การต่อสู้ครั้งสุดท้าย 7 ร่างอมตะ
โดย
หุ่นไล่กา
เด็กสาวสีแดงโบกมือก่อนที่มวลพลังสีแดงเลือดจะปกคลุมที่ฝ่ามือ เธอบีบมันจนแตกกระจายกลายเป็นหอกยาวสีเลือดที่แผ่กลิ่นอายแห่งความตายอันรุนแรงออกมา เธอคว้ามันแน่น ก่อนจะหันไปมองจิวโมไป๋อย่างเชื้องช้า
จิวโมไป๋มองไปยังเด็กสาว ก่อนที่สายลมไร้สีจะหมุนวนเกิดเป็นพายุขนาดย่อม เขาโบกมือออกไป พายุไร้สีหมุนวนราวพายุงวงช้างพุ่งไปหาเด็กสาวสีแดง
เด็กสาวสีแดงทะยานร่างเข้าใส่พายุอย่างไม่เกรงกลัว เมื่อเข้าระยะโจมตี เธอเหวี่ยงหอกสีแดงเลือดออกไป มันทะลวงผ่านพายุไร้สีพุ่งออกไปหาจิวโมไป๋ ก่อนที่เธอจะยกมือขึ้นชกที่พายุจนแตกกระจาย มือของเธอเกิดบาดแผลมากมาย แต่ไม่นานก็สมานอย่างรวดเร็ว ร่างเล็กของเธอพลันพุ่งทะยานด้วยความเร็วไม่มีรั้งรอ
จิวโมไป๋หรี่ตามองหอกสีเลือดที่ใกล้เข้ามา เขาสัมผัสถึงความผิตปกติอย่างรวดเร็ว เขาไม่รับมันโดยตรง แต่ใช้ท่าร่างถอยหลังหลบ
แต่หอกสีเลือดเหมือนมีชีวิต มันพลิกตัวตามติดไม่ปล่อย เมื่อเข้าใกล้ในระยะไม่ถึง 50 เมตร มันก็แบ่งตัวกลายเป็นเข็มเล็กจิ๋วนับไม่ถ้วน พุ่งออกไปราวห่าฝน กลิ่นอายบางอย่างที่แผ่ออกมา ทำให้ห้วงอาณาเขตวิญญาณห้วงมรณะในร่างของเขากรัดร้องเตือนเสียงดัง
จิวโมไป๋หรี่ตาลงเล็กน้อย ดวงตาฉายแววโกรธเล็กน้อย เขาวาดฝ่ามือออกวงแหวนข่ายอาคมปรากฏตรงหน้า ก่อนจะระเบิดออกกลายเป็นปราการสี่เหลี่ยมสีทอง
เปรี้ยง!เปรี้ยง!เปรี้ยง!เปรี้ยง!
ฝนเข็มปะทะกับปราการสีทองจนสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง จิวโมไป๋มองไปที่ปราการสีทองก็พบว่าจุดที่เข็มสีเลือดแทง ค่อยเกิดรอยร้าว
จิวโมไป๋ไม่รอช้าเขาเร่งพลังกดดันจนเกิดสายลมม้วนตัวอย่างรุนแรง ก่อนที่เขาจะชกหมัดออกไป เกิดเสียงคำรามราวกับมังกรคำรามดังกึกก้อง ฝนเข็มเลือดที่กำลังปะทะกับปราการสีทองถูกทำลายจนหมด
เมื่อเข็มเลือดล่วงล่นไปด้านล่างเมื่อมันกระทบถูกกับอะไร สิ่งนั้นก็จะหลอมละลายอย่างน่ากลัว
จิวโมไป๋เข้าใจทันทีว่าความรู้สึกอันตรายเกิดจากอะไร พลังการกัดกร่อนไม่ธรรมดา
วูบ เด็กสาวสีแดงปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบเชียบด้านหลังของจิวโมไป๋ ในมือของเธอมีขวานสีแดงที่แผ่กลิ่นอายอันตรายออกมา จิวโมไป๋หันกลับมาแทงกระบี่เลือนเร้นออกไปในชั่วพริบตา
เด็กสาวสีแดงฟันขวานสีเลือดลงมาอย่างไม่เกรงกลัว คลื่นพลังของทั้งสองระเบิดออกอย่างรุนแรง บาดแผลมากมายปรากฏขึ้นทั่วร่างของเด็กสาวสีแดง เกร็ดมังกรเขียวของจิวโมไป๋ก็เกิดการกัดกร่อนขึ้นหลายจุด
ทั้งสองยืนปะทะกันไม่ถอย ทั้งสองมองหน้ากัน ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มลงมือโจมตีอีกครั้ง
คลื่นพลังอันทรงพลังของทั่งสองปะทะกันอย่างรุนแรง ห้องโถงสั่นสะเทือนราวกับถูกเขย่า
การล่มสลายเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ หินก้อนเล็กก้อนใหญ่ถล่มลงมา
จิวโมไป๋และเด็กสาวสีแดงเหวี่ยงอาวุธในมือต่อสู้กันไม่ถอย
จนกระทั้ง มีก้อนหินหนักหลายตันตกลงมาระหว่างพวกเขาทั้งสอง โดยไม่ต้องมองพวกเขาแยกออกจากกัน ก่อนที่ก้อนหินจะตงลงมาจุดที่พวกเขาต่อสู้กัน
ปัง! พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
วูบ ร่างของจิวโมไป๋ปรากฏตัวขึ้นที่หลังของเด็กสาวสีแดงและแทงกระบี่ทะลุผ่านอกซ้ายทะลุตำแหน่งหัวใจอย่างแม่นยำ
ร่างของเด็กสาวสีแดงชะงักค้างเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเหวี่ยงขวานไปที่จิวโมไป๋โดยไม่สนใจที่ตัวเองถูกแทงทะลุหัวใจ
จิวโมไป๋ดึงกระบี่เลือนเร้นกลับและก้มหลบขวานเลือดที่มีพลังกัดกร่อนรุนแรง
ตรงอกของเด็กสาวสีแดงมีรอยหลุมลึก เลือดสีแดงดำไหลออกมาอย่างช้าๆ แต่ไม่นานก็ถอยกลับเข้าไปในอก บาดแผลสมานอย่างรวดเร็ว
อักขระเลือดกระพริบถี่ยิบก่อนจะสงบ
จิวโมไป๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย พลังการรักษาแข็งแกร่งจริงๆ และไม่สนใจการยับยังของเคล็ดวิชากระบี่เลือนเร้นอีกแล้ว
สายตาของจิวโมไป๋มองสำรวจอักขระสีเลือด เขาจำได้ว่ามันคือภาษานรก แต่เขาไม่ได้ศึกษามัน ทำให้เขาไม่รู้ว่ามันมีความหมายว่าอะไร
จิวโมไป๋ถอยกลับมายืนอยู่บนฝั่ง คิ้วก็ขมวดแน่น
ในเวลาเดียวกันสายเลือดมังกรพายุอัสนีในร่างค่อยสงบลง พลังปราณที่พลุ่งพล่ายก็ค่อยๆลดลง พวกมันไหลไปรวมกันที่ตรามังกรขี่สายลมที่แกซ้ายของจิวโมไป๋
เมื่อความเดือดพล่านลดลง อารมณ์ไม่แยแสก็ค่อยๆสงบลง แต่มันก็บ่งบอกว่าพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติของเขาก็จะลดลงเช่นกัน ถ้าเขาช้าอีก พลังของเขาจะลดลงจนอ่อนแอกว่าเด็กสาวสีเลือดและเขาจะเป็นฝ่ายถูกฆ่า
สมองของเขาครุ่นคิดวิธีจบการต่อสู้อย่างรวดเร็ว
แต่เด็กสาวสีแดงไม่ให้จิวโมไป๋ได้คิด เธอบุกเข้าอย่างไม่เกรงกลัว ขวานสีแดงเลือดกวัดแกว่งอย่างดุเดือดทรงพลัง กลิ่นอายอันตรายที่แผ่ออกมายากที่จะต้านทาน
คลื่นพลังอันน่ากลัวกวาดทำลายโดยรอบ ทิ้งร่องรอยความเสียหายจำนวนมาก ห้องโถงเริ่มถล่มลงมามากขึ้นเรื่อยๆ
จิวโมไป๋ตัดสินใจทันที พลังกดดันในร่างก็ระเบิดออกอย่างรุนแรง กระบี่เลือนเร้นในมือฟันออกไป กฎแห่งธาตุลมผสานกับพลังของเคล็ดบ่มเพาะพลังกระบี่เลือนเร้น เกิดคลื่นกระบี่ยาว 12 เมตร คมกระบี่ตัดผ่านช่องว่างอากาศ ฟันไปที่คอของเด็กสาวสีแดงอย่างแม่นยำ
พลังมังกร
วิชากระบี่ล้างบาป ตัดมาร!