เหตุการณ์ประวัติศาสตร์’สัญญาท้ารบของสองวีรบุรุษ’ 1/2
โดย
หุ่นไล่กา
กลุ่มคนยืนมองทั้งสามคนตรงกลางราวกับว่ากำลังชมละคร พวกเขามุงดูอยู่ห่างๆไม่เข้าใกล้มากนัก แต่เมื่อเวลาผ่านไปจำนวนคนที่เข้าร่วมสนุกก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
“ฮิซาชิ นายกำลังทำบ้าอะไรอยู่ปล่อยฉันนะ!”หญิงสาวพยายามดึงแขนออกจากการจับกุมของชายหนุ่มร่างสูง
“ฉันแค่พาเธอไปทานอาหาร ไม่ได้พาไปทำอะไรไม่ดีซักหน่อย”ฮิซาชิพูดอย่างใจเย็นไม่สนใจท่าทางขัดขืนของมาซุมิแม้แต่น้อย หางตาลอบมองชายหนุ่มร่างผอมท่าทางอ่อนแอเป็นระยะ
“นายชวนพวกเราไปดีๆก็ได้ ทำไม่ต้องบังคับด้วย”มาซุมิพูดอย่างไม่พอใจ
“ฉันชวนดีๆแล้ว แต่พวกเธอไม่ยอมไป”ฮิซาชิหันไปพูดกับมาซุมิพร้อมยักไหล่
“ฮิซาชิ! ไม่อายบางหรือไงที่ทำตัวน่าอายแบบนี้!”ชายหนุ่มร่างผอมตะโกนเสียงดังลั้นอย่างสุดกลั่น ผู้คนที่มุงดูอยู่ แสดงสีหน้าตกตะลึงออกมาเล็กน้อย ก่อนที่พวกเขาจะรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา ในที่สุดการแสดงจริงๆก็เริ่มซักที
“ฮ่าๆ มาซาโตะ แล้วหน้าตาบอบบางแบบนายล่ะ จะทำอะไรได้”ฮิซาซิมองมาซาโตะด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง เขาสังเกตเห็นว่ามีคนบันทึกภาพของเขาอยู่ แต่เขาไม่สนใจแม้แต่น้อย ว่าจะมีใครบันทึกภาพการกระทำของเขา เพราะเขาเป็นลูกชายคนเดียวของผู้อาวุโสอันดับ 1 ของ สำนักฟ้าคำรฌ แม่ของเขาเป็นผู้อำนวจการสถานีโทรทัศน์อันดับ 2 ของประเทศเกาะ อำนาจครอบครัวของเขาแข็งแกร่งจนไม่มีใครกล้าสั่นคลอน
เขาจึงกล้าทำตัวเป็นรุ่นที่ 2 ที่เย่อหยิ่งไม่เกรงกลัวอะไร
ด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านทำให้เขากำแขนของมาซุมิแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว ทำให้มาซุมิร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“โอ๊ย! ฉันเจ็บนะ”
มาซาโตะเห็นดังนั้น มือที่กำแน่นจนเส้นเลือดบูดโบน ร่างของเขาสั่นระริก แต่เขาไม่กล้าเข้าไปช่วย เพราะระดับความแข็งแกร่งของเขาอ่อนแอกว่าฮิซาซิมาก และที่นี่เป็นเมืองที่ปกครองโดยสำนักดาบฟ้าคำรณ ถ้าเขากล้าก่อเรื่องแม้ว่าเขาจะไม่ใช่ฝ่ายที่ผิด เขาจะถูกส่งเข้าคุกทันที
นี่คือความอ่อนแอของผู้พ่ายแพ้ ที่อยู่ต่ำกว่าห่วงโซ่อาหาร
กฎหมายของประเทศเกาะสนับสนุนผู้แข็งแกร่ง ถ้าไม่สามารถปีนขึ้นได้ ผู้อ่อนแอจะต้องถูกเหยียบย้ำบี้แบนอยู่ด้านล่าง กลายเป็นทางเดินกระดูกส่งให้ผู้ที่แข็งแกร่งปีนขึ้นสูง
ด้วยกฎหมายที่แบ่งแยกแข็งแกร่งและอ่อนแออย่างชัดเจน ทำให้ประเทศเกาะสามารถสร้างผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งมากมาย แต่ผู้อ่อนต้องตกตะกรรมลำบาก ถ้าล้มลงพวกเขาจะไม่สามารถยืนหยัดลุกขึ้นได้
มาซาโตะได้แต่ตัวสั่นด้วยความโกรธ
ฮิซาชิเห็นว่ามาซาโตะไม่กล้าทำอะไรเลย แม้จะเห็นว่ามาซุมิบาดเจ็บก็ตาม เขาก็เริ่มหมดสนุก ที่จริงแล้วเขาไม่คิดที่จะทำอะไรมาซุมิเลย ใครจะบ้าฉุกผู้หญิงกลางวันแสกๆ เขาไม่ได้โจรใจทรามที่ฉุดหญิงสาวไปทำเรื่องไม่ดี และพวกเขาทั้งสามก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นมัธยมต้นและปลาย พวกเขาอยู่ด้วยกันมา 6 ปี แม้จะไม่สนิท แต่ก็ถือว่าเป็นเพื่อนกัน
วันนี้เขาเห็นมาซาโตะและมาซุมิกำลังออกเดท เขาก็อยากจะเข้าไปทักทาย แต่เมื่อเขาเห็นท่าทางอ่อนแอของมาซาโตะที่อายุ 20 ปี แล้ว แต่ระดับการบ่มเพาะพลังยังอยู่แค่ขั้นที่ 3 อวัยวะภายในต้นเท่านั้น เขาจึงอดไม่ได้ที่จะกลั่นแกล้งอีกฝ่าย
ตอนแรกเขาแค่คิดจะแกล้งขำๆ แต่ที่น่าผิดหวังคือ มาซาโตะทนให้เขายั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่ตอบโต้ เขายิ่งอดไม่ได้ที่จะเพิ่มระดับความรุนแรงในการกลั่นแกล้งมากขึ้น
เรื่องจึงเริ่มเลยเถิดมากขึ้น
เขาไม่เข้าใจจริงๆว่าในยุคสมัยแห่งการบ่มเพาะพลัง ทำไมมาซาโตะถึงไม่สนใจบ่มเพาะพลัง เอาแต่ทำเรื่องไร้สาระอยู่ได้
ความคิดของฮิซาชิ แทบจะเป็นความคิดของคนส่วนใหญ่ของประเทศเกาะที่ถูกปลูกฝังด้วยกฎหมายที่สนับสนุนผู้แข็งแกร่ง
คนที่อ่อนแอจะต้องตกเป็นเหยื่อของคนที่แข็งแกร่งกว่า!
ฮิซาชิที่หมดสนุก กำลังจะปล่อยมือที่จับแขนมาซุมิ
แต่ในตอนนั้นเอง มาซาโตะก็พุ่งเข้ามาอย่างฉับพลัน ไม่มีสัญญาติเตือนใดๆทั้งสิ้น เขาเข้าโจมตีในจังหวะที่น่าทึ่งจริงๆ มาซาโตะอาศัยชั่วพริบตาที่ฮิซาชิเผลอตัวผ่อนคล้ายและเปิดช่องโหว่ออกมา แต่น่าเสียดายที่มาซาโตะไม่มีความกล้าหาญแม้แต่น้อย ร่างกายอ่อนแอสั่นระริกด้วยความกลัว แววตามืดมนลอกแลกไม่มั่นคง และความแข็งแกร่งของร่างกายที่อ่อนแอ ทำให้จังหวะโจมตีอันน่าทึ่งที่สร้างขึ้น สูญเปล่าอย่างสมบูรณ์
การเคลื่อนไหวที่อ่อนแอแบบนี้ จะสามารถทำอะไรฮิซาชิที่มีระดับการบ่มเพาะพลังขั้นที่ 6 โลหิตต้นได้?
ร่างของมาซาโตะ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ฮิซาชิครุ่นคิดวิธีจัดการอีกฝ่ายได้หลายสิบวิธี จนกระทั้งมาซาโตะเงื้อแขนขวาขึ้น และชกหมัดไปที่หน้าของฮิซาชิ
ฮิซาชินิ่งไปเล็กน้อยก่อนที่ความคิดบางอย่างจะแล่นขึ้นในหัว เขาก็ได้เคลื่อนไหว เขาโยกหัวถอยหลังเล็กน้อยเพื่อผ่อนการโจมตี
ผัวะ! หมัดของมาซาโตะชกเข้าที่กลางใบหน้าของฮิซาชิอย่างจัง
ผู้คนที่มุ่งดูอยู่ต่างตกตะลึง!
—
2 ตอนนี้ไม่มีอะไรมากครับ แค่ปูบนสองตัวละครสำคัญในอนาคต ฮ่าๆ