ายแต่ก็ต้องมาตายเพราะจมน้ำอยู่ดี บางตัวที่กล้าหาญหน่อยเลือกที่จะแก้แค้นให้กับหัวหน้าเผ่าที่ตายไป พวกมันวิ่งตรงเขาไปหาเจ้าตัวที่คร่าชีวิตของพวกพ้องไปเป็นจำนวนมาก
วาห์นยืนอยู่ระหว่างแนวต้นไม้พร้อมกับสังเกตสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากธนูระเบิดที่เขายิงออกไปที่หัวหน้าก็อบลิน เขาเห็นพวกมันวิ่งหนีกันอย่างมั่วซั่วและเริ่มกลัวว่าตนเองอาจทำภารกิจไม่สำเร็จเพราะไม่สามารถกำจัดพวกมันได้ทุกตัว ในขณะที่ความคิดเหล่านี้แล่นอยู่ภายในหัว เสียงแจ้งเตือนหลายครั้งดังขึ้น เขาเหลือบมองอย่างรวดเร็วและพบว่ามันคือคำแสดงความยินดีที่ระบุว่าเขาสำเร็จภารกิจนี้แล้ว แต่อีกครู่หนึ่งเขาก็ต้องเลิกดูเนื่องจากพวกก็อบลินกว่าสามสิบตัวกำลังกรูเข้ามาที่ตำแหน่งของเขาอย่างรวดเร็ว
เขาเริ่มทำตามแผนเดิมเพื่อกำจัดก็อบลินที่เข้ามาใกล้และสามารถกำจัดพวกมันได้เกินครึ่งก่อนที่พวกมันจะบังคับให้เขาต้องถอยกลับเข้าไปในป่าลึก
พวกมันพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งและต่อเนื่อง และแล้วก็อบลินที่เหลืออยู่ก็ถูกสังหารอย่างรวดเร็วจากการผสมผสานระหว่างทุ่นระเบิดกับการยิงธนูของเขา หลังจากการต่อสู้ผ่านไปไม่ถึงสิบนาที ก็อบลินแสนบ้าคลั่งทุกตัวก็กลายเป็นผีเฝ้าป่า วาห์นรีบเก็บรวบรวมคริสตัลที่เขาพบก่อนที่จะกลับไปดูค่ายก็อบลินอีกครั้ง ในเวลานี้ ก็อบลินส่วนใหญ่ได้หลบหนีไปแล้วแต่ยังมีบางตัวที่บาดเจ็บจากผลของการระเบิดก่อนหน้านี้
วาห์นค่อยๆ เข้าใกล้พื้นที่ที่ถูกทอดทิ้งและสังหารก็อบลินที่รอดชีวิตทั้งหมด หลังจากเหลือบมองไปที่สิ่งปลูกสร้างที่ทำมาจากดินโคลนผุพัง สิ่งที่วาห์นหาพบมีเพียงเศษชิ้นส่วนของไม้คทาหักๆ คริสตัลจากตัวหัวหน้าเผ่า คริสตัลขนาดเล็กมากมาย และสุดท้ายก็คือหนังสือที่ถูกเก็บไว้ใน ‘บริเวณที่พัก’ ของตัวหัวหน้า
ไม้คทาถูกทำลายย่อยยับจนเหลือแค่ชิ้นส่วนใหญ่ๆ 3 ชิ้น และชิ้นส่วนขนาดเล็กมากมายที่วาห์นพยายามเก็บรวบรวมจนถึงที่สุด คริสตัลที่เก็บได้จากศพของตัวหัวหน้านั้นใหญ่กว่าของก็อบลินธรรมดาประมาณ 10 เซนติเมตร (คริสตัลของก็อบลินทั่วไปมีขนาด 1 – 2 เซนติเมตรเท่านั้น)
หลังจากปรึกษากับพี่สาวแล้ว พี่สาวคาดว่ามันจะแลกเป็นค่า OP ได้ประมาณ 230 แต้ม หรือเกือบ 23 เท่าของคริสตัลชิ้นเล็ก พี่สาวยังแนะนำให้เขาเก็บมันไว้ในช่องเก็บของ เนื่องจากมันอาจมีประโยชน์หากใช้ในการแลกเปลี่ยนเมื่อเข้าสู่ตัวเมือง วาห์นเห็นด้วยกับคำแนะนำของพี่สาวและเก็บคริสตัลก่อนที่จะไปตรวจสอบหนังสือ
หนังสือเล่มนี้มีขนาดใหญ่กว่าเล่มอื่นที่เขาเคยเห็นมาก มันใหญ่กว่าตำราเรียนที่วาห์นเคยศึกษาในชีวิตที่แล้วของเขาซะอีก ภายนอกของหนังสือเล่มนี้ดูเหมือนจะประกอบไปด้วยหนังสัตว์เก่าแก่ชนิดหนึ่งที่สลักเป็นรูป ใบไม้สีทอง เถาวัลย์และอักษรรูน ปกของหนังสือเป็นรูปมีต้นไม้สีทองขนาดใหญ่ที่มีการฝังอัญมณีไว้แทนผลไม้ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น วาห์นลองแกะสลักเพื่อเปิดหนังสือแต่ไม่สำเร็จ
“พี่สาวพอรู้ไหมว่านี่มันหนังสืออะไรกัน? ทำไมผมเปิดมันไม่ได้แม้ว่ามันจะไม่มีตัวล็อกล่ะ?”
(*ฉันไม่สามารถระบุที่มาของหนังสือหรือวิธีการใช้มันได้ ขอแนะนำให้เธอใส่มันเข้าไปในช่องเก็บของเพื่อวิเคราะห์มันผ่าน ‘เดอะพาธ’ สำหรับทำไมถึงเปิดหนังสือไม่ได้นั้น น่าจะเป็นผลมาจากคาถาเวทมนตร์หรือถูกลงอาคมไว้*)
หลังจากเก็บหนังสือเข้าไป วาห์นก็ออกจากค่ายก็อบลินและตรงดิ่งไปที่บ้าน ระหว่างทางกลับ เขาใช้โอกาสนี้เพื่อตรวจสอบการแจ้งเตือนที่ขึ้นมาหลังจากสังหารตัวหัวหน้าได้
//ภารกิจสำเร็จ//
[ภารกิจ: ทำลายเผ่าก็อบลิน]
สถานะ: ระดับความสำเร็จ 100%, เกรด: SS
ระดับ: (D)
รางวัล: เปิดใช้งานระบบ ‘ภารกิจ’ อย่างสมบูรณ์, 1x ‘รูปปั้นฮีโร่’, OP 1,000 แต้ม
รางวัลจากเกรด: สกิล: เสียงเรียกแห่งยมทูต (B) [สำเร็จภารกิจโดยไม่ถูกบอสเห็น], OP 50,000 แต้ม [รางวัลจากเกรด: S], 1x คัมภีร์เสริมสกิล [รางวัลจากเกรด: SS]
//เปิดการทำงานระบบภารกิจแบบถาวร//
วาห์นประหลาดใจกับการให้เกรดและรางวัลที่ได้รับจากเกรด เขาไม่คาดคิดว่าจะได้รับโบนัสพิเศษเมื่อตัดสินใจสังหารตัวหัวหน้าด้วยลูกศรระเบิด วาห์นสงสัยเกี่ยวกับสกิลใหม่และไอเท็มต่างๆ วาห์นเริ่มตรวจสอบคำอธิบายแต่ละอย่าง
*สกิล*
‘เสียงเรียกแห่งยมทูต’
ระดับ:(B)
การโจมตีขณะอำพรางตัวจะสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้น 300% การโจมตีของผู้ใช้จะนำพาซึ่งโฉมหน้าแห่งความตายและชักนำเหยื่อเข้าสู่อ้อมกอดอย่างเงียบเชียบโดยที่เหยื่อไม่รู้ตัว หากโจมตีไม่สำเร็จจะถูกลบสถานะอำพรางตัวและลดค่าสถานะลง 50% เป็นเวลา 30 นาที ลดคูลดาวน์เหลือ 5 นาที ก่อนที่ผู้ใช้จะสามารถเข้าสู่สภาะวะอำพรางได้อีกครั้ง
*ไอเท็ม*
‘รูปปั้นฮีโร่’ x1
ระดับ: (S)
การใช้งาน: รูปปั้นนี้จะถูกใช้โดยอัตโนมัติเมื่อเจ้าของได้รับความเสียหายรุนแรงถึงตาย ในขณะที่ถูกใช้งาน รูปปั้นจะย้ายบาดแผลทั้งหมดจากตัวเจ้าของไปที่รูปปั้น รูปปั้นจะเริ่มเผาไหม้เป็นเวลาสามนาทีและเพิ่มค่าสถานะทั้งหมดของผู้ใช้ 3 เท่าในช่วงเวลาดังกล่าว หลังจาก 3 นาทีผ่านไป รูปปั้นจะกลายเป็นเถ้าถ่านและเจ้าของจะเข้าสู่สภาวะเคลื่อนไหวไม่ได้เป็นเวลา 3 ชั่วโมง
‘คัมภีร์เสริมสกิล’ x1
ระดับ: (A)
การใช้งาน: สามารถใช้เพิ่มระดับสกิลใดก็ได้ 1 ระดับ ไม่สามารถใช้กับสกิลที่มีระดับ: A หรือ สูงกว่า
ดวงตาของวาห์นเบิกกว้างจากคำอธิบายทั้งสามอย่าง ‘เสียงเรียกแห่งยมทูต’ จะทำประโยชน์ให้กับเขาเป็นอย่างมากหากเขาเลือกเดินบนเส้นทางแห่งการอำพรางตัว ‘รูปปั้นฮีโร่’ เป็นไอเท็มใช้ช่วยชีวิตที่จะทำให้เขาพลิกสถานการณ์ที่อันตราย และ ‘คัมภีร์เสริมสกิล’ เองก็มีประโยชน์เป็นอย่างมากสำหรับสกิลระดับ B ที่เขาอาจได้รับในอนาคต
เขาครุ่นคิดเกี่ยวกับการใช้คัมภีร์เพื่อเพิ่มระดับ ‘เสียงเรียกแห่งยมทูต’ แต่เขาเลือกที่จะไม่ทำจนกว่าจะเข้าใจศักยภาพของสกิลอย่างละเอียด เนื่องจากเขาเพิ่งได้รับแต้ม OP มาเป็นจำนวนมาก วาห์นสามารถเรียนรู้สกิลใหม่มากมายที่มีประโยชน์ต่อตัวเองในระยะยาวดีกว่าสกิลที่มีข้อกำหนดสูงๆ และข้อเสียอื่นๆ เขายังสามารถใช้มันเพื่อเพิ่มระดับของ ‘ความเชี่ยวชาญด้านธนู’ ซึ่งตอนนี้ระดับของมันคือ : (F) -> (D) ด้วยความพยายามอีกเล็กน้อย เขามั่นใจว่าจะสามารถยกระดับของมันเป็น B ได้ในอนาคต
ในที่สุดวาห์นก็กลับมาถึงถ้ำในช่วงเที่ยงและเลือกที่จะฉลองชัยชนะด้วยการย่างหมูป่าที่เขาล่าไว้เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน เขาได้เก็บมันเอาไว้ในช่องเก็บของเนื่องจากดูเหมือนมันจะต้องใช้ความพยายามในการเตรียมเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้มันกลับดูเรื่องง่ายเพราะวาห์นเริ่มรู้สึกว่าตนเองสามารถทำได้ทุกอย่าง
เมื่อแสงอาทิตย์เริ่มจางหายไป วาห์นก็มานั่งอยู่รอบกองไฟและเพลิดเพลินไปกับหมูป่าย่าง เขานึกถึง 6 เดือนที่ผ่านมาที่เขาใช้ไปกับการฝึกฝน และคิดว่าตนเองเติบโตขึ้นมาขนาดไหนตั้งแต่ที่มาถึงโลกใบนี้ ภารกิจที่เขาคิดว่ายากมหาศาลจบลงด้วยความสำเร็จอย่างง่ายดาย พร้อมกับรางวัลมากมายที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามของเขา
เขาเปิดแผนที่และเริ่มมองตรงไปทางโอราริโอ้ราวกับมันคือสถานที่ที่การเดินทางของเขาจะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ ด้วยความคิดทั้งหลายที่ผ่านเข้ามาในหัว วาห์นตัดสินใจเข้านอนเร็วกว่าปกติเพื่อรอรับวันใหม่ที่กำลังจะมาถึง จากภารกิจที่สำเร็จเสร็จสิ้น เขาเชื่อว่าตนเองพร้อมที่จะก้าวเดินออกไปพร้อมกับ ‘เดอะพาธ’ แล้ว…