Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล – ตอนที่ 93

ตอนที่ 93

หลังจากเห็นการแจ้งเตือนของระบบ วาห์นก็ต้องตกตะลึง

‘บุคคล’ อีกคนที่มีค่าความชื่นชอบเต็มแล้วก็คือเฮเฟสตัส แถมนั่นมันหลังจากที่เขาได้รู้จักเธอไปสักระยะแล้วด้วย

เขาไม่เข้าใจว่าทำไมทีโอน่าถึงชอบเขาขนาดนั้น และพอหันไปหาก็เห็นรอยยิ้มแสนร่าเริงของเธอจนวาห์นไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกยังไง

จิตใจของเขารู้สึก ‘ขนลุกซู่’ และเหมือนมีแรงกดดันบางอย่างตรงหน้าอก

ฟินน์เห็นว่าวาห์นกำลัง ‘ไม่สบายใจ’ จึงพยายามคุมทีโอน่าเอาไว้ก่อน

“ทีโอน่า เรื่องนั้นเอาไว้ทีหลังเถอะ ตอนนี้เราควรกลับไปที่ริวีร่าก่อน”

ฟินน์ส่งสัญญาณให้ทุกคนออกเดินทาง แต่ทีโอน่าก็เกาะติดวาห์นเหมือนเดิม

เธอยังคงกอดแขนเขาไว้ก่อนจะถามขึ้น

“นายจะกลับไปพร้อมกับพวกเราเลยไหม?”

เมื่อได้ยินคำถามของเธอ วาห์นก็รู้สึกไม่แน่ใจ

ยังไงเขาก็ต้องกลับไปที่นั่นอยู่แล้ว แต่กลับรู้สึกอึดอัดหากต้องถูกลากไปพร้อมกับคนกลุ่มนี้

หลังคิดอย่างถี่ถ้วนดีแล้ว… วาห์นก็ขมวดคิ้วก่อนจะมองเด็กสาวที่ดูร่าเริงและยังไม่ยอมปล่อยเขา

เมื่อเห็นว่ารอยยิ้มของเธอยังไม่จางหายไปแม้แต่น้อยในขณะที่กำลังเฝ้ารอคำตอบจากเขา

ในที่สุด วาห์นก็ยอมแพ้ก่อนถอนหายใจออกมา

“ได้สิ…”

ทีโอน่ามีความสุขกับคำตอบที่ได้และเริ่มออกเดินไปที่ทางออกพร้อมกับเขา

ฟินน์และพรรคพวกที่เหลือนั้นใกล้เดินไปถึงบันไดแล้ว แต่ไอส์กับเลฟิย่ายังอยู่รั้งท้ายเพื่อรอจนกว่าทีโอน่าจะตามมาทัน

เมื่อเห็นวาห์นเดินมากับเธอด้วย ไอส์ก็พยักหน้าให้เล็กน้อยก่อนลงมาเดินข้างกันเพื่อไปสมทบกับคนอื่น

เลฟิย่าเข้ามาเดินตามหลังทุกคนและวาห์นรู้สึกได้ถึง ‘สายตา’ ที่เพ่งเล็งมาตรงหลังศีรษะของเขาอย่างต่อเนื่อง

ตลอดเวลาที่พวกเขาเดินลงบันได ทีโอน่าก็ยิงคำถามใส่วาห์นไม่หยุด

เธอถามเรื่องบ้านของเขา เวลาตั้งแต่ที่เขาเข้าเมืองมา รวมไปถึงอาหารที่เขาชอบทาน

อะไรก็ตามที่เธอนึกคำถามออกและสามารถถามวาห์นได้ เธอก็จะถามออกไปราวกับอยากรู้เรื่องทุกอย่างของเขา

วาห์นตอบคำถามส่วนใหญ่ไป แต่เขาก็ไม่รู้จะทำยังไงกับสาวอเมซอนที่กอดแขนเขาและคอยโดดไปโดดมาอย่างมีความสุข

แม้แต่ไอส์ก็ถามเขาเล็กน้อยเกี่ยวกับวิธีที่วาห์นเติบโตได้อย่างรวดเร็วในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และถามต่ออีกว่าเลเวลของเขาเพิ่มขึ้นบ้างไหมนับตั้งแต่ที่เจอกันครั้งก่อน

เมื่อเธอถามออกไป ริเวเรียก็หูผึ่งในขณะที่ฟินน์เริ่มชะลอความเร็วลงเล็กน้อย

แม้จะไม่ได้หันมามอง แต่พวกเขาก็กำลังตั้งใจฟังบทสนทนาอย่างใกล้ชิด

วาห์นเองก็พอจะรู้ตัวอยู่บ้าง เขาจึงตอบไปแบบสั้นๆ ซึ่งไม่ได้เปิดเผยข้อมูลอะไรมากนัก

ทว่าเขาก็พูดเรื่อง ‘เวทมนต์’ แปลงร่างที่เขาใช้ซึ่งมันพัฒนาขึ้นไปอีกระดับหลังจากที่เขาหนีรอดไปจากเงื้อมมือของจักเกอร์นอตแบบเฉียดฉิว

วาห์นทราบถึงความเป็นไปได้ที่เวทมนตร์จะพัฒนาขึ้นเมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย

เขาจึงใช้โอกาสนี้เพื่อบอกเรื่องจักเกอร์นอตไปด้วยเลย

เพราะโลกิแฟมิเลียเป็นถึงหนึ่งในกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดในเมือง พวกเขาน่าจะสามารถปราบมันลงได้โดยที่ไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อมากเกินไป

เมื่อได้ยินวาห์นพูดถึงการหนีรอดมาจากจักเกอร์นอต ทีโอน่าก็เริ่มหัวเราะออกมาราวเสียสติไปแล้ว

แม้ว่าจะเพียงนิดเดียว แต่วาห์นก็รู้สึกได้ว่าเธอจับแขนเขาแน่นขึ้นมาอีกหน่อย

ส่วนคนอื่นๆ นั้น โดยเฉพาะเหล่าสมาชิกอาวุโสอย่างฟินน์ รีเวเรีย และแกเร็ธต่างก็มีสีหน้าที่จริงจังขึ้น

พวกเขาเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริงเมื่อดูจากการเติบโตของวาห์นและสกิลพิเศษที่เขาใช้ ซึ่งทำให้พวกเขาตกใจมากเมื่อรู้ว่ามีจักเกอร์นอตปรากฏตัวขึ้นบนชั้นที่ 13

พวกเขาอยู่ในดันเจี้ยนมาหลายวันแล้วและยังไม่เคยได้ข่าวอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย

ทั้งกลุ่มหยุดเดินขณะที่ฟินน์หันกลับมาถาม

“เธอแน่ใจหรือเปล่าว่ามอนสเตอร์ตัวนั้นคือจักเกอร์นอต? เพราะมันอาจจะเป็นมอนสเตอร์สายพันธุ์พิเศษก็ได้นะ”

หากสิ่งที่วาห์นพูดเป็นความจริง พวกเขาจะต้องแจ้งไปทางกิลด์เพื่อปิดล้อมพื้นที่ชั้นนั้นหรือไม่ก็ส่งทีมเข้าไปปราบมันลง

พวกเขาจะต้องตรวจหาสาเหตุให้ได้ว่าทำไมมอนสเตอร์ที่ทรงพลังขนาดนั้นถึงไปอยู่บนดันเจี้ยนชั้นกลาง

วาห์นอธิบายถึงการเผชิญหน้าระหว่างเขากับจักเกอร์นอตโดยตกแต่งเรื่องไปบ้างเล็กน้อย

รวมถึงการที่เขาหนีรอดออกมาได้โดยโดดลงหลุมและตกลงมายังชั้นที่ 14

ด้วยเหตุผลบางประการ ขณะที่เล่าถึงตอนหลบหนี วาห์นก็รู้สึกละอายใจกับความอ่อนแอของตัวเอง

เขารู้สึกละอายต่อเด็กสาวที่กำลังกอดแขนเขาอยู่มากเป็นพิเศษแม้จะไม่รู้ว่าทำไมก็ตาม

“ฉันดีใจนะ”

ในขณะที่วาห์นกำลังคิดหนัก เขาก็ได้ยินเสียงเบาๆ จากทางด้านขวา

พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นไอส์ที่มองมาแบบหน้านิ่งๆ ตามสไตล์ของเธอ

เมื่อเห็นว่าเขาได้ยิน เธอจึงพูดต่อ

“นายจะแข็งแกร่งขึ้นอีกมาก สักวันต้องชนะแน่”

ไอส์พูดมันออกมาอย่างไม่ลังเลและทำให้วาห์นรู้สึกมั่นใจมากขึ้น

“ฮ่าฮ่าฮ่า ใช่แล้ว! แม้แต่ฮีโร่ก็ต้องมีแพ้กันบ้าง แต่สุดท้ายพวกเขาก็พลิกกลับมาชนะได้ทุกครั้งไป! ถ้าเป็นคนอื่นไปเจอคงได้ตายก่อนจะคิดหนีซะอีก~!?”

ทีโอน่าดูเหมือนจะเห็นด้วยกับสิ่งที่ไอส์พูดแล้วก็เริ่มให้กำลังใจเขาในแบบที่ดูตื่นเต้นกว่ามาก

แถมไม่ได้มีแค่พวกเธอเท่านั้นที่พูด สมาชิกคนอื่นๆ ต่างก็พูดให้กำลังใจเขาเช่นกัน

แม้แต่เลฟิย่าที่ไม่ค่อยชอบขี้หน้าวาห์นเท่าไหร่ก็ยังกล่าวชมเขาเบาๆ

ในที่สุดทั้งกลุ่มก็ออกมาจากบันไดและวาห์นสังเกตเห็นว่าชั้น 18 ยังอยู่ในช่วงกลางคืน

หลังจากตรวจสอบเวลาจากระบบแล้ว เขาก็รู้ว่ามันเป็นเวลาเกือบจะตีสองซึ่งหมายความว่าโกไลแอธนั้นเกิดเร็วกว่าที่เขาคาดไว้มาก

โชคยังดีที่โลกิแฟมีเลียเดินทางมาถึงก่อน ไม่งั้นเขาอาจตกอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกเจ้าโกไลแอธมาปลุกให้ตื่นแทนก็เป็นได้

และถึงจะเรียกฟาฟเนียร์ออกมาช่วย แต่เขาก็คงจะหมดแรงก่อนได้สู้จริงๆ

ทีโอน่าให้ความสนใจกับวาห์นอยู่ตลอด ดังนั้นเธอจึงถามว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

วาห์นมองไปที่ ‘ท้องฟ้า’ ก่อนที่จะเผยรอยยิ้มโล่งใจออกมา

“ฉันคิดว่าโชคดีมากที่พวกเธอโผล่มาพอดี ทุกอย่างคงจะไม่ค่อยราบรื่นหากไม่มีพวกเธออยู่ด้วย”

นั่นทำให้ทีโอน่ากอดแขนของเขาแน่นขึ้นขณะที่คนอื่นๆ ต่างยิ้มหรือหัวเราะเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำตอบของวาห์น

ขณะที่ทั้งกลุ่มกำลังเดินเข้าไปในชั้นที่ 18 วาห์นก็พบว่าพวกเขาไม่ได้มุ่งหน้าไปทางถิ่นฐาน

หลังจากสอบถามเรื่องนี้ ฟินน์จึงบอกว่าพวกเขากำลังเตรียมการเดินทางไปยังชั้นที่ 30 และกลุ่มสำรวจนั้นมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่ถิ่นฐานจะรองรับได้หมด

ถึงพวกเขาจะมีคฤหาสน์เล็กๆ ที่สามารถรองรับคนได้ประมาณยี่สิบคน แต่แน่นอนว่ามันไม่เพียงพอที่กลุ่มสำรวจจำนวนแปดสิบคนจะเข้าไปอยู่ในนั้นได้หมด

เพราะมีปริมาณคนจำนวนมาก พวกเขาจึงต้องตั้งค่ายพักห่างไปจากถิ่นฐานเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อยู่อาศัยในชั้นที่ 18 เกิดความตึงเครียด

หลังเดินมาเกือบชั่วโมง ทั้งกลุ่มก็มาถึงนอกที่ตั้งค่ายขนาดใหญ่

มีเต็นท์จำนวนกว่า 30 หลังตั้งกระจายอยู่บนทุ่งกว้างข้างๆ ป่า

มีสายน้ำไหลผ่านข้างๆ พื้นที่ค่ายแล้วก็ไหลหายเข้าไปในตัวต้นไม้ยักษ์

เมื่อพวกเขามาถึง ฟินน์ก็พูดกับปาร์ตี้เล็กน้อยก่อนจะสั่งให้แยกย้ายกันไปพัก

เขายังต้องทำรายงานให้กับทางริวีร่าและติดต่อไปทางกิลด์เรื่องจัดการกับจักเกอร์นอต

มีโอกาสสูงมากที่เขาอาจจะต้องเลื่อนการสำรวจออกไปก่อน

หลังจากพิจารณาสถานการณ์เสร็จแล้ว ฟินน์ก็บอกให้วาห์นทราบว่าเต็นท์สีแดงทั้งเจ็ดหลังในโซนตะวันตกนั้นเป็นของเฮเฟสตัสแฟมิเลีย

หากต้องการ วาห์นสามารถไปพักที่นั่นและขอเข้าร่วมกับกลุ่มสำรวจได้ด้วย

พอฟินน์พูดถึงการเข้าไปสำรวจดันเจี้ยนชั้นล่าง วาห์นก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย

ภารกิจของเขาเสร็จไปแล้วครึ่งทาง และการล่ามอนสเตอร์ในดันเจี้ยนชั้นล่างแถมยังได้รับการสนับสนุนจากแฟมิเลียระดับ S นั้นถือได้ว่าเป็นหนทางพิชิตภารกิจที่เร็วที่สุด

เขายินดีตอบรับคำเชิญเพราะมันจะทำให้เขาเคลื่อนไหวได้โดยไม่ต้องมากังวลว่าโอซิริสแฟมิเลียจะเข้ามาวุ่นวาย

ถึงพวกเขาอยากจะทำแบบนั้น แต่ก็คงไม่กล้าทำอะไรในขณะที่มีโลกิแฟมิเลียอยู่ด้วย

เมื่อมองไปที่เต็นท์ วาห์นก็กล่าวอำลาทุกคนและเริ่มเดินออกไป

ทว่าในขณะที่ก้าวเท้าออกไปนั้น ร่างของเขาก็กระตุกเล็กน้อยเพราะทีโอน่าที่ยังคงเกาะแขนเขานับตั้งแต่ชั้นที่ 17 มาจนถึงตอนนี้

ทีโอน่าจับตัวเขาไว้อย่างแน่นหนาขณะมองไปทางคนอื่นๆ

“กัปตัน ขอเบิกเต็นท์สำรองหน่อยได้ไหมคะ? ฉันจะอยู่กับวาห์น”

ฟินน์เริ่มหัวเราะด้วยท่าทาง ‘หน่ายๆ’ ขณะมุ่งหน้าไปที่ริวีร่าอย่างช้าๆ พร้อมกันกับแกเร็ธ

ริเวเรียถูกทิ้งให้คอยดูแลไอส์ขณะที่สาวๆ ที่เหลือจ้องมองทีโอน่าแบบตื่นๆ

ทีโอเน่ก้าวออกมาก่อนจะร้องบอก

“นี่คิดอะไรอยู่เนี่ย ทีโอน่า!? คิดว่าฉันจะให้เธอออกตัวก่อนงั้นเหรอ? ฉันยังไม่ได้มีอะไรกับกัปตันเลย แต่เธอจะมาหนีตามวาห์นไปเนี่ยนะ!?”

ฟินน์ผู้ที่ยังอยู่ในระยะได้ยินเกือบจะสะดุดล้มไปข้างหน้า

คราวนี้เป็นตาของแกเร็ธได้ที่หัวเราะขณะที่คอยตบหลังหนุ่มพลูมผมบลอนด์

“ฉันไม่สนใจเรื่องปัญหาของเธอหรอก~ บอกแล้วไงว่าฉันจะมีลูกกับวาห์น แล้วนี่มันก็เรื่องของฉัน ไม่ใช่ของเธอ!”

ขณะที่ทีโอน่าพูดอยู่ เธอก็ลากวาห์นไปด้วยจนเขาเริ่มขวัญเสีย

เขาพยายามปลดปล่อยตัวเองจากเงื้อมมือของเธอ แต่ก็พบว่าพละกำลังระหว่างพวกเขานั้นต่างกันเกินไป

พอเอาชนะด้วยกำลังไม่ได้ วาห์นจึงพยายามหาทางออกด้วยคำพูดแทน

“เดี๋ยวก่อนทีโอน่า ฉันว่าจะไปอยู่กับเฮเฟสตัสแฟมิเลียดีกว่า ตอนนี้ฉันยังไม่อยากมีลูกหรืออะไรแบบนั้นหรอกเพราะยังมีเรื่องต้องทำอีกตั้งหลายอย่าง!”

ทีโอน่ามองดูเขาด้วยสีหน้าครุ่นคิดและดูเหมือนจะไตร่ตรองคำพูดของเขาไปพักหนึ่ง

หลังจากตัดสินใจได้แล้ว เธอก็ยิ้มกว้างและพูดตอบออกไป

“ไม่มีปัญหา~! ฉันจะดูแลเด็กเองหรือไปก็ส่งไปให้ทางเทลิสคิวร่าดูแล รับรองว่าจะไม่ลำบากนายเลยแม้แต่นิดเดียว~”

เมื่อเธอพูดจบก็เดินลากวาห์นต่อไป

วาห์นพอจะรู้เรื่องเด็ก เพศสัมพันธ์ หรือแม้แต่เรื่องอื่นๆ บางเรื่อง แต่เขาก็ขาดความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับกระบวนการต่างๆ

วาห์นคิดว่ามีเพียงคนที่แต่งงานกันแล้วเท่านั้นถึงจะมีลูกได้ และเขาก็ยังไม่พร้อมที่จะแต่งงานกับใครในตอนนี้

โชคยังดีที่เขาได้รับการช่วยเหลือจากนางฟ้าผมทอง โดยไอส์ได้ก้าวเข้ามาและจับมือของทีโอน่าที่ใช้ลากวาห์นอยู่

ทีโอน่ามองไปทางไอส์ด้วยท่าทางที่ไม่เป็นมิตร

“ไอส์ ทำไมเธอต้องมาขวางฉันด้วย?”

ไอส์จ้องกลับด้วยหน้านิ่งๆ ก่อนจะมองไปมาระหว่างใบหน้าอันน่ากลัวของทีโอน่าและใบหน้าที่ดูวิตกกังวลของวาห์น

ในที่สุดดวงตาของเธอก็จ้องไปที่ทีโอน่าขณะพูดออกมาแบบเรียบๆ

“เขาไม่ชอบแบบนี้”

หลังจากได้ยินคำพูดนั่น ทีโอน่าก็ขมวดคิ้วและหันไปจ้องวาห์น

สีหน้าน่ากลัวของเธอแปรเปลี่ยนเป็นความเศร้าเมื่อตระหนักว่าตัวเองทำให้วาห์นรู้สึกอึดอัดแค่ไหน

หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็คลายมือที่จับอยู่ออกและลดหัวต่ำลง

“ตอนนี้นายคงเกลียดฉันแล้วใช่ไหม?”

ทีโอน่ารู้สึกผิดมากที่บังคับวาห์นโดยไม่สนใจว่าเขาจะคิดยังไง

ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด เธอกลัวว่าการกระทำของเธออาจผลักไสเขาออกไปแทน

วาห์นมองสภาพหดหู่ของเธอและรู้สึกว่าอารมณ์แบบนี้ไม่เหมาะกับเธอเลย

ทุกอย่างที่เขาจำได้เกี่ยวกับทีโอน่าก็คือนิสัยรักสนุกและความมีชีวิตชีวาของเธอ

แต่เนื่องจากความกลัวของตัวเขาเอง เด็กสาวร่าเริงจึงอยู่ในสภาพที่ไม่ค่อยดีนัก

หลังจากพยักหน้าขอบคุณไอส์แล้ว วาห์นก็เดินไปข้างหน้าและลูบหัวทีโอน่า

เขาขยี้ผมของเธออย่างแผ่วเบา จนกระทั่งเธอต้องเงยหน้าขึ้นมามอง

เมื่อเห็นใบหน้าของเธอ วาห์นก็พยายามยิ้มออกมาในแบบที่คิดว่าอ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะทำได้

“ฉันไม่มีวันเกลียดเธอหรอก ทีโอน่า พอเห็นเธอเป็นแบบนี้แล้วฉันเองก็รู้สึกเศร้าไปด้วย ฉันชอบตอนที่เธอยิ้มมากกว่า”

ในขณะที่เขาพูดต่อไป ใบหน้าของทีโอน่าก็เริ่มสว่างขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่เธอจะกระโดดไปข้างหน้าและกอดรัดเขาไว้

เธอยกตัวเขาขึ้นและหมุนตัวไปรอบๆ ขณะกระโดดไปมาอย่างลิงโลด

“อ้าาา ถ้านายยิ่งพูดแบบนี้แล้วจะให้ฉันปล่อยนายไปได้ยังไงกัน!”

ทีโอน่ารู้สึกตื่นเต้นมากจนไม่รู้ตัวเลยว่าแรงที่เธอใช้นั้นกำลังบีบเอาอากาศทั้งหมดออกจากตัววาห์น

หลังจากถูกยกเหมือนเป็นกระสอบทรายและโดนจับหมุนไปรอบๆ เขาก็ไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ออกมาดี

ในขณะที่สติเริ่มพร่าเลือน จิตใจของวาห์นก็เปิดหน้าต่างสถานะของเขาขึ้นมาเพราะเขามักจะคอยเปิดดูมันก่อน ‘นอน’ จนติดเป็นนิสัย…

————————————————————————-

[[สถานะ]]

ชื่อ: [วาห์น เมสัน]

อายุ: 14

เผ่าพันธุ์: มนุษย์, *ถูกผนึก*

ค่าสถานะ: [ดันมาจิ: 1-4]

-เลเวล:2(+)(2)

-พละกำลัง: 1001+(B778)->(S905)

-ความอดทน: 1108+(SS1025)->(SSS1113)

-ความแม่นยำ: 887+(B750)->(S920)

-ความว่องไว: 940+(A828)->(SS1019)

-พลังเวท: 1611+(SSS1198)->(SSS1548)

ค่าสถานะรวมทั้งหมด: 5547+(4579)->(5505) (TL: ของจริงต้องแบบนี้!)

ดวงวิญญาณระดับ 2 (วิญญาณวีรชน)

[กรรม]: 1,473

[OP]: 411,259

[วาลิส]: 171,630

————————————————————————-

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Status: Ongoing

เรื่องย่อโดยผู้แต่ง

วาห์นชายหนุ่มผู้ที่มีความผิดปกติ เนื่องจากการกลายพันธุ์ที่หายาก เลือดของเขาจึงมีความสามารถซ่อนเร้นที่ทำให้เป้าหมายและความเสียหายที่เกิดจากโรคร้ายที่อยู่ภายในร่างกายมนุษย์

ถูกขจัดออกไปในโดยการรักษาครอบจักรวาล เหล่าผู้คนจึงต่างเชิดชูบูชาสถานะของเด็กหนุ่มเหนือกว่าผู้ใดทั้งสิ้นและมอบชื่อให้เขาว่า “ยารักษาสารพัดโรค” ในข่าว

เขาได้รับการยกย่องเป็นเหมือนกับวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่จะนำพายุคสมัยแห่งใหม่หรือคุณภาพชีวิตมนุษย์ที่ดีมาถึง อย่างไรก็ตาม ฉากที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้สดใสเลย

เนื่องจากปัจจัยเฉพาะบางอย่าง วาห์นจึงใช้เวลาช่วงวัยรุ่นทั้งหมดถูกกักขังอยู่ในห้องทดลองกับนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย และทีมวิจัยที่ใช้ร่างกายและเลือดของเขาเพื่อทำการทดลองที่ไม่มีที่สิ้นสุด

สิ่งปลอบใจความทุกข์ทรมานเพียงอย่างเดียวของเขาคืออนิเมะทั้งหลายและหนังสือการ์ตูนที่มีให้เขาดูในระหว่างการทดลอง เขามักจะจินตนาการว่าตนเองเป็นตัวเองที่อยู่ในโลกของตนเอง

dและสุดท้ายเขาก็สามารถควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้ เป็นเวลาหลายปีที่เขาเก็บรักษาความปราถนานี้เอาไว้ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในวัย 14 ปีขณะที่มีองค์กรพยายามลักพาตัวเขาออกจากห้องทดลอง…

“ในที่สุด ผมก็ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไปแล้ว…”

นี่เป็นความคิดสุดท้ายของวาห์นในขณะที่เขาค่อยๆจางหายไปในห้วงแห่งความมืดอันไร้สิ้นสุด…

“ดวงวิญญาณที่น่าสงสาร”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท