Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล – ตอนที่ 218

ตอนที่ 218

หลังจากเฮสเทียสงบลงแล้ว ทั้งคู่ก็เริ่มออกไปดูรอบๆ พื้นที่ส่วนกลางของตัวอาคารซึ่งเฮสเทียตัดสินใจตั้งชื่อให้สถานที่แห่งนี้ว่า ‘คฤหาสน์ฮาร์ธ’ ซึ่งเป็นชื่อที่นำมาจากหนึ่งในพลังศักดิ์สิทธิ์ของเธอเอง
(TL: Hearth [ฮาร์ธ] = เตาไฟ)
สำหรับตราสัญลักษณ์ของอาคาร นอกเหนือจากใส่ตราสัญลักษณ์ของแฟมิเลียเข้าไปแล้ว เฮสเทียอยากให้มันสื่อถึงการพบกันครั้งแรกของเธอกับวาห์นและสายสัมพันธ์ที่ทั้งสองจะสานต่อจากนี้
ผลที่ออกมาก็คือรูปงูมีปีก 2 ตัว ตัวหนึ่งสีดำส่วนอีกตัวมีสีขาวโดยทั้งสองกำลังขดไปรอบๆ เปลวเพลิง 2 สีที่ผสมกันระหว่างสีฟ้าและสีน้ำทะเล
(TL: สีตาของเฮสเทียกับวาห์น)

เนื่องจากวาห์นมีความชำนาญด้านนี้อยู่แล้ว การออกแบบตราขึ้นมาจึงเป็นเรื่องที่ง่ายเสียยิ่งกว่าง่าย
เฮสเทียกอดแบบแปลนไว้ราวกับสมบัติล้ำค่าและวาห์นสัญญาว่าจะทำป้ายโลหะตามแบบและนำมันไปแขวนไว้หน้าตัวคฤหาสน์แน่นอน
เขาคิดจะทำป้ายขึ้นมาจากโลหะที่มีคุณสมบัติเป็นสื่อนำเวทมนตร์และปรับให้มันทำหน้าที่เป็นหนึ่งในแกนหลักของข่ายคุ้มกันคฤหาสน์ด้วย
เนื่องจากเฮเฟสตัสเป็นผู้ออกแบบอาคารและที่ดินผืนนี้ด้วยตัวเอง เรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยและข่ายคุ้มกันต่างๆ จึงถูกติดตั้งเอาไว้บ้างแล้ว
แม้จะยังไม่รู้ว่าเธอใช้จ่ายกับเรื่องนี้ไปมากน้อยแค่ไหน แต่วาห์นพอคำนวณคร่าวๆ ได้ว่ามันต้องไม่ธรรมดาแน่นอน

ขณะที่ทั้งสองเดินดูรอบตัวอาคาร วาห์นก็ไล่ซื้อสิ่งของต่างๆ จากระบบร้านค้าเพื่อตกแต่งคฤหาสน์ไปด้วย
เฮสเทียรู้สึกประหลาดใจกับวิธีที่เขาสามารถ ‘สร้าง’ สิ่งของและดึงพวกมันออกมาจากความว่างเปล่าได้แบบหน้าตาเฉย
แม้จะได้ฟังจากคำบอกเล่ามาบ้างแล้วก็ตาม แต่การที่เขาสามารถใช้พลังที่คล้ายกับอาร์คานั่มของเหล่าเทพได้นั่นเป็นอะไรที่หน้าตื่นตามาก
หลังสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม เธอก็ได้เรียนรู้ว่าวาห์นสามารถสร้างไอเท็มใช้งานทั่วไปได้โดยอาจจะมีคุณสมบัติเวทมนตร์ติดมาด้วยเล็กน้อย
ส่วนไอเท็มแบบใช้ครั้งเดียวที่ ‘สร้าง’ ขึ้นมานั้นมีแต่ตัวเขาที่ใช้มันได้
หากเป็นพวกอุปกรณ์สวมใส่ต่างๆ พวกมันจะต้องผ่านขั้นตอนพิเศษเพื่อโอนสิทธิ์ความเป็นเจ้าของเสียก่อน
เพราะเริ่มสนใจขึ้นมาบ้างแล้ว เฮสเทียเลยถามวาห์นว่าพอจะสร้างเครื่องประดับที่เหมาะสมกับเธอขึ้นมาสักชิ้นได้หรือเปล่า
วาห์นเห็นดวงตาที่เปล่งประกายของเทพสาวและเริ่มคิดอย่างจริงจังว่าควรซื้ออะไรให้เธอดี
เขาตรวจสอบร่างกายของเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าในขณะที่เฮสเทียรอคอยอย่างอดทนแม้ว่าในใจ (และจากออร่าที่วาห์นเห็น) จะรู้สึกตื่นเต้นแบบสุดๆ ก็ตาม
พอเห็นความผิดปกติเล็กน้อย วาห์นก็เอ่ยถามขึ้น
“เธอไม่ชอบใส่รองเท้าเหรอ?”

วาห์นไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนแต่ตลอดเวลาที่เฮสเทียอยู่กับเขา เธอไม่เคยสวมรองเท้าเลย
แม้ถนนบางเส้นจะค่อนข้างขรุขระและมีพื้นผิวที่ไม่สม่ำเสมอหรือแม้กระทั่งเป็นหลุมบ่อ แต่เทพสาวดูจะไม่สะทกสะท้านแม้แต่นิดเดียว
ขณะจ้องมองเท้าเปล่าของเธออย่างสนใจ เฮสเทียก็ยกมันขึ้นมาแกว่งเล่น

“ฉันไม่ชอบสวมรองเท้าเพราะการเดินเท้าเปล่ามันให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติมากกว่าน่ะ
แต่ถ้าอากาศเย็นมากหรือมีฝุ่นเยอะๆ ก็คงต้องหาอะไรมาสวมอยู่ดีนั่นแหละ”

วาห์นฟังสิ่งเธอพูดขณะตั้งข้อสังเกตในใจว่าฝ่าเท้าของเฮสเทียนั้นดูสะอาดสะอ้านและเล็กแค่ไหน
ดูเหมือนจะไม่มีฝุ่นเกาะอยู่เลยสักเม็ดและดูยังไงก็ไม่น่าใช่เท้าที่ใช้เดินลุยไปตามที่ต่างๆ ได้แบบสบายๆ
“จะรังเกียจไหมถ้าฉันขอดูใกล้กว่านี้หน่อย?”
เพราะเธอยังคงแกว่งมันไปเรื่อยๆ วาห์นเลยลองขอดูพวกมันหน่อย
เขารู้สึกสงสัยมากจริงๆ และคงจะไขข้อข้องใจไม่ได้หากมองมันจากจุดที่ยืนอยู่

คำขอนั่นทำให้รอยยิ้มของเฮสเทียกว้างขึ้นก่อนที่เธอจะนั่งลงบนพื้นและยกเท้าขึ้นมาให้วาห์น ‘ตรวจสอบ’
จากมุมที่เฮสเทียนั่งลงไป วาห์นยังมองเห็นชั้นในสีขาวบริสุทธิ์ที่ดูเข้ากับสีชุดของเธอด้วย
เขาสงสัยมากเลยว่าทำไมเธอถึงสวมชุดที่ดู ‘เปิดเผย’ แบบนี้ เพราะความยาวตั้งแต่ส่วนต้นขาไปจนถึงปลายชุดนั้นแทบจะไม่ถึงหนึ่งฝ่ามือด้วยซ้ำ
(TL: ใส่สั้นแบบนี้ไปโรงเรียนนี่โดนตีแน่ๆ)
ถ้าเธอไม่ได้ ‘ตัวเล็กเป็นพิเศษ’ ล่ะก็… ต่อให้ยืนอยู่เฉยๆ วาห์นก็คงเห็นเหมือนกับที่กำลังเห็นอยู่ตอนนี้นี่แหละ
และแม้จะเปลี่ยนไปนั่งบนเก้าอี้ หากไม่ได้นั่งไขว่ห้าง เขาคิดว่ามันก็คงไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่

เฮสเทียนั้นใส่ใจท่าทางกับสีหน้าของวาห์นอย่างใกล้ชิด เทพสาวจึงรู้ทันทีว่าเขากำลังมองอะไรอยู่และนั่นทำให้หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้น
ดูเหมือนเขากำลัง ‘ครุ่นคิด’ อะไรบางอย่างซึ่งไม่น่าจะใช่เรื่องใต้สะดืออะไรแบบนั้นเลย
เทพสาวรู้สึกโล่งอกและทึ่งกับความไร้เดียงสาของเด็กหนุ่มคนนี้เหลือเกิน
ถึงจะดูซื่อบื้อแค่ไหน แต่วาห์นก็ยังใส่ใจและให้ความเคารพกับเรือนร่างของผู้หญิงอย่างแท้จริง
แทนที่จะรู้สึกขยะแขยงจากสายตาของเขา เธอกลับรู้สึกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น

วาห์นคุกเข่าลงและถือข้อเท้าของเฮสเทียด้วยมือซ้ายขณะใช้มือขวาตรวจสอบมันอย่างละเมียดละไมจนเธอเริ่มหัวเราะการถูกสัมผัสเพราะมันจั๊กจี้มาก
การเคลื่อนไหวทำให้ชุดของเฮสเทียเลิกขึ้นมาถึงต้นขาจนวาห์นมองเห็นทุกอย่างแบบเต็มสองตาโดยที่เธอดูจะยังไม่รู้สึกตัว
แทนที่จะจ้องต่อ วาห์นกลับสูดหายใจเข้าลึกๆ และกลับไปจดจ่ออยู่กับเท้าของเธอแทน

อย่างที่เขาคาดไว้เลย ดูเหมือนว่าเท้าของเฮสเทียนั้นนิ่มอย่างไม่น่าเป็นไปได้
เพราะเธอเอาแต่เดินเท้าเปล่าอยู่ตลอด วาห์นเลยคิดว่าผิวตรงส่วนนี้หน้าจะหยาบกร้านและด้านพอสมควร ทว่าพวกมันกลับเรียบเนียนและไม่มีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกใดๆ ทั้งสิ้นราวกับที่เดินมาจนถึงตอนนี้นั้นเป็นเรื่องโกหก
หลังสัมผัสต่อไปอีกชั่วอึดใจ วาห์นก็วางมันลงบนพื้นก่อนจะหันหลังกลับเพื่อปล่อยให้เฮสเทียจัดการกับชุดของตัวเอง

ตอนที่วาห์น ‘ตรวจสอบ’ เท้าเมื่อกี้นี้ เฮสเทียนั้นรู้ดีว่าชุดของเธอกำลังเลิกขึ้นมาเรื่อยๆ และเธอก็ยังให้ความสนใจกับการตอบสนองของวาห์นอยู่เช่นเดิม
แม้จะมองมันในช่วงสั้นๆ แต่เขาก็กลับไปตรวจดูเท้าของเธออย่างจริงจังตามที่เคยพูดไว้
เป็นอีกครั้งเธอเกือบหลุดขำให้กับความไร้เดียงสาและจริงจังของเด็กหนุ่ม
จริงอยู่ที่เธอตีตราว่าเขา ‘ทึ่ม’ ไปแล้ว แต่อย่างน้อยเรื่องการควบคุมสติและสมาธิของเขาก็เป็นอะไรที่น่ายกย่องเช่นกัน

วาห์นช่วยดึงเฮสเทียขึ้นจากพื้นซึ่งทำให้เธอโน้มเข้ามาหาเขาเล็กน้อยก่อนจะทรงตัวได้อีกครั้ง
เธอหัวเราะร่าก่อนจะแยกจากวาห์นและถามขึ้น
“เท้าของฉันเป็นไงบ้าง~?”
เพราะเขาตรวจสอบมันอย่างจริงจัง วาห์นจึงตอบกลับไปแบบตรงๆ
“เป็นเท้าที่เล็กแล้วก็นุ่มมากเลย… ถ้าไม่เห็นกับตาก็คงไม่เชื่อแน่ๆ ว่าเธอเดินเท้าเปล่ามาตลอด”
เฮสเทียหัวเราะให้กับคำตอบนั่นและป่าวประกาศอย่างภูมิใจ
“ก็เพราะฉันเป็นเทพธิดาไงล่ะ!
ร่างกายทุกส่วนของฉันจะงดงามอยู่เสมอ~!”
จากนั้นเทพสาวก็เริ่มหัวเราะแบบ ‘หยิ่งสุดๆ’ ซึ่งวาห์นคิดว่าเธอคงกำลังฮึกเหิมมาก

เพราะเธอไม่จำเป็นต้องสวมรองเท้า วาห์นจึงตัดสินใจตัดพวกมันออกจากตัวเลือกของขวัญ
หากไม่นับหน้าอกขนาดมหึมา เขาคิดว่าชุดของเธอนั้นค่อนข้างสมดุลและมีการใช้สีที่ช่วยเสริมผมยาวสลวยสีดำและดวงตาสีฟ้าใสได้เป็นอย่างดี
เป็นเวลาชั่วครู่ที่สายตาของเขาไปกองอยู่ที่ ‘ช่องตรงหว่างอกของชุด’ ซึ่งทำให้เกิดไอเดียขึ้นมาทันที

วาห์นเริ่มค้นหาเครื่องประดับจากร้านค้าในระบบจนพบสิ่งที่ดูจะเหมาะสมที่สุด
แม้จะยังไม่รู้ความพิเศษของสิ่งที่เลือก แต่มันก็มีราคาถึง 5,000 OP และมีชื่อว่า [แซฟไฟร์สตาร์] ซึ่งอยู่ภายใต้หมวดหมู่ของสร้อยคอ
เนื่องจากเฮสเทียมีดวงตาสีฟ้าที่เปล่งประกายแวววาว วาห์นเลยคิดว่ามันน่าจะเหมาะกับเธอมาก
เขาซื้อมันออกมาทันทีและทันใดนั้น จี้ห้อยคอรูปหยดน้ำสีฟ้าที่ส่องประกายราวกับดวงดาวก็ปรากฏขึ้นมาอยู่บนมือของเขา

[แซฟไฟร์สตาร์] (A/N: ดูไม่ค่อยจำเป็น แต่ผมคิดว่าต้องมีคนอยากรู้แน่นอน)

ระดับ: B (เวทมนตร์)

พลังป้องกัน: 0

พลังป้องกันเวท: 110

ติดตัว: ต้านทานการโจมตีทางจิตและช่วยเสริมพลังและอัตราการฟื้นฟูทางจิต

ใช้งาน: [แซฟไฟร์สตาร์ไลท์: A]: ความสามารถที่ใช้งานได้เพียงครั้งเดียว ช่วยรักษาบาดแผลให้กับเป้าหมายเดี่ยวโดยแลกกับพลังงานทางจิตทั้งหมดที่มี

วาห์นเห็นว่ามันเป็นจี้ที่มีประโยชน์มาก แต่สิ่งเดียวที่เฮสเทียเห็นก็คือสร้อยคอสวยงามแบบไม่น่าเชื่อซึ่งเปล่งประกายด้วยแสงอย่างมีเสน่ห์
ดวงตาของเธอดูเหมือนจะอยากแข่งกับสร้อยเส้นนี้เพราะพวกมันก็กำลังเปล่งประกายออกมาเช่นกัน
“ให้ฉันเหรอ?” เธอถามขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นสุดๆ
ก่อนที่เขาจะได้เอ่ยตอบ เฮสเทียก็ขยับเข้ามาใกล้และเงยคางไปมาซึ่งคล้ายกับท่าทางของอนูบิสและนานูมาก

วาห์นตระหนักว่าเธอคงอยากให้เขาสวมมันให้ เขาจึงยิ้มอ่อนๆ ก่อนจะเอนตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและติดโซ่สีเงินเข้าด้วยกันพร้อมกับมองเห็นสีหน้าตื่นเต้นของเฮสเทียได้อย่างชัดเจน
ขณะกำลังจัดสร้อยคอให้เข้าที่อยู่นั้น วาห์นก็เริ่มอธิบายสรรพคุณและวิธีใช้งานให้ฟัง แต่ดูเหมือนประสาทการรับฟังของเฮสเทียจะลัดวงจรไปชั่วขณะ
ทันทีที่สร้อยถูกติดเรียบร้อยแล้ว เธอก็จับมันขึ้นมาเชยชมทันที

เฮสเทียอุทานออกมาเสียงดังก่อนจะกระโจนออกมาหาเขาพร้อมกางแขนกว้างด้วยความเร็วที่มากกว่านักผจญภัยเลเวล 6
แม้จะรู้สึกประหลาดใจ แต่วาห์นก็รับร่างเล็กไว้ได้แบบทันท่วงทีก่อนจะโดนเจ้าของร่างหอมแก้มเสียฟอดใหญ่พลางหัวเราะอย่างมีความสุข
“ขอบคุณนะ ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณๆๆ มันสวยมากเลย~!” เฮสเทียพูดกับแก้มของวาห์นอย่างดีใจ
เธอใส่แรงเข้าในอ้อมแขนที่กอดคอของวาห์นให้มากกว่าเดิมขณะหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง

วาห์นดีใจที่เห็นว่าเฮสเทียชอบมันมาก… แต่ตอนนี้เขาเริ่มจะรู้สึกอึดอัดกับการตอบสนองของเธอขึ้นมาแล้ว
ตัวของเฮสเทียนั้นไม่ได้หนักอะไรเลย ทว่าหน้าอกขนาดใหญ่นั่นก็กำลังบดขยี้เขาอย่างไร้ความปราณี

ในที่สุดวาห์นก็เริ่มรู้สึกเวียนหัวจนต้องจับที่เอวของเทพตัวเล็กเพื่อเอาเธอออกไป
แม้จะมีการต่อต้านกลับมาด้วยการรั้งคอเขาไว้ แต่แน่นอนว่าวาห์นแรงเยอะกว่าเธอมากและสามารถแกะมันออกได้อย่างไม่ยากเย็น
เฮสเทียที่ยังติดดีใจไม่หายเริ่มส่งสายตา ‘คาดโทษ’ ขณะโดนยกขึ้นราวกับเด็กทารกและวางลงกับพื้นอย่างนุ่มนวล

หลังมองดูเขาอยู่ครู่หนึ่ง เฮสเทียก็ถอนหายใจอย่างหงุดหงิดก่อนจะกลับไปสนใจ [แซฟไฟร์สตาร์] อีกครั้ง
ถึงจะรู้สึกเซ็งกับความทึ่มของคนที่อยู่ตรงหน้า แต่เฮสเทียคิดว่ามันก็ไม่ได้แย่ไปซะหมด
เพราะความ ‘ซื่อ’ และ ‘ไร้เดียงสา’ นั่นทำให้วาห์นเป็นคนที่อยู่ด้วยง่าย คุยง่าย และไม่ต้องคิดอะไรให้ซับซ้อน
หากเขาตอบสนองต่อการกระทำของเธอด้วยความ ‘ความปรารถนา’ หรือ ‘ความหื่นกระหาย’ ล่ะก็… เฮสเทียคงต้องคอยรักษาระห่างจากเด็กหนุ่มคนนี้แทน
แม้จะแสดงท่าทาง ‘เปิดเผย’ หลายครั้ง แต่เธอก็กังวลอยู่เหมือนกันว่าวาห์นจะหน้ามืดขึ้นมาจริงๆ

ตลอดช่วงบ่ายของวันนั้น เฮสเทียคอยเดินตามวาห์นไปรอบๆ คฤหาสน์และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกเฟอร์นิเจอร์และของประดับตกแต่งตามที่พวกเขาคิดว่าน่าจะเหมาะสมกับ ‘บ้านใหม่’ มากที่สุด
เธอแอบหวังว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นบ้านส่วนตัวของทั้งคู่ต่อไปอีกหน่อยเพราะรู้ว่าเดี๋ยวพวกสาวๆ คงย้ายเข้ามาอยู่กันอย่างคับคั่ง
ใจจริงแล้วเฮสเทียอยากจะกันพวกเธอออกไปให้หมดแต่ก็รู้ดีว่ามันเป็นแค่ฝันลมๆ แล้งๆ เพราะยังมีเทพธิดาอย่างเฮเฟสตัส โลกิ และอนูบิสที่เกี่ยวพันกับวาห์นก่อนที่เธอจะจุติลงมารวมอยู่ด้วย
เทพสาวรู้สึกเสียดายกับความ ‘ล่าช้า’ ของตัวเอง ขณะที่จู่ๆ ภาพของสาวมนุษย์แมวผมดำดวงตาสีเขียวท่าทางซุกซนก็ผุดขึ้นมาตามรังควานเธออย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Status: Ongoing

เรื่องย่อโดยผู้แต่ง

วาห์นชายหนุ่มผู้ที่มีความผิดปกติ เนื่องจากการกลายพันธุ์ที่หายาก เลือดของเขาจึงมีความสามารถซ่อนเร้นที่ทำให้เป้าหมายและความเสียหายที่เกิดจากโรคร้ายที่อยู่ภายในร่างกายมนุษย์

ถูกขจัดออกไปในโดยการรักษาครอบจักรวาล เหล่าผู้คนจึงต่างเชิดชูบูชาสถานะของเด็กหนุ่มเหนือกว่าผู้ใดทั้งสิ้นและมอบชื่อให้เขาว่า “ยารักษาสารพัดโรค” ในข่าว

เขาได้รับการยกย่องเป็นเหมือนกับวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่จะนำพายุคสมัยแห่งใหม่หรือคุณภาพชีวิตมนุษย์ที่ดีมาถึง อย่างไรก็ตาม ฉากที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้สดใสเลย

เนื่องจากปัจจัยเฉพาะบางอย่าง วาห์นจึงใช้เวลาช่วงวัยรุ่นทั้งหมดถูกกักขังอยู่ในห้องทดลองกับนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย และทีมวิจัยที่ใช้ร่างกายและเลือดของเขาเพื่อทำการทดลองที่ไม่มีที่สิ้นสุด

สิ่งปลอบใจความทุกข์ทรมานเพียงอย่างเดียวของเขาคืออนิเมะทั้งหลายและหนังสือการ์ตูนที่มีให้เขาดูในระหว่างการทดลอง เขามักจะจินตนาการว่าตนเองเป็นตัวเองที่อยู่ในโลกของตนเอง

dและสุดท้ายเขาก็สามารถควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้ เป็นเวลาหลายปีที่เขาเก็บรักษาความปราถนานี้เอาไว้ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในวัย 14 ปีขณะที่มีองค์กรพยายามลักพาตัวเขาออกจากห้องทดลอง…

“ในที่สุด ผมก็ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไปแล้ว…”

นี่เป็นความคิดสุดท้ายของวาห์นในขณะที่เขาค่อยๆจางหายไปในห้วงแห่งความมืดอันไร้สิ้นสุด…

“ดวงวิญญาณที่น่าสงสาร”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน