เฮเฟสตัสยังคงพิงร่างของวาห์นอยู่และไม่อาจรวบรวมความคิดอะไรออกมาได้เลย
เธอเพียงแต่จ้องไปทางนิ้วของลิลลี่ที่ชี้ใส่ดวงตาเบิกกว้างกับปากที่เผยอออกเล็กน้อยและยังเปียกชุ่มจากการจูบกับวาห์น
สึบากิอุ้มลิลลี่ที่เริ่มดิ้นไปมาขึ้นขณะค่อยๆ เดินไปทางประตูพร้อมกับหัวเราะออกมา
“ฮ่าฮ่าฮ่า งั้นเราค่อยมาใหม่ทีหลังก็แล้วกัน!”
สึบากิแบกลิลลี่ออกไปข้างนอกพร้อมปิดประตูตามหลังให้เสร็จสรรพ
เฮเฟสตัสมองไปทางวาห์นผู้ที่ยังช็อคไม่หาย ก่อนที่เธอจะได้สติขึ้นมาบ้างและแยกตัวออกมา
วาห์นเองก็ได้สติหลังจากที่เธอถอยออกไปและลุกขึ้นมานั่งบนโซฟาขณะที่เฮเฟสตัสรีบวิ่้งไปที่ประตู
“เดี๋ยว กลับมาก่อนสึบากิ!”
เฮเฟสตัสรู้สึกอายมากหลังจากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
เธอลืมไปซะสนิทเลยว่าเธอเป็นคนส่งข้อความให้สึบากิพาลิลลี่มาที่นี่เอง
ตอนนี้ทั้งสองก็ดันมาเห็นเธอกับวาห์นในสภาพที่… ไม่ควรมาเห็นสักเท่าไหร่
สึบากิยังไม่ได้เดินไปไกลนักก่อนที่เฮเฟสตัสจะตามพวกเขาทัน
เธอจ้องมองเฮเฟสตัสที่หายใจหอบๆ ด้วยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า
“แน่ใจเหรอคะ ท่านเฮเฟสตัส~?”
เธอปล่อยให้คำพูดล่องลอยไปในอากาศขณะที่เฮเฟสตัสเริ่มหน้าแดงหนัก
“กลับเข้ามาเดี๋ยวนี้เลยนะ สึบากิ! พวกเรามีเรื่องสำคัญต้องจัดการ!”
ตอนนี้เฮเฟสตัสผิดไปจากปกติแบบลิบลับ เธอแทบจะกรี๊ดออกมาก่อนจะกลับไปที่ห้องทำงานด้วยอารมณ์หัวร้อนแบบสุดๆ
พอเห็นท่าทางปั่นป่วนของเธอ สึบากิอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดังขณะแบกลิลลี่กลับเข้าไปในห้องทำงาน
เธอมองเห็นเฮเฟสตัสยืนพิงขอบโต๊ะขณะที่วาห์นนั่งตัวตรงอยู่บนโซฟาขณะจ้องมองทั้งสองที่เดินกลับเข้ามา
สึบากิปล่อยลิลลี่ลงก่อนจะชูนิ้วโป้งให้กับวาห์นและพูดขึ้น
“วาห์น ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าเธอจะใจกล้าขนาดนั้น ทำได้ดีมาก!”
วาห์นรู้สึกเขินมากขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินคำพูดของเธอขณะที่ลิลลี่รีบเข้ามานั่งข้างๆ เขา
ลิลลี่สำรวจร่างกายของวาห์นและพบว่าผิวของเขามีสีแดงเล็กน้อย
เธอเห็นได้ชัดว่าริมฝีปากของเขาดูบวมๆ และยังมีรอยจูบอยู่ตรงลำคอด้วย
เธอหันไปมองเฮเฟสตัสและพูดขึ้น
“ท่านเฮเฟสตัส… ไม่ยุติธรรมเลยนะคะ”
เมื่อเห็นท่าทางกล่าวหาของลิลลี่ เฮเฟสตัสก็กระแอมออกมาเสียงดังเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ
“พวกเรา… ไม่ได้คิดจะทำอะไรแบบนั้นสักหน่อย ฉันแค่เผลอไปนิดเดียว…
พอดีว่าช่วงนี้ค่อนข้างเครียดจากตอนที่วาห์นอยู่ในห้องพยาบาลน่ะ”
ขณะที่ลิลลี่ยังคงจ้องมองเฮเฟสตัส เธอก็รู้สึกว่าเหมือนมีอะไรมาวางอยู่บนหัวและมือที่คุ้นเคยของวาห์นก็เริ่มขยี้ผมของเธอ
“อย่าโทษเฮเฟสตัสเลยนะ ลิลลี่ ตอนแรกเธอก็พยายามห้ามไว้แล้วแต่ฉันเป็นคนไปจูบเธอก่อนเอง”
คำพูดของวาห์นที่ตั้งใจพูดออกมาเพื่อกอบกู้สถานการณ์นดังเข้าไปในหูของหญิงสาวทุกคนในที่แห่งนั้น
เฮเฟสตัสพยายามปิดหน้าของตนด้วยความเขินอายขณะที่สึบากิโน้มตัวพิงกำแพงพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง
“ทำได้ดี ทำได้ดี~! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
ลิลลี่ดูเหมือนจะได้รับความเสียหายจากคำพูดเหล่านั้นมากที่สุดและถ้าหากที่เขาพูดเป็นเรื่องจริง เธอก็ไม่สามารถไปต่อว่าเฮเฟสตัสได้เลย
“เอ่อ วาห์น… ฉันเองก็เป็นห่วงนายมากเลยนะ!?”
ตอนนี้ลิลลี่เกือบจะบ้าตายแล้วขณะที่วาห์นก็ได้แต่ขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะมองเฮเฟสตัสที่ยังไม่ยอมสบตากับเขา
เมื่อเห็นว่าสึบากิคงไม่ช่วยอะไรแน่ๆ เขาจึงตัดสินใจปลอบลิลลี่ด้วยตัวเอง
วาห์นเอามือออกจากหัวของลิลลี่ก่อนจะโอบไหล่เธอและดึงตัวเข้ามากอดพร้อมลูบหลังของเธออย่างอ่อนโยน
เนื่องจากลิลลี่ตัวเล็กมาก ใบหน้าของเธอจึงมาอยู่ตรงหน้าอกของเขาพอดี
“ขอบใจนะที่เป็นห่วงฉัน แล้วขอโทษด้วยที่ทำให้เธอคิดมาก”
ลิลลี่รู้สึกทรมานเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำพูดนั่น เพราะแม้จะรู้ว่าวาห์นพยายามปลอบเธออยู่ แต่กลิ่นที่ออกมาจากตัวของเขากำลังทำให้เธอรู้สึกเคืองๆ
ลิลลี่ได้กลิ่นของเฮเฟสตัสที่เข้ามาผสมกับกลิ่นตัวของวาห์นได้อย่างชัดเจน ซึ่งมันก็ทำให้เธอรู้สึกหึงนิดหน่อย
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ลิลลี่ดูเหมือนจะตัดสินใจอะไรบางอย่างได้
เธอจึงถอยห่างจากวาห์นไปเล็กน้อยก่อนจะพูดกับเขา
“วาห์น ฉันขอจูบจากนายบ้างได้ไหม?”
เฮเฟสตัสดูเหมือนจะอยากพูดออกอะไรบางอย่างแต่เธอก็ไม่ได้เข้ามาห้ามปราม
สึบากิเองก็จ้องมองอยู่เช่นกันซึ่งเธอได้หยุดหัวเราะไปพักหนึ่งแล้วและมีสีหน้าจริงจังมากขึ้น
วาห์นไตร่ตรองคำขอของลิลลี่และเข้าใจว่ามันเหมือนกับกรณีของไอส์เพราะเธอเองก็มีค่าความชื่นชอบที่สูงมาก
อย่างไรก็ตาม ลิลลี่นั้นแตกต่างไปจากไอส์เพราะเธอยังอ่อนแอเกินไป
วาห์นกลัวว่าหากเขาโอนอ่อนตามใจเธอไปตลอด มันก็อาจทำให้เธอเคยตัวและคงจะเรียกร้องขอความรักความเห็นใจจากเขามากขึ้นไปอีกในอนาคต
ดังนั้นแทนที่จะจูบตรงริมฝีปาก วาห์นจึงกุมใบหน้าของลิลลี่และจูบลงที่หน้าผากของเธอแทนโดยไม่สนใจสายตาคาดหวังนั่นเลย
ลิลลี่เบิกตากว้างราวกับอยากจะพูดอะไรออกมา แต่เธอก็ไม่สามารถสรรหาคำพูดที่จะแทนความรู้สึกในตอนนี้ออกมาได้
วาห์นขยับออกมาเล็กน้อยก่อนจะพูดอย่างอ่อนโยน
“ฉันไม่อยากจะเห็นเธอกลายเป็นคนที่เอาแต่พึ่งพาคนอื่นนะลิลลี่
สำหรับตอนนี้ ฉันอยากให้เธอสนุกไปกับการใช้ชีวิตและมุ่งเป้าไปที่การฝึกฝนไปก่อน
ในอนาคตเรายังมีเวลาอีกมาก ดังนั้นขอให้เธอเพลิดเพลินไปกับการใช้ชีวิตแบบนี้ไปก่อนเถอะนะ”
วาห์นรู้สึกว่าคำแนะนำเขาโอเคดีแล้ว แต่ลิลลี่กลับดูเสียใจกว่าเดิมหลังเขาพูดจบ
น้ำตาเริ่มไปคลอกันอยู่ตรงเบ้าขณะที่เธอพูดออกมาด้วยเสียงสะอื้น
“ฉันจะแข็งแกร่งกว่านี้ วาห์น… ได้โปรดอย่าทิ้งฉันไว้ข้างหลังนะ”
วาห์นส่ายหัวและหัวเราะเล็กน้อยขณะลูบหัวของเธอ
“เด็กโง่ ฉันไม่หนีเธอไปไหนหรอก เธอเป็นคนสำคัญของฉันนะ
ถึงจะยังไม่ใช่อะไรที่มันเกินเลยก็ตาม อย่างน้อยก็สำหรับในตอนนี้”
สึบากิที่ยืนอยู่ด้านข้างพูดขึ้น
“เขาพูดถูกนะลิลลี่ เธอก็น่าจะรู้แล้วว่าวาห์นเป็นคนแบบไหน และสิ่งเธอต้องเอาชนะเป็นอย่างแรกก็คืออดีตของตัวเอง
เธอเองก็ก้าวหน้าไปมากแล้ว ดังนั้นอย่าให้เวลาเสียเปล่าแล้วมาหยุดเดินกลางคันเลย”
ลิลลี่พยักหน้าแต่ก็ยังคงมีน้ำตาเหลืออยู่เล็กน้อยขณะมองไปทางเฮเฟสตัส
“ท่านเฮเฟสตัสคะ…ได้โปรดอย่าเก็บวาห์นไว้คนเดียวนะคะ
ยังมีคนอีกตั้งมากมายที่ห่วงใยเขาเหมือนกัน ท่านทำได้ใช่ไหมคะ?”
เฮเฟสตัสพิจารณาคำพูดของลิลลี่ก่อนจะพยักหน้ารับ
เธอเองก็รู้ดี โดยเฉพาะหลังจากได้ยินวาห์นเล่าออกมาด้วยตัวเองว่าในอนาคตนั้นเธอต้องเจอกับอะไรบ้าง
ในฐานะเทพธิดาที่มีชีวิตยืนยาวมากว่าหลายล้านปีและเป็นอมตะ เธอควรจะยอมรับและมีความอดทนมากกว่าคนอื่นๆ
เธอไม่เคยเชื่อเลยว่าตัวเองจะเก็บคนที่มีศักยภาพและความลับมากมายอย่างวาห์นเอาไว้คนเดียวได้
สึบากิเห็นบรรยากาศเริ่มสงบลงแล้ว รอยยิ้มเจ้าเล่ห์จึงเริ่มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเธออีกครั้ง
เธอมองไปทางวาห์นและลิลลี่ที่อยู่บนโซฟาก่อนจะพูดออกมา
“ลิลลี่ แก้ผ้าซะ”
ลิลลี่ที่กำลังมองไปทางเฮเฟสตัสนั้นสะดุ้งทันทีหลังจากได้ยินน้ำเสียง ‘ออกคำสั่ง’ ของสึบากิ
เธอมองกลับไปและเห็นรอยยิ้ม ‘ปีศาจ’ บนใบหน้านั่นก่อนที่เธอจะถามกลับ
“เอ๋? ท่านสึบากิ?”
เฮเฟสตัสพยักหน้าและทวนคำพูดของสึบากิอีกครั้ง
“ใช่ เธอต้องถอดเสื้อออก
พวกเรากำลังจะทำพิธีเปลี่ยนแฟมิเลียและทำให้เธอกลายเป็นสมาชิกของเราอย่างเป็นทางการ”
เมื่อเห็นวาห์นที่นั่งถัดจากลิลลี่ เฮเฟสตัสก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพูดกับเขา
“เธอจะอยู่ด้วยก็ได้นะวาห์น แต่ห้ามมาก่อกวนการทำพิธีล่ะ”
ลิลลี่ประหลาดใจเมื่อได้ยินว่าตนกำลังจะเข้ารับพิธีเพื่อเปลี่ยนแฟมิเลีย แต่ความคาดหวังก็เริ่มก่อตัวขึ้นหลังได้ยินว่าเฮเฟสตัสอนุญาตให้วาห์นอยู่ที่นี่ต่อ
“จริงด้วยวาห์น อยู่ต่อเถอะนะ! ฉันอยากให้นายเห็นตอนที่ฉันได้เข้าร่วมแฟมิเลียเดียวกันกับนาย!”
ทันใดนั้นลิลลี่ก็รู้สึกตื่นเต้นมากจนความกังวลเมื่อกี้นี้ลอยหายออกนอกหน้าต่างไปจนหมดขณะที่เธอเริ่มถอดเสื้อออก
ทว่าขณะที่มือสัมผัสกับกระดุมบนเสื้อ เธอก็มองเฮเฟสตัสอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันไปหาวาห์น
ลิลลี่อ้าแขนกว้างขณะมองวาห์นด้วยสีหน้าตื่นเต้นและบอกกับเขา
“วาห์น ช่วยถอดเสื้อให้หน่อยสิ~!”
วาห์นถึงกับอึ้งและเห็นว่าแม้แต่เฮเฟสตัสเองก็สะดุ้งหลังจากได้ยินคำพูดของลิลลี่
ผ่านมาอีกครู่หนึ่ง เฮเฟสตัสก็สบตากับวาห์นและพยักหน้าก่อนจะถอนหายใจ
วาห์นผู้ที่ไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับลิลลี่แม้แต่น้อย กำลังยื่นมือออกไปที่เสื้อของเธอและรู้สึกประหลาดใจกับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านและสับสนของตัวเอง
ก่อนที่มือจะไปสัมผัสกับกระดุม เขาก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายเล็กน้อย
แม้ลิลลี่จะตัวเล็กแต่นั่นก็เป็นเพราะลักษณะเผ่าพันธุ์ของเธอ
แน่นอนว่าตอนนี้ร่างกายส่วนต่างๆ ของเธอก็กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วตามภาษาเด็กวัยรุ่น
แม้ว่ามันจะยังไม่ใหญ่เท่ากับในเนื้อเรื่องดั้งเดิม แต่สัดส่วนหน้าอกของลิลลี่ก็ถือได้ว่าดูเป็นผู้ใหญ่แล้ว
ลิลลี่กำลังเฝ้ามองวาห์นแบบตาไม่กระพริบ
พอเห็นเขาลังเลแถมกลืนน้ำลายไปหลายอึก เธอก็รู้สึกภูมิใจกับตัวเองเล็กน้อยพร้อมแอ่นหน้าอกออกไปข้างหน้า
แม้ว่าเรื่องขนาดจะสู้กับของเฮเฟสตัสไม่ได้ แต่ถ้าเป็นคนเผ่าพันธุ์เดียวกันล่ะก็เธอไม่มีทางแพ้แน่นอน
เมื่อเธอแอ่นอกออกไป พวกมันก็สัมผัสกับมือของวาห์นจนเขาทำตัวไม่ถูก
พอรู้สึกว่ายิ่งปล่อยไว้นานก็ยิ่งอาย วาห์นจึงส่ายหัวแรงๆ ก่อนจะรีบเข้าไปจับที่กระดุม
คราวนี้เป็นตาที่ลิลลี่ต้องเขินบ้างเนื่องจากกระดุมบนเสื้อของเธอกำลังถูกวาห์นปลดออกไปทีละเม็ดอย่างช้าๆ
พอเขามาถึงกระดุมเม็ดสุดท้าย ผิวอันเปลือยเปล่าของลิลลี่รวมไปถึงชุดชั้นในลายลูกไม้ที่เธอใส่อยู่ก็เผยออกมาให้เห็นแบบจะๆ
ลิลลี่เขินหนักมากขณะพยายามกัดฟันและแข็งใจไว้เพื่อไม่ให้ร่างกายขยับเขยื้อน
หลังจากที่วาห์นปลดกระดุมเม็ดสุดท้ายแล้ว เขาก็มองเห็น ‘ด้านหน้า’ ของลิลลี่ได้แบบเต็มสองตา
แม้เธอมักจะโชว์หน้าท้องเวลาฝึก แต่วาห์นก็รู้สึกว่าฉากที่เห็นอยู่ตอนนี้เป็นอะไรที่พิเศษกว่ามาก
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถอดเสื้อผ้าให้ผู้หญิง และมันยังทำให้เลือดไหลขึ้นไปรวมกันอยู่ที่ใบหน้าแบบหยุดไม่อยู่
เขายื่นมือไปแตะไหล่ของเธอก่อนจะค่อยๆ ถอดเสื้อออกและอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายอีกครั้งขณะที่เสื้อของเธอตกลงสู่พื้น
ตอนนี้ลิลลี่กำลังยืนอยู่หน้าวาห์นโดยมีแค่ยกทรง กระโปรง และถุงเท้ายาวเท่านั้น
เธอยืนตัวสั่นเทาอยู่ขณะหลับตาปี๋
วาห์นเองก็ได้แต่จ้องมองเธออยู่แบบนั้นก่อนที่สึบากิที่อยู่ข้างๆ จะพูดขึ้น
“ฉันล่ะสงสัยจริงๆ ว่าเธอจะยืนให้วาห์นจ้องอยู่อีกนานไหม?”
วาห์นหันหน้าหนีทันทีหลังจากได้ยินคำพูดของสึบากิพร้อมกับที่ลิลลี่สะดุ้งขึ้นและจะพยายามปกปิดร่างกายของตนด้วยความตื่นตระหนก
เฮเฟสตัสเริ่มจะรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นไปทุกที
เธอขยับเก้าอี้ไปที่กลางห้องแบบดังๆ
“นั่งตรงนี้นะ ลิลลี่ พิธีนี้ไม่ได้ใช้เวลานานนักแต่มันจะทำให้รู้สึกไม่ค่อยสบายอยู่บ้าง
วาห์น… อยู่ตรงนั้นไปก่อนก็แล้วกัน”
วาห์นพยักหน้าราวกับหุ่นยนต์ขณะที่ลิลลี่รีบมานั่งบนเก้าอี้
เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุระหว่างการทำพิธี เฮเฟสตัสจึงหันด้านหลังของเก้าอี้ไปทางโซฟา
เนื่องจากมันเป็นเก้าอี้ไม้และมีช่องว่าง พอลิลลี่นั่งลงไป วาห์นก็เห็นผิวของเธอผ่านช่องว่างอยู่บ้าง
สิ่งที่ทำให้หัวใจของเขาเต้นระรัวหนักก็คือตอนที่ลิลลี่นั่งลงบนเก้าอี้และกางขาออกเล็กน้อยจนกระโปรงเลิกขึ้นมาด้านบน
วาห์นมองเห็นบางอย่างที่มีลายคล้ายกับยกทรงที่ลิลลี่กำลังสวมอยู่และตระหนักทันทีว่าตนได้เห็นของดีเข้าให้แล้ว
ลิลลี่เริ่มเขินอายยิ่งขึ้นขณะจ้องมองปฏิกิริยาต่างๆ ของวาห์น
ทุกครั้งที่สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป เธอก็จะรู้สึกมีความสุขขณะที่หัวใจดวงน้อยๆ ของเธอเริ่มเต้นเร็วเป็นล้านครั้งต่อนาที
ราวกับว่าถ้าสถานการณ์นี้ยังดำเนินนานต่อไปเรื่อยๆ หัวใจของเธอคงจะระเบิดออกมาแน่นอน
ทันใดนั้นเอง ลิลลี่ก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดรุนแรงที่กำลังเผาไหม้บนแผ่นหลังของเธอโดยที่ไม่ได้รับการเตือนล่วงหน้า
ความตื่นเต้นทั้งหมดที่กำลังก่อตัวอยู่นั้นหายเป็นปลิดทิ้งและถูกแทนที่ด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัสที่กำลังแทรกซึมเข้าไปทั่วร่างกายของเธอ
เฮเฟสตัสใช้วาห์นเป็นตัวหลอกล่อความสนใจของลิลลี่
ในตอนที่ ‘ความสุข’ ของเธอเข้าถึงจุดวิกฤต เฮเฟสตัสก็เริ่มทำพิธีเปลี่ยนแฟมิเลียโดยหยดเลือดของเธอลงบนตราสัญลักษณ์ของโซม่าแฟมิเลีย
เมื่อเลือดของเฮเฟสตัสสัมผัสกับตรา รอยสักสีดำก็เริ่มเปล่งแสงสีแดงออกมาขณะที่มันเริ่มถูกเปลี่ยนให้เป็นตราสัญลักษณ์ของเฮเฟสตัสแฟมิเลีย
เพราะว่าการเปลี่ยนแฟมิเลียจะสร้างความเสียหายต่อร่างกายและรากฐานของคนๆ นั้น มันจึงเป็นพิธีกรรมที่สามารถทำได้เพียงแค่ปีละครั้งเท่านั้น
หากละเลยข้อยกเว้นนี้ไป ผู้ที่เข้ารับการทำพิธีอาจจะได้รับความเสียหายแบบถาวร
แม้ว่าจะมันจะไม่ใช่ความผิดของลิลลี่ แต่เฮเฟสตัสก็ยังเคืองๆ ที่พวกเธอเข้ามาขัดจังหวะตอนเข้าได้เข้าเข็ม
แม้เธอคิดจะลงโทษสึบากิด้วย แต่สำหรับตอนนี้เฮเฟสตัสอยากให้ลิลลี่รู้สึกแบบเดียวกับเธอเมื่อตอนก่อนหน้านี้บ้าง
ช่วงที่ลิลลี่เริ่มมีบรรยากาศกระหนุงกระหนิงกับวาห์นนั้นเป็นช่วงเวลาที่เธอเล็งไว้และตัดสินใจเริ่มทำพิธี
วาห์นไม่รู้ถึงแรงจูงใจเบื้องหลังการกระทำของเฮเฟสตัสเลยแม้แต่น้อย
เขาแค่ยังคงจ้องและเฝ้ามองพิธีต่อไปเรื่อยๆ