Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล – ตอนที่ 4

ตอนที่ 4

(นามของข้าคือคริสช่า เทพีแห่งความฝัน)

หญิงสาวมีสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนในขณะที่เธอจ้องเข้าไปในดวงตาของวาห์น

สิ่งที่เขามองเห็นในดวงตาของเธอก็คือความมืดอันไร้จุดสิ้นสุดซึ่งมันคล้ายกับขุมนรกที่เคยรุกล้ำเข้ามาใน ‘ความทรงจำ’ ของเขามาก่อน ภายในความมืดนั้นเป็นภาพของดวงดาวอันนับไม่ถ้วนที่ลอยอยู่ภายในเหมือนการรวมกันของภาพเหตุการณ์ต่างที่สร้างมุมมองคล้ายกับกลุ่มกาแล็กซี่

(วาห์น ข้าไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าเจ้ามีชีวิตที่แสนเศร้า แต่จงรู้ว่าความรักและความหวังที่แม่ของเจ้ามอบให้จะกลายมาเป็นพลังของเจ้า)

“ที่บอกว่า ‘พลังของผม’ นี่หมายถึงอะไรเหรอครับ?” วาห์นถามอย่างงุนงง

(เจ้ารู้ไหมวาห์น ว่าทุกอย่างที่วิญญาณได้ประสบตอนยังมีชีวิตไม่ว่าจะดีหรือชั่วก็ตาม จะถูกสะสมและรวบรวมออกมาเป็นกรรม การตัดสินใจทุกอย่างของพวกเขาหรือแม้แต่วิธีที่พวกเขาใช้จัดการกับความคิดและความทรงจำก็จะถูกนำมาคำนวณเช่นกัน แม้ว่าเจ้าจะมีส่วนร่วมใน ‘กรรมชั่ว’ มากมายจากผู้อื่น แต่มันก็ไม่ได้เพิ่มค่ากรรมชั่วของเจ้าแต่อย่างใด ในความเป็นจริงแล้ว เพราะเจ้าเป็นผู้ถูกกระทำตามสถานการณ์จึงทำให้เจ้าได้รับค่ากรรมดีแทน และข้ารู้ดีว่านี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าต้องทนทุกข์ทรมาน แต่สายเลือดที่เป็นเอกลักษณ์ของเจ้าก็ส่งผลให้ผู้คนทั้ง 1,317,042 ชีวิตได้รอดพ้นจากความตายในตลอดสิบสี่ปีที่ผ่านมา)

วาห์นตกใจอย่างมาก แม้ว่าเขาเรียนรู้ที่จะเกลียดการมีอยู่ของตัวเองและการที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย แม้ว่าเขาจะสาปแช่งสายเลือดของตัวเอง แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นเพียงเครื่องมือที่จะใช้เพื่อความสะดวกสบายของผู้อื่น แต่ในความเป็นจริงแล้วเขาก็ได้ช่วยชีวิตคนมากกว่าล้านคนเช่นกัน

“หนึ่งล้านชีวิต… ผมเนี่ยนะ?”

(1,317,042 ชีวิตต่างหาก! เจ้าไม่ควรมองข้ามอีก 317,042 ชีวิตนะวาห์น ชีวิตทุกชีวิตที่รอดมาได้คือผลจากการมีตัวตนของเจ้ากับความรักที่แม่มีต่อเจ้า)

วาห์นก้มลงมองที่พื้นอัน ‘ว่างเปล่า’ ดูเหมือนเขากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่

“ผมเข้าใจแล้วครับ…”

คริสช่ามองเด็กหนุ่มที่ดูเหมือนกำลังไตร่ตรองเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง เขาดูตัวเล็กและอ่อนแอเหลือเกิน… ไม่น่าจะต้องมารับ ‘ภาระ’ เพื่อช่วยคนมากมายขนาดนี้เลย

(อย่างที่ข้าพูดไปนั่นแหละวาห์น แม้ว่าเจ้าอาจไม่ได้ตั้งใจทำแบบนั้นแต่เจ้าก็ได้ช่วยชีวิตคนทั้ง 1,317,042 ชีวิตเอาไว้ แค่การช่วยชีวิตคนเพียงคนเดียวก็ทำให้ได้รับกรรมดีจำนวนมหาศาลแล้ว แม้แต่วีรบุรุษที่แท้จริงก็ยังช่วยชีวิตผู้คนราวๆ หลายพันชีวิตในตลอดชั่วชีวิตของพวกเขาเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ เจ้าจึงมีกรรมดีสะสมมากพอที่จะใช้มันเพื่อประโยชน์ของตัวเจ้าเองหลังจากที่เจ้าตายไปแล้ว นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ข้าได้ยินเสียงสวดภาวนาของเจ้าและอัญเชิญดวงวิญญาณของเจ้ามายังที่แห่งนี้ และยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าคงอยู่ในที่แห่งนี้มาได้ถึงสามปีโดยที่ไม่ถูกดึงกลับไปยังวงจรแห่งการกำเนิดใหม่)

หูของวาห์นกระตุกทันทีที่ได้ยินคำว่า ‘กำเนิดใหม่’

“คุณหมายถึงคนเราจะได้กลับไปเกิดใหม่เหรอครับ?”

เทพียิ้มให้กับความอยากรู้อยากเห็นของวาห์นในเรื่องดังกล่าว

(แน่นอนวาห์น วิญญาณทุกๆ ดวงแม้แต่ดวงที่ชั่วร้ายนั้นจะได้ผ่านเข้าไปในวงจรแห่งการกำเนิดใหม่ โดยทั่วไปแล้ว เมื่อวิญญาณผ่านสิ่งที่เหล่าทวยเทพอย่างเราเรียกมันว่า ‘ประตู’ ความทรงจำของพวกเขาจะถูกลบออกหลังจากที่ได้รับการตรวจสอบผ่านทาง ‘วงล้อภาพลานตาแห่งกรรม’ ทุกอย่างนั้นขึ้นอยู่กับกรรมที่ดวงวิญญาณสะสมไว้ก่อนตาย ดวงวิญญาณอาจได้เกิดใหม่เป็นสิ่งมีชีวิตต่างๆ หรือแม้แต่กระทั่งได้ไปสิงสถิตย์อยู่ในสิ่งของที่ไม่มีชีวิต สำหรับเหล่าผู้ที่สะสมกรรมดีมากมายเช่น วีรบุรุษ นักบุญ และบุคคลในตำนานอื่นๆ พวกเขาสามารถเก็บรักษาความทรงจำบางส่วนหรือทั้งหมดเอาไว้ได้)

ดวงตาของเด็กหนุ่มดูสุกสว่างขึ้นในขณะที่เขาจ้องมองเทพีอย่างคาดหวัง

“คุณหมายความว่าผมสามารถกลับไปเกิดใหม่แล้วก็เก็บรักษาความทรงจำทั้งหมดเอาไว้ได้ใช่ไหมครับ?”

(ถูกต้องแล้ววาห์น ในความเป็นจริง เนื่องจากเจ้าสะสมกรรมดีที่มากมายมหาศาล เจ้าจะได้รับประโยชน์มากมายที่ตัวเจ้ามีสิทธิ์เลือกได้)

“ประโยชน์งั้นเหรอครับ?” เขาถาม ตอนนี้เข้ารู้สึกมึนงงกับคำพูดของเทพีที่อยู่ตรงหน้า

(ใช่แล้ว ในกรณีส่วนใหญ่นั้น วงจรแห่งการกำเนิดใหม่จะเกิดขึ้นตามอัตโนมัติเนื่องจากว่ามันคือหนึ่งในกฎพื้นฐานที่ควบคุมดูแลทุกจักรวาลเอาไว้ การที่เทพหรือเทพีจะนำดวงวิญญาณผ่านวงจรแห่งการกำเนิดใหม่เป็นการส่วนตัวนั้นนับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะเกิดขึ้นให้เห็นนัก ดวงวิญญาณจะต้องสะสมกรรมได้มากกว่าเกณฑ์ของดวงวิญญาณในระดับนั้นๆ ตัวอย่างเช่นเจ้าผู้มาจากโลกของสิ่งมีชีวิตภายในมิติที่ 3 จะมีระดับของดวงวิญญาณระดับ 1 โดยทั่วไปแล้ววิญญาณระดับ 1 ไม่สามารถสะสมกรรมได้เกินกว่า 100,000 แต้ม)

“แล้วผมมีค่ากรรมอยู่เท่าไหร่เหรอครับ?” วาห์นถามอย่างใคร่รู้

เทพีคริสช่า แสดงรอยยิ้มออกมาที่มากกว่าครั้งไหนๆ ในขณะที่แววตาของเธอดูส่องประกายมากกว่าเดิม

(173,419,003 แต้ม)

วาห์นถึงกับทำหน้าเหวอ “173 ล้านแต้ม!? ผมนึกว่าคุณบอกว่าผมช่วยชีวิตคนไว้ 1,317,042 เท่านั้นเองนี่ครับ!”

เทพีนำมือไปปิดที่ปากและหัวเราะคิกคัก

(ถูกแล้ววาห์น เป็นเรื่องดีที่ตอนนี้เจ้าบอกจำนวนเหล่านั้นได้อย่างครบถ้วน แม้แต่การทำเรื่องที่แสดงถึงความเมตตาให้กับใครสักคนก็ทำให้ค่ากรรมดีเพิ่มขึ้นมาแล้ว แน่นอนว่าการช่วยชีวิตย่อมได้รับแต้มที่มีจำนวนมากกว่านั้นหลายเท่า!)

“อะ อ๋อ… ผมเข้าใจแล้วครับ ใช่แล้ว นั่นฟังดูมีเหตุผล”

เทพีแห่งความฝันสำรวมท่าทางของตนอีกครั้งและพูดต่อ

(แน่นอน และตอนนี้ข้าจะอธิบาย ‘ประโยชน์’ ที่เคยพูดไปก่อนหน้านี้ เมื่อดวงวิญญาณสะสมกรรมมากพอ พวกเขาจะมีโอกาสได้พบกับเทพ/เทพีก่อนที่พวกเขาจะไปเกิดใหม่ เทพผู้ที่จะมาปรากฏตัวนั้นขึ้นอยู่กับความปรารถนาของดวงวิญญาณแต่ละดวง ซึ่งในกรณีของเจ้าก็คือข้า คริสช่า เทพีแห่งความฝัน! เพราะเจ้ามีความฝันที่แรงกล้าแล้วยังสวดภาวนาอย่างต่อเนื่อง เสียงของเจ้าก็เลยถูกส่งมาถึงข้า ตอนนี้ข้าสามารถใช้พลังของตัวเองเพื่อให้พรและโอกาสแก่เจ้าในการเลือกประโยชน์ต่างๆ ก่อนที่เจ้าจะได้ไปกำเนิดใหม่ จงลองบอกข้ามาสิวาห์น ว่าความปรารถนาของเจ้าคืออะไร?)

วาห์นหยุดชะงักไปครู่หนึ่งและเริ่มไตร่ตรองตัวเลือกของตนอย่างจริงจัง เขานึกถึงการมีพลังอำนาจที่หลากหลายเช่นเหาะเหินเดินอากาศหรือความสามารถในการเดินทะลุกำแพง เขานึกถึงความแข็งแกร่งไร้เทียมทานหรือมีอำนาจควบคุมคนอื่นได้ ขณะที่ความคิดมากมายหลั่งไหลเข้ามาในหัวของเขา วาห์นก็ตระหนักว่า ‘ความปรารถนา’ ของเขาต่างสะท้อนถึงประสบการณ์ไม่ดีที่เขาได้พบเจอในอดีตของตนเอง เขาอยากได้ความสามารถที่ทำให้ตัวเองหลบหนีจากทุกสิ่ง… ความสามารถในการลงโทษผู้คนที่ทำร้ายเขา… ความสามารถที่จะทำให้เขาทำทุกอย่างตามที่ต้องการเป็นครั้งแรกในชีวิต…

“….”

(เป็นอะไรไปหรือเปล่าวาห์น?) คริสช่าเอ่ยถาม สีหน้าของเธอดูเคร่งขรึมขึ้น

เด็กหนุ่มมองตรงไปที่เธอที่ด้วยดวงตาที่แฝงไปด้วยความเกลียดชัง สิ่งที่เทพีแห่งความฝันเห็นก็คือเด็กน้อยที่ไม่มีกรรมชั่วภายในวิญญาณอยู่เลยแม้แต่น้อย ความบริสุทธิ์นี้อาจเป็นอาหารอันโอชะของความมืดมิดได้เช่นกัน ความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของเด็กชายเริ่มฝังรากเข้าไปอยู่ในจิตวิญญาณของเธอ… จนกระทั่งสีหน้าของเด็กที่อยู่ตรงหน้าจู่ๆ ก็ผ่อนคลายลง ความมืดที่ดูเหมือนจะกลายเป็นตัวตนของเขาค่อยๆ จางหายไปอยู่ในที่ที่ลึกและเงียบเหงา

“ผมอยากให้แม่ยังมีชีวิตอยู่ครับ” เด็กชายกล่าวพร้อมกับมองเข้าไปในดวงตาของเธอด้วยความหวัง

เธอถอนหายใจเบาๆ โดยไม่แน่ใจว่าจะตอบเกี่ยวกับคำปรารถนานี้อย่างไรดี หลังจากนั้นเธอก็เฝ้าสังเกตในขณะที่เด็กชายแสดงท่าทางเคร่งขรึม

(ขอโทษด้วยนะวาห์น แต่มันอยู่นอกเหนือสิทธิ์ของวิญญาณทั้งปวงที่จะร้องขอให้มีการเปลี่ยนแปลงของวิญญาณดวงอื่นที่ไม่ใช่ตนเอง แม้ว่าการไหลของเวลาในสถานที่แห่งนี้แตกต่างไปจากที่อื่นๆ แต่ตอนนี้แม่ของเจ้าก็ได้เข้า ‘ประตู’ ไปแล้ว ทุกสิ่งอย่างที่บ่งบอกการมีตัวตนของนางตอนนี้อยู่ที่ตัวของเจ้าหมดแล้ว ข้าเองก็ไม่สามารถหยั่งรู้ได้ว่านางไปเกิดที่ไหนหรือแม้แต่จะลิขิตชะตาให้เจ้าได้พบกับนางอีกครั้ง แต่มีเรื่องหนึ่งที่ข้าให้สัญญากับเจ้าได้ เนื่องจากนางเป็นผู้ให้กำเนิดเจ้าซึ่งเป็นคนที่สะสมแต้มกรรมดีได้มากมายมหาศาล นางจึงได้ไปอยู่ในระดับของนักบุญก่อนที่นางจะสิ้นใจ ตอนนี้นางคงอยู่อย่างมีความสุขในโลกอื่นพร้อมความหวังว่าเจ้าจะมีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุข)

หลังจากได้ฟังสิ่งที่เทพีกล่าว วาห์นก็ดูเหมือนจะผ่อนคลายลงราวกับว่าได้ปลดของหนักลงจากบ่าของตน

“แบบนั้นเองเหรอครับ ผมมีความสุขตราบใดที่แม่มีความสุข… สิ่งเดียวที่ผมปรารถนานอกจากเรื่องของแม่ก็คือ… ผมต้องการเป็นอิสระครับ ผมต้องการโอกาสที่จะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตามที่แม่ของผมปรารถนา ผมจะไม่ขออะไรมากไปกว่านี้”

เทพียิ้มอีกครั้งด้วยใบหน้าที่ดูอ่อนโยนกว่าเดิม

(ข้าภูมิใจในตัวเจ้ามากเลยนะวาห์น ข้าจะให้ความปรารถนาของเจ้าเป็นจริงและมอบเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดเพื่อช่วยรับประกันอิสรภาพของเจ้า)

เธอเอื้อมมือและดึงวัตถุทรงกลมออกมาจากความว่างเปล่า

(วัตถุชิ้นนี้ก็คือ ‘เดอะพาธ’ (The Path) มันเป็นแกนประกอบไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ของข้าในฐานะเทพีแห่งความฝัน ด้วยสิ่งนี้ เจ้าจะสามารถเข้าถึงทุกอย่างที่อยู่ในความฝันของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดจากทั่วทั้งจักรวาล ซึ่งรวมไปถึงอนิเมะและมังงะที่เจ้าชื่นชอบด้วยเช่นกัน) เธอกล่าวพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

“หมายความว่าผมสามารถไปยังโลกใบไหนก็ได้งั้นเหรอครับ!?” เด็กชายแทบจะเก็บอาการตื่นเต้นไว้ไม่อยู่

(สักวันหนึ่งมันจะเป็นเช่นนั้น แต่ก่อนหน้านั้นมันจะเติบโตไปพร้อมกับเจ้า ขณะที่เจ้าเดินทางผ่านโลกต่างๆ เจ้าก็จะแข็งแกร่งขึ้นไปเรื่อยๆ ความแข็งแกร่งนั้นจะถูกส่งผ่านไปยัง ‘เดอะพาธ’ และจะทำให้เจ้ามีอิสระตามที่เจ้าปรารถนา สักวันหนึ่ง ‘เดอะพาธ’ อาจนำพาเจ้าไปยังที่ที่แม่ของเจ้าอยู่ก็เป็นได้

วาห์นถึงกับตะลึงจนแทบหยุด ‘หายใจ’ ไปหลายนาที ราวกับว่าสมองของเขาปิดตัวลงไปแล้ว

(เวลาของเจ้าเกือบหมดแล้วนะวาห์น เหตุผลที่ข้าต้องปลุกเจ้าจากภวังค์ก่อนหน้านี้ก็เพราะเวลาที่วิญญาณของเจ้าจะไปเกิดใหม่นั้นใกล้เข้ามาแล้ว

“ผม…ผมเข้าใจแล้วครับ” วาห์นกล่าว “ผมจะเลือกไปเกิดที่โลกไหนก็ได้งั้นเหรอครับ?”

เทพีแห่งความฝันพยักหน้ารับ

(เจ้าเพียงแค่นำ ‘เดอะพาธ’ ไปไว้ในใจของเจ้า เมื่อมันหลอมรวมกับดวงวิญญาณของเจ้า มันก็จะมอบพลังที่ทำให้เจ้าสามารถเลือกโชคชะตาของตัวเองได้)

วาห์นนำวัตถุทรงกลมมาว่างไว้บนหน้าอกของตน เมื่อสัมผัสกับตัววาห์น มันก็สลายเข้าไปในร่างกายของเขาราวกับว่ามีความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทั้ง ‘จิตวิญญาณ’

(*ทำการผสานกับร่างเป้าหมาย: 1%….37%….100% เริ่มการทำงาน ‘เดอะพาธ’ ตามที่ ‘เรคคอร์ด’ (Record) ของร่างเป้าหมายกำหนดไว้ : 1%….19%….90%….100% *ติ๊ง* ‘เรคคอร์ด’ ถูกระบุแล้ว โปรดยืนยัน ‘เรคคอร์ด’ ผ่านการคำสั่ง ‘แสดงเรคคอร์ด’*)

วาห์นได้ยินเสียงปัญญาประดิษฐ์ที่พูดอยู่ในหัวของเขาโดยตรง มันเป็นความรู้สึกที่แปลกและไม่เหมือนสิ่งที่เขาเคยเจอมาก่อน ก่อนที่เขาจะถามอะไรเพิ่มเติม เทพีคริสช่าก็ขัดจังหวะกระบวนความคิดของเขา

(เวลาของเจ้าหมดแล้ววาห์น เจ้าจะถูกพาไปยังมิติที่อยู่ภายใน ‘เดอะพาธ’ ข้าขออธิษฐานให้เจ้าค้นพบความสุขจากการเดินทาง)

สิ่งที่เธอพูดทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก แต่ก่อนที่เขาจะตอบอะไรกลับไป-

(*พบร่างเป้าหมายอยู่ภายใน *ไม่สามารถระบุได้* ทำการนำร่างเป้าหมายออกไปเพื่อยับยั้งการเสื่อมสลายของดวงวิญญาณ*)

หลังจากได้ยินคำเตือนดังกล่าว ร่างของเขาก็หายไปจากมิติสีขาวอันไร้ที่สิ้นสุด

คริสช่ายืนมองอย่างเงียบๆ ไปยังที่ที่เด็กหนุ่มที่ชื่อวาห์นเคยอยู่ เธอเอ่ยคำอธิษฐานในใจไปยังเทพเจ้าที่อยู่สูงกว่าตัวเธอเองโดยหวังว่าการเดินทางของเด็กหนุ่มจะสามารถรักษาบาดแผลในใจของเขาได้
—————

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Status: Ongoing

เรื่องย่อโดยผู้แต่ง

วาห์นชายหนุ่มผู้ที่มีความผิดปกติ เนื่องจากการกลายพันธุ์ที่หายาก เลือดของเขาจึงมีความสามารถซ่อนเร้นที่ทำให้เป้าหมายและความเสียหายที่เกิดจากโรคร้ายที่อยู่ภายในร่างกายมนุษย์

ถูกขจัดออกไปในโดยการรักษาครอบจักรวาล เหล่าผู้คนจึงต่างเชิดชูบูชาสถานะของเด็กหนุ่มเหนือกว่าผู้ใดทั้งสิ้นและมอบชื่อให้เขาว่า “ยารักษาสารพัดโรค” ในข่าว

เขาได้รับการยกย่องเป็นเหมือนกับวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่จะนำพายุคสมัยแห่งใหม่หรือคุณภาพชีวิตมนุษย์ที่ดีมาถึง อย่างไรก็ตาม ฉากที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้สดใสเลย

เนื่องจากปัจจัยเฉพาะบางอย่าง วาห์นจึงใช้เวลาช่วงวัยรุ่นทั้งหมดถูกกักขังอยู่ในห้องทดลองกับนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย และทีมวิจัยที่ใช้ร่างกายและเลือดของเขาเพื่อทำการทดลองที่ไม่มีที่สิ้นสุด

สิ่งปลอบใจความทุกข์ทรมานเพียงอย่างเดียวของเขาคืออนิเมะทั้งหลายและหนังสือการ์ตูนที่มีให้เขาดูในระหว่างการทดลอง เขามักจะจินตนาการว่าตนเองเป็นตัวเองที่อยู่ในโลกของตนเอง

dและสุดท้ายเขาก็สามารถควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้ เป็นเวลาหลายปีที่เขาเก็บรักษาความปราถนานี้เอาไว้ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในวัย 14 ปีขณะที่มีองค์กรพยายามลักพาตัวเขาออกจากห้องทดลอง…

“ในที่สุด ผมก็ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไปแล้ว…”

นี่เป็นความคิดสุดท้ายของวาห์นในขณะที่เขาค่อยๆจางหายไปในห้วงแห่งความมืดอันไร้สิ้นสุด…

“ดวงวิญญาณที่น่าสงสาร”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท