ทุกคนกำลังยืนอยู่ภายใต้บรรยากาศชวนอึดอัดที่เกิดขึ้นเพราะเหตุการณ์เมื่อกี้นี้
หลังจากที่ไอส์เคาะหัวของทีโอเน่ ตอนนี้เธอจึงกำลังใช้มือถูหัวโนๆ ด้วยสีหน้าเจ็บปวด
“มยันเจ็ดนะไอธ์!” (TL: มันเจ็บนะไอส์)
เพราะหัวเราะอยู่ในเวลานั้นพอดี ทีโอเน่จึงกัดลิ้นของตัวเองเข้าไปแบบจังๆ และมีน้ำตาไหลออกมาจากขอบตาของเธอเล็กน้อย
ไอส์จ้องมองเธอด้วยคิ้วที่ขมวด
“ขอโทษนะ… แต่หยุดขำได้แล้ว” ไอส์กล่าวขอโทษและเดินไปทางวาห์น
ทีโอน่ากำลังจะหัวเราะเยาะความซวยของพี่สาวอยู่ แต่พอเห็นไอส์เข้ามาใกล้ เธอก็เริ่มระมัดระวังตัว
ไอส์ไม่สนใจเธอเลยและก้าวไปข้างหน้าวาห์นก่อนจะยื่นมือออกมา
“มาเถอะ”
วาห์นที่เพิ่งจะถามคำถามไปก่อนหน้านี้ค่อนข้างสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดังนั้นเขาจึงยื่นออกไปแบบยังงงๆ อยู่
หลังจากที่เขาจับมือเธอไว้ ไอส์ก็เริ่มนำวาห์นไปที่เต็นท์โดยมีสามสาวที่เหลือตามมาติดๆ
ทีโอน่าอยากจะหยุดเธอไว้ แต่เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของไอส์ เธอก็รู้ว่างานนี้ไม่หมูแน่นอน
สำหรับตอนนี้ เธอเลยตัดสินใจตามน้ำไปก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีอะไรแผลงๆ เกิดขึ้นโดยที่เธอไม่รู้
เลฟิย่าที่อยู่ถัดจากทีโอน่ากำลังขมวดคิ้วขณะจ้องไปที่มือของวาห์นและไอส์
ตัวเต็นท์นั้นถูกแบ่งออกเป็นหลายส่วนและไอส์ก็พาวาห์นเข้าไปในตรงส่วนตะวันออกซึ่งเขาพบว่านั่นเป็นห้องที่ริเวเรียใช้ทำงานและพักผ่อน
เธอกำลังดูแผนที่ที่วาห์นวาดไว้ก่อนหน้านี้แต่หลังจากที่ทุกคนเข้ามาในห้อง เธอก็มองไปที่พวกเขาด้วยความสงสัยก่อนจะถามขึ้น
“มีเรื่องอะไรกันมาเหรอ?”
ไอส์ดึงวาห์นมาข้างหน้าก่อนที่จะให้เขานั่งลงต่อหน้าริเวเรีย
หลังจากจัดที่นั่งให้เขาแล้ว เธอก็นั่งลงแบบคุกเข่าอยู่ข้างๆ และหันไปมองริเวเรีย
สาวๆ คนอื่นไม่รู้เลยว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น แต่แล้วไอส์ก็พูดออกมาจนทุกคนมีสีหน้าตอบสนองที่แตกต่างกันออกไป
“ริเวเรีย สอนเราหน่อยว่าทารกเกิดมาได้ยังไง” ไอส์มีสีหน้าจริงจังมากขณะที่เธอพูดออกมา
ริเวเรียขมวดคิ้วก่อนจะมองไปทางทีโอเน่และทีโอน่าด้วยสายตาคาดโทษ
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น…?”
ทีโอเน่ผู้ที่เคยหัวเราะเฮฮาไปเมื่อกี้ ตอนนี้กลับตัวแข็งทื่อหลังได้ยินน้ำเสียงเย็นๆ ของริเวเรีย
ทีโอน่าผู้มีสีหน้าตกใจเมื่อได้ฟังความคิดอันแสน ‘ปราดเปรื่อง’ ของไอส์ก็เริ่มอธิบายออกมา
“เอ่อ… มันเป็นแบบนี้นะ~”
เธอเล่าเหตุการณ์เมื่อกี้นี้แต่ก็ปิดบางส่วนไว้เพื่อไม่ให้วาห์นต้องอับอาย
เลฟิย่าที่อยู่ตรงหางแถวเกือบจะสลบเหมือดด้วยใบหน้าแดงก่ำหลังจากได้ยินคำขอของไอส์
พอได้ยินเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ริเวเรียก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะมองทั้งสองคนที่นั่งอยู่หน้าเธอ
“ฉันพอเข้าใจนะว่าทำไมวาห์นต้องมานั่งตรงนี้ แต่ทำไมเธอถึงมานั่งด้วยล่ะไอส์?”
ตอนนี้ริเวเรียรู้สึกปวดหัวแบบสุดๆ ราวกับมีกองทัพติดอาวุธมาเดินสวนสนามอยู่ในหัวของเธอ
ไอส์เป็นสาวงามที่มีเหล่าผู้ชายมากมายพยายามตามจีบ แต่ไม่ว่าจะมีผู้ชายมาไล่จีบกี่คน เธอก็ไม่เคยให้ความสนใจในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์เลยแม้แต่น้อย
ไอส์จ้องไปทางทีโอเน่และขมวดคิ้วก่อนที่จะหันหัวไปมองวาห์น
หลังผ่านไปไม่กี่วินาที เธอก็มองไปที่ริเวเรียและพูดขึ้น
“ทีโอเน่หัวเราะเยาะวาห์น ฉันเองก็ไม่อยากถูกหัวเราะเยาะ”
ไอส์มักประสบปัญหาในเรื่องของการแสดงอารมณ์ออกมา แต่เธอรู้ว่าการเห็นทีโอเน่หัวเราะเยาะวาห์นนั้นทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจเลย
เพราะสิ่งที่เขาถูกถามนั้นเธอก็ไม่รู้คำตอบเช่นกัน ไอส์รู้สึกว่าตัวเองคงจะดูเหมือนคนโง่นอกเสียจากว่าจะหาคำตอบเจอ
ริเวเรียพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“ถ้างั้นตัวการที่อยู่เบื้องหลังเรื่องคราวนี้ก็คือทีโอเน่สินะ อืม ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว… หลังเสร็จงานนี้คงต้องมีการลงโทษกันสักหน่อยแล้วมั้ง”
ยิ่งเธอพูด น้ำเสียงของเธอก็ยิ่งเย็นลงกว่าเดิม
ทีโอเน่ที่กำลังยืนอยู่ตรงทางเข้าเริ่มยิ้มแบบไม่สู้ดีนักและค่อยๆ ถอยห่างออกไปเรื่อยๆ
“ฉันมีบางอย่างต้องไปทำก่อนจะเริ่มภารกิจ… ขอตัวก่อนนะ”
หลังจากนั้นทีโอเน่ก็รีบชิ่งและหายตัวไปในพริบตา
ริเวเรียถอนหายใจยาวๆ ก่อนมองมาทางวาห์นและไอส์อยู่ครู่หนึ่งแล้วก็หันไปหาเลฟิย่ากับทีโอน่า
“ฉันรู้ว่าเธอเข้าใจเรื่องนี้ดีอยู่แล้วนะทีโอน่า แต่เธออยากจะอยู่ฟังกับเค้าด้วยเหรอ เลฟิย่า?”
เลฟิย่าทำหน้าเหลอหลาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว และพอได้ยินริเวเรียพูดชื่อของเธอก็ทำให้เด็กสาวตัวเล็กทำตัวไม่ถูก
เธอจ้องมองไอส์กับวาห์นด้วยใบหน้าแดงก่ำ เสียใจ และมีน้ำตาออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะพยักหน้า
ริเวเรียยิ่งถอนหายใจหนักกว่าเดิมก่อนจะให้เลฟิย่านั่งถัดจากไอส์ในขณะที่ทีโอน่ามานั่งบนเบาะที่อยู่ด้านข้างเธออย่างเอกเขนก
ทีโอน่านั่งในท่าที่ดูไม่ค่อยเป็นสุภาพสตรีเท่าไหร่ขณะเตรียมตั้งใจฟัง ‘บทเรียน’ ของริเวเรีย
แม้จะรู้กระบวนการเป็นอย่างดีแล้ว แต่เธอก็อยากดูให้แน่ใจว่าคำอธิบายนั้นครบถ้วนสมบูรณ์
เท่าที่เธอรู้ หากบางอย่างถูกมองข้ามไป มันจะทำให้ชีวิตของเธอลำบากขึ้นมาก
เมื่อเห็นว่าทุกคนพร้อมแล้ว ริเวเรียจึงเริ่มอธิบายกระบวนการต่างๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ
ในขณะที่คำอธิบายเริ่มยืดยาวออกไป สีหน้าของวาห์นก็ดูช็อคมากในขณะที่เขายังคงฟังต่อไปเรื่อยๆ
สีหน้าของไอส์ดูไม่เปลี่ยนไปมากนัก แต่เธอก็มีแววตาจริงจังและพวงแก้มที่แดงขึ้นอีกเล็กน้อย
คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากบทเรียนนี้เห็นจะเป็นเลฟิย่า
ตอนนี้ใบหน้าของเธอกลายเป็นสีแดงเข้มขณะกำลังพึมพำ ‘อือ อา เอ่อ’ แถมยังโบกไม้โบกมือไปทั่ว
(TL: ผู้แต่งคิดว่าผู้อ่านคงจะรู้เรื่องพวกนี้ดีอยู่แล้วเลยไม่ได้ใส่เนื้อหาตรงนี้เข้ามา // ผู้แปลไม่ใช่ไม่แปลนะครับ มันไม่มีอยู่แล้ว เดี๋ยวรอตอนแบบนั้นโผล่มาก่อน เด๋วรู้เลย~)
หลังจากสอนเสร็จ ริเวเรียก็มองดูทั้งสามและถามขึ้น
“มีคำถามไหม?”
วาห์นต้องการที่จะตอบกลับไปในทันทีว่ามีเพียบเลย แต่เขาก็ไม่อาจพูดสิ่งที่คิดไว้ออกมาได้
สิ่งเดียวที่คิดอยู่ในตอนนี้ก็คือเรื่องที่ทำกับเหล่าสาวๆ ในอดีต
เขาเริ่มตระหนักในหลายๆ เรื่องและเริ่มเข้าใจว่าการกระทำของเขามันไม่ใช่แค่แปลกนิดหน่อย แต่มันแปลกแบบหลุดโลกไปเลย
วาห์นรวบรวมความกล้าก่อนจะถามขึ้น
“การถูกคนอื่นเห็นตอนไม่ใส่เสื้อผ้าถือเป็นเรื่องแปลกไหมครับ?”
พอนึกถึงตอนที่เขาเปลือยกายเวลาอยู่กับคนอื่น วาห์นก็เริ่มคิดว่าเขาคงทำเรื่องไม่ดีลงไปซะแล้ว
ริเวเรียกำลังพิจารณาคำถามของเขาจนทีโอน่าได้โอกาสและชิงพูดขึ้นมาก่อน
“ไม่นะ! ไม่แปลกหรอกถ้าเป็นคนที่นายชอบล่ะก็! ตราบใดที่อยู่กับคนที่นายไว้ใจได้ก็ไม่เป็นไรหรอก~!”
วาห์นดูเหมือนจะโล่งใจหลังได้ยินคำพูดของทีโอน่า แต่เขาก็มองเห็นว่าริเวเรียยังคงขมวดคิ้วเล็กน้อย
นอกเหนือไปจากสมาชิกของโลกิแฟมิเลียเพียงบางคนแล้ว จนถึงตอนนี้วาห์นเปลือยกายเฉพาะตอนอยู่กับคนที่เขาไว้ใจเท่านั้น
หากสิ่งที่ทีโอน่าพูดเป็นความจริงงั้นก็คงไม่เป็นไรแล้ว
ตอนแรกริเวเรียไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี
ในทางเทคนิคแล้ว สิ่งที่ทีโอน่าพูดนั้นไม่ถือว่าผิดแต่มันออกจะดูบิดเบือนไปเล็กน้อย
ถึงเธอจะคิดว่าวาห์นควรนำบางเรื่องไปคิดต่อเองบ้าง
แต่เพราะเห็นไอส์กับเลฟิย่ามานั่งฟังอยู่ด้วย เธอจึงพยายามดัดแปลงคำตอบเล็กน้อยเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง
“อื้ม สิ่งที่ทีโอน่าพูด… ก็ไม่ผิด แต่ความเชื่อใจระหว่างทั้งสองคนจะต้องสูงกว่าคนอื่นมากเลยนะ ถ้าอีกฝ่ายเป็นเพศตรงข้ามด้วยก็ยิ่งแล้วใหญ่เลย นี่คือตัวอย่าง… ผู้หญิงมักจะอาบน้ำกับผู้หญิงด้วยกันเอง ในขณะที่ผู้ชายก็จะไปอาบน้ำกับผู้ชายด้วยกันเท่านั้น ถ้าผู้ชายกับผู้หญิงอาบน้ำด้วยกัน ส่วนใหญ่มักจะเป็นเพราะว่าพวกเขาคือคู่รัก… แม้จะมีข้อยกเว้นอยู่บ้างหากพวกเขาเป็นพี่น้องกันหรือไม่ก็อายุยังน้อย”
ริเวเรียคิดว่าอธิบายเรื่องนี้ชัดเจนดีแล้ว แต่เธอเห็นว่าวาห์นยังดูสับสนกับคำพูดของเธออยู่
“นอกจากเลฟิย่าแล้ว คนอื่นๆ ก็ไม่ได้สนใจที่ผมเข้าไปอาบน้ำในทะเลสาบด้วย… แต่ผมไม่ได้เป็นคู่รักกับใครเลยนี่…”
วาห์นพิจารณาคำพูดของริเวเรียและตระหนักว่าถึงเขาจะไม่ใช่คู่รักกับพวกเธอ แต่เขาก็เชื่อใจพวกเธออยู่บ้าง
เขาเห็นว่าพวกเธอทุกคนมีออร่าที่ชัดเจนและปฏิบัติต่อเขาค่อนข้างดี
ในขณะที่เขาเฝ้ามองพวกเธอแต่ละคน แม้แต่เลฟิย่าซึ่งมีค่าความชื่นชอบอยู่น้อยที่สุดในกลุ่มยังมีค่านั้นมากถึง 71 แต้ม
วาห์นเดาว่าที่ทำไปคงไม่ผิดอะไรจึงรู้สึกเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก
เมื่อได้ยินวาห์นพูดถึงเรื่องที่ทะเลสาบ เลฟิย่าก็ทนรับแรงกดดันไม่ไหวจนสลบไป
ดูเหมือนว่าวิญญาณของเธอใกล้จะหลุดออกจากร่างเต็มทีแล้ว…
ทีโอน่าเริ่มหัวเราะแบบแห้งๆ ขณะเริ่มขยับไปที่ประตูทางออก
ส่วนไอส์ก็มีสีหน้างงๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ดังกล่าว
พอริเวเรียเห็นปฏิกิริยาแปลกๆ ของทุกคน เธอจึงมองไปที่ทีโอน่าและออกคำสั่งทันที
“ทีโอน่า อธิบายเรื่องนี้มาให้หมดเลย…”
“ฮ่าฮ่าฮ่า คือว่า…” ทีโอน่าหนีออกไปไม่ทันก็เลยต้องมาเล่าทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบให้ริเวเรียฟัง
เธอบอกเรื่องที่วาห์นมาพบพวกเธอเข้าตอนกำลังอาบน้ำอยู่
เธอจึงเชื้อเชิญให้เขามาอาบด้วยกันหลังจากได้รับอนุญาตจาก ‘ทุกคน’ ในที่นั้น
สุดท้ายวาห์นก็เลยได้มาอาบน้ำด้วย แถมยังมาสลับกันถูกหลังกับเธออีก
ทีโอน่าพูดอย่างมั่นใจว่าไม่ได้มีเรื่อง ‘ล่อแหลม’ เกิดขึ้นในระหว่างนั้นเลย
ริเวเรียรู้สึกว่าเส้นเลือดในสมองใกล้จะแตกเต็มทีแล้วพร้อมกับที่เธออยากไล่ตีหญิงสาวชาวอเมซอนคนนี้ด้วยคทาของเธอเหลือเกิน
หากสิ่งที่ทีโอน่าพูดเป็นความจริง งั้นทีโอเน่ก็ไม่ใช่ตัวการหลักแต่เป็นทีโอน่านี่แหละ
ริเวเรียต้องการยืนยันข้อสงสัยของตัวเอง ดังนั้นเธอจึงหันไปหาวาห์นและถามต่อ
“วาห์น อะไรทำให้เธออยากรู้เรื่องพวกนี้งั้นเหรอ? ฉันสังเกตเห็นว่าเธอทำตัวแปลกๆ มาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว”
เมื่อได้ยินคำถามนี้เข้าไป ทีโอน่าก็เริ่มเหงื่อแตก
วาห์นไม่คิดว่าคำถามนี้จะมีอะไรแปลกๆ เขาจึงตอบอย่างตรงไปตรงมา
“ทีโอน่าจูบผมตอนอยู่ที่ค่ายของเฮเฟสตัสแฟมิเลีย หลังจากนั้นมาผมก็รู้สึกแปลกๆ… เลยออกไปทำลายข้าวของในป่าใกล้ๆ เพื่อคลายเครียด”
พอพูดถึงตรงนี้ วาห์นก็ตระหนักว่าการกระทำของเขามันฟังดูน่าอายมาก
เขาพยายามไอแก้เขินและเล่าต่อ
“หลังจากนั้น ผมก็เลยอยากทำความเข้าใจกับความรู้สึกแปลกๆ นี่… และนั่นก็นำไปถึงตอนที่ทีโอเน่หัวเราะออกมา”
ในขณะที่วาห์นอธิบายทุกอย่าง ริเวียเนียก็พยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีกพร้อมกับที่ใบหน้านิ่งของเธอเริ่มหงิกขึ้นเรื่อยๆ
วาห์นมองเห็นว่าออร่าสีเหลืองและสีม่วงบนร่างของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย
แต่เขาพอบอกได้ว่าอารมณ์ดังกล่าวไม่ได้พุ่งมาที่เขาแต่เป็นทีโอน่าที่เกือบจะออกจากเต็นท์สำเร็จแล้ว
“ทีโอน่า ทั้งเธอกับพี่สาวคงต้องมาคุยกับฉันหลังภารกิจนี้จบลงหน่อยแล้ว ฉันว่างานนี้เราได้คุยกันยาวแน่”
หลังจากจบ ‘บทเรียน’ แล้วริเวเรียก็ให้คำแนะนำกับ ‘นักเรียน’ ทั้งสามคนของเธอ
เธอบอกเรื่องบางเรื่องที่พวกเขาต้องระวังและอธิบายว่าถึงแม้จะอยากลองเรื่องที่ได้เรียนไป แต่พวกเขาก็ต้องเกรงใจคนที่อยู่รอบข้างด้วย
แม้ว่าการแสดงความรักให้กันจะไม่ใช่เรื่องผิด แต่โดยทั่วไปแล้วการกระทำดังกล่าวในที่สาธารณะนั้นถือว่าไม่ค่อยเหมาะสม
ขณะที่เธออธิบาย วาห์นก็ฟังอย่างตั้งใจและพยายามนำทุกอย่างที่เธอพูดไปเทียบกับประสบการณ์ที่ผ่านๆ มาของเขา
นอกเหนือจากสองสามกรณีที่ริเวเรียบอก วาห์นก็ไม่ค่อยเห็นคนอื่นมาแสดงความรักในที่สาธารณะมากนัก
ข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียวก็คือเมื่อตอนที่คู่รักไปออกเดตหรือไม่ก็อยู่ในงานฉลองอะไรแบบนั้น
ตราบใดที่เขาคอยระวังการกระทำของตน วาห์นก็คิดว่าคงไม่ต้องมาแก้ไขพฤติกรรมของตัวเองมากมายนัก
‘บทเรียน’ ทั้งหมดใช้เวลาไปเกือบหนึ่งชั่วโมงครึ่งซึ่งทำให้พวกเขาเหลือเวลาเตรียมตัวอีกหนึ่งชั่วโมงครึ่งเท่านั้น
ริเวเรียให้พวกเขาออกไปก่อนเพราะเธอมีอีกหลายเรื่องที่ต้องไปจัดการ
หลังจากที่วาห์น ทีโอน่า ไอส์ และเลฟิย่าออกมาจากเต็นท์ ทีโอน่าก็เข้ามาใกล้วาห์นและถามขึ้น
“ตอนนี้นายพอจะเข้าใจอะไรมากขึ้นไหม?”
วาห์นมองเห็นใบหน้าคาดหวังแบบเดียวกับตอนก่อนหน้านี้
เมื่อพิจารณาถึงค่าความชื่นชอบที่เธอมีต่อเขา วาห์นจึงไม่คิดว่ามันแปลกหากพวกเขาจะใกล้ชิดกัน
เขายิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนและตอบกลับ
“ยังมีอีกหลายสิ่งที่ฉันกังวลอยู่ แต่ก็ไม่คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วเป็นเรื่องที่ผิดหรอกนะ ตอนนี้ฉันเริ่มจะเข้าใจความรู้สึกต่างๆ แล้วก็อยากทำตัวให้คุ้นเคยกับพวกมันมากขึ้นอีก ถ้ามัวแต่เก็บมันไว้ในใจ ต่อให้ต้นไม้ทั้งหมดบนชั้นที่ 18 ก็คงเอาไม่อยู่แล้วล่ะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของวาห์น ทีโอน่าเริ่มตื่นเต้นและเข้าใกล้เขายิ่งขึ้น
“ถ้างั้นมาลองลองจูบกันหน่อยไหม?”
วาห์นรู้สึกตกใจกับความกระตือรือร้นของเธอ แต่เมื่อพิจารณาหลายๆ เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงสองสามชั่วโมงที่ผ่านมา เขาจึงรู้สึกติดหนี้เธออยู่เล็กน้อย
เพราะเขาไม่เคยจูบใครมาก่อน วาห์นจึงพยายามวางแขนของเขารอบศีรษะของทีโอน่าอย่างที่เธอเคยทำ
ทีโอน่าเริ่มหัวเราะที่วาห์นพยายามเลียนแบบเธอ จากนั้นเธอก็จับมือของเขามาวางไว้ที่รอบเอวแทน
“จะดีกว่าถ้าผู้ชายจับผู้หญิงไว้ที่เอวตอนที่จูบกันนะ~”
วาห์นฟังคำพูดของเธอและพบว่ามันง่ายกว่าจริงๆ ด้วย
ความรู้สึกยืดหยุ่นและอบอุ่นบนฝ่ามือของเขาทำให้หัวใจเต้นแรงยิ่งกว่าตอนที่พยายามโอบรอบคอของเธอซะอีก
วาห์นจับเธอไว้แน่นกว่าเดิมเล็กน้อย ขณะที่ทีโอน่าโอบรอบคอของวาห์นและเขาก็เอนตัวเข้ามาจูบเธอที่ริมฝีปาก
เพราะมันเป็นเพียงจูบที่สองของเขา วาห์นจึงไม่ได้ลองทำอะไรที่อยู่นอกเหนือประสบการณ์จริง
เขารู้สึกว่าตัวเองดูสงบกว่าตอนที่ถูกทีโอน่าจูบเมื่อครั้งก่อนมาก
แม้ว่าในหัวของเขาจะยังมีความคลุมเครือ แต่เขาก็รู้สึกเพลิดเพลินไปกับรสจูบในครั้งนี้มากกว่าเดิม
ในขณะที่จดจ่ออยู่กับความรู้สึกนี้ ดูเหมือนวาห์นจะไม่รู้เลยว่าเวลาได้ผ่านไปนานแค่ไหนแล้วจนกระทั่งมีเสียงดังขึ้นมาจากทางด้านขวา
วาห์นหยุดจูบพร้อมหันหน้าหนีจากสีหน้าเย้ายวนของทีโอน่าและเห็นเลฟิย่ากับไอส์ที่มองมาทางเขา
ดูเหมือนว่าไอส์จะดูหงุดหงิดเพราะวาห์นเห็นคิ้วของเธอขมวดเล็กน้อย ทว่าเลฟิย่าดูเหมือนจะโมโหในสิ่งที่วาห์นทำอยู่แบบชัดเจน
เขาเห็นว่าออร่าของเธอกำลังสั่นไหวราวกับเปลวเพลิงขณะที่เธอมองเขาด้วยสายตากล่าวหา
“ริเวอเรียก็บอกไปแล้วนี่ว่าให้ทำเรื่องแบบนี้ในที่ลับตาคน!? พะ-พะ-พวกนายจะมาทำแบบนี้ตรงนี้ไม่ได้นะ!”
เมื่อมองไปยังมือที่ชี้มาแบบสั่นๆ ของเลฟิย่า วาห์นรู้สึกรำคาญเล็กน้อยและสับสนด้วย
ในที่นี้มีแค่เขากับสามสาวซึ่งทุกคนเป็นคนที่เขาไว้ใจในระดับหนึ่ง
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเลฟิย่าต้องดูหงุดหงิดกับเรื่องจูบด้วย เพราะถ้าเทียบกับตอนที่อาบน้ำด้วยกันแล้วเรื่องนี้ดูแทบจะไม่มีอะไรเลย!
ในที่สุดทีโอน่าก็หลุดจากภวังค์ขณะมองไปทางเลฟิย่าในแบบที่วาห์นพอจะอธิบายได้ว่าเป็นสีหน้าโกรธ-เย้ยหยัน-ยิ้มแย้ม ผสมปนกันไป
“เลฟิย่าาา ทำไมต้องมาขัดจังหวะด้วยเนี่ย”
ทีโอน่ารู้สึกว่าวาห์นเริ่มติดใจการจูบแล้วและอยากให้มันดำเนินต่อไปอีกนานๆ
เลฟิย่าผู้ถูกกล่าวหาต้องรีบส่ายหัวก่อนที่จะชี้ไปทางไอส์
“ฉันไม่ใช่คนที่ส่งเสียงออกมานะ…”
เมื่อหันไปหาไอส์ ทีโอน่าที่รู้จักเธอมานานหลายปีแล้วก็ดูออกว่าเธอกำลังโกรธ
เธอขมวดคิ้วและถามขึ้น “เป็นอะไรเหรอ ไอส์? มาหยุดพวกเราทำไมกัน…”
แทนที่จะตอบคำถามของเธอ ไอส์กลับเดินออกมาและมองไปที่ใบหน้าของวาห์น
เธอยังคงจ้องมองมันต่อไปเรื่อยๆ และยิ่งเธอจ้องนานเท่าไหร่ ทีโอน่าก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเท่านั้น
เธอรู้สึกไม่ค่อยดีกับสถานการณ์ในตอนนี้เลย
ไอส์ผู้ที่ยังคงจ้องวาห์นไปอีกพักหนึ่ง จู่ๆ ก็พูดขึ้น
“จูบ… ฉันอยากลองบ้าง… ”
ขณะที่เธอพูดพร้อมกับเผยหน้าที่แดงขึ้นมาเล็กน้อย ทั้งทีโอน่าและเลฟิย่าต่างก็กรีดร้องออกมาในเวลาเดียวกัน
“เฮ้ยยยยยยยย~!?”