Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล – ตอนที่ 42

ตอนที่ 42

วาห์นและลิลลี่มุ่งหน้าไปที่ ‘ฮาร์ธเอ็มเบรส’ และหยุด ณ แผงขายของเล็กๆ ที่ขายของกระจุกกระจิกรวมไปถึงของขวัญต่างๆ เนื่องจากไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรเป็นของขวัญให้กับเด็กสาว เขาจึงตัดสินใจถามลิลลี่เพราะอายุของเธอนั้นใกล้เคียงกับทีน่า

“เอ๋? นายอยากให้ฉันช่วยเลือกของขวัญให้กับผู้หญิงคนอื่นเหรอ…” เธอเริ่มงอนแก้มป่องในขณะที่มองเขาอย่าไม่ชอบใจ

วาห์นพยักหน้าขณะที่ยกเครื่องลางรูปสัตว์ขึ้นมาตรวจสอบ “ใช่แล้ว ฉันไม่เคยซื้อของขวัญให้ใครมาก่อน ดังนั้นก็เลยไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะซื้ออะไรดี”

ไม่เคยซื้อของขวัญให้ใครมาก่อนเลย? คำพูดนี้ถูกสะท้อนในหัวของลิลลี่ซ้ำแล้วซ้ำอีก

(‘ต้องทำให้เขาซื้อให้เราด้วยสิ จะไม่ยอมให้ของขวัญชิ้นแรกที่เขาซื้อตกเป็นของพนักงานโรงแรมที่ไหนก็ไม่รู้หรอก!’) เธอเริ่มวางแผนในใจ…

“ท่านวา… เอ่อ วาห์น เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนที่ฉันช่วย นายก็ซื้อของขวัญให้ฉันมั่งได้ไหม? ไม่ต้องเป็นของแพงหรอก ฉันแค่อยากได้ของที่ระลึกสำหรับการพบกันครั้งแรกและการฝึกวันแรกของเรา อ้า! คิดออกแล้ว ฉันจะซื้อของขวัญให้นายด้วยแล้วเราก็เอามาแลกกัน!” เธอเริ่มรู้สึกไฟติดเมื่อคิดถึงการแลกเปลี่ยนของขวัญ เท่าที่เธอรู้มา หากเขาไม่เคยให้ของขวัญใครมาก่อน งั้นก็เป็นไปได้ว่าเขาไม่เคยรับของจากคนอื่นเช่นกัน!

“ได้สิลิลลี่ เธอมาช่วยฉันทั้งทีก็ควรได้อะไรบ้าง แต่ว่าเธอไม่ต้องให้อะไรฉันหรอกนะ” วาห์นพอจะจำจากในมังงะได้ว่าเด็กผู้หญิงมักชอบของขวัญกับขนมหวาน และเขาเห็นได้จากออร่าของเธอว่าเธอกำลังมีความสุขไปกับเรื่องของขวัญ

ลิลลี่เริ่มลากวาห์นเข้าไปที่แผงขายของกระทั่งมาถึงบริเวณที่มีของจำพวกเข็มกลัดและเครื่องประดับสำหรับสตรี หลังจากถามวาห์นมากมายเกี่ยวกับทีน่า ในที่สุดเธอก็เลือกเข็มกลัดสีเขียวอันเล็กที่มีรูปทรงคล้ายปลา

วาห์นตรวจสอบเข็มกลัดอันเล็กและพบว่าสีของมันคล้ายกับดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลของตัวเอง เขาเลยไม่แน่ใจว่าจะซื้อมันดีไหม เมื่อเห็นความลังเลของเขา ลิลลี่ก็ยังยืนกรานว่าทีน่าต้องดีใจมากแน่นอนจนเขาเริ่มใจอ่อน เขายังซื้อกระปุกใส่ลูกอมคาราเมลไว้เป็นแผนสำรองด้วย หลังจากนำของสองอย่างไปห่อของขวัญเรียบร้อยแล้ว ลิลลี่ก็ลากเขาไปยังอีกส่วนหนึ่งของร้าน

ตอนที่พวกเขาดูของก่อนหน้านี้ ลิลลี่ก็พบของที่เธอสนใจและคิดว่าน่าจะเอามาเป็นของขวัญแลกเปลี่ยนได้ดี ภายในตลับนั้นประกอบไปด้วยล็อกเกตรูปหัวใจหนึ่งคู่ อันแรกนั้นขนาดดูใหญ่กว่าและมีสีเงิน ส่วนอันที่สองนั้นมีขนาดเล็กกว่าและมีสีบรอนซ์สดใสคล้ายกับสีทองเหลือง แม้ตัวล็อกเกตจะเอามาใช้เก็บของอย่างอื่นได้ แต่สิ่งที่ลิลลี่หวังไว้จริงๆ ก็คือล็อกเกตอันเล็กนั้นสามารถนำไปประกอบกับล็อกเกตอันใหญ่และทำให้พวกมันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้

วาห์นสังเกตเห็นล็อกเกตคู่นี้และคิดว่ามันเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากที่เครื่องประดับสองชิ้นสามารถประกอบเข้าด้วยกันได้ เขาบอกเจ้าของร้านเพื่อขอซื้อมันอย่างไม่คิดอะไรมาก ทว่าลิลลี่กลับหยุดเขาไว้ก่อน…

“ฉันจะจ่ายค่าล็อกเกตสีเงินนั่นเอง นายจ่ายอันสีบรอนซ์แล้วเราก็เอามาแลกกันนะ” ลิลลี่ยืนกรานอย่างหนักแน่น และวาห์นเพิ่งนึกออกว่าเธอดูตื่นเต้นกับการแลกของขวัญมากนี่นะ เขาตัดสินใจทำตามที่เธอบอกแม้จะเห็นว่าล็อกเกตสีเงินมีราคาแพงกว่าก็ตาม วาห์นคิดว่าเดี๋ยวเขาค่อยตอบแทนเธอวันหลังก็ยังไม่สายไป

หลังจากที่ซื้อของเสร็จแล้ว ลิลลี่ก็พาวาห์นไปหยุดอยู่ที่ที่ใกล้กับร้านของขวัญ เธอให้วาห์นคุกเข่าลงเพื่อที่เธอจะได้สวมล็อกเกตให้กับเขา เธอติดล็อกเกตไว้ที่คอของเขาด้วยความเขินอาย ก่อนที่จะจ้องมองใบหน้าของวาห์นด้วยความคาดหวัง เมื่อรู้ตัวว่าเธอต้องการอะไร เขาจึงนำล็อกเกตสีบรอนซ์อันเล็กมาติดไว้ที่คอน้อยๆ ซึ่งดูบอบบางของเธอเช่นกัน

//[ลิลิรูก้า อาเด้] ค่าความชื่นชอบ +3//

เมื่อสลับกันใส่ล็อกเกตเสร็จแล้ว พวกเขาก็มุ่งหน้าต่อไปที่โรงแรม ลิลลี่ไม่ได้พูดอะไรในระหว่างการเดินทางและเอาแต่ลูบคลำล็อกเกต เธอมักพึมพำกับตัวเองในขณะที่แสดงสีหน้าเคลิ้มฝันไปตลอดทาง

เมื่อวาห์นเห็นว่าเธอดูชอบล็อกเกตอันนั้นมาก เขาจึงยิ่งมั่นใจว่าผู้หญิงคงจะชอบเรื่องของขวัญมากจริงๆ เขาไม่คิดเลยว่าจะได้รับค่าความชื่นชอบมาอีก 3 แต้มจากของจุกจิกที่มีราคาเพียง 800 วาลิส เมื่อมองดูล็อกเกตของตัวเอง เขาก็รู้สึกถึงแรงกดดันชวนอึดอัดจากรอบคอของเขา อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกนี้ถูกชดเชยด้วยความรู้สึกอบอุ่นที่เขาสัมผัสได้จากโลหะเย็นๆ อันนี้

ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงด้านนอกโรงแรมและดูเหมือนลิลลี่จะตื่นตัวมากกว่าตอนที่เธออยู่ในดันเจี้ยนซะอีก แววตาของเธอบ่งบอกว่าเธอกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่ร้ายกาจ วาห์นรู้สึกประหลาดใจมาก (‘ทำไมตอนอยู่ในดันเจี้ยนถึงไม่เป็นแบบนี้บ้างนะ?’) เขาคิดว่ามันคือสิ่งที่ไม่ควรจะถามออกไปจึงได้แต่เดินนำเข้าไปในประตูโรงแรม

“ยินดีต้อนรับค่าาาาาา~! คุณต้องการที่จะพักค้างคืนที่นี่หรือเปล่าค๊ะ~?” ทีน่าออกมารับแขกคล้ายกับครั้งแรกที่เขามาที่นี่ เด็กสาวให้การต้อนรับอย่างกระตือรือร้นขณะที่พวกเขาเดินเข้ามา

“อ้า คุณนี่เอง-เมี๊ยว~!? กลับมาได้สักทีนะคะ! ฉันโกรธสุดๆ ไปเลยล่ะ-เมี๊ยว!” เด็กสาวที่สูง 120 ซม. รีบวิ่งออกมาก่อนจะยืนอยู่ตรงหน้าวาห์น

“คุกเข่าลงค่ะ” เธอกระทืบเท้าเล็กๆ และมองเขาอย่างดุดันขณะที่กำลังกอดอก (แต่ไม่มีอกให้กอดหรอกนะ)

แม้ว่าจะรู้สึกสับสน แต่วาห์นคิดว่ามันเป็นการดีที่สุดที่จะเชื่อฟังเธอในตอนนี้ มันเป็นความผิดของเขาที่ทำให้เธอเป็นห่วงตั้งแต่แรกและการให้เธอปลดปล่อยความเครียดออกมาบ้างก็คงไม่เสียหายอะไร นอกจากนี้เขายังพบว่าการทำตัวเป็นผู้ใหญ่ของเธอนั้นดูน่ารักน่าชังดีเหมือนกัน

ขณะที่ทีน่ากำลังจะเริ่มตำหนิเขา เธอก็หยุดชะงักหลังจากที่เห็นเด็กสาวสวมผ้าคลุมตัวเล็กๆ ยืนอยู่ข้างหลังวาห์น ทั้งสองสบตากันและสัญชาตญาณของทีน่าก็กรีดร้องออกมาว่าผู้หญิงคนนี้คือ ‘ศัตรู’

ทีน่าละความสนใจจากวาห์นที่กำลังคุกเข่าและเริ่มสำรวจเด็กหญิงตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้าแทน ในตอนแรก เธอยิ้มหลังจากพบว่าเด็กหญิงนั้นเตี้ยกว่าเธอ แต่เมื่อดวงตาของทีน่าสอดส่องไปถึงบริเวณหน้าอก เธอก็รู้สึกกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง ทีน่าเริ่มลูบหน้าอกแบนราบของตัวเองด้วยสีหน้าเศร้าๆ ซึ่งเปลี่ยนเป็นหน้าโกรธทันทีที่เธอเห็นว่าสาวตัวเล็กคนนั้นกำลังแอ่นมันออกมาราวกับจะเยาะเย้ยเธอ ระหว่างเนินอกได้รูปคู่นั้น ทีน่ายังเห็นล็อกเกตสีทองเหลืองอันเล็กๆ ซึ่งดูคล้ายกับล็อกเกตสีเงินที่วาห์นใส่อยู่ด้วย!

“นี่เธอเป็นใครกัน แล้วเป็นอะไรกับคุณลูกค้าน่ะ-เมี๊ยว?” ทีน่าปฏิเสธที่จะยอมแพ้ต่อหน้าเด็กสาวที่เธอไม่รู้จักมาก่อน เธอมองเข้าไปในดวงตาของลิลลี่และพยายามเก็บข้อมูลทุกอย่างเท่าที่ทำได้

ลิลลี่เผยรอยยิ้มขณะที่ยังคงส่าย ‘อาวุธ’ ของเธอไปมา เธอเริ่มลูบคลำล็อกเกตก่อนจะยิ้มแบบกวนๆ ให้กับเด็กสาวและตอบคำถามของเธอ “ฉันคือคู่หูและซัพพอร์ตเตอร์ของท่านวาห์นยังไงล่ะ เขายังฝึกฝนฉันตั้งแต่เช้ายันเย็นด้วยนะ~ แล้วเธอล่ะเป็นใครกัน แม่สาว ‘น้อย’ หุหุ~”

จากข้างสนาม วาห์นเหมือนจะเห็นภาพลวงตาของประกายไฟสองเส้นที่กำลังปะทะกันอย่างดุเดือด นอกจากนี้เขายังต้องทนเห็นออร่าของทั้งสองที่กำลังสั่นไหวราวกับไฟป่า ตอนนี้เขาเริ่มเหงื่อตกอีกแล้วแม้อากาศจะไม่ค่อยร้อนก็ตาม คิดว่าตัวเองคงต้องออกมาห้ามทัพไว้ก่อน วาห์นจึงลุกขึ้นยืนและจับทั้งสองแยกออกจากกัน

“ลิลลี่ ทีน่า ทำไมพวกเธอถึงเขม่นกันทั้งๆ ที่พบกันครั้งแรกล่ะ? ลิลลี่ ทีน่าเป็นลูกสาวของเจ้าของโรงแรมที่ฉันพูดถึงก่อนหน้านี้ไง ทั้งเธอและแม่ของเธอได้แสดงความเมตตาหลังจากที่ฉันมาถึงเมืองได้ไม่นาน ดังนั้นฉันไม่อยากเห็นเธอสร้างปัญหาให้กับทั้งคู่อย่างไม่มีเหตุผลนะ”

ในขณะที่เขาตักเตือนลิลลี่ เธอก็เริ่มแสดงท่าทางละอายใจขณะที่ทีน่าเริ่มยิ้มแย้มแบบหน้ามือเป็นหลังมือ

“แล้วก็ทีน่า ลิลลี่เป็นสหายและนักเรียนที่สำคัญของฉันแล้วฉันก็กำลังฝึกสอนให้เธอแข็งแกร่งขึ้น ในขณะที่ลิลลี่เองก็ช่วยเสริมความรู้หลายอย่างที่ฉันขาดไป มีหลายอย่างที่ฉันต้องคอยให้ลิลลี่ช่วยรวมไปถึงเรื่องนี้ด้วย…” ตอนนี้อารมณ์ของทั้งคู่เหมือนกับถูกสลับขั้วกัน ลิลลี่เผยรอยยิ้มออกมาขณะที่ทีน่าเริ่มรู้สึกขุ่นเคือง แต่แล้ววาห์นก็งัดไม้เด็ดออกมา

“นี่สำหรับเธอนะ ทีน่า เป็นของขวัญแทนคำขอโทษที่ทำให้เธอต้องกังวล แล้วก็ลูกอมคาราเมลแทนคำขอบคุณสำหรับอาหารกลางวันแสนอร่อยที่เธอเตรียมไว้ให้ฉัน ขอบใจนะ ฉันรู้สึกตื้นตันมากเลย”

ขณะที่พูดเขาก็มอบของขวัญสองชิ้นให้กับเด็กสาวตัวเล็กและเธอก็รับด้วยสีหน้ายินดี เมื่อเห็นเข็มกลัดรูปปลาที่เข้ากับสีตาของวาห์นเธอก็รู้สึกมีความสุขมาก

ทีน่าถือเข็มกลัดอยู่ในมือขณะเหลือบมองเด็กสาวที่มีชื่อว่าลิลลี่ ตั้งแต่ที่วาห์นบอกว่าลิลลี่ช่วยเขาเลือกของขวัญให้เธอ ทีน่าก็อยากจะเอ่ยปากขอบคุณ แต่พอเห็นล็อกเกตรอบคอของลิลลี่ก็ทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาแทน

จู่ๆ ทีน่าก็นึกอะไรออก เธอส่งเข็มกลัดคืนให้วาห์นก่อนจะขอให้เขาติดมันที่ปกเสื้อของเธอ

วาห์นรับเข็มกลัดมาและจะทำตามที่ทีน่าบอกแต่เขาสังเกตเห็นว่าหน้าของเธอเริ่มแดงขึ้นเล็กน้อย

//[ทีน่า ยูเอล] ค่าความชื่นชอบ + 8//

เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน วาห์นก็เกือบจะสะดุดล้มพร้อมกับเข็มกลัดที่ยังอยู่ในมือขวา เขาคว้าบางอย่างไว้ได้ก่อนที่จะล้ม แต่ทว่าบรรยากาศรอบๆ กลับเงียบสนิทราวกับป่าช้า เมื่อมองไปรอบๆ เขาก็เห็นลิลลี่ที่แสดงสีหน้าตกใจ ในขณะที่ทีน่ายืนหน้าแดงแล้วแดงอีกจนแทบจะมีควันออกมาจากหน้า วาห์นรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่นุ่มนิ่มจากมือซ้ายของเขา บางทีอาจเป็นเพราะสัญชาตญาณบางอย่าง เขาบีบมันเล็กน้อยซึ่งทำให้ทีน่าร้องออกมาและรีบหนีไปที่ห้องด้านหลังทันที

“วาห์น-เมี๊ยว~ คนโรคจิตตตต~ คนงี่เง่า~ ปีศาจบ้ากาม~เมี๊ยว!!!” เธอรีบพุ่งเข้าประตูไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้วาห์นค้างอยู่ตรงนั้น

(“พี่สาว เมื่อกี้ผมไปคว้าอะไรเข้าเหรอ”) วาห์นสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากและพยายามถามคนๆ เดียวที่พอจะช่วยอธิบายให้เขาเข้าใจได้

(*คนโรคจิต*)

พอได้ยินพี่สาวกล่าวหาเขาอีกคน วาห์นก็เกือบจะล้มลงไปรอบที่สอง ‘นี่เมื่อกี้เขาทำอะไรลงไปนะ ทำไมทุกคนถึงพูดเป็นเสียงเดียวกันหมดเลย!?’ เขามองไปที่ความหวังสุดท้ายเพื่อหาคำตอบ ลิลลี่นั่นเอง ตอนนี้เธอกำลังจ้องมองเขาด้วยสีหน้าเศร้าๆ

“ท่านวาห์น… ชอบแบบเล็กงั้นเหรอคะ?” ขณะที่ถามคำถาม เธอก็เอามือทั้งสองไปปิดที่หน้าอกของตัวเอง… ทำให้วาห์นเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำอะไรลงไป สงสัยเมื่อกี้นี้เขาคงเผลอไปจับหน้าอกของทีน่าเข้า… แถมยังบีบมันต่ออีก

แม้แต่คนทึ่มๆ อย่างวาห์นก็พอเข้าใจว่าตนได้ทำเรื่องที่ไม่อาจแก้ตัวได้ลงไปแล้ว แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ยังไง สำหรับตอนนี้ เขาได้แต่มองไปที่ลิลลี่และยิ้มแห้งๆ

“ฉัน…ฉันว่าเรื่องขนาดมันไม่สำคัญหรอก …คิดว่านะ”

ลิลลี่ถอนหายใจอย่างโล่งอกขณะแตะที่หน้าอกของตัวเองเบาๆ

“โล่งอกไปที ท่านวาห์นคะ~” ขณะที่พูด เธอก็เริ่มเข้าใกล้เขามากขึ้น

ลางสังหรณ์เหมือนจะพยายามบอกอะไรบางอย่างกับวาห์น เขาจึงเริ่มเดินถอยหลังออกไปเรื่อยๆ เขามองเห็นแววตาชั่วร้ายของลิลลี่ขณะที่เธอเดินเข้ามาหาเขาพร้อมรอยยิ้ม ‘แสนอบอุ่น’ บนใบหน้า ในที่สุดเขาก็ถอยจนติดผนังและไม่อาจขยับไปไหนได้อีก

ลิลลี่ยังคงเดินเข้าใกล้จนกระทั่งมาอยู่ติดกับเขา ในขณะที่มองขึ้นมาด้วยสายตาน่ากลัว ทันใดนั้นเธอก็ชูมือขวาขึ้น… และตบหน้าเขาไปเต็มๆ หนึ่งดอก

“ท่านวาห์นคนโรคจิต!!!”

ความเจ็บปวดจากการถูกตบและการถูกตราหน้าว่าเป็นคนโรคจิตสามครั้งซ้อนในเวลาไล่เลี่ยกันทำให้สภาพจิตใจของวาห์นถึงขั้นวิกฤต ขณะที่เขาใช้มือข้างหนึ่งลูบตรงจุดที่โดนตบ ลิลลี่ก็จับมืออีกข้างของเขา… มาวางไว้บนหน้าอกของเธอเอง

“ฉันไม่ยอมแพ้หรอก…” เธอพูดพึมพำเบาๆ

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Status: Ongoing

เรื่องย่อโดยผู้แต่ง

วาห์นชายหนุ่มผู้ที่มีความผิดปกติ เนื่องจากการกลายพันธุ์ที่หายาก เลือดของเขาจึงมีความสามารถซ่อนเร้นที่ทำให้เป้าหมายและความเสียหายที่เกิดจากโรคร้ายที่อยู่ภายในร่างกายมนุษย์

ถูกขจัดออกไปในโดยการรักษาครอบจักรวาล เหล่าผู้คนจึงต่างเชิดชูบูชาสถานะของเด็กหนุ่มเหนือกว่าผู้ใดทั้งสิ้นและมอบชื่อให้เขาว่า “ยารักษาสารพัดโรค” ในข่าว

เขาได้รับการยกย่องเป็นเหมือนกับวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่จะนำพายุคสมัยแห่งใหม่หรือคุณภาพชีวิตมนุษย์ที่ดีมาถึง อย่างไรก็ตาม ฉากที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้สดใสเลย

เนื่องจากปัจจัยเฉพาะบางอย่าง วาห์นจึงใช้เวลาช่วงวัยรุ่นทั้งหมดถูกกักขังอยู่ในห้องทดลองกับนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย และทีมวิจัยที่ใช้ร่างกายและเลือดของเขาเพื่อทำการทดลองที่ไม่มีที่สิ้นสุด

สิ่งปลอบใจความทุกข์ทรมานเพียงอย่างเดียวของเขาคืออนิเมะทั้งหลายและหนังสือการ์ตูนที่มีให้เขาดูในระหว่างการทดลอง เขามักจะจินตนาการว่าตนเองเป็นตัวเองที่อยู่ในโลกของตนเอง

dและสุดท้ายเขาก็สามารถควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้ เป็นเวลาหลายปีที่เขาเก็บรักษาความปราถนานี้เอาไว้ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในวัย 14 ปีขณะที่มีองค์กรพยายามลักพาตัวเขาออกจากห้องทดลอง…

“ในที่สุด ผมก็ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไปแล้ว…”

นี่เป็นความคิดสุดท้ายของวาห์นในขณะที่เขาค่อยๆจางหายไปในห้วงแห่งความมืดอันไร้สิ้นสุด…

“ดวงวิญญาณที่น่าสงสาร”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท