Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล – ตอนที่ 128

ตอนที่ 128

ตอนนี้ยังถือว่าค่อนข้างเช้า แต่วาห์นก็ไม่อาจข่มตาหลับลงได้หลังจากเห็น ‘ความปรารถนาของหัวใจ’ ของไอส์

แม้วาห์นจะใช้เวลานอนน้อยกว่าคนทั่วไปอยู่ แต่ตอนนี้จิตใจที่เหนื่อยล้าของเขาก่อนกลับตื่นตัวเต็มที่ขณะเฝ้ามองสาวๆ ที่หลับอยู่เบื้องหน้า

เนื่องจากสองสาวหลับไปดื้อๆ หลังจบศึก ทั้งไอส์และทีโอน่าจึงอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า

พอเห็นเรือนร่างของพวกเธอ วาห์นก็รู้สึกภูมิใจเล็กน้อยเพราะทั้งคู่ต่างดูงดงามอย่างไม่น่าเชื่อ

เขาได้แต่นั่งอยู่แบบนั้นและเฝ้ามองพวกเธอไปเรื่อยๆ

จนถึงประมาณบ่าย 2 ไอส์ก็ตื่นขึ้นมาและมองไปรอบๆ ด้วยความสับสน

เธอยิ้มหน่อยๆ เมื่อเห็นวาห์นก่อนจะเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้

วาห์นเริ่มรู้สึกคาดหวังเล็กน้อยแล้วก็ไม่ผิดหวังเลยเมื่อไอส์วางมือลงบนไหล่ของเขาก่อนจะเข้ามาจูบ

ตอนที่ริมฝีปากของทั้งสองประกบกันนั้น วาห์นก็รู้สึกท่วมท้นไปด้วยความสุขขณะเพลิดเพลินไปกับริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของไอส์

มันไม่ใช่การจูบเพื่อจุดไฟในกาย แต่เป็นเหมือนการแสดงความรักใคร่ให้แก่กัน

ไม่นานไอส์ก็ถอนริมฝีปากออกหลังจูบไปได้ไม่นาน

เธอเข้ามานั่งพิงแผงอกของวาห์นและพูดขึ้น

“ฉันรู้สึกไม่มีแรงเลย…”

วาห์นสร้างช่องว่างให้ไอส์เข้านั่งตรงกลาง แต่ก็รู้สึกว้าวุ่นเล็กน้อยเมื่อเห็นแผ่นหลังกับส่วนโค้งเว้าอันแสนเย้ายวนของเธอแบบใกล้ชิดติดขอบจอ

เพื่อหลีกเลี่ยงภาพเหล่านี้ เขาจึงยื่นมือทั้งสองออกไปโอบรอบเอวและนำเธอเข้ามาไว้ในอ้อมแขนอย่างอ่อนโยน

ไอส์ทิ้งตัวลงมาและเอียงหัวน้อยๆ เพื่อจะได้มองเห็นใบหน้าของเขา

เธอเริ่มถามต่อราวกับอ่านสีหน้าของเขาออก

“…อยากทำต่ออีกรอบ?”

เมื่อได้ยินคำถาม วาห์นก็รู้สึกถึงความหวังที่ก่อตัวขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็อดใจเอาไว้ได้ก่อนจะจูบลงบนแก้มของเธอเบาๆ และส่ายหัว

“ยังไม่ใช่ตอนนี้ แค่ได้กอดเธอแบบนี้ก็มีความสุขแล้ว… เธองดงามมากเลยนะ”

ไอส์ดูเหมือนจะมีความสุขที่ถูกชมขณะนำมือทั้งสองมาประกบกับมือของวาห์นและหลับตาพริ้ม

เธอยังคงนั่งอยู่เงียบๆ ไปพักหนึ่งก่อนจะพูดต่อ

“ฉันดีใจจริงๆ เลย ตอนแรกก็กลัวมาก แต่ตอนนี้ดีใจที่ได้มาด้วย เหมือนกับว่าร่างกายถูกเติมเต็มไปด้วยความสุข…”

วาห์นรู้สึกประหลาดใจกับคำพูดชัดถ้อยชัดคำนั่น เพราะมันฟังดูไม่เหมือนไอส์ในเวลาปกติเลย

เขาจึงบีบมือเธอเบาๆ เพื่อแสดงให้เห็นว่ากำลังฟังอยู่

รอยยิ้มของไอส์กว้างขึ้นอีกหน่อย จากนั้นก็เงียบไปสองสามนาทีก่อนจะถามต่อ

“นายอยากให้ฉันท้องไหม?”

เมื่อได้ฟังคำถามนี้เข้าไป สมองของวาห์นก็ชะงักไปก่อนจะพยักหน้าช้าๆ และตอบเธอกลับ

“อยาก…”

แม้ตอนนี้จะยังไม่อยากมีลูกเยอะจนเลี้ยงดูไม่ไหว แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสักวันจะต้องได้อุ้มลูกสาวตัวน้อยไว้ในอ้อมแขนแน่นอน

ไอส์เอียงศีรษะและมองเห็นแววตาจริงจังของวาห์น

เธอจ้องมองเขาไปอีกครู่หนึ่งก่อนจะขยับมือลงมาที่ท้องน้อยของตัวเอง

เธอพักมือลงที่บริเวณนั้นและพูดต่อ

“ฉันยังรู้สึกที่ตรงนี้อยู่เลย… แต่ไม่รู้ว่าตัวเองอยากจะมีลูกหรือเปล่า”

วาห์นรู้สึกได้ว่าเธอตัวสั่นเล็กน้อยขณะกำลังพูด

หลังจากได้ ‘เห็น’ อดีตของเธอแล้ว วาห์นก็รู้ว่าไอส์สูญเสียครอบครัวไปและคงหวาดผวากับการคิดสร้างครอบครัวใหม่ทั้งๆ ที่ยังแก้แค้นไม่สำเร็จ

เพราะความรู้สึกสบายจากอ้อมกอดของวาห์น ไม่นานไอส์ก็หยุดตัวสั่น

“ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นแม่ที่ดีได้…”

วาห์นสับสนไปเล็กน้อยกับคำพูดของเธอ จึงถามกลับไป

“ทำไมล่ะ?”

ศีรษะของไอส์ลดต่ำและเริ่มนั่งขดตัวเป็นลูกบอลราวกับจะพยายามย่อขนาดตัวเองให้เล็กลง

ไม่นานเธอก็ตอบด้วยเสียงแผ่วเบา

“ถ้าฉันตาย… กลัวว่าลูกอาจจะเสียใจ ฉันไม่อยากทิ้งให้ลูกอยู่คนเดียว”

วาห์นก้มไปข้างหน้าและจูบศีรษะของไอส์ขณะเพิ่มแรงกอดเข้าไปอีกเล็กน้อย จากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ฉันสาบาน ว่าจะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นแน่นอน

ตอนนี้ฉันอาจจะดูไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่ แต่ในอนาคตจะต้องแข็งแกร่งกว่านี้แน่

เมื่อเธอพร้อม ฉันก็จะรออยู่”

ไอส์พยายามยกศีรษะขึ้นมามองดูใบหน้าของวาห์น

โชคไม่ดีเพราะตอนนี้วาห์นเองก็ยื่นหน้าออกมาเช่นกัน และแล้วหัวของไอส์ก็ชนเข้ากับจมูกของเขาอย่างแรง

แม้แต่ไอส์ก็ยังรู้สึกเจ็บจากอุบัติเหตุ ‘รถชน’ ที่ไม่ได้คาดคิด ขณะเอามือไปลูบหัวตัวเองและหันไปมองวาห์นด้วยดวงตาที่ชื้นนิดๆ

ถึงจะรู้ว่ามันไม่ใช่ความผิดของวาห์น แต่เธอก็อยากจะโทษเขาเพราะบรรยากาศที่เริ่มดีขึ้นมานั้นเสียหมดเลย

ไอส์อยากจะพูดบางอย่างแต่พอเห็นจมูกที่เลือดออกของวาห์น ก็เลยรู้สึกผิดขึ้นมาแทน

เมื่อเห็นวาห์นพยายามห้ามเลือดด้วยสีหน้าตื่นๆ ไอส์ก็อยากจะทำบางอย่างให้…

วาห์นประหลาดใจกับการถูกโหม่งและมีอาการเลือดกำเดาไหลเป็นครั้งแรกในชีวิต

เขาเกือบจะพูดหยอกล้อไอส์ว่าเธอได้ ‘ครั้งแรก’ ของเขาไปอีกอย่างหนึ่งแล้ว

ขณะที่กำลังรักษาอาการบาดเจ็บด้วย [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า] นั้นไอส์ก็หันกลับมาหาและหยุดอยู่ตรงหน้าในท่านั่งคุกเข่า

วาห์นอยากรู้ว่าเธอจะทำอะไรต่อและเฝ้ามองเธอด้วยความสนใจ

สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเหนือความคาดหมายทุกอย่าง เมื่อไอส์เอนตัวมาข้างหน้าและเริ่มเลียเลือดที่ไหลออกจากจมูกของเขา

วาห์นตกใจมากจนต้องรีบดึงตัวออกมาจากการกระทำอันแสนประหลาด และเธอด้วยสีหน้าอึ้งๆ

“ทำอะไรของเธอน่ะ?”

พอมองไปที่ไอส์ก็เห็นเลือดเล็กน้อยบนริมฝีปากของเธอและทำให้เขารู้สึกกลัวขึ้นมานิดหน่อย

ไอส์กลืนเลือดบางส่วนที่ติดอยู่ตรงปากก่อนจะตอบกลับ

“ฉันอยากช่วย… น้ำลายช่วยห้ามเลือดได้?”

ไอส์เอียงศีรษะขณะพูดออกมาและมองวาห์นด้วยสีหน้า ‘ตั้งคำถาม’

ความตระหนกของวาห์นไม่ได้หายไปมากนักหลังจากได้ยินคำตอบของเธอ

เขากลับอยากจะโต้กลับไปว่าเรื่องแบบนั้นมันใช้กับแผลถลอกเล็กๆ เท่านั้นแหละ

การที่สาวงามอันดับต้นๆ ของเมืองมาเลียจมูกให้นั้นเป็นประสบการณ์ที่ยากจะอธิบายเหลือเกิน

มาถึงตอนนี้เลือดที่ไหลก็หยุดลงแล้วขณะเขาพยายามเช็ดมันออกด้วยตัวเอง

ไอส์ทำหน้าเศร้าๆ พอเห็นว่าวาห์นไม่ยอมให้เธอ ‘ช่วย’ จนเขาเริ่มจะรู้สึกผิด

วาห์นรู้สึกว่าปฏิสัมพันธ์ระหว่างเขากับไอส์นั้นมักมีอะไรแปลกๆ อยู่เสมอ และเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้เองที่ทำให้เขาทั้งสนใจแต่ก็หวาดกลัวเธอด้วย

ดูเหมือนว่าไอส์ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ และเธอก็มาจับไหล่ของวาห์นก่อนจะมองไปที่ใบหน้าของเขาด้วยดวงดาหงอยๆ

“ไม่ได้เหรอ?”

วาห์นรู้สึกว่าจิตใจเริ่มจะสั่นคลอนไปกับคำเรียกร้องนั่น แต่ก็พยายามเกลี้ยกล่อมต่อ

“อย่าเลย มันสกปรกนะ…”

ไอส์ขมวดคิ้วขณะส่ายหัวไปมาและบอกปัดคำพูดของเขา

“รสชาติแปลก… แต่มันทำให้ฉันมีความสุขที่ตรงนี้”

ไอส์วางมือขวาลงบนทรวงอกเพื่อสื่อถึงหัวใจของตัวเอง

วาห์นยิ่งรู้สึกผิดกว่าเดิมที่ปฏิเสธคำขอของเธอ และหลังจากมีท่าทางดิ้นรนอยู่เล็กน้อย เขาก็ถอนหายในออกมา

“ก็ได้…”

ไอส์ดูมีความสุขที่เขายอมให้เธอ ‘ช่วย’ ขณะเผยรอยยิ้มออกมาก่อนจะเอนตัวเข้าไปใกล้และเลียรอบๆ จมูกกับปากของเขา

ดวงตาของวาห์นเบิกกว้างขณะปล่อยตัวเองอยู่กับความรู้สึกอันแปลกประหลาด

เขาสัมผัสได้ถึงลิ้นขรุขระนิดๆ ขณะที่เธอ ‘พยายามอย่างหนัก’ เพื่อเลียเลือดที่เหลืออยู่บนใบหน้าเขา

ตอนนี้น้ำลายของเธอทำให้ผิวหนังของเขา ‘สะอาด’ แต่เธอก็ยังคงเลียต่อไปอีกเกือบจะนาทีจนคราบเลือดต่างๆ จางหายไปหมด

จากอีกด้านหนึ่ง ในขณะที่ทั้งคู่ไม่ทันสังเกตนั้น ทีโอน่าก็ตื่นขึ้นมาแล้วและเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงไม่อยากจะเชื่อ

“พวกนายนี่บางทีก็แปลกดีนะ”

ไอส์สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงทีโอน่าและเริ่มถอยห่างจากใบหน้าของวาห์นก่อนกลับมานั่งคุกเข่าด้วยสีหน้าเขินอายเล็กน้อย

วาห์นเองก็เขินหน้าแดงจนถึงรูหู เพราะเขาเริ่มรู้สึกเพลิดเพลินไปกับการทำตัว ‘น่ารัก’ ของไอส์บ้างแล้ว

แถมพอเลียคราบเลือดออกจากใบหน้าของเขาจนหมด เธอก็เริ่มเลียริมฝีปากราวกับเป็นการเย้าแหย่เขาแทน

วาห์นหัวเราะแห้งๆ ขณะมองทีโอน่าที่กำลังนั่งท่าเฉพาะของเธอและรอฟังเขาพูดแก้ตัว

“ไอส์แค่ช่วยฉันทำความสะอาดนิดหน่อยน่ะ… พอดีเมื่อกี้ฉันเลือดกำเดาออก”

ทีโอน่าพยักหน้า ‘เข้าใจ’ แต่แล้วเธอก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะพูดสวนกลับ

“ดูเหมือนกับเจ้าตูบน้อย ‘กำลังจูบ’ เจ้าของแบบตื่นเต้นๆ เลยนะ~”

ความเขินอายของไอส์พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วขณะ ‘จ้องมอง’ ทีโอน่าและพูดสวนกลับไป

“งื่ออ… ทีโอน่า …อย่าแกล้งกันสิ”

เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เห็นไอส์ทำหน้างอนหนัก วาห์นจึงรู้สึกอยากแกล้งเธออย่างท่วมท้น

เขาค่อยๆ ยื่นมือออกมาวางไว้บนหัวของเธอและเริ่มขยี้ผมเล็กน้อย

ทีโอน่าเริ่มหัวเราะตัวงอจนวาห์นเริ่มรู้สึกร้อนๆ เมื่อเห็นท่าทางและผิวที่สะท้อนเข้ากับแสงสลัวๆ ของเธอ

พอถูก ‘ลูบ’ หัวหลังโดนเปรียบว่าเป็น ‘ตูบน้อย’ ไอส์ก็ไม่รู้ว่าเธอควรจะรู้สึกยังไงดี

เธอมองค้อนวาห์นแบบเดียวกับที่มองทีโอน่า

“วาห์นก็เป็นไปกับเค้าด้วย…”

วาห์นได้ฟังแล้วก็ยิ้มๆ ขณะมองเด็กสาวที่ดูน่ารักน่าหยิก

“ไอส์ รู้ไหมว่าตอนนี้เธอน่ารักมาก น่ารักจนฉันอดแกล้งเธอไม่ได้… ยกโทษให้ฉันได้ไหม?”

ตลอดเวลาที่พูด วาห์นก็ยังคงลูบเส้นผมของเธอต่อไป

ไอส์ก้มหัวลงเล็กน้อยและดูเหมือนเธอกำลังไตร่ตรองคำพูดของเขาอยู่

เธอไม่ได้พยายามหยุดการกระทำของเขา ดังนั้นวาห์นจึงขยี้เส้นผมสีทองของเธอต่ออย่างหมั่นเขี้ยว

พอผ่านไปครู่หนึ่ง ไอส์ก็เลยหน้ามองทีโอน่าก่อนจะหันมาหาวาห์น

“โฮ่ง”

ทันทีที่เสียงนั่นเข้ามาถึงใบหู มือของวาห์นก็หยุดลงก่อนจะมองไปที่เด็กสาวด้วยดวงตาเบิกกว้าง

พอเห็นว่ามือหยุดไป ไอส์ก็โน้มตัวไปข้างหน้าและวางมือทั้งสองข้างไว้บนแผงอกของวาห์นก่อนจะเริ่มเลียคางและริมฝีปากของเขาอย่าง ‘สนุกสนาน’

เพราะเขามาแกล้งเธอก่อน และเห็นว่ารู้ตัวดีแต่ก็ยังไม่ยอมหยุดอีก ไอส์จึงตัดสินใจแกล้งเขากลับไปบ้าง

ท่าทางตกตะลึงของเขาทำให้เธอรู้สึกเบิกบานขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นที่ทีโอน่าต้องทักขึ้นมาเลย

“ไอส์ วันนี้เธอ… สุดจริงๆ นะ”

ทีโอน่าคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะทำได้ขนาดนี้ และเริ่มรู้สึกถูกคุกคามอยู่บ้างเมื่อเทียบความรู้สึกของตัวเองกับการแสดงความรักของไอส์

ไอส์หรี่ตามองทีโอน่าก่อนจะจบการ ‘ละเล่น’ ของเธอด้วยการจุ๊บเบาๆ ที่ริมฝีปากของวาห์น

จากนั้นเธอก็ขยับมานั่งคุกเข่าลงที่ตำแหน่งเดิม

“ฉันชนะอีกแล้ว”

วาห์นฟื้นคืนสติหลังได้ยินคำพูดนั่นและจ้องมองสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกของไอส์ซึ่งต่างจากสีหน้าปกติแบบลิบลับ

เธอดูมีความสุขมากแถมยังยิ้มกว้างจนเกือบจะถึงดวงตา

เขาไม่เคยเห็นสีหน้าแบบนี้ของเธอมาก่อนเลยและอดไม่ได้ที่จะยิ้มตอบกลับไป

หลังจากทุกอย่างสงบลงแล้ว วาห์นก็ช่วยสองสาวแต่งตัวและพบว่าการใส่เสื้อผ้าเป็นอะไรที่ยากมากเมื่อเทียบกับการถอดมันออก

มันทำให้เขารู้สึก ‘เศร้า’ นิดๆ ทุกครั้งที่ต้องมาใส่พวกมันทีละชิ้นให้กับพวกเธอ

มันรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลัง ‘ปิดตาย’ ส่วนหนึ่งของตัวเองไป แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เขารู้สึกคาดหวังไปกับการเปิดผนึกมันออกอีกครั้งในอนาคต

กว่าจะช่วยพวกเธอใส่เสื้อผ้าจนเสร็จได้นั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะดูเหมือนทีโอน่าและไอส์กำลังแอบแข่งกันว่าใครจะทำให้เขาสนใจได้มากที่สุด

ตอนที่เขากำลังพยายามใส่ยกทรงให้กับไอส์นั้น เธอบอกให้เขาใส่มันจากด้านหน้าแทนการใส่จากด้านหลังซึ่งดูง่ายกว่า

นั่นทำให้เขาต้องเข้ามาใกล้เธอมากๆ คล้ายกับในตอนที่เขาถอดมันออก

แถมเธอยังใช้โอกาสนี้เอนตัวเข้ามาเลียที่คอของเขาเป็นการปิดท้ายด้วย

ทีโอน่าเองก็ไม่ยอมน้อยหน้าเช่นกัน

เธอรอจนกระทั่งวาห์นหยิบกางเกงขาสั้นสีขาวขึ้นมาและทำให้มันใส่ได้ยากขึ้นโดยกางขาตัวเองออกเพียงเล็กน้อย

วาห์นต้องคุกเข่าลงข้างหน้าเธอ และนั่นก็เป็นการเปิดโอกาสให้กลิ่นเย้ายวนจาก… ที่ต่างๆ เข้ามาขู่โจมเขาจนตั้งตัวไม่ติด

กว่าจะใส่จนเสร็จนั้น อารมณ์เจ้ากรรมก็เกือบทำให้เขาต้องออกไปถางป่าเพื่อพยายามสงบมันลงมา…

ในการแข่งขันเพื่อหาว่าใครจะทำให้วาห์นสนใจได้มากกว่ากันนั้น… ผู้ที่เดินออกมาพร้อมกับชัยชนะก็คือทีโอน่านั่นเอง ขณะที่ไอส์ได้แต่ขมวดคิ้วนิดๆ อยู่เบื้องหลัง

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Status: Ongoing

เรื่องย่อโดยผู้แต่ง

วาห์นชายหนุ่มผู้ที่มีความผิดปกติ เนื่องจากการกลายพันธุ์ที่หายาก เลือดของเขาจึงมีความสามารถซ่อนเร้นที่ทำให้เป้าหมายและความเสียหายที่เกิดจากโรคร้ายที่อยู่ภายในร่างกายมนุษย์

ถูกขจัดออกไปในโดยการรักษาครอบจักรวาล เหล่าผู้คนจึงต่างเชิดชูบูชาสถานะของเด็กหนุ่มเหนือกว่าผู้ใดทั้งสิ้นและมอบชื่อให้เขาว่า “ยารักษาสารพัดโรค” ในข่าว

เขาได้รับการยกย่องเป็นเหมือนกับวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่จะนำพายุคสมัยแห่งใหม่หรือคุณภาพชีวิตมนุษย์ที่ดีมาถึง อย่างไรก็ตาม ฉากที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้สดใสเลย

เนื่องจากปัจจัยเฉพาะบางอย่าง วาห์นจึงใช้เวลาช่วงวัยรุ่นทั้งหมดถูกกักขังอยู่ในห้องทดลองกับนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย และทีมวิจัยที่ใช้ร่างกายและเลือดของเขาเพื่อทำการทดลองที่ไม่มีที่สิ้นสุด

สิ่งปลอบใจความทุกข์ทรมานเพียงอย่างเดียวของเขาคืออนิเมะทั้งหลายและหนังสือการ์ตูนที่มีให้เขาดูในระหว่างการทดลอง เขามักจะจินตนาการว่าตนเองเป็นตัวเองที่อยู่ในโลกของตนเอง

dและสุดท้ายเขาก็สามารถควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้ เป็นเวลาหลายปีที่เขาเก็บรักษาความปราถนานี้เอาไว้ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในวัย 14 ปีขณะที่มีองค์กรพยายามลักพาตัวเขาออกจากห้องทดลอง…

“ในที่สุด ผมก็ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไปแล้ว…”

นี่เป็นความคิดสุดท้ายของวาห์นในขณะที่เขาค่อยๆจางหายไปในห้วงแห่งความมืดอันไร้สิ้นสุด…

“ดวงวิญญาณที่น่าสงสาร”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท