Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล – ตอนที่ 290

ตอนที่ 290

หลังจากยู่ในห้องน้ำกับอาคิต่ออีก 20 นาที ทั้งสองก็เช็ดตัวจนแห้งก่อนที่วาห์นจะมอบเสื้อผ้าชุดใหม่ที่เขาเก็บไว้ในช่องเก็บของให้กับเธอ

หญิงสาวดูแปลกใจหน่อยๆ ที่วาห์นมีเสื้อผ้าผู้หญิงเก็บไว้กับตัว แต่เขาก็อธิบายว่ามีติดไว้บ้างมันก็ดีเหมือนกัน เผื่อจำเป็นต้องใช้แบบตอนนี้ไง

อาคิรับขาสั้นสีดำ เสื้อสีฟ้า และชั้นในสีดำมาถือไว้ด้วยรอยยิ้มเขินๆ จากนั้นเธอก็ทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะสวมพวกมันอย่างเร่งรีบ

ขณะที่วาห์นกำลังเตรียมเดินออกไปเคลียร์ห้องสมุด อาคิก็เข้ามาขวางไว้และขออาสาเป็นคนจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง วาห์นเดาว่าเธอคงไม่อยากให้คนอื่นมาแตะต้องของที่ตัวเองปล่อยออกมา เขาก็เลยพยักหน้ารับก่อนจะเดินออกไปนั่งตากอากาศอยู่ตรงระเบียง

ช่วงนี้ท้องฟ้าดูมืดครึ้มเกือบตลอด แถมบางครั้งก็มีหิมะตกลงมาด้วย

แย่หน่อยที่หิมะมีปริมาณค่อนข้างน้อย วาห์นก็เลยไม่ได้ไปเล่นมันแบบที่เคยวาดฝันไว้ในชีวิตก่อน

ในระหว่างช่วงพักเที่ยง อาคิได้ใช้โอกาสนี้เพื่อคุยเรื่องกฎระเบียบต่างๆ กับพวกสาวๆ ที่นั่นทานข้าวอยู่ด้วยกัน

ถึงมันจะล่วงเลยมาขนาดนี้แล้ว แต่อาคิก็เชื่อว่านี่คือสิ่งที่พวกเธอควรปฏิบัติตาม

เธอได้ขอให้เหล่าสมาชิกทำพิธีสาบานโดยเนื้อหาที่เกี่ยวข้องก็มี การไม่เปิดเผยข้อมูลของแฟมิเลีย การห้ามไม่ให้ทำงานร่วมกับแฟมิเลียอาชญากรรม รวมไปถึงการห้ามหลอกใช้ประโยชน์จากสมาชิกด้วยกัน

ด้วยแรงสนับสนุนจากเฮสเทีย ทุกคนก็เข้าทำพิธีเป็นที่เรียบร้อย นั่นรวมถึงพรีเซียที่ยังไม่ได้เข้าร่วมอย่างเป็นทางการด้วย

เพื่อความยุติธรรม วาห์นเองก็มาทำพิธีด้วยเช่นกัน ทว่าเนื้อหาบางอย่างนั้นต้องมีการแก้ไขตามความเหมาะสม

หนึ่งในหน้าที่ที่เหล่าสมาชิกได้รับมาเพิ่มก็คือการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับดันเจี้ยน

ทุกคนยังได้รับข้อมูลเกี่ยวกับราคาของ ไอเท็มทั่วไปที่ได้จากมอนสเตอร์ ส่วนผสมในการทำยา และข้อมูลปลีกย่อยอื่นๆ ที่มีประโยชน์เพื่อเข้าสู่ดันเจี้ยน

เนื่องจากบางคนยังอ่านเขียนไม่ค่อยคล่อง อาคิก็เลยไปช่วยสอนด้วยอีกคน

มิโคโตะยังคงใช้เวลาในช่วงบ่ายไปกับการฝึกดาบ

ตอนแรกวาห์นตั้งใจว่าจะไปที่ห้องทำงาน แต่เขาก็โดนเฮสเทียเรียกเสียก่อน

สีหน้าของเฮสเทียดูไม่ค่อยดีนัก และวาห์นยังเห็นด้วยว่าออร่าของเธอก็มีสภาพไม่ต่างไปจากเจ้าของ

แม้จะมีสีชมพูออกแดง แต่มันก็ดูเหี่ยวเฉาลงไปเยอะ

ก่อนที่วาห์นจะได้ถามอะไร เฮสเทียก็พูดขึ้นก่อน

“ฉันเพิ่งไปคุยกับเฮเฟสตัสและโลกิมาน่ะ… วาห์น ช่วงนี้ฉันงี่เง่ามากเลยใช่ไหม?”

วาห์นขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะตอบจริงจัง

“เฮสเทีย ฉันเคยบอกแล้วไงว่าชอบเธอที่เป็นเธอ

ถึงบ้างครั้งจะทำเกินไปนิดหน่อย แต่มันก็ไม่ทำให้ฉันอยากอยู่กับเธอน้อยลงเลย”

แทนที่จะทำหน้าโล่งใจ เฮสเทียกลับถอนหายใจแบบเครียดๆ

“เห้ออ โลกิบอกว่านายต้องพูดแบบนี้แน่ๆ… งั้นก็เรื่องจริงสินะ ช่วงนี้ฉันคงทำเกินไปจริงๆ”

วาห์นก้าวเข้าไปกอดเทพตัวเล็กตรงหัวไหล่ทันที ไม่นานเธอก็พิงหัวไปกับแผงอกกำยำก่อนจะพูดต่อ

“วาห์น… ทำไมการรักใครสักคนมันถึงได้ยากแบบนี้นะ?

ฉันรู้ดีว่านายรักอิสระ… แต่บางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่าอยากจะขังนายไว้ในห้องนอนของเรา อยากแยกนายให้ห่างจากเรื่องมากมายที่นายต้องเจอในแต่ละวัน

ฉันไม่อยากเห็นนายต้องเจ็บปวดไปกับการช่วยทำให้ฝันของคนอื่นๆ เป็นจริง…”

วาห์นไม่รู้ว่าจะตอบคำถามนั่นยังไงดี เขาลูบหัวเฮสเทียเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้น

“เรื่องนี้ฉันตอบเธอไม่ได้หรอกนะเฮสเทีย… ฉันก็แค่ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด

บางครั้งมันอาจจะยุ่งยาก แต่ทุกคนก็ทำให้ฉันก้าวต่อไปได้… การได้รู้ว่ามีคนที่รักรอเราอยู่ มันช่วยได้มากเลย

ต่อให้ฉันอยู่ในห้องกับเธอไปเรื่อยๆ สักวันปัญหาต่างๆ มันก็จะพุ่งมาหาเราเอง

แทนที่จะรอให้เป็นแบบนั้น ฉันอยากพุ่งใส่ปัญหาก่อนมากกว่า…”

วาห์นประคองใบหน้าได้รูปและเห็นว่าดวงตาสีฟ้าใกล้จะมีน้ำตาเล็ดออกมาแล้ว

เขากระซิบเบาๆ ขณะฉายรอยยิ้มเอ็นดู

“เฮสเทีย เธอมาช่วยฉันรับมือพวกมันเถอะ

ชีวิตมันมีอะไรมากไปกว่าห้องๆ เดียว หรือแม้แต่คฤหาสน์หลังนี้
ฉันคิดว่าถ้าเอยากได้คำตอบ เธอคงต้องเปิดใจให้กว้างๆ และออกไปดูความงดงามข้างนอกนั่น

ออกไปดูว่ามันไม่ได้มีแค่ปัญหากับอันตราย… นี่คือมุมมองของฉันในฐานะ ‘มนุษย์’ คนนึงนะ

เธออาจจะคงอยู่ตลอดกาลในฐานะเทพ… แต่การอยู่แบบนั้นกับการ ‘ใช้ชีวิตในแต่ละวัน’ น่ะมันไม่เหมือนกันหรอก

ฉันให้ค่ากับเวลาทุกวินาที แล้วก็อยากให้เธอมาอยู่ด้วย ไม่ว่ามันจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด หรือช่วงที่ตกต่ำที่สุดก็ตาม

ถ้ามีเทพธิดาผู้งดงามอย่างเธออยู่เคียงข้าง ไม่ว่าจะเจอกับอะไรหรือต้องแพ้อีกกี่ครั้ง ยังไงฉันก็เชื่อว่าตัวเองสามารถฟื้นกลับมาได้…”

แม้สีหน้าจะไม่เปลี่ยนไปมากนัก แต่วาห์นก็สัมผัสได้ว่าออร่าของเฮสเทียกำลังพองโตอย่างรวดเร็วจนมันปกคลุมพวกเขาและทำให้บรรยากาศรอบๆ กลายเป็นสีชมพู

ผ่านไปอีกชั่วครู่ เฮสเทียก็กลับมายิ้มแย้มอีกครั้งพร้อมกับยกมือขึ้นมาซ้อนกับวาห์น

“วาห์น ฉันรักนายมากเหลือเกิน~ บางครั้งฉันอาจจะรู้สึกหลงทางและว่างเปล่า แต่นายก็มาช่วยชี้ทางให้ตลอด… แล้วก็มาช่วย ‘เติมเต็ม’ ให้ฉันด้วย ในหลายๆ ความหมายเลย แหะๆ~”

เป็นเสี้ยววินาทีที่ดวงสายตาสีฟ้าฉายแววยั่วยวน แต่ไม่นานมันก็กลับมาสว่างไสวอีกครั้ง

วาห์นเอาจมูกไปถูกับของเฮสเทีย จากนั้นเขาก็อุ้มเธอมาวางไว้บนโซฟาที่อยู่แถวนั้น

เทพตัวเล็กเหมือนจะกำลังอยู่ในอารมณ์ที่แปลกประหลาด แต่วาห์นก็ใช้ [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า] เพื่อช่วยทำให้เธอสงบลง

สุดท้ายเฮสเทียก็ต้องยกเลิก ‘แผนรุก’ และยอมให้วาห์นกอดจากด้านหลังขณะที่ตัวเองขึ้นมานั่งบนตักในท่า ‘เป็นเด็กดีนะ’

—————
ผล.งาน.ถูกขโมยมาจาก: EP:IC Translation และ Thai Novel : https://bit.ly/34ApcTP

—————

วาห์นเริ่มอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากตอนที่มีอะไรกันครั้งแรกกับทีโอน่า เป็นการเล่าที่ค่อนข้างละเอียดมาก

เขายังพูดถึงเรื่องน่าเป็นห่วง รวมถึงเงื่อนไขและข้อแม้ต่างๆ ที่ทุกคนช่วยกันตั้งเพื่อกันไม่ให้ตัวเขาตกลงสู่หนทางมืดมิด

เขาพูดเรื่องที่เกิดขึ้นกับสาวๆ คนอื่นโดยพยายามไม่เล่าตรงส่วนที่ค่อนข้างเร่าร้อน

วาห์นรู้ว่าช่วงนี้เฮสเทียไม่ได้พูดคุยกับสมาชิกคนอื่นมากนัก ส่วนใหญ่เธอก็มักจะเอาแต่นอนรอเขาอยู่ในห้องนอนใหญ่

นี่เป็นอีกเรื่องที่วาห์นต้องตักเตือนแบบจริงจัง เพราะถ้าปล่อยไว้นาน คนอื่นๆ อาจจะรู้สึกไม่ดีกับเธอ

เฮสเทียดูค่อนข้างลังเลในตอนแรก แต่พอวาห์นเริ่มหยิบยกเอาคำพูดของเธอมาใช้ เช่น ‘แฟมิเลียของเราควรอยู่กันแบบครอบครัว’ เฮสเทียก็เถียงต่อไม่ออก

เทพตัวเล็กได้แต่ฟังอย่างเงียบๆ และถามคำถามนิดหน่อย ซึ่งวาห์นก็สามารถไขข้อข้องใจของเธอได้หมดทุกข้อ
วาห์นอยากให้เฮสเทียทำดีกับทุกคน เพราะความจริงแล้วเธอต่างหากที่ต้องเป็นแกนหลักของแฟมิเลีย ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะเห็นวาห์นเป็นศูนย์กลางก็ตาม

วาห์นอาจเป็นผู้นำและตัวแทนของแฟมิเลียตอนออกสำรวจดันเจี้ยน แต่คนที่เป็นหน้าเป็นตาอยู่ข้างบนก็คือเฮสเทียต่างหาก แถมยังมีหลายเรื่องที่เธอในฐานะ ‘เทพธิดา’ ต้องคอยจัดการด้วยตัวเอง

เขากำลังจะพูดเรื่องที่คุยกับอาคิ แต่เฮสเทียก็บอกว่าเรื่องนี้เธอได้ยินจากเจ้าตัวมาก่อนแล้ว

หลังจากคุยกันไปมาและปลอบกันอยู่ประมาณ 3 ชั่วโมง สุดท้ายเฮสเทียก็ยอมกลับไปนอนห้องตัวเองเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนอื่น

ถ้าปล่อยให้เธอทำตัวแบบเดิมๆ และวันหนึ่งเกิดเผลอเดินโชว์กลิ่น 18+ ไปทั่วบ้าน… แบบนี้ย่อมไม่ดีแน่นอน

เพื่อเป็นการประนีประนอม วาห์นสัญญาว่าจะออกไปเที่ยวกับเธอแบบสองต่อสอง แต่ทั้งคู่จะต้องบอกคนอื่นล่วงหน้าก่อน ไม่ใช่นึกจะหายก็หายไปเฉยๆ

วาห์นเสนอความคิดเล่นๆ ว่าพวกเขาน่าจะลองขุดขยายพื้นที่ด้านล่างคฤหาสน์เพิ่มเติม

ตอนนี้ที่ชั้นใต้ดินจะมีห้องเก็บของและห้องเก็บไวน์อยู่ก่อนแล้ว แต่วาห์นคิดจะต่อเติมพวกมันออกไปอีก รวมถึงการสร้างช่องทางลับเผื่อใช้หลบหนี หรือไม่ก็เอาไว้ใช้เข้าออกคฤหาสน์โดยไม่ให้คนนอกรู้ตัว

ไหนๆ วาห์นก็เริ่มแล้ว เฮสเทียก็เลยลองเสนอความคิดที่จะทุบกำแพงกั้นห้องน้ำทิ้งไป (TL: ก็คือจะไม่แบ่งฝั่งชาย/หญิง) จากนั้นก็หาวัสดุเก็บเสียงไปกั้นที่บ่อเล็กๆ แทน

เธออยากให้ในนั้นมีห้องซาวน่าด้วย แถมยังหันไปถามวาห์นต่ออีกว่าถ้าสร้างเพิ่มให้อีกห้องเป็นห้องนวดด้วยจะดีหรือเปล่า

วาห์นพกชุดวาดแปลนติดตัวไว้ตลอด เขาก็เลยเริ่มออกแบบตัวคฤหาสน์ขึ้นมาใหม่โดยใช้แผนที่ย่อในระบบให้เป็นประโยชน์

ถึงจะไม่ได้ศึกษาเรื่องสถาปัตยกรรมอย่างละเอียด แต่เขาก็เคยอ่านพวกมันมาบ้างตอนอยู่กับเอวาในลูกแก้ว

เฮสเทียเริ่มตื่นเต้นไปกับการต่อเติมบ้านครั้งใหญ่ ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพราะปกติเธอก็ไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว

เธอยังเสนอเรื่องที่จะเปลี่ยนปีกตะวันตกให้เป็นสถานพยาบาลและสถานเลี้ยงเด็กแบบครบวงจรด้วย เพราะอีกไม่นานที่นี่ก็จะมีพวกเด็กๆ เกิดออกมามากมาย

แต่ก่อนที่ทั้งสองจะได้ทำอะไรต่อ เวลาก็ล่วงเลยมาถึงช่วงมื้อเย็นแล้ว

ถ้าวาห์นสัมผัสไม่ได้ว่าฮารุฮิเมะกำลังเดินตามหาพวกเขาไปตามห้องต่างๆ ทุกคนก็คงต้องรอกันอีกนานเลยกว่าจะได้ทานข้าว

ในช่วงมื้อเย็น เฮสเทียก็นำแบบแปลนที่ทำกับวาห์นออกมาให้ทุกคนได้ดูกัน

ไม่นานพวกสาวๆ ก็คุยกันอย่างออกรสและเริ่มเสนอความคิดของตัวเองบ้าง

แม้แต่อาคิเองก็มาร่วมวงด้วย เพราะเธอเคยคิดเรื่องนี้ไว้คร่าวๆ แล้วและรู้ดีว่าที่นี่ยังขาดอะไรและต้องการอะไรเพิ่ม

คฤหาสน์ฮาร์ธในปัจจุบันนั้นดูเหมือนเป็นบ้านพักมากกว่าฐานที่มั่นของแฟมิเลีย

เพราะตามปกติ บ้านพักหรือห้องของสมาชิกนั้นจะอยู่คนละตึกกับตัวคฤหาสน์ ส่วนบรรยากาศข้างในก็จะออกแนวจริงจังและเป็นการเป็นงานกว่า

การสนทนาวันนี้เป็นอะไรที่ครึกครื้นมากและกินเวลานานเกือบชั่วโมง ทุกคนดูอิ่มทั้งกายและใจขณะช่วยกันยกจานชามเข้าไปล้างในครัว

วาห์นนั้นไม่ได้สกปรกอะไรมาก แต่เขาก็ตัดสินใจไปแช่น้ำเพราะอยากสัมผัสกับอากาศหนาวเย็นขณะลงมาอยู่ในน้ำร้อนๆ

ทุกครั้งที่มาห้องอาบน้ำในช่วงเย็น วาห์นก็จะรู้สึกเหมือนกับกำลังอยู่ในอาณาจักรลึกลับของตัวเอง

นี่คือฝั่งผู้ชายที่จุคนได้มากถึง 50 คน ทว่าวาห์นกลับได้รับสิทธิพิเศษในการใช้มันเพียงคนเดียว

การได้อาบน้ำกับพวกสาวๆ มันก็ดีอยู่หรอก แต่แบบนี้มันก็ดีไปอีกแบบ

หลังจากลงมาแช่ในน้ำสีขุ่น วาห์นก็นึกย้อนไปถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้

การ ‘สนทนา’ กับอาคินั้นเป็นอะไรที่น่าสนใจมากจนเขาอยากรู้จริงๆ ว่ามันจะเป็นยังไงต่อ

เขาเองก็อยากเจอราอูลสักครั้งเหมือนกัน เพราะอยากเห็นกับตาว่าคนที่ปฏิเสธสาวงามอย่างอาคิได้นั้นมันต้องเป็นคนแบบไหนกันนะ

ขณะกำลังคิดเรื่อยเปื่อยอยู่นั้น วาห์นก็ได้ยินเสียงวุ่นวายจากฝั่งของพวกผู้หญิงซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร

ที่น่าแปลกก็คือ ไม่นานพวกเธอส่วนใหญ่ก็มายืนออกันอยู่ตรงฝั่งกำแพงกั้นห้อง…

วาห์นคิดอะไรไม่ออกไปชั่วครู่ จากนั้นเขาก็เริ่มนึกถึงข้อเสนอของเฮสเทียที่ให้นำกำแพงนี้ออกและเปลี่ยนไปกั้นบ่อเล็กแทน

‘…นี่กะจะทุบทิ้งวันนี้เลยเหรอ?’

ตามหลักแล้ว ขั้นตอนแรกที่ควรทำก็คือการกั้นบ่อเล็ก แต่วาห์นไม่คิดจริงๆ ว่าพวกเธอจะใจร้อนและอยากเอากำแพงใหญ่ออกก่อน

มาขนาดนี้แล้ว ไอ้เรื่องเห็นตอนโป๊ๆ น่ะไม่ใช่ปัญหาหรอก แต่วันนี้เขายังไม่ได้เตรียมใจที่จะอาบน้ำกับผู้หญิงตั้ง 8 คนน่ะสิ

ตอนแรกวาห์นกะจะร้องเรียกให้หยุดก่อน แต่จู่ๆ เขาก็สัมผัสได้ว่าพวกเธอกำลังเดินถอยห่างออกไปเอง

ดูไปแล้วอยู่ต่อก็รู้สึกไม่ปลอดภัยเท่าไหร่ วาห์นเลยรีบล้างตัวให้เสร็จก่อนจะหนีออกจากที่นั่นทันที

หลังจากกลับมาที่ห้อง วาห์นที่นึกสงสัยนิดๆ ก็เริ่มแปลงเป็นร่างพยัคฆ์ขาวเพื่อตรวจสอบสิ่งที่อาคิบอก

แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เขาก็คงไม่ทำซ้ำสองแน่นอน เพราะสิ่งแรกที่ชนเข้ากับจมูกอย่างแรงก็คือหัวเชื้อที่มีชื่อว่า ‘เฮสเทีย’

มันรุนแรงมากเสียจนเขาต้องใช้ [จิตแห่งราชัน] ออกมาข่มตัวเองพร้อมกับสลายร่างแปลงออกทันที

เพราะนอนกับเฮสเทียบ่อยมากจนเริ่มชิน วาห์นเลยไม่รู้ตัวว่ากลิ่นที่อยู่ในห้องนี้มันหนาแน่นแค่ไหน

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ใบหน้าของอาคิจะขึ้นสี… แถมเธอยังต้องทนอยู่ในนี้ตลอดช่วงพิธีเปลี่ยนตราสัญลักษณ์อีก

วาห์นเริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่ จากนั้นก็นำเทียนหอมที่มีคุณสมบัติขจัดกลิ่นต่างๆ ออกมาจุด

นอกจากสรรพคุณดังกล่าวแล้ว เทียนชนิดนี้ยังทำให้ห้องมีกลิ่นของไม้จันทน์แทนด้วย

วาห์นไม่รู้หรอกว่ากลิ่นไม้จันทน์มันเป็นยังไง เมื่อกี้คือการซื้อแบบสุ่มล้วนๆ ทว่ากลิ่นที่รุนแรงแต่แฝงด้วยความสบายๆ ของมันก็ไม่ทำให้เขาผิดหวังเลย… ดมไปดมมาแล้วก็นึกถึงริวซะอย่างนั้น

วาห์นเริ่มนำพวกมันออกมาจุดเพิ่มและได้แต่หวังว่าพุ่งนี้สภาพกลิ่นในห้องจะดีขึ้น

เขายังเปิดช่องระบายอากาศด้านข้างออกด้วย เพราะตามปกติแล้วจะปิดมันไว้เพื่อรักษาอุณหภูมิด้านใน

เพราะมีสกิลกันหนาวหลายอย่าง คืนนี้เขาก็เลยเปิดรับลมเสียหน่อย

เป็นเวลานานมากแล้วที่วาห์นไม่ได้นอนคนเดียวท่ามกลางอากาศหนาวเย็นขณะกางแขนขาออกอย่างสบายอารมณ์…

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Status: Ongoing

เรื่องย่อโดยผู้แต่ง

วาห์นชายหนุ่มผู้ที่มีความผิดปกติ เนื่องจากการกลายพันธุ์ที่หายาก เลือดของเขาจึงมีความสามารถซ่อนเร้นที่ทำให้เป้าหมายและความเสียหายที่เกิดจากโรคร้ายที่อยู่ภายในร่างกายมนุษย์

ถูกขจัดออกไปในโดยการรักษาครอบจักรวาล เหล่าผู้คนจึงต่างเชิดชูบูชาสถานะของเด็กหนุ่มเหนือกว่าผู้ใดทั้งสิ้นและมอบชื่อให้เขาว่า “ยารักษาสารพัดโรค” ในข่าว

เขาได้รับการยกย่องเป็นเหมือนกับวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่จะนำพายุคสมัยแห่งใหม่หรือคุณภาพชีวิตมนุษย์ที่ดีมาถึง อย่างไรก็ตาม ฉากที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้สดใสเลย

เนื่องจากปัจจัยเฉพาะบางอย่าง วาห์นจึงใช้เวลาช่วงวัยรุ่นทั้งหมดถูกกักขังอยู่ในห้องทดลองกับนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย และทีมวิจัยที่ใช้ร่างกายและเลือดของเขาเพื่อทำการทดลองที่ไม่มีที่สิ้นสุด

สิ่งปลอบใจความทุกข์ทรมานเพียงอย่างเดียวของเขาคืออนิเมะทั้งหลายและหนังสือการ์ตูนที่มีให้เขาดูในระหว่างการทดลอง เขามักจะจินตนาการว่าตนเองเป็นตัวเองที่อยู่ในโลกของตนเอง

dและสุดท้ายเขาก็สามารถควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้ เป็นเวลาหลายปีที่เขาเก็บรักษาความปราถนานี้เอาไว้ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในวัย 14 ปีขณะที่มีองค์กรพยายามลักพาตัวเขาออกจากห้องทดลอง…

“ในที่สุด ผมก็ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไปแล้ว…”

นี่เป็นความคิดสุดท้ายของวาห์นในขณะที่เขาค่อยๆจางหายไปในห้วงแห่งความมืดอันไร้สิ้นสุด…

“ดวงวิญญาณที่น่าสงสาร”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท