Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล – ตอนที่ 244

ตอนที่ 244

ดวงตาของเขาเบิกกว้างและคล้ายกับมีประกายไฟปะทุออกมาเล็กน้อย

“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง!” วาห์นกล่าวอย่างมั่นใจ

ก่อนจะได้ตอบอะไร วาห์นก็ยกร่างของเธอขึ้นจากโซฟาและโบกมือไปที่กลางห้อง

เตียงขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าก่อนที่วาห์นจะใช้ [เคลื่อนย้ายในพริบตา] เพื่อพาเธอขึ้นไปอยู่บนนั้น

ทั้งๆ ที่ตื่นเต้นอยู่นานแล้ว แต่ตอนนี้เฮเฟสตัสรู้สึกเหมือนหัวใจใกล้จะระเบิดออกมาเต็มที

ความเด็ดขาดและว่องไวของวาห์นทำให้เธอรู้สึกเหมือนร่างของตัวเองได้กลายมาเป็นเตาหลอมแทน

ความเจ็บปวดทรมานจากเบื้องลึกค่อยๆ แผ่กระจายออกไปทั่วจนร่างกายสั่นสะท้าน

ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มห้ำหั่นกัน ความคาดหวังต่างๆ นาๆ ก็เฮเฟสตัสก็แหลกเหลวไปก่อนแล้ว

วาห์นเอนตัวลงมาหาเทพสาวและเริ่มจูบจากตรงข้างลำคอ ก่อนจะเขยิบขึ้นไปที่ใบหูร้อนผ่าว ลากมาที่พวงแก้มแดงๆ และปิดท้ายลงตรงริมฝีปากที่เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ

วาห์นอธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่าน้ำลายของเธอมีรสชาติเหมือนอะไร แต่มันก็ทำให้เขาร้อนขึ้น ร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนจิตใจรู้สึกเหมือนถูกแผดเผาด้วยไฟแห่งราคะ

ตอนนี้ออร่าของเฮเฟสตัสกลายเป็นสีชมพูแบบครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว แถมสีตรงใจกลางยังดูเข้มมากจนเริ่มออกเป็นสีเลือด

นี่เป็นเรือนร่างที่ต่อให้เห็นกี่ครั้งก็คงไม่มีวันเบื่อ วาห์นหยุดจูบชั่วคราวและเอื้อมมือลงไปที่เอวของเธออย่างไม่รอช้า

ตอนนี้เฮเฟสตัสกำลังเฝ้ามองด้วยสีหน้าที่ดูน่าหลงใหลที่สุดที่เขาเคยเห็น ลมหายใจของเธอดูติดขัดเล็กน้อยแต่คิดว่าน่าจะพอคุมอยู่

เนื่องจากกางเกงของเธอเป็นแบบรัดรูป วาห์นเลยเจอปัญหาเล็กน้อยขณะพยายามถอดมันออก หลักๆ ก็เป็นเพราะมันเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อและของเหลวอย่างอื่น

ก่อนที่จะได้ไปไกลกว่านั้น วาห์นก็เกือบฟุบลงไปหลังจากได้กลิ่นหอมอบอวนที่ลอยมาจากจุดซ่อนเร้นนั่น

เพราะนี่เป็นกลิ่นที่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นมากในอดีต พอมันมาอยู่ตรงหน้าแบบนี้ วาห์นก็เลยถือโอกาสสูดมันเข้าไปแบบเต็มปอด

แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ประสบการณ์ครั้งแรกของเด็กหนุ่ม แต่ทุกอย่างที่สัมผัสได้ในขณะนี้กลับดูแปลกใหม่ไปหมด

วาห์นต้องพยายามอย่างหนักเพื่อกดความตื่นเต้นของตัวเองลงขณะหันไปจัดการกับเสื้อผ้าที่เหลืออยู่ของเฮเฟสตัส

ตลอดช่วงที่เขาจัดการทุกอย่างอยู่นั้น เฮเฟสตัสก็กำลังกัดหลังมือและปิดตาลงเพราะไม่กล้ามองเรือนร่างที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงของตัวเอง

เป็นเวลาเกือบนาทีที่วาห์นได้แต่จ้องมองร่างเปลือยเปล่าตรงหน้าจนลืมไปเลยว่าจะทำอะไรต่อ

สีแดงระเรื่อที่เข้ามาปกคลุมร่างเอาไว้ยิ่งทำให้เฮเฟสตัสดูงดงามมากกว่าเดิม

สัมผัสเชื่อมโยงทำงานของมันอย่างเต็มกำลัง ขณะที่ออร่าของเธอเองก็เข้ามาห่อหุ้มร่างของเขาเอาไว้หมดแล้ว

ความร้อนเข้ายึดจับวาห์นไว้แบบทุกตารางนิ้ว และถ้าไม่รีบดับไฟนี้ลง มันจะต้องแผดเผาเขาอย่างแน่นอน

“ก่อนที่เราจะใช้ [เอ็นคิดู]… ฉันอยากทำแบบปกติก่อน… เรามีเวลาเหลือเฟือนี่นะ” วาห์นพูดด้วยเสียงสั่นเครือ

หลังจากพยายามสงบสติตัวเองแบบสุดๆ เฮเฟสตัสก็ยิ้มอย่างน่าหลงใหลและตอบกลับไป

“ทำแบบที่อยากทำเถอะ… ฉันแค่อยาก ‘สัมผัส’ นาย…

ลืมทุกอย่างไปซะ ตอนนี้ฉันไม่อยากเป็นเทพธิดาแห่งการหลอมสร้าง ฉันอยากเป็นแค่ผู้หญิงของนายเท่านั้น…”

วาห์นเริ่มออกอาการขาสั่นขณะที่เขารีบถอดเสื้อผ้าที่เหลือของตัวเองออกอย่างรวดเร็ว

นั่นเป็นภาพที่ทำให้เฮเฟสตัสเบิกตากว้างและหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม

เธอเคยเห็นสภาพเปลือยเปล่าของวาห์นมาแล้ว และได้เตรียมตัวเตรียมใจมาอย่างดีแล้วด้วย

แต่ไม่ว่าจะพร้อมแค่ไหน เฮเฟสตัสก็คงหยุดหยดเลือดที่ไหลออกมาจากจมูกเพราะความตื่นเต้นไม่ได้อยู่ดี

ตอนนี้อาวุธของวาห์นพร้อมออกรบเต็มที่ แถมวันนี้มันยังดูใหญ่กว่าเดิมเป็นพิเศษด้วย

เพราะสามารถควบคุมมันได้พอสมควร วาห์นเลยอยากสงบสติและผ่อนปรนมันลงมาเล็กน้อยเพราะกลัวเทพสาวจะรับไม่ไหว

ทว่าก่อนจะได้ทำแบบนั้น เฮเฟสตัสก็ลุกขึ้นมานั่งด้วยความยากลำบากและยื่นมือออกมาจับมันไว้

ตอนที่มือของเธอเข้ามาสัมผัส เฮเฟสตัสก็ถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย

“ร้อนจัง… เจ้านี่จะเข้าไปอยู่ในตัวของฉันสินะ”

จากนั้น วาห์นก็ได้เจอกับสิ่งที่ตัวเองไม่คาดคิดมาก่อน

เฮเฟสตัสโน้มตัวลงขณะเอามือที่ว่างปัดผมออกไปด้านข้างและจูบตรงปลายอาวุธอย่างแผ่วเบา

“ออมมือให้ฉันหน่อยนะ…”

ความพยายามของเด็กหนุ่มดูท่าจะเสียเปล่าแล้ว ตอนนี้วาห์นรู้สึกว่ากระแสเลือดกำลังพุ่งไปรวมกันอยู่ตรงส่วนนั้นหมดเลย เขายังติดหลอนนิดๆ เพราะไม่รู้ว่ามันจะระเบิดหรือเปล่า

อาจยังไม่ถึงขั้นที่กระสุนข้างในจะออกมาลืมตาดูโลกก่อนกำหนด แต่มันก็ทำให้อสูรของเขาเติบใหญ่ขึ้นอีกนิด

เฮเฟสตัสสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของมันและเริ่มยิ้มแปลกๆ

“แบบนี้ไม่เรียกว่าออมมือแล้ว…”

จากนั้นเทพสาวก็ล้มตัวลงนอนโดยชันเข่าขึ้นและอ้าขาออกเล็กน้อยราวกับเป็นการเชื้อเชิญ

“ช่างเถอะ… เข้ามาได้เลย… ถึงร่างกายจะไม่พร้อม แต่หัวใจของฉันน่ะพร้อมนานแล้ว”

วาห์นกลืนน้ำลายอึกใหญ่และเกือบหลุดปากออกไปด้วยว่า ‘ไม่มีอะไรต้องกลัว เพราะขนาดไอส์ยังเอาอยู่เลย’

ดีที่คำพูดเหล่านั้นไปติดอยู่ตรงลำคอเสียก่อน เขาก็เลยรีบกลืนมันลงไปแทน

ถ้าเธอเกิดเจ็บจนทนไม่ไหวจริงๆ วาห์นก็จะใช้ [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า] เพื่อบรรเทาอาการของเธอลงเอง…

เขาค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้เรียวขาของเฮเฟสตัสก่อนจะวางมือลงไปที่เอวบางและพยายามจัดมุมให้ตรงกับทางเข้าอันแสนเปียกชื้น

วาห์นอาจจะไม่ได้พูดอะไร แต่ตอนนี้เขารู้สึกประหลาดใจกับปริมาณของเหลวที่เธอหลั่งออกมาอยู่พอสมควร

ของเหลวไหลออกมาไม่หยุดและทำให้เตียงเปื้อนไปหลายจุดจนวาห์นสงสัยว่าจะเป็นอันตรายหรือเปล่าหากปล่อยไว้นานเกิน

เมื่อกดปลายอาวุธไปตามร่องอันเรียบเนียนและชุ่มฉ่ำของเฮเฟสตัส ความร้อนก็เริ่มเข้าเล่นงานเขาทันที

—————
สนับสนุน.นิยายอย่างถูกต้องได้ที่: EP:IC Translation และ Thai Novel : https://bit.ly/34ApcTP

—————

เนื่องจากเป็นเทพธิดา เฮเฟสตัสก็เลยไม่มี ‘ส่วนหย่อม’ เหมือนผู้หญิงทั่วไป นั่นทำให้ทุกอย่างดูมันวาวภายใต้แสงไฟสลัวของห้องและเป็นภาพที่อันตรายมากสำหรับวาห์น

แต่ก่อนจะได้สอดใส่เข้าไปแบบจริงจัง ของเหลวนั่นก็เริ่มไหลทะลักออกมาอีกจนเฮเฟสตัวตัวสั่นเล็กน้อย

“หยุดแกล้งกันสักทีสิ…” เธอพูดด้วยน้ำเสียงใกล้หมดความอดทน

วาห์นกัดฟันและเริ่มเดินหน้าเข้าไปตามมุมที่เขาเล็งไว้

นอกเหนือจากความคับแน่นที่แสนจะหฤหรรษ์ สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างก็คือมันร้อนมาก ร้อนยิ่งกว่าที่ควรจะเป็น ราวกับว่าเทพสาวกำลังแข่งเร่งความร้อนกับเขาโดยใช้ ‘เพลิงนิรันดร์’ ของตัวเองอยู่เลย

ภายในของเฮเฟสตัสนั้นร้อนระอุคล้ายกับเตาหลอมไม่มีผิดเพี้ยน

แทนที่วาห์นจะเป็นฝ่ายแปรเปลี่ยนเบื้องลึกของเธอให้มีรูปร่างคล้ายกับอาวุธของเขา ตอนนี้อาวุธของเขาจะโดนเธอหลอมเอาซะมากกว่า

วาห์นเริ่มขับเคลื่อน ‘เพลิงนิรันดร์’ ของตัวเองโดยสัญชาตญาณ พร้อมกันกับที่อาวุธของเขาได้พบกับเยื่อที่เบาบางและดูแน่นหนา

ร่างกายของเฮเฟสตัสสั่นสะท้านอีกครั้งจนเธอต้องคว้าคอของวาห์นเข้ามากอดใกล้ๆ

ก่อนที่เธอจะพูดอะไร วาห์นก็จัดมุมให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดและฝ่าทะลุเข้าไปเลย

ทันใดนั้น ความร้อนจากร่างกายของเฮเฟสตัสก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเมื่อเขาสอดใส่เข้าไปได้ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์

ความเจ็บปวดจากการถูกรุกรานทำให้เอร้องครางเสียงดังและเกร็งร่างกายทุกสัดส่วน

วาห์นพยายามหยุดอยู่กับที่เพื่อให้เธอมีเวลาปรับตัว แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่เห็นด้วยและเข้ามาจูบแกมบังคับแทน

ในระหว่างที่ผละออกมาพักหายใจ เฮเฟสตัสก็พูดขึ้น

“อย่าหยุดนะ ฉันอยากจะจดจำช่วงเวลานี้ไปตลอด

ต่อให้นายทำแรงกว่านี้… ฉันก็จะรู้สึกเหมือนถูกเติมเต็มเท่านั้นเอง…”

แม้จะรู้สึกคล้อยตามอยู่บ้าง แต่วาห์นก็นำมือของเฮเฟสตัสออกจากใบหน้าและขึงมันไว้กับเตียง

เขาพูดอย่างจริงจังขณะประสานตากับดวงตาสีแดง

“ฉันจะทำให้เธอจดจำช่วงเวลานี้ไปตลอด แต่มันต้องไม่ใช่เพราะเจ็บปวด…”

วาห์นโน้มตัวลงไปจูบเฮเฟสตัสในขณะที่เธอพยายามปล่อยแขนตัวเองให้เป็นอิสระ

แม้ว่าเขาจะหยุดอยู่กับที่ แต่เฮเฟสตัสก็ยังไม่ยอมง่ายๆ เธอยกขาขึ้นมารัดรอบเอวของเด็กหนุ่มและพยายามดึงเขาเข้าสู่เบื้องลึกด้วยตัวเอง

สำหรับวาห์นแล้วมันเป็นความรู้สึกที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อเลย โดยเฉพาะตอนที่อาวุธของเขาได้จูบเข้ากับประตูชั้นในของเธอ

สุดท้ายเขาก็ต้องยอมปล่อยมือและเปลี่ยนมาจูบเธอแทน

เพราะแอบเคืองจากเรื่องเมื่อกี้อยู่บ้าง วาห์นก็เลยใช้วิธีจูบแบบไร้ความปราณีโดยปล่อยให้เธอได้พักหายใจเพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้นก่อนจะกลับไปจูบต่อ

วาห์นเริ่มเล้าโลมเรือนร่างของเฮเฟสตัสโดยใช้ [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า] ขณะที่เธอใช้นิ้วจิกเข้ากับแผ่นหลังของเขาด้วยแรงมหาศาล

การ ‘เตรียมตัว’ ก่อนหน้านี้ของเฮเฟสตัสนั้นยังรวมไปถึงเรื่องตัดเล็บด้วย ไม่งั้นป่านนี้คงมีเลือดไหลออกมาจากแผ่นหลังของวาห์นแล้ว

วาห์นพยายามขจัดความคิดฟุ้งซ่านต่างๆ และหันไปจัดการกับหน้าอกขนาดใหญ่โดยเริ่มจากนวดพวกมันช้าๆ จากรอบนอกก่อนจะขยับเข้าไปโจมตียอดสีชมพูที่อยู่ตรงกึ่งกลาง

จากความรู้สึกเสียวซ่านของเฮเฟสตัส ยอดที่เคยมีสีชมพูจางๆ ก็เลยแปรเปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้มและชูชันกว่าเดิม

ผ่านไปประมาณ 5 นาที ร่างของเฮเฟสตัสก็เริ่มกระตุกอย่างรุนแรงเพราะวาห์นหยุดนวดแบบธรรมดามาพักหนึ่งแล้ว

เขาเปลี่ยนไปนวดแบบ ‘กระตุ้น’ จุดต่างๆ แทน และผลลัพธ์ก็ได้ออกมาตามที่เห็น

ที่จริงวาห์นอยากจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดตรงส่วนล่างให้ด้วย แต่เขารู้ว่าต้องโดนโวยแน่นอนเพราะดูเธอจะให้ความสำคัญกับมันมาก

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เธอได้ขึ้นสู่จุดสุดยอดไปแล้ว วาห์นจึงเริ่มถอนอาวุธออกมาช้าๆ และกระแทกมันกลับเข้าไปในเตาหลอมร้อนระอุซ้ำไปซ้ำมา

ราวกับเพิ่งถูกปลุกจากความฝัน เฮเฟสตัสใส่แรงที่แขนมากขึ้นและผ่อนลมหายใจไปตามจังหวะการขับเคลื่อนของวาห์น

เนื่องจากเขาใส่ใจในปฏิกิริยาตอบสนองของเทพสาวอยู่ตลอด วาห์นก็เลยรักษาจังหวะเอาไว้เพื่อไม่ทำให้เธอหายใจถี่จนเกินไป

ความรู้สึกเสียวซ่านพยายามล่อล่วงให้เขาเร่งความเร็วขึ้นอีก แต่วาห์นก็ต้องหักห้ามใจและให้ความสำคัญกับความต้องการของเธอก่อน

แม้จะไม่เคยลองทำเอง แต่วาห์นก็รู้เรื่องการช่วยตัวเองอยู่บ้าง และรู้ด้วยว่าเฮเฟสตัสเคยทำแบบนั้นโดยใช้เขาเป็น ‘ตัวช่วย’ เมื่อนานมาแล้ว

เพราะไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ตลอดเวลา วาห์นก็เลยอยากมอบความทรงจำที่เธอจะไม่มีวันลืม เผื่อจะได้เอาไว้ใช้ตอน… ช่วงฉุกเฉิน

ทุกครั้งที่วาห์นกระแทกเข้ามา กระแสไฟฟ้าก็จะถูกส่งออกไปตามกระดูกสันหลังของเฮเฟสตัสและทำให้เบื้องลึกของเธอรู้สึกปวดร้าวยิ่งขึ้น

ตอนนี้สมองของเธอใช้การไม่ได้แล้ว ปากก็ได้แต่พูดคำเดิมซ้ำกันไปมา

“วาห์น… ฉันรักนาย… รักนายนะ… รักนายจริงๆ…”

ทุกครั้งที่อาวุธของวาห์นบดเบียดเข้าไปจูบกับประตูบานสุดท้าย เฮเฟสตัสก็จะเริ่มพูดมันอีกครั้งราวกับกำลังท่องมนต์

ถึงเฮเฟสตัสจะแวะเวียนไปที่จุดยอดสุดมาหลายครั้งหลายหน แต่วาห์นก็รู้ว่าเขาสามารถพาเธอไปได้ไกลกว่านั้น

หลังจากเคลื่อนไหวช้าลงเล็กน้อยและสูดหายใจเข้าลึกๆ วาห์นก็มองเข้าไปในดวงตาสีแดงที่ดูหยาดเยิ้มและพูดจาหนักแน่น

“ฉันจะเริ่มเล่นแรงล่ะนะ… เตรียมใจให้พร้อมด้วย”

คำพูดนั่นทำให้เฮเฟสตัสยิ้มอย่างมีความสุข

“วาห์น ฉันนายมากเหลือเกิน…”

วาห์นจับมือของเธอขึงไว้กับเตียงอีกครั้งพลางกระซิบข้างหูเบาๆ

“ฉันก็รักเธอนะ เฮเฟสตัส…”

พอสิ้นเสียง วาห์นก็เริ่มเคลื่อนไหวเร็วและรุนแรงกว่าเดิม ราวกับว่าเขากำลังพยายามที่จะแง้มประตูบานสุดท้ายให้เปิดออก

โชคดีที่วาห์นศึกษาเรื่องนี้มาแล้วและพบว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เขาจะต้องห่วง

(TL: จากที่ต้องไปศึกษาตาม -*- การเข้าไปในประตูบานสุดท้ายมันเป็นไปไม่ได้ครับ ก็เลยไม่มีอะไรต้องห่วง)

นอกจากนี้เขายังรู้มาด้วยว่าของๆ ฝ่ายหญิงจะขยายออกหากถูกกระตุ้นมากพอ และเปิดช่องให้เฮเฟสตัสรับเขาเข้าไปได้แบบ 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม

แม้ว่ามันอาจทำให้รู้สึกอึดอัดหรือไม่ค่อยสบายตัว แต่วาห์นก็รู้ว่าเธอคงมีความสุขมากที่ทำสำเร็จ

ผ่านไป 2 นาทีภายใต้การจู่โจมอย่างหนัก ตอนนี้วาห์นเริ่มใกล้จะถึงจุดที่ทนไม่ไหวแล้ว ส่วนเฮเฟสตัสก็ได้แต่หอบหายใจและเพ้อชื่อของเขาไม่หยุด

เพราะกลัวว่าเธอจะหายใจไม่ทัน วาห์นจึงหันไปจูบซอกคอแทนจนกระทั่งเขาดำเนินมาถึงจุด ‘ใกล้แตกหัก’

ตอนนี้อาวุธของเขาเข้าไปได้ประมาณ 90-95 เปอร์เซ็นต์แล้ว วาห์นก็เลยสูดหายใจก่อนพุ่งเข้าไปเป็นครั้งสุดท้าย

แม้ว่าเธอจะยังรับมันได้ไม่หมด แต่วาห์นก็ทะยานเข้าไปแบบไม่มีอะไรจะเสียจนเข้าไปได้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ตามเป้า ก่อนที่เขาจะปลดปล่อยทุกอย่างออกมา ซึ่งครั้งนี้ดูท่ามันจะออกมามากกว่าครั้งไหนๆ

“วาห์นนนนนนนนนนนนนน~!!!!” เฮเฟสตัสทำได้แค่ครางเสียงดัง

ความรู้สึกเหมือนถูกเติมเต็มเริ่มแผ่กระจายออกไปทั่วร่างกายส่วนล่าง ตามมาด้วยความร้อนจากของเหลวสีขาวขุ่น

เฮเฟสตัสเริ่มหายใจถี่ขึ้นอีกหลังจากได้ไปถึงจุดที่อยู่สูงกว่าเดิม เป็นจุดที่ทำให้เธอแทบเสียสติ

ความเจ็บปวดแวะเวียนมาเพียงชั่วครู่เท่านั้น ไม่นานมันก็โดนความร้อนจากของเหลวกลบออกไปหมด

ในขณะที่สะโพกของเขายังสั่นไม่หยุดพลางกอดเฮเฟสตัสไว้แน่น วาห์นก็เพิ่งสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างพุ่งผ่านกระแสเลือดออกไปจนรู้สึกงงไปหมด

จากการนึกย้อนในหัวทำให้ได้ความว่า ขณะกำลังจู่โจมครั้งสุดท้าย ‘เพลิงนิรันดร์’ ในหน้าอกของเขาก็ระเบิดพลังออกมาและผสานตัวเข้ากับของเหลวที่กำลังจะถูกปล่อยออกไป

ราวกับว่ามันอยากออกไปเติมเชื้อไฟให้กับเฮเฟสตัส เพราะตอนนี้ ‘เตาหลอมร้อนระอุ’ ของเธอได้ถูกเลื่อนขั้นให้เป็น ‘โรงหลอมนรก’ เรียบร้อยแล้ว

เขายังคงสับสนต่อไปในขณะที่ ‘เพลิงนิรันดร์’ ค่อยๆ สงบลงเองและทำท่าราวกับกำลังมีความสุข…

แต่ก่อนจะได้ตรวจสอบอะไรเพิ่ม เฮเฟสตัสก็เอื้อมมือขึ้นมาจับที่ใบหน้าและยกตัวขึ้นมาจูบ

มันเป็นจูบที่คงความดูดดื่มไว้เช่นเดิม แต่ก็ดูอ่อนโยนมากกว่าช่วงก่อนมาก

วาห์นตัดสินใจว่าจะคุยเรื่องนี้กับเทพสาวในภายหลัง สำหรับตอนนี้ เขาจะต้องอยู่ดูแลเธอให้ดีก่อน

วาห์นคิดมาเสมอว่าเฮเฟสตัสคือหนึ่งในผู้หญิงที่งดงามที่สุดที่เขาเคยพบ แต่ ณ ตอนนี้ เธอกลับดูงดงามยิ่งกว่าเดิมเสียอีก…

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Status: Ongoing

เรื่องย่อโดยผู้แต่ง

วาห์นชายหนุ่มผู้ที่มีความผิดปกติ เนื่องจากการกลายพันธุ์ที่หายาก เลือดของเขาจึงมีความสามารถซ่อนเร้นที่ทำให้เป้าหมายและความเสียหายที่เกิดจากโรคร้ายที่อยู่ภายในร่างกายมนุษย์

ถูกขจัดออกไปในโดยการรักษาครอบจักรวาล เหล่าผู้คนจึงต่างเชิดชูบูชาสถานะของเด็กหนุ่มเหนือกว่าผู้ใดทั้งสิ้นและมอบชื่อให้เขาว่า “ยารักษาสารพัดโรค” ในข่าว

เขาได้รับการยกย่องเป็นเหมือนกับวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่จะนำพายุคสมัยแห่งใหม่หรือคุณภาพชีวิตมนุษย์ที่ดีมาถึง อย่างไรก็ตาม ฉากที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้สดใสเลย

เนื่องจากปัจจัยเฉพาะบางอย่าง วาห์นจึงใช้เวลาช่วงวัยรุ่นทั้งหมดถูกกักขังอยู่ในห้องทดลองกับนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย และทีมวิจัยที่ใช้ร่างกายและเลือดของเขาเพื่อทำการทดลองที่ไม่มีที่สิ้นสุด

สิ่งปลอบใจความทุกข์ทรมานเพียงอย่างเดียวของเขาคืออนิเมะทั้งหลายและหนังสือการ์ตูนที่มีให้เขาดูในระหว่างการทดลอง เขามักจะจินตนาการว่าตนเองเป็นตัวเองที่อยู่ในโลกของตนเอง

dและสุดท้ายเขาก็สามารถควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้ เป็นเวลาหลายปีที่เขาเก็บรักษาความปราถนานี้เอาไว้ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในวัย 14 ปีขณะที่มีองค์กรพยายามลักพาตัวเขาออกจากห้องทดลอง…

“ในที่สุด ผมก็ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไปแล้ว…”

นี่เป็นความคิดสุดท้ายของวาห์นในขณะที่เขาค่อยๆจางหายไปในห้วงแห่งความมืดอันไร้สิ้นสุด…

“ดวงวิญญาณที่น่าสงสาร”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท