Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล – ตอนที่ 36

ตอนที่ 36

เมื่อได้ยินเฮเฟสตัสเชิญชวนให้เข้าร่วมแฟมิเลียของเธอ วาห์นก็เริ่มคิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง เขารู้ว่าถ้าอยากจะแข็งแกร่งขึ้นโดยไม่ดึงดูดความสนใจมากเกินไป เขาจะต้องมีผู้สนับสนุนที่ใหญ่พอตัว และเฮเฟสตัสแฟมิเลียก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด นอกจากนี้เขายังมีโอกาสโน้มน้าวให้เฮเฟสตัสช่วยตีอาวุธให้อีกด้วย เนื่องจากอาวุธทั้งหลายในร้านมีคุณภาพสูงกว่าดาบของเขามาก การได้รับอาวุธที่เติบโตไปพร้อมกับตัวเองจะทำให้เขาสบายขึ้นมากเมื่อเข้าสู่ดันเจี้ยนชั้นที่ลึกกว่าเดิมในวันข้างหน้า

เขาเริ่มพิจารณาตัวเลือกอื่นๆ เช่นโลกิแฟมิเลีย เขาสนใจเข้าร่วมแฟมิเลียนั้นมากเนื่องจากที่นั่นเป็นบ้านของตัวละครเด่นๆ เช่น ฟินน์, ริเวอเรีย, แฝดสาวชาวอเมซอนทีโอน่าและทีโอเน่ ตลอดจนถึงตัวละครชื่อกระฉ่อนอย่างเช่นไอส์ผู้ไร้เดียงสาซึ่งเป็นคนที่เบลล์ตกหลุมรักในมังงะ เหตุผลหลักที่เขาไม่อยากเข้าร่วมโลกิแฟมิเลียเพราะเขาอยากจะเข้าเฮสเทียแฟมิเลียในอนาคตแถมโลกิกับเฮสเทียนั้นมักมีเรื่องบาดหมางกัน

เมื่อเห็นเขาไตร่ตรองอย่างหนัก เฮเฟสตัสเองก็พลอยรู้สึกตื่นเต้นไปด้วย เธออยากให้เขาเข้าร่วมแฟมิเลียแต่ก็ไม่อยากทำอะไรเกินเหตุเนื่องจากเขาอาจปฏิเสธหากเธอบีบคั้นเกินไป เมื่อคิดว่าสาเหตุที่ทำให้เขายังตัดสินใจไม่ได้มาจากเรื่องหินลับคมก่อนหน้านี้ เธอจึงพยายามอธิบายให้เขาฟังเพื่อลดความกังวล

“หากเธอกังวลว่าฉันแค่จะใช้เธอเพื่อให้ได้หินลับคมล่ะก็ไม่ต้องเป็นห่วงนะ เหตุผลที่ฉันชวนเธอเข้าร่วมแฟมิเลียไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นเลย ฉันแค่… อยากเห็นศักยภาพที่แท้จริงของเธอเท่านั้น ฉันจะไม่บังคับให้เธอเผยความลับโดยที่เธอไม่ยินยอม แค่อยากเห็นว่าเธอจะไปได้ไกลแค่ไหนหากมีฉันคอยสนับสนุน”

ในช่วงประโยคหลัง เธอเริ่มรู้สึกว่าใบหน้าของตนเริ่มร้อนผ่าวขึ้น นี่มันไม่เหมือนกับตัวเธอในเวลาปกติเลย

พอได้ยินเหตุผลของเธอ วาห์นก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา บางทีเขาอาจจะคิดมากเกินไปเนื่องจากการเข้าร่วมแฟมิเลียในตอนนี้นั้นไม่ได้มีข้อเสียอะไรเลย แถมเขายังรู้ว่าเฮเฟสตัสไม่ใช่คนที่จะมาสืบความลับของคนที่เธอคอยดูแล การเข้าแฟมิเลียนี้จะทำให้เขาใกล้ชิดกับคนของโลกิแฟมิเลียอีกด้วย เนื่องจากแฟมิเลียทั้งสองมักร่วมมือกันเพื่อทำการสำรวจดันเจี้ยนแบบระยะยาว

“ขอบคุณครับ ท่าน… เฮเฟสตัส ผมดีใจที่ได้รับโอกาสในการเข้าร่วมแฟมิเลียของท่าน” เขาโค้งคำนับอย่างสุภาพที่สุดและเฝ้ารอคำตอบของเธอ

เฮเฟสตัสมองไปยังเด็กหนุ่มที่โค้งคำนับอยู่เบื้องหน้าเธอและเริ่มรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก แม้ว่าเธอจะไม่ได้กังวลอะไรที่เขาเรียกเธอว่า ‘คุณ’ ก่อนหน้านี้ แต่พอเขาตกลงเข้าร่วมแฟมิเลียตามที่เธอชักชวน มันกลับทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจที่ได้ยินเขาเรียกเธอว่า ‘ท่าน’ ราวกับว่ามีกำแพงผุดขึ้นมาระหว่างเธอและวาห์น และเธอต้องการทำลายมันทิ้งเพื่อป้องกันเรื่องยุ่งยากในอนาคต

“เรียกฉันว่าเฮเฟสตัสก็พอ” เธอกล่าวอย่างแน่วแน่

นั่นทำให้วาห์นมองเธอด้วยความสับสน เมื่อเห็นสีหน้าของเขา เธอก็หันหน้าหนีพร้อมใบหน้าอันร้อนผ่าว

“ฉันบอกว่า ให้เรียกฉันว่าเฮเฟสตัสเฉยๆ ไม่ต้องใช้ท่านหรืออะไรแบบนั้นหรอก…”

วาห์นพยักหน้ารับแต่เขาก็พบว่าท่าทางของเธอดูแปลกๆ คล้ายกับว่าเธอกำลัง… เขินอายเหรอ?

เขารู้ว่าเธอมีจุดอ่อนเรื่องดวงตาของเธอ แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะส่งผลกับความสัมพันธ์ของพวกเขาได้เร็วขนาดนี้ ที่จริงเขารู้สึกผิดเล็กน้อยแต่ก็ปัดมันทิ้งไปเนื่องจากเขาคิดจริงๆ ว่าดวงตาของเธอไม่ได้น่าเกลียดน่ากลัวอะไรเลย แถมเขายังอยากจะช่วยรักษามันด้วย วิธีรักษาอย่างเดียวที่พี่สาวคิดออกคือเขาต้องศึกษาการเล่นแร่แปรธาตุ

เขาเห็นว่าเธอมองมาที่เขาพร้อมกับกำลังรอเขาอยู่ วาห์นยิ้มเล็กน้อยและเรียกเธออย่างอ่อนโยน

“เฮเฟสตัส”

เมื่อถูกเรียกอย่างสนิทสนม มันทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับถูกไฟดูด เธอรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นเร็วขึ้นจึงพยายามปกปิดมันด้วยกะกระแอมเล็กน้อย

“อะแฮ่ม ยังไงก็ตาม เรามาเริ่มทำพิธีสลักสัญลักษณ์กันเลยเถอะ ฉันอยากเห็นเหมือนกันว่าเธอแข็งแกร่งแค่ไหนและอยากรู้ว่าเธอมีศักยภาพพอที่จะเป็นช่างตีเหล็กได้หรือเปล่าด้วย ไม่ต้องกังวลนะ แม้ว่าเธอจะไม่สามารถเป็นช่างตีเหล็กได้ แต่ฉันก็จะให้เธอมาเป็นผู้ช่วยอยู่ดี… หรือเธอจะเข้าไปในดันเจี้ยนเพื่อเก็บวัตถุดิบแทนก็ได้ แม้สมาชิกส่วนใหญ่ในแฟมิเลียของเราจะเป็นช่างฝีมือ แต่พวกเราก็ไม่ได้ขาดคนที่มีความสามารถในการต่อสู้ ไม่งั้นพวกเราคงต้องเป็นเบี้ยล่างของแฟมิเลียอื่นในการจัดหาวัตถุดิบแล้วล่ะ”

ขณะพูด เธอก็ลากเก้าอี้ออกมาวางไว้กลางห้อง เธอพยายามทำใจให้เย็นเอาไว้แต่พบว่าหัวใจที่เต้นถี่ของเธอยังไม่กลับมาเป็นปกติ เธอชี้ให้วาห์นนั่งลง แต่สิ่งที่จะพูดต่อไปกลับทำให้เธอหยุดชะงัก

หลังจากรออยู่ครู่หนึ่งอย่างเงียบๆ วาห์นก็มองอย่างสงสัยไปทางเฮเฟสตัสที่ดูเหมือนกำลังว้าวุ่นใจ “เฮเฟสตัส?” เมื่อเขาเรียกออกไปก็เห็นเธอสะดุ้งก่อนที่จะมองมาทางเขาแบบแปลกๆ

“ไม่มีอะไรหรอก… เธอช่วยถอด… เสื้อออกหน่อยได้ไหม” เธอไม่เข้าใจว่าคำของ่ายๆ แค่นี้ทำไมถึงพูดได้ยากเย็นนัก แม้ว่าเธอจะชื่นชมที่เขาไม่ตื่นกลัวหลังจากเห็นดวงตาของเธอ แต่เธอก็ไม่คิดว่าตัวเองจะตกหลุมรักเขาด้วยเรื่องแค่นั้น แถมเขายังไม่ใช่ผู้ใหญ่เต็มตัวเลยด้วยซ้ำ!

ขณะที่มองเขาถอดเสื้อ เธออดไม่ได้ที่จะส่องสายตาไปทั่วร่างกายของเขา เขามีร่างกายที่ดูล่ำสันและไม่ได้มีกล้ามเนื้อมากจนเกินไป ร่างกายของเขาดูเหมือนจะเป็นผลมาจากการฝึกฝนอย่างหนัก และเธอยังเห็นแนวของกล้ามเนื้อตามร่างของเขาได้อย่างชัดเจน พอรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะฟุ้งซ่านไปใหญ่แล้ว เธอจึงถอนสายตาออกจากร่างที่อยู่ตรงหน้า

หลังจากถอดเสื้อเชิ้ตและเสื้อคลุมออก วาห์นก็นั่งลงบนเก้าอี้ด้วยท่อนบนที่เปลือยเปล่าพร้อมกับเอนตัวออกมาจากตัวเก้าอี้ เมื่อรอไปสักครู่โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาจึงกำลังหันกลับมาพอดีกับเสียงที่พูดขัดขึ้น

“หันหน้าไปข้างหน้านั่นแหละ ฉันจะเริ่มแล้ว พยายามผ่อนคลายด้วยนะ เพราะพิธีนี้บางครั้งอาจทำให้รู้สึกไม่ค่อยสบายเท่าไหร่” เฮเฟสตัสไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองมีสีหน้าแบบไหน และเธอก็ไม่อยากให้วาห์นเห็นมันด้วย

เมื่อมองไปยังกล้ามเนื้อด้านหลังที่ดูสมส่วน เธอก็ค่อยๆ วางนิ้วที่มีเลือดออกจากการทิ่มมันด้วยเข็มลงบนแผ่นหลัง เธอเริ่มพึมพำร่ายคาถาขณะที่วาดสัญลักษณ์แฟมิเลียลงบนหลังของวาห์น แม้ว่าเธอจะใจลอยเล็กน้อยจากการสัมผัสร่างกาย แต่เธอก็ทำพิธีจนเสร็จโดยไม่มีปัญหาเกิดขึ้น ตลอดระยะเวลาทำพิธี เธอพบว่าวาห์นสามารถรักษาท่านั่งได้อย่างมั่นคงโดยไม่ขยับไปไหนเลย ‘เขาต้องมีความอดทนที่สูงมากแน่ๆ’ เธอคิดพร้อมกับเริ่มตรวจสอบกระดานค่าสถานะอันใหม่ของเขา

สิ่งที่เธอเห็นเกือบจะส่งดวงวิญญาณของตัวเองกลับขึ้นสวรรค์ไปแล้ว

==========================================================

ชื่อ: [วาห์น เมสัน]

-เลเวล:1

-พลังโจมตี: SS1001

-ความอดทน: SS1108

-ความแม่นยำ: A887

-ความว่องไว: S940

-พลังเวท: SSS1611

สกิล: [ความเชี่ยวชาญด้านธนู:C], [อำพรางตัว:D], [ทลายพันธนาการ:S], [พรแห่งอิกดราซิล:S], [ม่านคุ้มภัยนักเดินทาง: S]

เวทมนตร์: ว่างเปล่า

สกิลที่กำลังพัฒนา: [เคลื่อนย้ายบาดแผล:B], [จิตวิญญาณฟื้นฟู:B], [ช่างตีเหล็ก:F]

==========================================================

ค่าสถานะต่ำสุดของเขาอยู่ที่ระดับ A และมีค่าสถานะสามอย่างที่ทะลุขีดจำกัดไปแล้ว!? แถมยังมีสกิลมากมายที่เกี่ยวกับการอำพรางและซ่อนตัวด้วย!? เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเขาเป็นคนบอกเองว่ามาจากป่าตะวันตก ดังนั้นจึงไม่แปลกอะไรหากเขามีสกิลที่เกี่ยวกับการเอาตัวรอด แต่ดูรวมๆ แล้วเหมือนกับเขาจะหมกมุ่นกับมันมากไปหน่อย เขายังมีสกิลสามอย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน และแต่ละสกิลก็มีผลลัพธ์ที่น่าเหลือเชื่อซึ่งพอจะทำให้เทพองค์อื่นอิจฉาได้เลย

อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้คาดคิดว่าวาห์นจะยังมีสกิลที่เธอไม่สามารถตรวจสอบได้ผ่านการอ่านกระดานค่าสถานะ หากเธอรู้เรื่องนี้ เธออาจจะหมดสติในทันทีหรือไม่ก็หัวเราะจนเสียสติแทน

แม้ว่าเธอจะอยากถามที่มาของสกิลพวกนี้มากแค่ไหน แต่เฮเฟสตัสก็ตัดสินใจปล่อยมันไปก่อน เขาได้เข้าแฟมิเลียของเธอแล้วและยังมีเวลาอีกมากที่จะถามเมื่อเขาพร้อม

“วาห์น สำหรับนักผจญภัยเลเวล 1 นั้นค่าสถานะของเธอดูเหลือเชื่อมาก มันสูงกว่าทุกคนที่ฉันเคยเห็นมาก่อน และค่าพลังเวทของเธอก็น่าจะทำลายสถิติได้ไม่ยาก… ตอนที่ฉันส่งฟาลน่าของตัวเองเข้าไปในตัวเธอเพื่อจบพิธี มันจะดูดกลืนเอ็กซีเลียทั้งหมดที่เธอได้รับจากการสังหารมอนสเตอร์เพื่อเพิ่มเลเวลของเธอ ตกลงตามนี้นะ?”

วาห์นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้า ตั้งแต่ตอนที่ช่วยลิลลี่ก่อนหน้านี้ เขาก็รู้สึกปวดเมื่อยภายในร่างกายแม้ว่ามันจะได้รับการฟื้นฟูจากรูปปั้นฮีโร่แล้วก็ตาม หลังจากสอบถามเรื่องนี้ พี่สาวก็บอกว่าเป็นเพราะเขามีการเติบโตอย่างรวดเร็วจนตัวร่างกายแทบจะปรับตัวตามไม่ทันแล้ว หากไม่ได้ทำการเพิ่มเลเวล การเพิ่มค่าสถานะจะยากขึ้นกว่าเดิม และมันอาจจะทำให้ร่างกายของเขาระเบิดออกเนื่องจากรับภาระไม่ไหว

เฮเฟสตัสใช้เลือดอีกหยดเพื่ออัพเดทกระดานค่าสถานะของวาห์น เธอมองหาความเปลี่ยนแปลงที่อาจปรากฏขึ้นจากการเพิ่มเลเวลและรู้สึกประหลาดใจที่ได้เห็นว่าเขาได้รับสกิลเพิ่มมาอีก 2 อย่าง ทำให้ตอนนี้เขามีสกิลทั้งหมด 7 อย่าง และสกิลกำลังพัฒนาอีก 3 อย่าง

วาห์นรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย ขณะที่แรงกดดันตรงส่วนท้องของเขาราวกับได้ทะลวงผ่านประตูกั้นที่ขวางไม่ให้พลังงานภายในร่างกายหมุนเวียนได้อย่างสมบูรณ์ เขารู้สึกสดชื่นมากและเห็นว่าได้รับสองใหม่ 2 อย่าง ผ่านหน้าต่างระบบ

[นักดาบ:D]

เพิ่มความเข้าใจของสกิลและเทคนิคการใช้ดาบ ช่วยเพิ่มความสามารถในการจับการเคลื่อนไหวและระยะการรับรู้ของผู้ใช้ขึ้นเล็กน้อย

[ย่างก้าวไร้สัมผัส:E]

เพิ่มความเข้าใจด้านการเคลื่อนไหวและฟุตเวิร์ค เพิ่มความสามารถที่เกี่ยวกับการอำพรางตัวในระดับปานกลาง

ขณะที่เขากำลังอ่านสกิลใหม่อยู่นั้น เฮเฟสตัสก็ใช้กระดาษบางอย่างเพื่อถ่ายโอนข้อมูลของเขาออกมา เมื่อเธอทำเสร็จแล้วก็ส่งกระดาษให้กับวาห์นด้วยท่าทางเหนื่อยล้า

“ฉันรู้ว่าเธอมีสิ่งที่พิเศษอยู่นะ แต่นี่มันมากกว่าที่คิดไว้ซะอีก ฉันพูดอะไรไม่ออกเลยตอนที่เห็นว่าเธอมีสกิลมากมายในขณะที่ยังเป็นแค่นักผจญภัยเลเวล 2 ซึ่งแม้จะใช้นัยน์ตาเทพ แต่ฉันก็มองไม่เห็นข้อจำกัดในศักยภาพของเธอเลย โชคยังดีนะที่เธอมีสกิลที่กำลังพัฒนาอย่าง [ช่างตีเหล็ก] ดังนั้นอย่างน้อยเรื่องนี้ฉันก็ยังพอช่วยชี้แนะให้เธอได้บ้าง นอกจากนี้ฉันจะช่วยแนะนำครูฝึกดาบให้ได้หากเธอต้องการ”

วาห์นสวมเสื้อพร้อมกับฟังที่เฮเฟสตัสพูด เขามองดูแผ่นกระดาษที่เธอมอบให้และเห็นค่าสถานะของเขาที่ถูกรีเซ็ตเป็น I10 ซึ่งเหมือนกับที่เห็นในระบบ โชคดีที่เขายังมองเห็นค่าสถานะที่ถูกซ่อนไปแล้วด้วย ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องน่าเสียดายเท่าไหร่นัก

เขาหันไปทางเฮเฟสตัสขณะที่โค้งคำนับเล็กน้อย

“ขอบคุณนะ เฮเฟสตัส ผมหวังว่าจะได้รับการชี้แนะจากคุณ” วาห์นเห็นเธอเบือนหน้าหนีจึงอดยิ้มออกมาไม่ได้

เมื่อเห็นว่าวาห์นค่อนข้างเอาเปรียบเธอ เธอก็เริ่มเคืองนิดหน่อยแต่ก็ตัดสินใจปล่อยไปก่อน เธอจับค้อนที่อยู่บนกำแพงถัดจากโต๊ะของเธอก่อนกดกลไกที่ใช้เปิดห้องทำงานลับออกมา

เมื่อเห็นท่าทางเรียกให้เขาตามไป วาห์นก็เริ่มเดินตามก่อนที่พวกเขาจะไปหยุดอยู่หน้าเตาหลอมที่มี ‘เพลิงนิรันดร์’ สถิตอยู่

“แม้เธอจะมีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้ที่สูงมาก แต่เรามาดูกันหน่อยว่าเธอจะมีศักยภาพในฐานะช่างตีเหล็กมากแค่ไหน” เธอหันไปหาวาห์นด้วยความมั่นใจอันเต็มเปี่ยมบนใบหน้า ซึ่งครั้งนี้ไม่เหมือนกับสิ่งที่เธอเคยแสดงให้เขาเห็นก่อนหน้า นี่เป็นสีหน้าที่เขารู้สึกว่าเหมาะสมกับเธอที่สุด

วาห์นพยักหน้าและนั่งลงถัดจากเตาหลอมเพื่อมองดูการทำงานของเธอ ไม่ใช่ทุกวันที่จะมีคนได้รับโอกาสเพื่อดู ‘เทพธิดาแห่งการตีเหล็ก’ แสดงทักษะของตนออกมา เขาเริ่มเพ่งสมาธิไปยังทุกคำพูดและทุกการเคลื่อนไหวในขณะที่เธอสอนการตีเหล็กให้กับเขา
—————

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Status: Ongoing

เรื่องย่อโดยผู้แต่ง

วาห์นชายหนุ่มผู้ที่มีความผิดปกติ เนื่องจากการกลายพันธุ์ที่หายาก เลือดของเขาจึงมีความสามารถซ่อนเร้นที่ทำให้เป้าหมายและความเสียหายที่เกิดจากโรคร้ายที่อยู่ภายในร่างกายมนุษย์

ถูกขจัดออกไปในโดยการรักษาครอบจักรวาล เหล่าผู้คนจึงต่างเชิดชูบูชาสถานะของเด็กหนุ่มเหนือกว่าผู้ใดทั้งสิ้นและมอบชื่อให้เขาว่า “ยารักษาสารพัดโรค” ในข่าว

เขาได้รับการยกย่องเป็นเหมือนกับวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่จะนำพายุคสมัยแห่งใหม่หรือคุณภาพชีวิตมนุษย์ที่ดีมาถึง อย่างไรก็ตาม ฉากที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้สดใสเลย

เนื่องจากปัจจัยเฉพาะบางอย่าง วาห์นจึงใช้เวลาช่วงวัยรุ่นทั้งหมดถูกกักขังอยู่ในห้องทดลองกับนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย และทีมวิจัยที่ใช้ร่างกายและเลือดของเขาเพื่อทำการทดลองที่ไม่มีที่สิ้นสุด

สิ่งปลอบใจความทุกข์ทรมานเพียงอย่างเดียวของเขาคืออนิเมะทั้งหลายและหนังสือการ์ตูนที่มีให้เขาดูในระหว่างการทดลอง เขามักจะจินตนาการว่าตนเองเป็นตัวเองที่อยู่ในโลกของตนเอง

dและสุดท้ายเขาก็สามารถควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้ เป็นเวลาหลายปีที่เขาเก็บรักษาความปราถนานี้เอาไว้ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในวัย 14 ปีขณะที่มีองค์กรพยายามลักพาตัวเขาออกจากห้องทดลอง…

“ในที่สุด ผมก็ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไปแล้ว…”

นี่เป็นความคิดสุดท้ายของวาห์นในขณะที่เขาค่อยๆจางหายไปในห้วงแห่งความมืดอันไร้สิ้นสุด…

“ดวงวิญญาณที่น่าสงสาร”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท