Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล – ตอนที่ 117

ตอนที่ 117

หลังจากจัดการเรื่องต่างๆ ในบ้านพักเสร็จแล้ว วาห์นก็เดินออกมาราวกับกำลังหนีอะไรบางอย่างหรือบางคนอยู่

‘คำเตือน’ ที่อนูบิสกล่าวไว้ยังคงคาอยู่ในจิตใจและเริ่มทำให้เขากังวลกับหลายๆ อย่างที่เคยทำลงไปในอดีต

เขาไม่มั่นใจว่าตัวเองเริ่มติดนิสัยชอบลูบ/คลำเด็กผู้หญิงเวลาที่พวกเธอดูเศร้ามาจากที่ไหน

วาห์นมักคิดว่ามันจะช่วยปลอบประโลมพวกเธอและทำให้อารมณ์ดีขึ้น แต่ตอนนี้เขาเริ่มตระหนักแล้วว่ามันอาจเป็นการกระทำที่ดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่

เขาเดินไปตามกำแพงคฤหาสน์ของสึบากิจนออกมาสู่ถนนหลักสายหนึ่งก่อนจะหันไปที่ทางเข้าคฤหาสน์อันแสนคุ้นเคย

ประตูด้านหน้าถูกเปิดแง้มไว้เล็กน้อย และวาห์นก็เดินเข้าไปเห็นสึบากิกำลังบำรุงรักษาอุปกรณ์บางอย่างอยู่

พอเธอเห็นเขาเข้ามา สึบากิก็ยิ้มกว้างก่อนจะพูดทักทาย

“ฉันได้ยินมาจากท่านเฮเฟสตัสว่าตั้งแต่นี้ไปเธอจะมาอาศัยอยู่ที่บ้านด้านหลังคฤหาสน์ของฉันแทนใช่ไหม?”

วาห์นพยักหน้าและเริ่มอธิบาย

“ผมได้ตกปากรับคำกับเรื่องบางอย่างที่… เป็นปัญหานิดหน่อย

ตอนนี้ผมกำลังช่วยฝึกให้กับเด็กๆ ของอนูบิสและพยายามพัฒนาความสามารถด้านการตีเหล็กไปด้วย

มีเรื่องที่ผมต้องทำเต็มไปหมดเลย…”

ยิ่งวาห์นพูดออกมา ความกระตือรือร้นของเขาก็ยิ่งลดลงเรื่อยๆ

สึบากิตอบสนองกับความ ‘ความทุกข์’ ของเขาด้วยสีน่าสนใจขณะที่เธอเริ่มหัวเราะเสียงดัง

วาห์นมองไปที่เธออย่างเคืองๆ แต่เธอก็แค่ขมวดคิ้วพร้อมยิ้มแบบ ‘กระหายเลือด’ ให้เขาเท่านั้นเอง

“เธอเปลี่ยนไปเยอะเลยนะตั้งแต่ที่ได้เจอกันล่าสุด มาซ้อมกันหน่อยไหมล่ะ?”

เมื่อได้ยินคำพูดของสึบากิ วาห์นก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและอยากบอกปฏิเสธ

ทว่าก่อนที่เขาจะสามารถตอบออกไป สึบากิก็เริ่มเดินไปทางลานฝึกแล้ว

“ไปกันเถอะ”

พอวาห์นได้ฟังน้ำเสียงเธอแล้วก็เข้าใจทันทีว่าพูดไปก็เท่านั้นเองและเริ่มเดินตามหลังไปขณะที่รู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม

มันดูคล้ายกับกับการซ้อมทั่วไปของพวกเขา

สึบากิยืนอยู่ในระยะห่างที่เหมาะสมก่อนจะรอวาห์นเตรียมตัวให้พร้อม

วาห์นถอนหายใจก่อนจะตั้งท่าป้องกันและเตรียมการถูกเข้าปะทะที่เขาไม่มีทางหนีรอดไปได้

แต่ไม่ว่าจะรอนานขนาดไหน สึบากิก็เอาแต่มองมาราวกับว่าเธอกำลังรออะไรบางอย่างอยู่

วาห์นเริ่มเป็นกังวลดังนั้นจึงถามออกไป

“สึบากิ?”

ในตอนที่พูดขึ้นมา เขาก็เตรียมป้องกันตัวเอาไว้แล้วเพราะคาดว่าเธอคงจะโจมตีตอนที่เขาลด ‘การป้องกัน’ ลง

ตอนนี้สึบากิมีท่าทางที่จริงจังแทนสีหน้ายิ้มแย้มและท่าทางขี้เล่นตามปกติของเธอ

เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยและถามขึ้นมา

“นี่เธอกำลังจริงจังอยู่หรือเปล่า วาห์น?”

วาห์นไม่ค่อยได้เห็นสึบากิโกรธบ่อยนัก เขาจึงกังวลเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าตอนนี้ของเธอ

พอผ่านไปอีกครู่หนึ่ง เขาก็ตอบกลับไป

“ผมพร้อมแล้วครับ… ถึงจริงๆ จะไม่ค่อยอยากซ้อมก็เถอะ”

สึบากิยังคงจ้องมองมาด้วยแววตาดุดันขณะที่เขาเริ่มเหงื่อตกและรู้สึกกลัวขึ้นมาบ้าง

จู่ๆ ท่าทางของสึบากิก็เปลี่ยนจากโกรธเป็นดูซึมๆ แทน

เธอเงยหน้าขึ้นมาด้วยสีหน้าดูถูกและยิ้มเยาะหน่อยๆ

“ฉันนึกว่าเธอจะโตขึ้นกว่าเดิมนะ แต่เท่าที่เห็นน่าจะทำตัวเด็กกว่าเดิมซะอีก”

คำพูดของเธอคมราวกับมีดและทำให้วาห์นหัวร้อนขึ้นมาบ้างเหมือนกัน

เพราะเขาเองก็พยายามพัฒนาตัวเองโดยตลอด การได้ยินคนมาบอกว่าเขาไม่ได้พัฒนาขึ้นนั้นจึงทำให้เขาไม่ค่อยพอใจ

วาห์นลดท่าป้องกันลงและกำหมัดแน่นขณะพูดออกไปด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

“หมายความว่าไงกัน สึบากิ? นี่ผมทำดีที่สุดแล้วนะ!”

เพื่อเป็นการตอบกลับ สึบากิก็เอาแต่หัวเราะด้วยเสียงดัง ‘หึ!’ ขณะมองไปที่เขาอย่างเย็นชา

“ทำดีที่สุดแล้ว แล้วยังไงล่ะ? แล้วตอนนี้นายกำลังทำอะไรอยู่ นี่น่ะเหรอดีที่สุดของนาย!!!?”

เสียงตะโกนของสึบากิราวกับจะท้าทายเสียงของวาห์น

จากทางเดินข้างๆ นาซ่าและลิลลี่ต่างโผล่ออกมาและเฝ้ามองฉากนี้ด้วยความกังวล

เป็นอีกครั้งที่คำพูดของสึบากิเข้ามากรีดหัวใจของวาห์นขณะที่เขาคิดหาคำพูดมาโต้ตอบเธอไม่ได้เลย

วาห์นมาที่บ้านของเธอในสภาพคอตก แต่เธอก็ดันมาท้าเขาซ้อมแม้ว่าเขาจะไม่มีอารมณ์ร่วมเลยก็ตาม

พอเขาตกลงจะซ้อมด้วย เธอก็กลับมาต่อว่าเขาแทนการฝึกซ้อมแบบปกติ

วาห์นเริ่มฉุนจนอยากตะโกนออกมาบ้าง และสุดท้ายก็เป็นไปตามนั้นเลย

“แล้วคุณต้องการจะให้ผมทำอะไรเล่า!!!!!!?”

สึบากิรออยู่สองสามวินาทีหลังจากที่วาห์นตะโกน และเริ่มมองเข้าไปในดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลขณะที่เขากัดฟันด้วยความไม่พอใจ

ในจังหวะที่ทุกอย่างกำลังจะระเบิดออก เธอก็พูดกับเขาแบบเรียบๆ

“ทำตามที่เธอต้องการเถอะ วาห์น แต่อย่าจมปลักอยู่กับมันจนหยุดก้าวไปข้างหน้าต่อ

ต้องมาเห็นเธอเหม่อลอยและกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่ปากก็บอกไปว่าเอาไม่อยู่มันน่าสมเพชชะมัด!

เธอทำตัวเหมือนเด็กเอาแต่ใจที่กำลังงอแงเพราะมีเรื่องเยอะแยะงั้นเหรอ?

เอาล่ะ แล้วใครเป็นคนขับเคลื่อนเหตุการณ์พวกนั้นล่ะ เธอเคยคิดบ้างหรือเปล่า?

ความมุ่งมั่นตอนที่เธอสารภาพรักกับท่านเฮเฟสตัสมันหายไปไหนหมดแล้ว!?”

นับเป็นครั้งที่สามแล้วที่คำพูดของสึบากิเสียบเข้าไปในจิตใจเขา แต่คราวนี้มันเหมือนกับระเบิดที่ทำให้สมองของเขาขาวโพลนไปหมด

เมื่อเช้านี้เขายังพูดกับเฮเฟสตัสอย่างมั่นอกมั่นใจอยู่เลย แต่พอผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง เขากลับสูญเสียความมั่นใจทั้งหมดไปเพราะเหตุการณ์ที่เขาเป็นคนก่อขึ้นมาเอง

เขาเริ่มรู้แล้วว่าทำไมสึบากิถึงดูไม่พอใจ… เพราะตอนนี้เขาเหมือนกับเด็กที่เอาแต่ใจจริงๆ นั่นแหละ…

ทุกคนที่อยู่รอบตัวดูเหมือนจะตอบสนองต่อการกระทำและความปรารถนาของเขา

แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างกลับทำให้เขาคิดว่าสิ่งเหล่านั้นคือปัญหาที่ตัวเองไม่สามารถควบคุมเอาไว้ได้

วาห์นยกมือขึ้นมาและมองไปที่ฝ่ามือของตัวเองด้วยสายตาว่างเปล่าขณะที่พึมพำเสียงเบา

“ผม… ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง ทุกอย่างเปลี่ยนไปเร็วมากจนผมรู้สึกไล่ตามอะไรไม่ทันเลยสักอย่าง…”

วาห์นแค่อยากทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ และอยากทำให้คนรอบข้างเขามีความสุขไปด้วยเท่านั้นเอง

แต่การกระทำของเขากลับมาเพิ่มความเครียดให้กับตัวเองแทน และทำให้เกิดรู้สึกล้าไปหมดเมื่อมองย้อนกลับมาดู ‘ปัญหา’ ที่เขาเป็นคนสร้างขึ้นมา

เท่าที่พอนึกออก ตอนนี้มีคนอยู่เกือบ 20 คนที่เขาต้องให้ความสนใจและจำนวนที่ว่านั่นก็กำลังเพิ่มขึ้นต่อไปจนถึงจุดที่เขาควบคุมไม่อยู่แล้ว

แม้เขาคิดจะวางหลายๆ เรื่องเอาไว้ก่อน แต่วาห์นก็รู้ว่ามันอาจจะมีปัญหาตามมาที่หลังจากการละเลยของตัวเอง

พอได้ยินคำพูดของสึบากิ วาห์นก็รู้สึกหลงทางและไปต่อไม่ถูก…

สึบากิดึงเขาออกมาจากการครุ่นคิดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นชัดเจน

“สู้สิ วาห์น ไม่ว่าจะเลือกทางไหน เธอก็ต้องสู้กับมัน

ทันทีที่หยุดและจมปลักอยู่กับความกังวล เธอก็จะไม่สามารถทำอะไรได้เลยในยามที่จำเป็นจริงๆ

ดังนั้นไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ เธอก็ต้องสู้ต่อไป

นั่นเป็นทางเดียวที่นายจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้โดยไม่เสียใจทีหลัง”

สึบากิเริ่มตั้งท่าต่อสู้ราวกับใกล้จะโจมตีเข้ามาแล้ว

วาห์นยังคงทวนคำพูดของเธอซ้ำไปมาอยู่ภายในใจเหมือนกับเป็นบทสวด

เธอบอกว่าเขาควรจะสู้ต่อโดยไม่คิดถึงการแพ้หรือชนะ ราวกับว่าเธอพยายามจะบอกว่าต่อให้ทำพลาดก็ไม่เป็นไร

แต่วาห์นก็เองไม่อาจยอมรับความคิดนั้นได้ง่ายๆ

เขารู้สึกว่าควรรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง… และนั่นก็ทำให้เขาเข้าใจ

เขารู้แล้วว่าตัวเองต้องการอะไร แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาจึงเมินเฉยต่อเจตนาของตัวเอง

วาห์น… อยากชนะ

เขาไม่อยากหนีความรับผิดชอบ มันกลับกันเลย เขาอยากจะตอบสนองความคาดหวังของทุกคนให้ดีที่สุด

เมื่อเห็นสึบากิที่ยืนรออยู่ตรงหน้าด้วยความอดทน วาห์นก็ตระหนักได้ว่าเธอต้องการจะบอกอะไรกับเขากันแน่

เธออยากจะให้วาห์นก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นใจ และไม่ให้ลืมเหตุผลของตัวเองไปว่าทำไมเขาถึงเลือกเส้นทางนี้

ด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วย ‘ความมั่นใจ’ วาห์นจึงเริ่มใช้ร่างพยัคฆ์ขาวออกมาขณะที่กระจายเขตแดนออกไปทั่วลานฝึก

มันไม่เหมือนกับตอนที่เขารั้งออร่าของพลังเขตแดนเอาไว้ ตอนนี้วาห์นกำลังจดจ่ออยู่กับสิ่งรอบตัวจนแรงกดดันภายในอากาศนั้นกำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างหนาแน่น

สึบากิมองเห็นความมั่นใจที่เริ่มกลับเข้ามาในดวงตาสีฟ้าอันดุดันคู่นั้นอีกครั้งและยิ้มให้กับวาห์นขณะพูดต่อ

“ดูเหมือนเธอจะโตขึ้นมาอีกหน่อยแล้วนะ…”

สึบากิเริ่มกระชับกำปั้นและย่อเอวลงต่ำ

วาห์นเองก็เริ่มตั้งท่าแบบนั่งยองๆ พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจกลับไป

“มีคนมากมายที่คอยช่วยเหลือ ‘ฉัน’ อยู่ ถ้า ‘ฉัน’ ยังเป็นเด็กต่อไปเรื่อยๆ พวกเขาก็คงผิดหวังแย่สิ”

วาห์นและสึบากิต่างยิ้มให้กันขณะที่ร่างของทั้งสายหายไปจากสายตาของนาซ่ากับลิลลี่

มันไม่เหมือนกับการต่อสู้ที่ผ่านมาเลย

เนื่องจากค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นและการพัฒนาสกิลแฝงของวาห์น ตอนนี้เขาสามารถไล่ตามความเร็วของสึบากิทันแล้ว

พอสึบากิสัมผัสถึงเรื่องนี้ได้ เธอก็มีสีหน้าตื่นเต้นขณะที่หมัดของทั้งคู่ปะทะกันกลางอากาศ

วาห์นสัมผัสได้ถึงคลื่นกระแทกที่ออกมาจากจุดเข้าปะทะ และด้วยประสาทสัมผัสที่เฉียบคมขึ้นก็ทำให้เขาเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน

การโจมตีนั่นผลักพวกเขาทั้งสองออกจากกัน ก่อนที่สึบากิจะถีบพื้นขณะพุ่งตรงไปทางวาห์นในชั่วพริบตาและพยายามโจมตีบริเวณไตทันทีที่เขาตกถึงพื้น

วาห์นขยับร่างกายให้โค้งราวกับธนูและหลบการโจมตีที่เข้ามาก่อนจะกระโดดพลิกตัวขึ้นไปอยู่เหนือหัวของสึบากิ

ตลอดการต่อสู้นั้นเขารู้สึกเหมือนกับว่ากำลังดูภาพสโลว์โมชั่นอยู่

ขณะที่กำลังตีลังกากลับหัวกลับหางอยู่นั้น เขาก็มองเห็นหัวของเธอที่ค่อยๆ เงยขึ้นมาหา

สึบากิพุ่งตัวขึ้นมาจากพื้นและพยายามสกัดวาห์นด้วยการเตะไปตรงส่วนหัวขณะที่เขายังคงลอยอยู่กลางอากาศ

วาห์นรับการโจมตีนั่นด้วยมือขณะใช้แรงกระแทกให้เป็นประโยชน์และทิ้งระยะจากสึบากิก่อนจะตกลงสู่พื้นดินห่างจากด้านหลังของเธอไปประมาณ 10 เมตร

สึบากิเริ่มหันมามองเขาอย่างช้าๆ ด้วยสายตาที่ดู ‘บ้าคลั่ง’

วาห์นรู้สึกตื่นเต้นไปกับการต่อสู้มากและก่อนที่เธอจะได้ตั้งท่าอีกครั้ง เขาก็พุ่งออกไปด้วยแรงมหาศาลจนทำให้ลมพัดกระจายไปทั่วบริเวณ

วาห์นเล็งฝ่ามือไปที่ส่วนเอวของเธอและเตรียมเข้าจู่โจมร่างที่ยังไม่ได้ตั้งท่าป้องกันด้วยพลังทั้งหมดที่มี

เขาสัมผัสได้ถึงความกระหายชัยชนะที่พุ่งสูงขึ้นอยู่ภายในจิตใจ

การโจมตีครั้งนี้ไม่มีความลังเลใดๆ ทั้งสิ้นขณะที่ความเร็วและความรุนแรงของมันนั้นเทียบเท่ากับการโจมตีจากนักผจญภัยเลเวล 4 ได้เลย

สีหน้าของสึบากิเปลี่ยนไปเล็กน้อยขณะที่รอยยิ้มของเธอกว้างมากขึ้นเมื่อเห็นความเด็ดขาดของวาห์น

น่าเสียดายที่สิ่งสุดท้ายที่วาห์นเห็นก็คือมือของตัวเองกำลังเคลื่อนทะลุผ่านตัวของสึบากิไปราวกับว่าเธอเป็นแค่ภาพลวงตา

เพราะร่างกายกำลังเอนไปข้างหน้าพร้อมกับฝ่ามือสองข้างที่ยื่นออกไปโจมตี ตอนนี้วาห์นจึงไร้การป้องกันอย่างสมบูรณ์ขณะที่เขาได้ยินเสียงพูดจากทางด้านซ้าย

“พยายามได้ดี… วาห์น”

ทันทีที่เสียงนั้นดังขึ้น เขารู้สึกได้ถึงแรงจับมหาศาลที่ขาทั้งสองข้างก่อนที่ร่างกายและใบหน้าจะถูกเหวี่ยงลงพื้นในอึดใจต่อมา

พอได้สติคืนมาเล็กน้อยก็รู้สึกถึงน้ำหนักบางอย่างกดลงมาบนแผ่นหลังพร้อมสัมผัสนุ่มนิ่มที่แสนจะคุ้นเคย

สึบากิกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนหลังของเขาพร้อมกับกอดอกขณะหัวเราะออกมาเสียงดัง

“ฉันเชื่อว่าตอนนี้คะแนนรวมของเราเป็น 6,148 ต่อ 24 แล้วนะ ดูท่าคงต้องใช้เวลาไปอีกพักนึงก่อนที่ ‘นาย’ จะไล่ตามฉันทันล่ะ!”

พอวาห์นได้ยินคำพูดของเธอก็ถอนหายใจออกมาและล้มลงไปนอนกับพื้นพร้อมแขนที่แผ่ออกไปข้างตัว

นี่ไม่ใช่ครั้งที่สองที่สึบากิมานั่งบนตัวเขาเพราะเธอมักจะทำแบบนี้ทุกครั้งเวลาที่เขาเกิดความ ‘มั่นใจในตัวเองมากเกินไป’

อย่างไรก็ตาม มีเรื่องหนึ่งที่ต่างไปจากครั้งก่อนๆ เพราะตอนนี้วาห์นสัมผัสได้ถึงบางอย่างบนแผ่นหลังที่ทำให้เขารู้สึกแปลกๆ

พอเห็นเขาเงียบไป สึบากิก็มองไปทางด้านข้างและเห็นสีหน้าของเขาซึ่งทำให้เธอเลิกคิ้วขึ้นมา

“อะไรกัน อย่าบอกนะว่าฉันเองก็ตกเป็นเป้าของนายด้วย!?

ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ฉันว่านายต้องโตขึ้นมาอีกหน่อยนะถ้าอยากจะ ‘เอาชนะ’ ฉันได้น่ะ วาห์น!

ฉันไม่ใช่คนที่จะไปกะหนุงกะหนิงวิ่งเล่นรอบตัวนายเหมือนกับสาวๆ คนอื่นหรอกนะ”

ขณะที่เธอหัวเราะ สึบากิก็เริ่มตบเอวของเขาด้วยฝ่ามือแบบแรงๆ

วาห์นรู้สึกหงุดหงิดกับการกระทำของเธอเพราะตอนนี้เขาเองก็ไม่ได้คิดกับเธอถึงขั้นนั้น

สำหรับวาห์นแล้ว สึบากิเป็นเหมือนกับพี่สาวหรือแม่ซะมากกว่า

เขาถึงกับรู้สึกผิดที่เพลิดเพลินไปกับสัมผัสตรงแผ่นหลัง แต่ตอนนี้กลับเริ่มเหลืออดไปกับการเย้าแหย่ของเธอแล้ว

วาห์นสาบานในใจว่าสักวันหนึ่งจะต้องกู้คะแนนกลับมาให้ได้

เขาไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน แต่ตราบใดที่ยังมีโอกาส เขาก็จะค่อยๆ ย่นระยะห่างและทำให้เธอรับรู้ถึงความพยายามของเขา

ทุกการโจมตีที่เธอใส่ลงมาในตอนนี้ เขาจะชดใช้คืนให้อย่างสาสมแน่นอน

พอคิดไว้เสร็จสรรพแล้ว วาห์นก็รออย่างอดทนจนกว่าสึบากิจะเริ่มเบื่อและลงมาจากหลังของเขาเอง

สึบากิยื่นมือออกมาเพื่อช่วยเขาลุกขึ้นจากพื้น

แต่ในช่วงที่วาห์นลุกขึ้น เขาก็เอื้อมมือที่เป็นอิสระออกไปข้างหน้าและใช้ [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า] พร้อมกับลากนิ้วชี้ขึ้นไปตั้งแต่ที่สะดือจนถึงส่วนใต้หน้าอกของเธอ

ดวงตาของสึบากิเบิกกว้างขณะรู้สึกเหมือนโดนไฟดูดที่ลามไปจนถึงส่วนหลัง ก่อนที่เธอจะจับมือของวาห์นและทุ่มเขาข้ามไหล่ของตัวเองไป

เมื่อร่างกายของวาห์นปะทะเข้ากับพื้นดิน มันก็ทำให้เกิดหลุมและรอยแตกขนาดใหญ่ราวกับพื้นส่วนนี้เพิ่งถูกวางระเบิดไป

สึบากิประหลาดใจกับการกระทำของตัวเองและมองวาห์นซึ่งดูราวกับเด็กแสนซนที่เพิ่งจะแกล้งเธอได้สำเร็จ

แม้ว่าจะกำลังกระอักเลือดอยู่ แต่วาห์นก็ยังยิ้มและพูดขึ้น

“6,148 ต่อ 25 แล้วนะ”

หลังจากนั้นเขาก็หมดสติไปและปล่อยให้สึบากิยืนเขินหน้าแดงอยู่ตรงนั้นคนเดียว

สึบากิลากมือไปตามหน้าท้องของตนเองและมองลงไปยังเด็กหนุ่มตัวแสบด้วยท่าทางครุ่นคิดก่อนจะหันไปหาเด็กสาวทั้งสองที่กำลังเฝ้ามองเหตุการณ์ทุกอย่างแบบตาไม่กะพริบ

“พาไอ้เด็กงี่เง่านี่เข้าไปในบ้านแล้วก็จัดการได้ตามสบายเลย”

จากนั้นเธอก็เดินจากไปในขณะที่นาซ่ากับลิลลี่รีบวิ่งเข้ามาเพื่อขุดวาห์นออกจากพื้น

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Status: Ongoing

เรื่องย่อโดยผู้แต่ง

วาห์นชายหนุ่มผู้ที่มีความผิดปกติ เนื่องจากการกลายพันธุ์ที่หายาก เลือดของเขาจึงมีความสามารถซ่อนเร้นที่ทำให้เป้าหมายและความเสียหายที่เกิดจากโรคร้ายที่อยู่ภายในร่างกายมนุษย์

ถูกขจัดออกไปในโดยการรักษาครอบจักรวาล เหล่าผู้คนจึงต่างเชิดชูบูชาสถานะของเด็กหนุ่มเหนือกว่าผู้ใดทั้งสิ้นและมอบชื่อให้เขาว่า “ยารักษาสารพัดโรค” ในข่าว

เขาได้รับการยกย่องเป็นเหมือนกับวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่จะนำพายุคสมัยแห่งใหม่หรือคุณภาพชีวิตมนุษย์ที่ดีมาถึง อย่างไรก็ตาม ฉากที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้สดใสเลย

เนื่องจากปัจจัยเฉพาะบางอย่าง วาห์นจึงใช้เวลาช่วงวัยรุ่นทั้งหมดถูกกักขังอยู่ในห้องทดลองกับนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย และทีมวิจัยที่ใช้ร่างกายและเลือดของเขาเพื่อทำการทดลองที่ไม่มีที่สิ้นสุด

สิ่งปลอบใจความทุกข์ทรมานเพียงอย่างเดียวของเขาคืออนิเมะทั้งหลายและหนังสือการ์ตูนที่มีให้เขาดูในระหว่างการทดลอง เขามักจะจินตนาการว่าตนเองเป็นตัวเองที่อยู่ในโลกของตนเอง

dและสุดท้ายเขาก็สามารถควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้ เป็นเวลาหลายปีที่เขาเก็บรักษาความปราถนานี้เอาไว้ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในวัย 14 ปีขณะที่มีองค์กรพยายามลักพาตัวเขาออกจากห้องทดลอง…

“ในที่สุด ผมก็ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไปแล้ว…”

นี่เป็นความคิดสุดท้ายของวาห์นในขณะที่เขาค่อยๆจางหายไปในห้วงแห่งความมืดอันไร้สิ้นสุด…

“ดวงวิญญาณที่น่าสงสาร”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท