Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล – ตอนที่ 89

ตอนที่ 89

เมื่อเห็นการแจ้งเตือน วาห์นก็ค่อนข้างตื่นเต้น

ไวเวิร์นนั้นแตกต่างจากโคโบลด์ที่อ่อนแอเกินกว่าจะเอามาใช้สอยได้

มันคือมอนสเตอร์ที่แข็งแก่งที่สุดในชั้นนี้จนเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นมินิบอสและมักจะอยู่ในอาณาเขตที่เป็นของมันเอง

วาห์นไม่คาดคิดเลยว่ามันจะยอมจำนนเพราะธรรมชาติของไวเวิร์นนั้นเป็นมอนสเตอร์ที่ดุร้ายและหยิ่งทะนงมาก

เพราะเขาไม่เคยมีลูกน้องนอกไปจาก ‘เพลิงนิรันดร์’ วาห์นจึงสงสัยมากว่ามันจะทำประโยชน์อะไรให้เขาได้บ้าง

เขาเลิกลังเลและยอมรับมันเป็นลูกน้องพร้อมกับที่ได้ยินเสียงแจ้งเตือนมากมาย

//(ไร้นาม) กลายเป็นลูกน้องของคุณแล้ว ปลดล็อคระบบ ‘จัดการยูนิต’//

[ยูนิตปัจจุบัน] [เปิดใช้งาน: 2] [ปิดใช้งาน: 1]

[ยูนิตที่ใช้งานอยู่]: (เพลิงนิรันดร์), (ไร้นาม)

[ยูนิตที่ปิดใช้งาน] :(ไร้นาม)

หลังจากได้เห็นการแจ้งเตือน วาห์นก็รู้สึกประหลาดใจที่เห็นว่าเขามีลูกน้องอยู่ด้วยกันสามยูนิต

เท่าที่เขารู้ สิ่งมีชีวิตที่เขารับมาเป็นลูกน้องก็มีไวเวิร์นและเพลิงนิรันดร์

การที่มี (ไร้นาม) อยู่สองชื่อภายในระบบได้สร้างความสับสนให้กับวาห์นมาก ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจดูข้อมูลของเพิ่มเติม

————————————————————————————–

(ไร้นาม)

อายุ: 4 วัน

เผ่าพันธุ์: ไวเวิร์น (เยาว์วัย: 4 เมตร)

เลเวล: 2

ความภักดี: 72

ความแข็งแกร่งของดวงวิญญาณ: ระดับ 0 (สิ่งมีชีวิตจากมานา)

กรรม: –

สถานะ: [เปิดใช้งาน]

————————————————————————————–

(ไร้นาม)

อายุ: 2 เดือน 2 สัปดาห์ 3 วัน

เผ่าพันธุ์: โคโบลด์

เลเวล: 1

ความภักดี: 84

ความแข็งแกร่งของดวงวิญญาณ: ระดับ 0 (สิ่งมีชีวิตจากมานา)

กรรม: –

สถานะ: [ปิดใช้งาน]

————————————————————————————–

(เพลิงนิรันดร์)

อายุ: เก่าแก่

เผ่าพันธุ์: วิญญาณของพลังศักดิ์สิทธิ์

เลเวล: –

ความภักดี: 100

ความแข็งแกร่งของดวงวิญญาณ: ระดับ 4 (วิญญาณศักดิ์สิทธิ์)

กรรม: –

สถานะ: [เปิดใช้งาน]:

————————————————————————————–

วาห์นสับสนกว่าเดิมหลังจากที่อ่านคำอธิบายของลูกน้องตัวเอง

ตามที่แสดงในระบบ เขาได้รับโคโบลด์จากตอนที่ทดลองใช้ [จิตแห่งราชัน] ใส่มันเข้ามาเป็นลูกน้องด้วย

จากที่วาห์นพอจำได้นั้นมันก็น่าจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ทำไมข้อมูลของมันถึงยังอยู่ล่ะ?

ความคิดแล่นผ่านเข้ามาในหัว และเขาก็เริ่มค้นหาไอเท็มที่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

ภายในมือของเขาปรากฏเป็นคริสตัลที่ได้มาจากโคโบลด์ตัวนั้น

มันแตกต่างไปจากแกนคริสตัลปกติซึ่งจะแสดงเฉพาะระดับและรายละเอียดว่าได้มันมาจากไหน

คริสตัลก้อนนี้ตรงกับสิ่งที่ระบุอยู่ในหน้าต่างยูนิตของเขา

วาห์นสงสัยว่าการปิดใช้งานมันหมายถึงอะไรกันแน่ แต่พอเขาเริ่มคิดหนัก แกนคริสตัลในมือของเขาก็เริ่มเปล่งประกายขึ้นทีละน้อย

วาห์นลองส่งพลังงานของเขาเข้าไปในคริสตัลและมันก็เริ่มร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว

คริสตัลนั้นขยายตัวอย่างช้าๆ พร้อมกับมีควันสายรุ้งแปลกๆ ก่อตัวอยู่รอบๆ จนกระทั่งมันเริ่มมีรูปร่างคล้ายโคโบลด์ที่กำลังคุกเข่าอยู่

ภายในแผนที่ของเขา วาห์นเห็นพิกัดสามอันซึ่งประกอบไปด้วยตัวเขาเองและ (ไร้นาม) อีกสองตัว

เมื่อมองไปมาระหว่างทั้งสอง วาห์นก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้น หากสมมติฐานของเขาถูกต้อง…

วาห์นยื่นมือออกไปหาไวเวิร์นที่กำลังจ้องมองเขาและออกคำสั่งในใจให้มัน [ปิดใช้งาน]

เมื่อออกคำสั่งในใจเสร็จแล้ว เจ้าไวเวิร์นก็ทรุดตัวลงกับพื้นและเริ่มสลายกลายเป็นฝุ่นผงสีสายรุ้งที่มีสีดำแซมอยู่ด้วย

ในที่ที่ไวเวิร์นเคยอยู่กลับมีแกนคริสตัลขนาดกลางวางอยู่แทน

เมื่อวาห์นหยิบมันขึ้นมาดู คริสตัลก้อนนี้ก็ถูกระบุว่าคือ (ไร้นาม) [ปิดใช้งาน]

วาห์นไม่สามารถควบคุมความตื่นเต้นเอาไว้ได้และเริ่มหัวเราะออกมาขณะถือคริสตัลไว้ในมือ

โคโบลด์จ้องมองเขาด้วยสีหน้าอดทนราวกับว่ามันกำลังรอคำสั่งของเขาอยู่

หากวาห์นรู้ว่าในตอนนั้น เจ้าโคโบลด์ยอมมาเป็นลูกน้องและแปลงร่างตัวเองให้เป็นคริสตัลเพื่อลดความกังวลของเขา เขาก็คงจะยอมรับมันไปนานแล้ว

ที่จริงเขารู้สึกแย่นิดหน่อย แต่ก็ยังเชื่อว่ามันอ่อนแอเกินกว่าจะมีประโยชน์อยู่ดี

หลังจากลูบหัวที่เหมือนสุนัขของมันไปครู่หนึ่ง วาห์นก็เปลี่ยนให้มันกลับสู่สถานะ [ปิดใช้งาน] และเปิดใช้งานไวเวิร์นอีกครั้ง

หลังจากที่ไวเวิร์นออก วาห์นก็รู้สึกเวียนหัวเล็กน้อยจากการสูญเสียพลังงาน

เขาคิดคร่าวๆ ว่าในขณะที่การนำบางสิ่งเข้าสู่สถานะปิดใช้งานนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่การนำพวกมันออกมาใหม่คงจะใช้พลังงานมากกว่าเดิมหลายเท่า

ตอนแรกเขายังไม่รู้เรื่องนี้เพราะพลังที่ใช้เรียกโคโบลด์ออกมานั้นเทียบกับการเรียกไวเวิร์นไม่ได้เลย

วาห์นนั่งพักอยู่บนพื้นเพื่อฟื้นฟูพลังงานในขณะที่มองเข้าไปในดวงตาอันแจ่มชัดของไวเวิร์นซึ่งดูแตกต่างไปจากดวงตาที่ดุร้ายของมอนสเตอร์ทั่วไปมาก

เจ้าไวเวิร์นนั้นมีดวงตามีสีฟ้าอ่อนที่ดูนิ่งสงบ

มันแปลกมากที่เห็นมอนสเตอร์อยู่ใกล้ชิดติดขอบจอและยืนจ้องเขาอย่างอดทน

ในตอนที่วาห์นกำลังฟื้นพลัง เขาตัดสินใจลองออกคำสั่งไปยังไวเวิร์น

เขาออกคำสั่งในใจ และดูเมื่อไวเวิร์นก็กำลังทำความเข้าใจกับ ‘คำสั่ง’ ก่อนที่มันจะเริ่มหมุนตัวเป็นวงกลม

เมื่อเห็นการกระทำที่ ‘ติ๊งต๊อง’ ของมัน วาห์นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

เขาสั่งให้มันวิ่งไล่หางของตัวเองเหมือนสุนัขและหลังจากได้รับคำสั่งทางจิตแล้วมันก็เริ่มทำตามทันที

การเฝ้าดูมังกรสีชมพูยาว 4 เมตรหมุนตัวเป็นวงกลมนั้นสนุกจนน่าเชื่อ โดยเฉพาะหากนำมาเทียบกับกับพฤติกรรมแบบปกติของมัน

เมื่อวาห์นกำลังพิจารณาขอบเขตการเชื่อฟังของไวเวิร์น ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เกิดความลังเลก่อนจะส่ง ‘คำสั่ง’ ใหม่ออกไป

เป็นอีกครั้งที่ไวเวิร์นดูเหมือนจะหยุดเพื่อทำความเข้าใจกับคำสั่ง ครู่ต่อมา มันก็เปิดปากของมันออกและงับอย่างรุนแรงเข้าไปในแขนของตัวเอง

มันเริ่มคว้านเนื้อตัวเองออกขณะที่วาห์นตื่นตกใจและรีบสั่งให้มันหยุด

วาห์นพบว่าค่าความภักดีของไวเวิร์นนั้นลดลงไปเล็กน้อยแถมยังทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกทุบหน้าอก

ดูเหมือนว่าตราบใดที่ค่าความภักดีสูงพอ ผู้ที่เป็นลูกน้องของเขาจะปฏิบัติตามคำสั่งทุกอย่างรวมไปถึงการสร้างความเสียหายให้กับตัวเองด้วย

ขณะที่มันยืนเลือดไหลอยู่ตรงนั่น วาห์นก็ตระหนักถึงบางอย่าง

ไวเวิร์นตัวนี้ต่างจากมอนสเตอร์อื่นๆ ที่เขาเคยเห็นในดันเจี้ยนเพราะดูเหมือนมันจะสูญเสียคุณสมบัติในการฟื้นฟูตัวเองไปแล้ว

หลังจากสอบถามพี่สาว เธอก็สันนิษฐานว่าตอนนี้มันคงถูกแยกออกจากตัวดันเจี้ยนไปอย่างถาวร

หากไม่สามารถเข้าถึงพลังงานของดันเจี้ยน มันก็จะไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้อีก

เมื่อได้ยินคำอธิบายของเธอ วาห์นจึงยิ่งรู้สึกผิดกว่าเดิมและเริ่มรักษาบาดแผลให้กับไวเวิร์น

พอทำแบบนั้น วาห์นก็สังเกตเห็นว่าความภักดีของมันก็เพิ่มกลับขึ้นมาหน่อยแต่ก็ไม่ได้เพิ่มจนมีค่าเท่าเดิม

เมื่อเขาสั่งให้มันทำร้ายตัวเอง ค่าความภักดีของมันก็ลดลงมาจาก 72 เหลือเพียง 60 แต่ตอนนี้ได้เพิ่มมาอีกเป็น 63 แต้ม

วาห์นเข้าใจว่าวิธีที่เขาปฏิบัติกับพวกมันนั้นมีความสำคัญและเนื่องจากพวกมันยินดีที่จะติดตามเขาแล้ว เขาจึงตัดสินใจที่จะดูแลพวกมันให้ดี

วาห์นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนถามขึ้น

(“พี่สาว พวกมันต้องทานอาหารอะไรด้วยหรือเปล่า? ผมรู้ว่ามอนสเตอร์ชอบกินนักผจญภัยกับคริสตัลที่ห้องแหล่งอาหาร แต่ว่าเจ้าสองตัวนี้ล่ะ? ผมได้รับโคโบลด์ตัวนี้มาหลายเดือนแล้วงั้นแสดงว่าถ้าอยู่ในรูปคริสตัลก็คงไม่เป็นไร…”)

(*เธอควรจะให้พลังงานกับพวกมันเหมือนกับที่ดันเจี้ยนทำนะ ตราบใดที่พวกมันอยู่ในเขตแดนของเธอ เธอก็น่าจะสามารถส่งพลังงานไปที่พวกมันได้โดยตรง หรือไม่ก็ส่งพลังงานไปที่แกนคริสตัลขณะที่ไม่ได้เปิดใช้งานพวกมัน ถ้าไม่ได้ถูกฆ่า เธอก็น่าจะคืนร่างให้พวกมันกี่ครั้งก็ได้ตามต้องการ*)

วาห์นพยักหน้าอย่างเข้าใจ

มันฟังดูมีเหตุผลเพราะเขาเป็นตัวการที่แยกพวกมันออกมาจากดันเจี้ยน ดังนั้นเขาก็ต้องเป็นคนส่งพลังงานให้พวกมันแทน

หลังจากเริ่มเข้าใจแล้ว วาห์นก็คิดอะไรออก

แม้ว่าจะมีต้นกำเนิดมาจากพลังเวท แต่ตามหลักแล้วพวกมันก็ยังถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิต

พวกมันต้องกิน ย่อยอาหาร และขับถ่ายเหมือนกับสัตว์ทั่วไป

วาห์นคิดว่าเขาน่าจะใช้สกิล [โพรมีธีอุส] และเพิ่มพลังให้กับไวเวิร์นได้ แต่ก่อนอื่นเขาต้องยืนยันอะไรบางอย่างก่อน

เพราะได้พักไปบ้างแล้ว พลังของวาห์นจึงเริ่มฟื้นคืนมาอีกครั้ง

เขาลุกขึ้นยืนและให้ไวเวิร์นตามมาจนกระทั่งไปพบกับห้องที่มีศัตรู

ในนั้นมีมิโนทอร์กลุ่มเล็กๆ อยู่ห้าตัว ซึ่งพอวาห์นกับไวเวิร์นเข้าไปในห้อง พวกมันก็เข้าโจมตีทันที

ตอนแรกวาห์นรู้สึกแปลกใจเพราะเขายังคงใช้สกิลอำพรางตัวอยู่และไม่คิดว่าพวกมันจะไหวตัวได้เร็วขนาดนี้

(*สกิล [อำพรางตัว] แม้ว่าจะนำมาผสานกับเขตแดนได้ แต่ผลของมันก็จะแสดงเฉพาะกับตัวผู้ใช้เท่านั้น มันจะไม่ส่งผลกับสิ่งมีชีวิตอื่นที่อยู่ในเขตแดนของด้วย ไม่งั้นทุกอย่างที่อยู่ในเขตแดนก็จะอยู่ภายใต้สถานะ ‘อำพรางตัว’ รวมไปถึงคนที่บังเอิญเดินผ่านเข้ามาด้วย*)

เมื่อได้ยินคำพูดของพี่สาวแล้ว วาห์นจึงรู้สึกเซ็งที่เขาไม่สามารถเดินไปมาแบบสบายๆ ขณะที่มีไวเวิร์นอยู่ข้างกายได้

ตอนที่เขากำลังคิดอยู่นั้น ไวเวิร์นก็เริ่มเข้าต่อกรกับพวกมอนสเตอร์ตามคำสั่งที่เขาให้ไว้

วาห์นได้สั่งให้มันโจมตีมอนสเตอร์ที่ปรากฏตัวออกมาให้เห็น

แม้ว่าไวเวิร์นจะยังไม่โตเต็มที่ดีนัก แต่มันก็ยังแกร่งกว่าพวกมิโนทอร์อยู่ดี

เมื่อพวกมันเข้ามาในระยะ ไวเวิร์นเริ่มพ่นไฟออกไปและย่างสดพวกมัน

ถึงพวกมันจะที่คุณสมบัติต้านทานไฟแต่ก็ทำให้การเคลื่อนไหวช้าลงเยอะ

พอพวกมันเข้ามาใกล้ขึ้นอีก ไวเวิร์นก็หยุดการพ่นไฟและใช้หางฟาดใส่มิโนทอร์ที่อยู่ใกล้ที่สุด

ทันทีที่มิโนทอร์กลายเป็นฝุ่นผง วาห์นจึงยิ้มออกมาเมื่อเห็นการแจ้งเตือนใจหัว

//(นิรนาม) ได้สังหารมิโนทอร์: เลเวล 2, ได้รับ 9 OP//

วาห์นรู้สึกตื่นเต้นสุดขีดเพราะไม่เพียงแต่เขาจะได้รับ OP แต่เมื่อไวเวิร์นสังหารมิโนทอร์นั้น เขาก็ยังได้รับเอ็กซีเลียอีกด้วย

เนื่องจากตอนนี้ค่าพลังเวทของเขาเพิ่มขึ้นมา 1 จุดแล้ว

ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถเพิ่มค่าสถานะได้โดยให้ลูกน้องออกไปสู้แทน

ส่วนที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือการที่วาห์นยังคงสามารถแลกเปลี่ยนคริสตัลของมิโนทอร์และได้รับ OP กลับมาในจำนวนเท่าเดิม

นี่ก็หมายความว่าหากเขาทำให้ไวเวิร์นแข็งแกร่งกว่านี้ มันก็จะเพิ่มรายได้โดยรวมของเขาขึ้นไปอีกมาก

วาห์นเข้าร่วมการต่อสู้เคียงข้างไวเวิร์นและสร้างความเสียหายให้มิโนทอร์ที่เหลืออยู่ด้วยความปิติยินดี

เมื่อพวกมิโนทอร์เคลื่อนไหวไม่ได้แล้ว เขาก็ปล่อยให้ไวเวิร์นปิดฉากพวกมันและสังเกตเห็นว่าปริมาณของ OP ได้รับนั้นลดลงเล็กน้อย

เขาพอจะสรุปได้ว่าจำนวน OP คงจะขึ้นอยู่กับความพยายามของตัวไวเวิร์นเอง

หลังจากแลกคริสตัลเข้าร้านค้า วาห์นก็หันไปยิ้มให้กับสหายคนใหม่และตัดสินใจที่จะตั้งชื่อให้กับมัน

เนื่องจากมันมีเกล็ดสีชมพูและดวงตาสีฟ้า วาห์นจึงอยากตั้งชื่อให้มันว่า ‘บลิงกี้’ แต่ขนาดพี่สาวเองยังต้องถอนหายใจแรงๆ เมื่อได้ยินความคิดนี้

(TL: บลิงกี้คือหนึ่งในผีที่อยู่ในเกมแพคแมนครับ มีตัวสีชมพูและตาสีฟ้าเช่นกัน)

วาห์นรู้สึกเขินๆ และกระแอมออกมาก่อนจะถาม

(“มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนี่นา? ผมว่ามันน่ารักดีออก…”)

เสียงถอนหายใจดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่พี่สาวจะตอบ

(*นี่ไวเวิร์นนะวาห์น ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงในลังกระดาษที่เก็บจากข้างทาง ถ้าคนอื่นได้ยินเธอเรียกมันว่าบลิงกี้ พวกเขาก็จะหัวเราะเยาะเธอและดูถูกมันแทน*)

คำตอบนั่นทำให้วาห์นรู้สึกกังวล

แม้ว่าเขาไม่สนใจว่าคนอื่นจะเห็นเขาเป็นตัวตลก แต่เขาไม่อยากให้ใครมาดูถูกสหายของตัวเอง

หลังจากใคร่ครวญอีกสองสามนาที วาห์นก็รู้แล้วว่าตัวเองเป็นคนที่คิดชื่อได้ห่วยแตกมาก ดังนั้นเขาจึงขอให้พี่สาวช่วยคิดให้แทน

พี่สาวไม่ได้ตอบแบบตรงๆ แต่เธอแสดงรายชื่อขึ้นมาในหัวของวาห์น

ทุกๆ ชื่อดูแฝงไปด้วยพลังมากและวาห์นก็จำบางชื่อได้จากเหล่าหนังสือที่เขาอ่านนับตั้งแต่เดินทางมาถึงโลกใบนี้

วาห์นดูผ่านๆ และไปเจอชื่อของ ‘มังกร’ ที่ถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในตัวที่ทรงพลังที่สุดบนโลกในนี้

พอดูข้อมูลเพิ่มเติมก็เห็นว่ามันมีรูปร่างคล้ายกับไวเวิร์นมากแถมพวกมันทั้งคู่ต่างก็พ่นไฟได้และมีเกล็ดโทนสีเดียวกัน

วาห์นมองไปที่ไวเวิร์นและวางมือลงบนหน้าผากของมันซึ่งคล้ายกับตอนที่ทำให้กับพยัคฆ์ขาว

เมื่อมองเข้าไปในดวงตาสีฟ้าสีฟ้าของมัน วาห์นจึงพูดขึ้น

“ฟาฟเนียร์”

พอคำพูดนั้นออกจากริมฝีปากของเขา วาห์นก็รู้สึกได้ถึงพลังงานที่รั่วไหลออกจากร่างขณะที่ระบบแจ้งเตือนว่าชื่อของไวเวิร์นได้เปลี่ยนไปแล้ว

ไวเวิร์น ‘ฟาฟเนียร์’ ดูพอใจกับชื่อใหม่มากและโห่ร้องออกมาจนเพทานสั่นสะเทือนไปหมด

ร่างกายของมันเริ่มขยายใหญ่ขึ้นขณะที่แสงสีรุ้งเริ่มสาดส่องออกมาจากตัวมัน

วาห์นสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นจึงเปิดดูหน้าต่างแสดงผลและพบการการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เขาไม่ได้คาดคิด

————————————————————————————–

(ฟาฟเนียร์)

อายุ: 4 วัน

เผ่าพันธุ์: มังกร (เยาว์วัย: 6 เมตร)

เลเวล: 3

ความภักดี: 90

ความแข็งแกร่งของดวงวิญญาณ: ระดับ 1 (อสูรรับใช้มีชื่อ)

กรรม: –

สถานะ: [เปิดใช้งาน]:

————————————————————————————–

หลังจากตั้งชื่อไวเวิร์นเสร็จแล้ว เผ่าพันธุ์ของมันก็กลายเป็น ‘มังกร’ และเลเวลของมันเพิ่มขึ้นจาก 2 เป็น 3

ในขณะที่วาห์นเฝ้าดูวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องของมัน เขาก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากฟาฟเนียร์

แม้ตอนแรกเขาจะมองข้ามไปเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นตรงหน้า แต่ในส่วนของสกิลตรงตารางสถานะของวาห์นนั้นได้มีสิ่งใหม่เพิ่มขึ้นมาเช่นกัน

ในขณะที่เขาอ่านคำอธิบาย วาห์นก็รู้สึกชาเหมือนถูกไฟดูดก่อนที่ความตื่นเต้นจะทำให้ท้องไส้ของเขาปั่นป่วนไปหมด

[ผู้ดูแลบันทึกแห่งนภา]

ระดับ: [สกิลแฝง: B] *สกิลแฝงนั้นไม่สามารถทำการระบุได้ ความพยายามที่จะระบุมันจะส่งผลให้เกิดแรงโต้กลับ*

[ติดตัว]: ทำให้ผู้ใช้เข้าใจต้นกำเนิดของทุกสรรพสิ่ง ถูกจำกัดโดยความรู้ของผู้ใช้ ส่งเสริมการพัฒนาพลังงานทางจิต

[ใช้งาน]: ทำให้ผู้ใช้สามารถตั้งชื่อให้กับสิ่งที่ยังไม่มีชื่อ การใส่ชื่อลงไปในบันทึกแห่งนภาจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเจ้าของชื่อ ไม่สามารถทำการบันทึกชื่อซ้ำได้ และการกระทำดังกล่าวจะส่งผลให้สิ่งที่ใช้ชื่อนี้อยู่ก่อนเสียชีวิตหรือถูกทำลาย เวลาคูลดาวน์สกิล: 59 วัน 23 ชั่วโมง 58 นาที

[ชื่อปัจจุบัน]

[ฟาฟเนียร์] มังกรดำผู้แข็งแกร่งและมีสติปัญญาอันน่าทึ่งพร้อมความต้านทานการโจมตีด้วยเวทมนตร์แบบสมบูรณ์ จะอยู่ในสภาพอ่อนแอเมื่อต่อสู้กับผู้ที่มีวิญญาณ ‘วีรชน’ หรือมีหัวใจที่เที่ยงธรรม เหล่าผู้ที่ใช้ชื่อนี้มักจะมีชะตากรรมที่แสนเศร้าเว้นแต่จะไม่เลือกเดินอยู่บนเส้นทางของความชั่วร้าย

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Status: Ongoing

เรื่องย่อโดยผู้แต่ง

วาห์นชายหนุ่มผู้ที่มีความผิดปกติ เนื่องจากการกลายพันธุ์ที่หายาก เลือดของเขาจึงมีความสามารถซ่อนเร้นที่ทำให้เป้าหมายและความเสียหายที่เกิดจากโรคร้ายที่อยู่ภายในร่างกายมนุษย์

ถูกขจัดออกไปในโดยการรักษาครอบจักรวาล เหล่าผู้คนจึงต่างเชิดชูบูชาสถานะของเด็กหนุ่มเหนือกว่าผู้ใดทั้งสิ้นและมอบชื่อให้เขาว่า “ยารักษาสารพัดโรค” ในข่าว

เขาได้รับการยกย่องเป็นเหมือนกับวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่จะนำพายุคสมัยแห่งใหม่หรือคุณภาพชีวิตมนุษย์ที่ดีมาถึง อย่างไรก็ตาม ฉากที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้สดใสเลย

เนื่องจากปัจจัยเฉพาะบางอย่าง วาห์นจึงใช้เวลาช่วงวัยรุ่นทั้งหมดถูกกักขังอยู่ในห้องทดลองกับนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย และทีมวิจัยที่ใช้ร่างกายและเลือดของเขาเพื่อทำการทดลองที่ไม่มีที่สิ้นสุด

สิ่งปลอบใจความทุกข์ทรมานเพียงอย่างเดียวของเขาคืออนิเมะทั้งหลายและหนังสือการ์ตูนที่มีให้เขาดูในระหว่างการทดลอง เขามักจะจินตนาการว่าตนเองเป็นตัวเองที่อยู่ในโลกของตนเอง

dและสุดท้ายเขาก็สามารถควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้ เป็นเวลาหลายปีที่เขาเก็บรักษาความปราถนานี้เอาไว้ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในวัย 14 ปีขณะที่มีองค์กรพยายามลักพาตัวเขาออกจากห้องทดลอง…

“ในที่สุด ผมก็ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไปแล้ว…”

นี่เป็นความคิดสุดท้ายของวาห์นในขณะที่เขาค่อยๆจางหายไปในห้วงแห่งความมืดอันไร้สิ้นสุด…

“ดวงวิญญาณที่น่าสงสาร”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท