ไม่ว่าวาห์นจะลุกขึ้นมาใหม่อีกกี่ครั้ง เขาก็ยังไม่สามารถตามการเคลื่อนไหวของสึบากิได้ทัน ขณะที่กำลังฝึกซ้อมไปเรื่อยๆ [จิตแห่งราชัน] ก็พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่แม้มันจะเพิ่มค่าสถานะและการรับรู้ของเขา การเคลื่อนไหวของสึบากิก็ยังดูเลือนลางและเร็วเกินไปอยู่ดี แม้เขาจะคิดว่าตัวเองตอบสนองได้ทัน แต่ทิศทางการโจมตีของเธอก็มักจะเปลี่ยนในก่อนที่เขาจะปรับตัวได้ สถานการณ์แบบนี้ดำเนินต่อไปอีกเกือบครึ่งชั่วโมง และระหว่างนั้นวาห์นก็เริ่มรู้สึกคุ้นเคยกับพื้นดินเป็นอย่างดี
“แม้เธอจะตัวเล็กน่ารักแต่ก็ค่อนข้างทนไม้ทนมือดีนะ ฉันประหลาดใจมากเลยที่เธอยังลุกขึ้นมาได้หลังจากถูกน็อคไปหลายสิบครั้ง อึดดีมาก!” สึบากิหัวเราะเสียงดังพร้อมกับเอามือสองข้างเท้าสะเอว
วาห์นค่อยๆ ลุกขึ้นจากพื้นอีกครั้ง
“57…” เขาพูดด้วยเสียงเบาๆ แต่สึบากิก็ยังได้ยินสิ่งที่เขาพูด
“เอ่อ เมื่อกี้ว่าไงนะ? จะพูดก็พูดให้ชัดๆ หน่อย ไม่ก็ตะโกนออกมาเลยก็ได้!”
“คุณอัดผมไปแล้ว 57 ครั้งแล้ว…” วาห์นกัดฟันและกลับไปตั้งท่าสู้
เมื่อได้ยินคำพูดของเขาอย่างชัดเจน สึบากิก็พยักหน้าและหัวเราะออกมาเสียงดัง
“ฮ่าฮ่าฮ่า ใช่แล้ว! จริงๆ ฉันอยากจะเป็นคนดีและบอกตัวเลขที่น้อยกว่านี้ แต่ใครจะไปคิดว่าเธอเองก็นับอยู่ด้วย เข้ามาเลย วาห์น! ลองมาเป็นฝ่ายโจมตีเพื่อแก้แค้นฉันดูดีไหม?”
วาห์นมองจ้องเธอพร้อมกับพิจารณาตัวเลือกที่มีอยู่ เขาพยายามหาวิธีที่ดีที่สุดในการโจมตี แต่สัญชาตญาณกลับกรีดร้องบอกเขาว่ายังไงก็ไม่รอดแน่ๆ
ท่าทางสบายๆ ของสึบากิที่อยู่เบื้องหน้าเขาดูเหมือนจะเต็มไปด้วยช่องโหว่ แต่ทุกช่องโหว่และทุกเส้นทางที่เข้าใกล้ตัวเธอกลับถูกอุดไว้ด้วยความต่างของสกิลและค่าสถานะ
“ยืนลังเลอะไรอยู่เล่า? การระมัดระวังคู่ต่อสู้เป็นสิ่งที่ดีนะ แต่เธอคงจะไม่ก้าวหน้าถ้าไม่ยอมขยับไปไหนเลย ถ้าหาช่องโหว่ไม่เจอก็สร้างมันขึ้นซะสิ! เข้ามาได้แล้ว วาห์น!”
เธอก้าวออกมาหนึ่งก้าวและเชื้อเชิญให้วาห์นโจมตีด้วยการกวักมือเรียก
วาห์นใช้ช่วงเวลาที่เธอก้าวออกมาเพื่อพุ่งออกไป เขาพยายามก้มตัวให้ต่ำที่สุดและเล็งฝ่ามือไปที่ท้องของเธอ พอเข้าไปใกล้เขาก็สัมผัสได้ถึงบางอย่างจากจากด้านบนก่อนที่มันจะกดหลังหัวและทำให้หน้าของเขาลงไปจุ่มกับพื้น สึบากิใช้ประโยชน์จากแรงในการพุ่งโจมตีและทำให้เขาเสียสมดุลก่อนจะไปนั่งอยู่บนหลังพร้อมกับหัวเราะออกมา
“เคลื่อนไหวได้ดี! แต่การโจมตีแบบทุ่มสุดตัวจะเปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้สวนกลับเอาง่ายๆ นะ เธอจะต้องทำให้ดีกว่านี้หากเธอต้องการสะกิดฉันให้โดน~” คำพูดของเธอทำให้จิตใจของวาห์นหนักอึ้ง มันเหมือนกับคำพูดที่เขาบอกกับลิลลี่ก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก เขาเริ่มรู้สึกว่าได้ประเมินความสามารถตนเองสูงเกินไปเนื่องจากเขาเองก็ทำผิดพลาดเช่นเดียวกันเมื่อเจอกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่า
เขานอนอยู่บนพื้นพร้อมกับนึกไตร่ตรองจนกระทั่งสึบากิหยิกเอวของเขา วาห์นสะดุ้งโหยงและพยายามผลักเธอออกไปเพื่อหนีจากวัตถุนุ่มนิ่มที่สัมผัสกับหลังของเขา
“ฮ่าฮ่า เมื่อกี้มัวเหม่ออะไรอยู่? ดูเธอยังกระฉับกระเฉงดีอยู่นี่ มาเถอะ เอาฉันออกไปให้ได้สิ! สู้เขานะ วาห์น สู้ๆ~!”
จากอีกด้าน ตอนนี้เฮเฟสตัสเอามือมากุมขมับแล้ว เธอรู้เรื่องที่สึบากิมีนิสัยชอบแกล้งคนอื่นดี และดูเหมือนเธอจะสนใจในตัววาห์นมากเป็นพิเศษ หลังจากพวกเธอพูดเรื่องวาห์น เฮเฟสตัสพบว่าสึบากิสนใจเรื่องที่จะช่วยวาห์นขัดเกลาทักษะมาก น่าเสียดายที่วาห์นคงต้องทนทรมานแบบนี้ไปก่อนจะได้พัฒนาตัวเอง
“สึบากิ อย่ารุนแรงมากไปล่ะ ฉันมีเรื่องอื่นต้องไปจัดการต่อ ถ้าหากเกิดเรื่องที่เธอจัดการเองไม่ได้ก็ติดต่อฉันมาได้เลยนะ” เฮเฟสตัสได้ใช้เวลากับเรื่องนี้ไปมากแล้ว เนื่องจากเธอเป็นหนึ่งในช่างตีเหล็กที่มีฝีมือและเป็นที่ต้องการมากที่สุดในเมือง เธอจึงมักจะงานยุ่งตลอดเวลา
สึบากิได้ยินที่เธอพูดและเพียงโบกมือให้ขณะที่เธอยังคงตัวติดหนึบกับวาห์นที่กำลังพยายามขัดขืน
—
หลายนาทีต่อมา วาห์นก็หยุดพยายาม ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหน สึบากิก็ยังรักษาสมดุลของตัวเองไว้ได้และอ่านการเคลื่อนไหวของเขาออกหมด เมื่อเริ่มคิดว่าคงจะได้รับอิสระคืนมาในอีกไม่ช้า หน้าของเขาก็จุ่มลงไปที่พื้นอีกครั้ง ตอนนี้เขานอนราบอยู่บนพื้นขณะที่มีน้ำหนักของสึบากิกดทับแผ่นหลังเอาไว้ ในสถานการณ์นี้ เขาพบว่าสัมผัสร่างกายของเธอนั้นทั้งแน่นและอ่อนนุ่ม ซึ่งสร้างความขัดแย้งภายในจิตใจของเขาเป็นอย่างมาก
ขณะที่นอนอยู่ตรงนั้นสึบากิก็หยิกเอวเขาอีกครั้ง แต่วาห์นก็ได้แต่สะดุ้งและทนรับความเจ็บปวด เมื่อเห็นว่าเขาไม่ขัดขืนแล้ว ในที่สุดเธอก็ยอมลุกขึ้นจากร่างของเขา
“ทนได้นานกว่าที่ฉันคาดไว้เยอะเลย ฉันพอรู้ว่าเธอฝึกฝนมาอย่างหนักและมีความรู้เรื่องการต่อสู้และสกิลอยู่พอสมควร แต่ปัญหาใหญ่ที่สุดก็คือพื้นฐานของเธอยังบกพร่องไปมาก บอกฉันหน่อยสิ ว่าเธอเคยต่อสู้กับศัตรูที่เป็นมนุษย์มาก่อนไหม?”
วาห์นนึกได้ว่าเขาไม่เคยใช้ทักษะของตัวเองในการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่มีความแข็งแกร่งเท่าเทียมหรือมากกว่าตัวเองมาก่อนเลย แม้เขาจะเคย ‘ต่อสู้’ กับมนุษย์มาแล้ว แต่พวกนั้นอ่อนแอกว่าเขามากและมันยังเป็นการสังหารแบบข้างเดียวในช่วงจากสภาวะคลุ้มคลั่งของเขาด้วย
“เคยแล้วครับ แต่พวกนั้นมีฝีมือไม่มากนัก ผมมักจะฝึกซ้อมกับคนอื่นทุกวัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผมที่ช่วยสอนพื้นฐานให้เธอ”
สึบากิพยักหน้าหลังได้ยินคำอธิบาย ดูเหมือนว่าจะเป็นไปตามที่เธอคาดไว้เลย วาห์นประเมินตัวเองไว้สูงเกินและมีความมั่นใจอยู่บ้างซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของเด็กหนุ่มวัยนี้
“เอาล่ะ หลังจากนี้ฉันจะช่วยเธอฝึกเอง ความรู้เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังก็จริง แต่เมื่ออยู่ในการต่อสู้จริง เธอจะพึ่งได้แต่เพียงประสบการณ์เพื่อปกป้องตัวเองและไขว่คว้าชัยชนะเอาไว้เท่านั้น เอาล่ะ ยืนขึ้น ถึงเวลาเริ่มบทเรียนกันจริงๆ แล้ว”
สึบากิฉุดวาห์นขึ้นจากพื้นและหัวเราะออกมาหลังจากเห็นสภาพมอมแมมไปด้วยเศษดินของเขา
“สีน้ำตาลไม่เหมาะกับเธอเลยนะวาห์น เธอจะต้องแข็งแกร่งกว่านี้ให้เร็วที่สุดไม่งั้นคงถูกผู้หญิงแกล้งแน่ๆ” วาห์นมองร่างกายที่เปื้อนดินของตัวเองและถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้
—
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา สึบากิก็ให้วาห์นแสดงทักษะการต่อสู้และความสามารถทั้งหมดของเขา เธอยังทดสอบสมรรถภาพเขตแดนของเขาเพื่อทำความเข้าใจกับการทำงานของมันให้มากขึ้น เมื่อเห็นผลของเขตแดน สึบากิก็รู้สึกประหลาดใจกับพลังของมันมาก
ในตอนนี้ เธอคิดว่าวาห์นสามารถสู้กับใครก็ตามที่มีเลเวลไม่เกิน 2 แน่นอนว่าเธอเองก็รู้ว่าทักษะพวกนั้นไม่ได้มอบความได้เปรียบให้เขาหากต้องเจอกับศัตรูที่มีความเชี่ยวชาญหรือแข็งแกร่งกว่าตัวเองมาก
“สภาวะกึ่งเทพของเธอค่อนข้างน่ากลัวอยู่นะ มันทำให้เธอเกือบจะสู้กับคนที่อยู่เหนือเลเวลปัจจุบันของเธอได้ แต่ทว่ามันยังมีข้อบกพร่องที่ใหญ่หลวงอยู่ซึ่งอาจจบลงด้วยการเสียชีวิตหากเธอไม่แก้ไขให้มันถูกต้อง” วาห์นกำลังใช้สกิล [จิตแห่งราชัน] อย่างต่อเนื่องซึ่งระยะการทำงานของมันขยายขึ้นจนเกือบจะถึง 60 เมตรแล้ว แม้สึบากิจะ ‘มองไม่เห็น’ เขตแดน แต่เธอก็พอสัมผัสถึงการมีอยู่ของมันได้
สึบากิเข้าใกล้เขาและหยุดอยู่ในระยะที่ไม่ห่างจากวาห์นมากนัก
“ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของเขตแดนคือขนาดพื้่นที่ทำการ แม้ว่ามันจะเสริมการรับรู้และทำให้เธอสัมผัสถึงสิ่งที่อยู่ในวงระยะการทำงาน-” ขณะที่สึบากิพูดเธอก็ส่งฝ่ามือตรงไปที่ใบหน้าของวาห์นอย่างกระทันหัน ตอนที่เธอเข้ามาใกล้เขา วาห์นเองก็ระวังเอาไว้แล้วและขยับตัวเพื่อป้องกันการโจมตี สึบากิเปลี่ยนทิศทางของฝ่ามือและวางมันลงบนหน้าอกของเขาอย่างเบามือโดยไม่ได้ใส่แรงเข้าไป
“เธอพึ่งพาการรับรู้ที่ได้มาจากสกิลนี้มากเกินไป ถึงเธอจะตอบสนองต่อการโจมตีได้ทัน แต่เธอก็เชื่อมั่นในการรับรู้มากจนไม่สามารถตอบสนองต่อการโจมตีแบบหลอกๆ ของศัตรูได้ทัน สำหรับศัตรูที่เร็วกว่าหรือแข็งแกร่งกว่าเธอ พวกนั้นสามารถใช้การตอบสนองในจังหวะแรกให้เป็นประโยชน์เพื่อสร้างช่องโหว่ในการป้องกันของเธอได้ เธอจำเป็นต้องลับสัมผัสของตัวเองโดยไม่พึ่งพาสกิลหรือสิ่งอื่นๆ ไม่งั้นเธอจะไม่รู้แม้แต่กระทั่งว่าตัวเองตายไปเพราะอะไร”
สึบากิเว้นระยะห่างออกมาเล็กน้อยก่อนจะให้เวลาวาห์นพิจารณาคำพูดของเธอ เมื่อเขามีท่าทางพร้อมแล้วเธอจึงกล่าวต่อ
“ฉันรู้ว่าเธอสามารถแก้ไขขนาดและความเข้มข้นของเขตแดนได้ ดังนั้นเลยอยากให้เธอลดขนาดของมันจนอยู่ในระยะที่เธอสามารถตอบสนองได้ในทันที ขนาดของมันไม่ควรใหญ่กว่าระยะการโจมตีแบบฉับพลันของเธอ”
วาห์นทำตามคำแนะนำของเธอและลดขนาดของเขตแดนลงขณะที่บีบอัดมันเล็กน้อย ขนาดที่เล็กที่สุดที่เขาทำได้คือ 3 เมตรคล้ายกับตอนที่เขาหลอมโลหะกับ ‘เพลิงนิรันดร์’ สึบากิดูเหมือนจะประทับใจสภาพของเขตแดนในตอนนี้มาก แม้ว่ามันจะยังดูไร้รูปร่าง แต่เธอก็พอมองเห็นเค้าโครงของเขตแดนที่อยู่รอบตัวเขาได้อย่างเลือนลาง
“ระยะสามเมตรเป็นขนาดที่ค่อนข้างดี แต่เธอก็ต้องไม่ลืมที่จะพัฒนามันต่อไปเรื่อยๆ ด้วยล่ะ นอกจากนี้เธอยังต้องปรับปรุงเรื่องการสัมผัสถึงออร่าหรือคู่ต่อสู้ที่คุ้นชินกับระยะการต่อสู้ของเธอแล้ว” (TL: ไม่ใช่ออร่าที่วาห์นเห็น แต่เป็นออร่าที่นักสู้สัมผัสได้จากความรู้สึกและสัญชาตญาณ) เมื่อเธอพูดจบ สึบากิก็หายไปจากสายตาของเขาและวาห์นรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ นี่เป็นเหตุการณ์เดียวกันที่ทำให้เขาได้จูบดินมา 57 ครั้งเข้าไปแล้ว
ทางด้านซ้ายที่อยู่รอบนอกเขตแดนของเขา วาห์นรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวจึงรีบขยับตัวไปสกัดการโจมตีนั่น มันต่างจากความพยายามที่แล้วๆ มา เพราะเขาสามารถเบนการโจมตีออกไปได้เล็กน้อย ทว่าก่อนที่จะได้แสดงความดีใจ การมองเห็นของเขาก็กลับตาลปัตรและได้ไปพบกับพื้นดินอีกเป็นครั้งที่ 58 ไม่สิ ครั้งที่ 59 แล้ว…
สึบากิปัดฝุ่นที่มือเนื่องจากเธอไปจับวาห์นที่ตัวมอมแมมทุ่มลงพื้น
“อย่างที่คิดไว้เลย ขนาดเขตแดนที่ลดลงทำให้เธอสามารถแก้ไขข้อบกพร่องได้เล็กน้อย เพราะเธอไม่ได้ตอบสนองต่อการโจมตีครั้งแรกเร็วเกินไป มันเลยทำให้การป้องกันของเธอแน่นหนาขึ้นเพราะคู่ต่อสู้ไม่มีเวลามากพอที่จะเปลี่ยนทิศทางการโจมตีได้ทัน นี่น่าจะเป็นความสามารถที่เอามาใช้ได้จริงมากที่สุดจนกว่าเธอจะพัฒนาเทคนิคและสัมผัสต่างๆ ให้ดีขึ้นกว่านี้”
วาห์นได้แต่นอนพักฟื้นอยู่บนพื้น แต่เขาก็ยังมีความสุขที่รู้ว่าได้พัฒนาขึ้นมาอีกนิด
“ยืนขึ้นมาได้แล้ว ฉันอยากจะรู้ว่าเมื่อกี้เธอแค่โชคดีหรือเปล่า เร็วเข้าสิ ด้วยความเร็วประมาณนี้ เราน่าจะทุ่มเธอได้ถึงร้อยครั้งก่อนเวลาอาหารเที่ยง!” สึบากิกระตือรือร้นเป็นพิเศษ แต่สำหรับวาห์นนั้นเขากำลังเสียใจกับความโชคร้ายของตัวเองอีกครั้ง แม้จะรู้สึกขอบคุณที่เธอช่วยฝึกเขา แต่เขาก็ยังอยากล้างแค้นให้ได้สักครั้งในระหว่างที่ฝึกกันอยู่
—
วาห์นยังคงถูกทุ่มเหมือนกับตุ๊กตาโดยช่างตีเหล็กอกสะบึมที่กำลังหัวเราะร่าไปเรื่อย ในตอนนี้ เธอตะโกนออกมาด้วยเสียงอันดังเพื่อบอกว่าการทุ่มได้ดำเนินมาถึงครั้งที่ 98 แล้ว ดูเหมือนเธอจะพยายามไปให้ถึงครั้งที่ 100 ก่อนการฝึกจะสิ้นสุดลง นับเป็นเรื่องที่ทำให้วาห์นรู้สึกท้อใจเป็นอย่างมาก
ในช่วงการทุ่มครั้งล่าสุด เขาไม่ได้ต่อต้านการทุ่มมากนักและยอมให้เธอทุ่มร่างของเขาแบบสบายๆ เขาเพ่งสมาธิไปกับการพยายามกลับตัวหลังจากปะทะพื้น เนื่องจากไม่ว่าเขาจะขัดขืนหนักแค่ไหนก็ไม่สามารถปัดป้องการโจมตีที่เข้ามาได้
หลังจากถูกทุ่มเป็นครั้งที่ 99 สึบากิก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก
“ฮ่าฮ่าฮ่า อีกครั้งเดียวก็ครบแล้วนะ เข้ามาเลยวาห์น เธอต้องทำได้สิ! อย่ายอมแพ้เอาตอนจบนะ!” เธอกำลังเชียร์ให้เขาเพื่อยืนขึ้นอย่างกระตือรือร้น ภายในดวงตาข้างเดียวของเธอ วาห์นมองเห็นประกายแห่งความดีใจและความคาดหวังอยู่ลึกๆ
เขากัดฟันและพยายามยืนขึ้นมาอีกเป็นครั้งสุดท้าย เหตุผลที่เขายอมให้เธอทุ่มในช่วงหลังก็เพื่อให้เธอลดการระวังตัวลงและเก็บแรงของตัวเองเอาไว้ แม้ว่าวาห์นจะไม่เชื่อว่าตนจะสามารถล้มสึบากิได้ แต่เขาก็จะใส่ทุกอย่างในความพยายามครั้งสุดท้าย เมื่อเห็นเขายืนขึ้น สึบากิก็ร้องตะโกนเสียงดัง
“ฮ่าฮ่า แบบนั้นแหละวาห์น! ฉันรู้ว่าเธอหนังเหนียว! เอาล่ะ~ฉัน~จะ~ไป~ล่ะ~นะ!
วาห์นเพ่งสมาธิทั้งหมดจนถึงขีดสุดขณะที่สึบากิหายไปจากสายตาของเขา เขาสัมผัสได้ถึงการโจมตีจากด้านหลัง และเขาก็พุ่งสมาธิทั้งหมดไปที่ตรงนั้นก่อนจะขยับเข้าหาร่างของฝ่ายตรงข้าม จากนั้นเขาก็บิดตัวอย่างรวดเร็วที่สุดและพยายามสกัดการโจมตีด้วยฝ่ามือแต่สิ่งที่โต้กลับมาคือสัมผัสอ่อนนุ่มอันน่าเหลือเชื่อและความยืดหยุ่นจากแรงที่ใช้ปะทะ
ทั้งสองยืนอยู่ตรงนั้นและจ้องมองไปยังมือของวาห์นที่ใช้ ‘โจมตีสวนกลับ’ แน่นอนว่าสิ่งที่อยู่ในมือขวาของเขาก็คือหน้าอกข้างซ้ายของสึบากินั่นเอง เนื่องจากขนาดมหึมาของมัน มือเล็กๆ ของเขาจึงจมลงไปในก้อนเนื้ออันนุ่มนิ่มโดยทิ้งให้เกิดรอยยับบนผ้าคาดหน้าอก วาห์นเริ่มรู้สึกถึงเหงื่อเย็นๆ ที่ไหลจากแผ่นหลังขณะที่เขามองจ้องมองตาเปล่งประกายของหญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้า
หลังจากชะงักไปชั่วครู่ สึบากิก็แสยะยิ้มให้กับวาห์นที่บังเอิญล่วงล้ำอาณาเขตบนร่างกายของเธอ วาห์นตอบสนองด้วยการถอนมือออกและพยายามขอโทษ แต่สึบากิกลับขัดจังหวะและเข้ากอดรัดหัวของเขาเหมือนกับตอนที่ทั้งสองเจอกันเป็นครั้งแรก เธอเริ่มหัวเราะเสียงดังขณะที่ทำให้เขาหายใจไม่ออก
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าเด็กจอมเจ้าเล่ห์ นี่เป็นแผนแก้แค้นที่คิดไว้ใช่ไหม?”
เสียงหัวเราะดังก้องอยู่ในหูของวาห์นก่อนที่เขาจะค่อยๆ หมดสติไปจากการขาดอากาศหายใจ