Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล – ตอนที่ 194

ตอนที่ 194

ตอนที่เทพสาวยื่น ‘ยาแก้พิษ’ ออกมาข้างหน้า วาห์นก็เฝ้ามองตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างละเอียด

เธอเป็นเทพธิดาตัวเล็กที่สูงเพียง 140 ซม. และมีรูปร่างบอบบางมาก

เช่นเดียวกับตาที่มีสองสี ผมของเธอเองก็มีสองสีโดยแบ่งข้างกันระหว่างสีขาวและดำ

เธอสวมหน้ากากสีขาวแบบเรียบๆ ที่ปกปิดใบหน้าเกือบหมดและมีส่วนโค้งตรงจมูกเล็กน้อย

เครื่องแต่งกายของเธอนั้นประกอบไปด้วยเสื้อติดซิปตัวใหญ่ที่ดูไม่สมกับขนาดตัว

และเพราะเธอไม่ได้ติดซิปไว้ วาห์นจึงสังเหตุเห็นหน้าอกแบนราบและผิวขาวซีดที่อยู่ด้านในสุด

เธอสวมกางเกงขาสั้นสีดำซึ่งแทบจะถูกเสื้อบังไว้จนมิดและถุงน่องสีดำยาวถึงต้นขากับรองเท้าบูทสีดำที่ยาวประมาณครึ่งน่อง

หากไม่ได้สังเกตดีๆ ก็อาจจะเห็นเป็นว่าเธอกำลังใส่แค่เสื้อเพียงอย่างเดียว

พอเห็นว่าวาห์นไม่ได้ดูตระหนกตกใจอะไรนัก เทพสาวก็เอียงศีรษะและยิ้มแบบวิกลจริตนิดๆ

“นายมีสกิล [ต้านทานสภาวะผิดปกติ] งั้นสิ~? แต่ก็ยังไม่พอหรอก

อย่างมากก็ทนได้นานคนอื่นนิดหน่อยถ้าไม่ได้ยาถอนพิษ~ ฉันว่านายยอมแพ้ก่อนจะเริ่มทรมานดีกว่านะ~!”

ดูเหมือนเธอจะคิดว่าวาห์นกำลังสู้กับพิษในร่างกายอยู่ แต่ความจริงแล้วเด็กหนุ่มไม่ได้เป็นอะไรเลยเนื่องจากคุณสมบัติพิเศษในเลือดของเขานั่นเอง

นั่นคือเหตุผลเดียวกับที่วาห์นไม่เมาจากการดื่มเหล้า

อะไรก็ตามที่เข้าสู่กระแสเลือดของเด็กหนุ่มนั้นจะไม่ส่งผลใดๆ ออกมาทั้งสิ้น

วาห์นขมวดคิ้วก่อนจะค่อยๆ ลด [เลวาไทน์] ลงและถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

“เธอเป็นใคร? แล้วทำทั้งหมดนี่ไปทำไม?

ฉันอยากได้คำตอบ”

วาห์นยังคงชั่งน้ำหนักว่าจะจัดการกับเทพธิดาตรงหน้ายังไงดีเพราะดูเหมือนเธอจะไม่ใช่ประเภทนักสู้

แม้ว่าออร่าของเธอจะเป็นสีเหลืองสดใส แต่วาห์นก็ไม่สนใจเรื่องนั้นเลย เพราะหลังได้รู้จักกับโลกิ วาห์นก็รู้แล้วว่ามีเทพที่สามารถเปลี่ยนสีออร่าได้

และแม้ว่าเธอจะรู้สึกสนใจเขาจริงๆ วาห์นก็ไม่มีทางเชื่อใจเธอได้เพราะนั่นอาจเป็นความผิดเพี้ยนที่เกิดจากพลังศักดิ์สิทธิ์ของเธอ

เมื่อเห็นว่าวาห์นยอมลดอาวุธลง เทพธิดาก็ยิ้มกว้างและเริ่มหัวเราะราวกับเด็กๆ ที่เพิ่งจะไปเล่นซนมา

เธอหรี่ตามองเขาก่อนจะพูดขึ้น

“ฉันชื่อลาเวอร์น่า~! และจากนี้ไปนายต้องมาทำงานให้ฉันแล้ว มาสนิทกันไว้เถอะ~!”

วาห์นส่ายหัวราวกับจะปฏิเสธคำพูดของเธอและถามต่อ

“ทำไมเธอถึงลักพาตัวสองคนนั้นมา แถมยังทรมานมิลานด้วย?

ถ้าจะใช้พวกเธอมาต่อรองก็ต้องดูแลกันให้ดีกว่านี้ไม่ใช่เหรอ?”

ลาเวอร์น่าเอียงหัวราวกับกำลังใคร่ครวญบางอย่าง ไม่กี่อึดใจต่อมา เธอก็ยักไหล่ก่อนจะหัวเราะพลางตอบเด็กหนุ่ม

“ฉันไม่เคยสั่งให้พวกเขาทรมานใครสักหน่อย

ก็แค่บอกให้ไปจับมนุษย์แมวตัวเล็กๆ มาเป็นตัวประกันเพราะดูเหมือนนายจะชอบเธอมาก

แต่ถ้าเกิดมีคนอื่นติดมาด้วย… มันก็ไม่เกี่ยวกับฉันแล้วสิ~!”

วาห์นขมวดคิ้วอย่างหนักและถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชากว่าเดิม

“พวกนั้นเป็นเด็กๆ ของเธอไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงปล่อยปะละเลยให้ทำกันขนาดนี้!”

เมื่อรู้ว่ามิลานไม่ได้อยู่ในแผนด้วยซ้ำ วาห์นจึงรู้สึกราวกับว่าแค่เธอรอดมาได้นี่ก็ถือว่าปาฏิหาริย์แค่ไหนแล้ว

หากมาช้ากว่านั้นไปอีกไม่กี่นาที เขาก็อาจช่วยเธอไว้ไม่ทันและทำให้ทีน่าต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า

ลาเวอร์น่าขมวดคิ้วก่อนจะพูดต่อ

“ฮึ่ม~ ที่ถามออกมานั่นคิดแล้วเหรอ?

ถ้าเจ้าพวกนั้นจ่ายค่าคุ้มครองกับทำตามที่ฉันสั่งมันก็โอเคแล้วนี่ เรื่องอื่นใครจะไปสนกัน?

สิ่งที่สำคัญสำหรับฉันก็แค่การเล่นสนุกกับการหารายได้เข้ากระเป๋าเท่านั้น

ทำไมฉันต้องสนใจว่าคนอื่นจะเป็นยังไงด้วยล่ะ?”

ดูเหมือนเธอจะสับสนกับการโวยวายของวาห์นจริงๆ และเริ่ม ‘ทำหน้ามุ่ย’ ขณะเขี่ยซิปที่เสื้อเล่น

ความรู้สึกเย็นยะเยือกในใจของวาห์นเริ่มขยายใหญ่ขึ้นขณะจ้องมองเทพธิดาผู้ไร้ความรับผิดชอบสิ้นดี

เขาถามพร้อมกับกัดฟันแน่น

“ที่บอกว่า ‘เล่นสนุกกับหารายได้’ นี่มันยังไงกัน?

สองอย่างนี้มันไปอยู่ตรงส่วนไหนในแผนของเธอ!?”

ขณะที่ถามออกไป วาห์นก็ตระหนักถึงเรื่องบางอย่างจนดวงตาที่ดูเกรี้ยวกราดนั้นเริ่มเบิกกว้าง

ดวงตาของลาเวอร์น่าเองก็เบิกกว้างเช่นกัน ก่อนที่เธอจะทุบกำปั้นลงบนฝ่ามืออีกข้างและอุทานออกมา

“จริงด้วยสิ! ขอบคุณนะที่เตือน~!

ฉันอยากให้นายทำพิธีสาบานว่าจะส่งมอบวัตถุดิบทั้งหมดที่เฮเฟสตัสให้ไว้มาด้วย~!

เรื่องนั้นสำคัญก็จริง แต่ตอนนี้ฉันสนใจเรื่องที่นายจะมาทำงานให้มากกว่า… ถ้ายังอยากได้ยาถอนพิษน่ะนะ~!”

เป็นอีกครั้งที่ลาเวอร์น่ายื่นยาแก้พิษออกมาตรงหน้าพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

วาห์นห้อยหัวลงและรู้สึกว่าความโกรธในร่างกายกำลังขยายใหญ่ขึ้นควบคู่ไปกับความเย็นยะเยือกขณะที่เขาถามขึ้นด้วยน้ำเสียงอดกลั้น

“แต่เพราะเรื่องเงิน… เธอก็เลยลักพาผู้หญิงสองคนที่ฉันห่วงใย… เผาบ้านของพวกเธอลง…. และปล่อยให้หนึ่งในนั้นถูกทรมานเกือบตายงั้นเหรอ?

นี่กำลังจะบอกว่าไอ้เรื่องทั้งหมดนี่… ก็เพราะว่าเธออยากได้วัตถุดิบเนี่ยนะ!”

ลาเวอร์น่าส่ายหัวก่อนจะพูดแบบเป็นเหตุเป็นผล

“ก่อนอื่นเลย ฉันไม่รู้นะว่ามนุษย์แมวอีกคนสำคัญกับนายด้วย ไม่งั้นคงสั่งให้ไอ้พวกงี่เง่านั่นจับเธอไว้ตั้งแต่แรก

รู้ไหมว่าเป้าหมายรอบตัวนายที่ดูจัดการง่ายๆ นี่มันหายากขนาดไหน~?

และเรื่องที่สอง ฉันไม่สนใจหรอกว่าวัตถุดิบจะมีอะไรบ้าง แต่ถ้าเอาไปขายในตลาดมืดคงรวยเละแน่เลย!

ด้วยเงินมากมายขนาดนั้น สงสัยคงนอนตีพุงเล่นไปได้อีกนานแสนนาน~!”

วาห์นชกมือซ้ายไปที่ผนังอย่างรุนแรงขณะมองเทพสาวด้วยสีหน้าราวกับเพิ่งได้ยินสิ่งที่น่าขยะแขยงที่สุดบนโลกใบนี้

เขาเริ่มตะโกนใส่เธอแบบสุดเสียง

“ถ้าอยากได้เงินมากก็ไปทำงานหาเอาเองสิ เป็นง่อยหรือไง!!!?

ทำไมต้องทำให้ชีวิตคนอื่นพังพินาศเพราะเรื่องแค่นี้ด้วย!!!”

เนื่องจากระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างร้อนแรง วาห์นจึงเริ่มหอบหายใจขณะกำลังใช้แรงใจทั้งหมดที่มีเพื่อหักห้ามตัวเองไม่ให้สังหารเทพธิดาตรงหน้า

ลาเวอร์น่าแค่ถอนหายใจก่อนจะโบกมือไปมา

“น่าเบื่อจะตาย ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วยล่ะถ้าให้คนอื่นทำแทนได้โดยแลกกับพรของฉัน

ฉันแค่อยากกินอาหารดีๆ ดื่มเหล้าแรงๆ แล้วก็เล่นกับผู้ชายแกร่งๆ~”

ราวกับเพิ่งนึกอะไรออกจากคำพูดของตัวเอง ลาเวอร์น่าเริ่มเลียริมฝีปากก่อนจะเปิดเสื้อออกเล็กน้อยซึ่งเผยให้เห็นหน้าอกไซส์มินิ

เธอหยิบขวดยาถอนพิษออกมาและเทของเหลวข้างในลงไปที่กลางลำตัวพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเย้ายวน

“ที่จริงนายก็แกร่งใช่ย่อยนี่นา~

ไหนๆ ก็จะมาเป็นลูกน้องของฉันแล้ว… มาเป็นของเล่นให้ด้วยเลยละกัน~!

มาสิ ถ้ายอมทำพิธีสาบานล่ะก็ ฉันจะให้นายเลียยาถอนพิษนี่~”

ขณะพูด ลาเวอร์น่าก็ลากนิ้วไปตามท้องก่อนจะเริ่มหายใจแรงขึ้น

ก่อนจะรู้ว่าชั้นข้างบนกำลังถูกบุกรุกนั้น ลาเวอร์น่านั้นกำลัง ‘เล่นสนุก’ กับลูกน้องทั้งสามแบบสุดเหวี่ยง

เทพสาวชอบ ‘ฝึก’ ผู้ชายที่แข็งแกร่งให้เชื่องและเย้าแหย่จนพวกเขาต้องเป็นฝ่ายร้องขอ ‘ความเมตตา’ จากเธอ

การเห็นคนที่สามารถต้านพิษได้นานแบบวาห์นนั้นทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ

เธอจะทำให้เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนนี้เสพติดยาและความสุขจากเรือนร่างของเธอจนเขาต้องยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ลิ้มลองมันอีกครั้ง

ตอนนี้จิตใจของวาห์นได้เข้าสู่ขั้นวิกฤติแล้ว

เขาเริ่มบีบอัดพลังเขตแดนให้เข้มข้นกว่าเดิมและใช้มันกดดันเทพวิกลจริตตรงหน้าที่หลงระเริงว่าตัวเองกำลังเป็นฝ่ายได้เปรียบ

นอกจากจะวางแผนทำร้ายเขาเพื่อประโยชน์ของตัวเองแล้ว เธอยังลากคนที่เขารักเข้ามาเกี่ยวข้องและตอนนี้ยังพยายามเข้ามายั่วยวนเพื่อให้เขาร้องขอชีวิตอีก

ทุกอย่างเกี่ยวกับเทพองค์นี้นั้นมีแต่ความน่าขยะแขยง ไม่ว่าเธอจะดูไร้เดียงสาและบอบบางแค่ไหนก็ตาม

วาห์นใช้พลังในเฮือกสุดท้ายในการหักห้ามตัวและถามต่อ

“พลังศักดิ์สิทธิ์ของเธอคืออะไร?”

ตอนนี้ลาเวอร์น่าเริ่มเหงื่อตกขณะพยายามต่อต้านพลังของวาห์นด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ของตัวเอง

“ฉะ-ฉันเป็นเทพธิดาแห่งหัวขโมย การคดโกง การโกหก และการหลอกลวง

ตอนนี้จงตอบคำถามของฉันบ้าง วาห์น เมสัน… ว่านายเป็นตัวอะไรกันแน่!?”

ท่าทางขี้เล่นของลาเวอร์น่าได้หายไปหมดแล้ว ขณะที่ดวงตาทั้งสองของเธอก็เริ่มส่องประกายมากกว่าเดิม

เธอกำลังเตรียมที่จะใช้อาร์คานั่มออกมาต่อสู้กับเด็กหนุ่ม แม้ว่ามันจะส่งผลให้เธอต้องกลับไปอยู่บนสวรรค์ชั่วคราวก็ตาม

เนื่องจากเขาไม่มีทีท่าว่ากำลังถูกพิษเข้าเล่นงานอยู่เลย ลาเวอร์น่าจึงรู้ว่าร่างกายของวาห์นน่าจะมีอะไรที่ผิดแผกไปจากคนทั่วไปซึ่งก็ได้รับการยืนยันอย่างรวดเร็วเมื่อเขาส่งแรงกดดันออกมา

เท่าที่เธอเห็น วาห์นนั้นมีพลังศักดิ์สิทธิ์เป็นของตัวเองและเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไม่ใครคนอื่นรู้

เธอเริ่มสาปแช่งพวกเด็กๆ ในใจที่ไม่ได้เก็บข้อมูลให้ละเอียดกว่านี้

ลูกครึ่งเทพนั้นไม่ใช่อะไรที่ควรจะไปต่อกรด้วยแบบไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดีก่อน

ยิ่งเป็นลูกครึ่งเทพที่ได้รับการสนับสนุนจากสองในสามของแฟมิเลียอันดับต้นๆ ของเมืองด้วยแล้ว… เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่จุติลงมายังพื้นโลกที่ลาเวอร์น่ารู้สึกเสียใจจริงๆ ที่ไม่ได้คิดอะไรให้รอบคอบกว่านี้

วาห์นยก [เลวาไทน์] ขึ้นมาเล็กน้อย แต่สีหน้าของเขากลับดูเศร้าผิดกับท่าทาง

แม้จะไม่ได้ลดการระวังตัวลง แต่ลาเวอร์น่าก็รู้สึกว่าปฏิกิริยาของเขาดูแปลกๆ และทำให้เธออึดอัดกว่าเดิม

แรงกดดันที่ร่างกายของเทพสาวเริ่มจางลงจนเธอรู้สึกงงไปหมดแล้ว

ตอนแรกนั้นดูเหมือนว่าวาห์นกำลังจะลงมือเพราะความโกรธ แต่ตอนนี้เขากลับดูสงสารเธอแทน

แม้จะไม่รู้เหตุผล แต่ลาเวอร์น่าก็หยุดใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ขณะส่งยิ้มเย้ยหยันไปทางวาห์นซึ่งกำลังถือ [เลวาไทน์] ด้วยท่าทีลังเล

เธอถามขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์

“เป็นอะไรไป เกิดกลัวขึ้นมาหรือไง~? แต่นายก็รอบคอบดีเหมือนกันนะ~

ฉันขอเดาว่านายคงกำลังโกรธแบบสุดๆ แต่ก็ยังไม่บ้าพอที่จะทำลายกฎเหล็กใช่ไหม~?”

วาห์นมองเข้าไปในดวงตาสองสีนั่นและรู้สึกสมเพชกับพลังศักดิ์สิทธิ์ของเธอจริงๆ

ราวกับโชคชะตากำลังเล่นตลกที่ทำให้เธอดูคล้ายเด็กไร้เดียงสาแต่กลับยัดเยียดเส้นทางน่ารังเกียจเป็นของแถมให้โดยที่เธอไม่อาจฝ่าฝืนมันได้

…และถ้าหากไม่มีร่างๆ หนึ่งโผล่มาทางด้านหลังของเทพสาว วาห์นก็ไม่แน่ใจว่าจะเอายังไงกับเธอต่อไปดี

ตอนนี้เขากลับจ้องมองเธอด้วยสีหน้าเศร้าๆ ก่อนจะหลับตาลงอย่างช้าๆ และเอ่ยขึ้น

“อาจจะต้องเปลี่ยนแผนกันหน่อยน่ะ

เพราะต่อให้ฉันฆ่าร่างที่อยู่ตรงหน้าไป วิญญาณของเธอก็จะกลับขึ้นไปบนสวรรค์เพื่อปล่อยข่าวเรื่องนี้อยู่ดี

ฉันจะให้คนอื่นจัดการแทนก็แล้วกัน…”

ลาเวอร์น่าหัวเราะให้กับการตอบสนองของเขาและดูเหมือนเธอจะสนุกอยู่กับ ‘สีหน้าหนักใจ’ ที่วาห์นกำลังทำอยู่มาก

เธอเปิดปากโดยหวังจะหยอกล้อเด็กหนุ่มต่อ แต่ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่ทำแบบนั้น… ลาเวอร์น่าก็รู้สึกถึงแรงกระแทกตรงหลังคอ 2 จุดที่มาพร้อมความเจ็บปวด

เพราะเปล่งเสียงออกมาไม่ได้ เธอจึงพยายามหันศีรษะและหมุนตัวเพื่อดูสิ่งที่เกิดขึ้น แต่กล้ามเนื้อของเธอกลับไม่ตอบสนองอะไรเลย

ก่อนจะหมดสติไป เธอก็จ้องเข้าไปในดวงตาอันแสนเศร้าของวาห์นพร้อมกับที่เสียงของหญิงสาวดังขึ้นจากด้านหลัง

“วาห์นอาจทำใจลงมือเองไม่ได้… แต่ฉันไม่ใช่แบบนั้นนะ เนียะฮะฮ่า~!”

พอลาเวอร์น่าพยายามหันหัวอีกครั้งเพื่อดูหน้าคนพูด มีดคู่ตรงลำคอของเธอก็ถูกบิดอย่างแรงก่อนจะถูกดึงออก

ก่อนจะได้รู้ว่าใครเป็นผู้ ‘สังหาร’ ลาเวอร์น่าก็ล้มลงไปบนพื้นท่ามกลางทางเดินอันมืดมิด

ผ่านไปไม่นาน ร่างของเทพสาวก็เริ่มเปล่งแสงสีขาวก่อนจะสลายกลายเป็นอนุภาคเล็กๆ และหายไปในที่สุด

เธอหายไปในแบบที่คล้ายกับมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนด้วยเวลาเพียงชั่วพริบตา

ตลอดระยะเวลาสั้นๆ นี้ วาห์นได้เฝ้ามองเทพธิดาผู้โชคร้ายด้วยอารมณ์ที่หลากหลายในใจ

ก่อนจะมุ่งความสนใจไปยังหญิงสาวท่าทาง ‘ซุกซน’ ที่สวมฮู้ดสีน้ำเงินเข้มซึ่งมีช่องให้ ‘หูแมว’ ผ่านออกมา

เธอใช้ผ้าปิดหน้าและจมูกไว้อย่างมิดชิดแต่พอมองใกล้ๆ ก็จะเห็นดวงตาสีเขียวอันแสนคุ้นเคย

“ฉันขอโทษนะ โคลอี้…” วาห์นพูดพลางยิ้มเศร้าๆ

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Status: Ongoing

เรื่องย่อโดยผู้แต่ง

วาห์นชายหนุ่มผู้ที่มีความผิดปกติ เนื่องจากการกลายพันธุ์ที่หายาก เลือดของเขาจึงมีความสามารถซ่อนเร้นที่ทำให้เป้าหมายและความเสียหายที่เกิดจากโรคร้ายที่อยู่ภายในร่างกายมนุษย์

ถูกขจัดออกไปในโดยการรักษาครอบจักรวาล เหล่าผู้คนจึงต่างเชิดชูบูชาสถานะของเด็กหนุ่มเหนือกว่าผู้ใดทั้งสิ้นและมอบชื่อให้เขาว่า “ยารักษาสารพัดโรค” ในข่าว

เขาได้รับการยกย่องเป็นเหมือนกับวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่จะนำพายุคสมัยแห่งใหม่หรือคุณภาพชีวิตมนุษย์ที่ดีมาถึง อย่างไรก็ตาม ฉากที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้สดใสเลย

เนื่องจากปัจจัยเฉพาะบางอย่าง วาห์นจึงใช้เวลาช่วงวัยรุ่นทั้งหมดถูกกักขังอยู่ในห้องทดลองกับนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย และทีมวิจัยที่ใช้ร่างกายและเลือดของเขาเพื่อทำการทดลองที่ไม่มีที่สิ้นสุด

สิ่งปลอบใจความทุกข์ทรมานเพียงอย่างเดียวของเขาคืออนิเมะทั้งหลายและหนังสือการ์ตูนที่มีให้เขาดูในระหว่างการทดลอง เขามักจะจินตนาการว่าตนเองเป็นตัวเองที่อยู่ในโลกของตนเอง

dและสุดท้ายเขาก็สามารถควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้ เป็นเวลาหลายปีที่เขาเก็บรักษาความปราถนานี้เอาไว้ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในวัย 14 ปีขณะที่มีองค์กรพยายามลักพาตัวเขาออกจากห้องทดลอง…

“ในที่สุด ผมก็ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไปแล้ว…”

นี่เป็นความคิดสุดท้ายของวาห์นในขณะที่เขาค่อยๆจางหายไปในห้วงแห่งความมืดอันไร้สิ้นสุด…

“ดวงวิญญาณที่น่าสงสาร”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท