บทที่ 2 ไม่เคยเห็นชายโสดทำหมันหรือไง
Xiaobei
หญิงสาวกัดริมฝีปากหน้าซีดเผือด ไม่อาจละสายตาจากเอกสารการทำหมันได้เลย
“เคยได้ยินเรื่องการทำหมันใช่ไหมครับ แต่ดูเหมือนคุณจะยังไม่รู้ชัดเจนเท่าไหร่ ผมจะอธิบายแบบรวบรัดให้ฟังนะครับ จากในสารานุกรม ก็คือการผ่าตัดท่อน้ำเชื้อของผู้ชาย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อคุมกำเนิดและป้องกันการติดโรค ถ้าให้อธิบายวิธีผ่าตัดสั้นๆ ก็คือ หลังจากฉีดยาชาที่ถุงอัณฑะ ก็จะทำการกรีดเล็กๆ เหนือท่อน้ำเชื้อ หนีบท่อทางเดินของเชื้ออสุจิทั้งสองด้วยคีมแล้วทำการตัด และจี้บิดปลายท่อทั้งสองข้างที่ตัดออกด้วยไฟ ควบคุมขนาดนี้ ความผิดพลาดที่น้ำอสุจิจะไหลออกมานั้นแทบจะไม่มีเลยนะครับ”
เขาอธิบายด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน ประหนึ่งเจ้าตัวเป็นศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะที่อธิบายวิธีผ่าตัดทำหมันแก่คนไข้ที่กำลังจะทำหมัน ระหว่างนั้นก็ทำท่าฉีดยาและใช้กรรไกรตัดไปด้วย ทำเอาหญิงสาวสะดุ้งตกใจ
“รู้ใช่ไหมครับว่าผลลัพธ์ของการทำหมันคืออะไร นั่นก็คือ ‘การคุมกำเนิด’ ถึงเป้าหมายสุดท้ายของการผ่าตัดทำหมันจะเป็นการคุมกำเนิด แต่ที่เข้าใจผิดกันมากที่สุดคือคิดว่าทำหมันแล้วจะไม่ท้องทันที นั่นไม่ใช่ หลังจากผ่าตัดแล้วจะยังมีน้ำอสุจิเหลือค้างอยู่ และจะยังไหลออกมาเวลามีเพศสัมพันธ์หลังผ่าตัด ยังต้องใช้วิธีคุมกำเนิดด้วยถุงยางอนามัยต่อไปอีกสิบถึงยี่สิบครั้ง ไม่งั้นอาจเกิดการทะเลาะกันใหญ่โต ว่าผู้ชายป้องกันเรียบร้อยแต่ทำไมผู้หญิงยังท้อง แล้วจะกลายมาเป็นหวาดระแวงในตัวผู้หญิงอีกใช่ไหมล่ะครับ แม้การผ่าตัดจะสำเร็จด้วยดี เวลาผ่านไป อายุมากขึ้น ส่วนต่างๆ ที่ผ่าตัดอาจมีการเสื่อมเล็กๆ น้อย ทำให้อสุจิออกมาใหม่ ถ้าผ่าตัดเกินสิบปีไปแล้ว อยู่ๆ อาจมีลูกหลงโผล่มาก็เป็นได้ คุณก็อาจจะเคยได้ยินเรื่องแบบนี้ จริงๆ ถึงจะบอกว่าทำหมันแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำคนอื่นท้องไม่ได้ แต่สำหรับกรณีของผม ไม่ต้องเป็นห่วงเลย ผมเพิ่งผ่าตัดเหมือนกับวิธีที่บอกไปเมื่อสี่ปีก่อน และไปรับการตรวจเป็นประจำทุกหกเดือน ร่างกายผมเป็นหมันแน่นอน และการใช้ถุงยางก็เป็นการป้องกันสองเท่า”
หญิงสาวจ้องมองจีฮวันที่อธิบายการทำหมัน มีกระทั่งยกตัวอย่างประกอบด้วยน้ำเสียงชัดเจนราวกับกำลังพรีเซนต์งานในห้องประชุมด้วยใบหน้าตกตะลึง
“เป็นไงครับ พอเข้าใจแล้วใช่ไหม ถ้างั้นก็ขอนั่นคือด้วยครับ”
หญิงสาวอึ้ง โยนเอกสารเหมือนกับสะบัดแมลงที่ติดมืออยู่ทิ้ง จีฮวันพับเอกสารเก็บใส่ซองอีกครั้ง
“มีอะไรสงสัยอีกไหมครับ”
ถึงจะถามตามมารยาท แต่สิ่งที่จีฮวันหวัง คือให้หญิงสาวลุกออกไปเงียบๆ ก่อนที่จะได้อับอายมากไปกว่านี้
แต่ดูท่าเธอจะไม่คิดแบบนั้น หญิงสาวที่จ้องมองใบหน้าของจีฮวันอย่างอึ้งๆ อ้าปากอย่างยากลำบาก
“ทะ ทำไม ในเมื่อคุณก็ยังไม่ได้แต่งงาน แต่กลับไปทำหมันแบบนั้น…”
“จุดประสงค์ของการไปทำหมันเพื่ออะไรล่ะครับ แน่นอนว่าเพื่อไม่ต้องการมีลูกใช่ไหม จำที่ผมบอกตั้งแต่ตอนพบกันครั้งแรกได้รึเปล่าครับ ว่าผมไม่คิดจะแต่งงาน และไม่ต้องการเด็ก ดังนั้นนี่ก็เป็นวิธีป้องกันที่แน่นอนเพื่อหยุดโศกนาฏกรรมที่อาจเกิดขึ้นได้ไงครับ”
“เฮ้อ…”
ท่ามกลางเสียงถอนใจสั้นๆ ของหญิงสาว บ่งบอกถึงความอึ้ง ไม่อยากจะเชื่อ ตกใจ ผสมปนเปกัน
“ดังนั้นผมเลยอยากบอกว่า เด็กที่คุณซูจองว่าอยู่ในท้อง อัตราความเป็นไปได้ที่จะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของผม มีความเป็นไปได้ต่ำเป็นอย่างยิ่ง”
ริมฝีปากของหญิงสาวสั่นระริก
“แล้วทำไมถึงเอามันมา หรือคุณรู้ว่าฉันจะคุยเรื่องท้อง เลยเตรียมเอกสารนี้เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว”
“ผมทำงานที่ต้องพบเจอผู้คนมากมาย อยากบอกว่าความรู้สึกไวกว่าคนอื่นก็ได้ ตอนที่คุณโทรมาเสียงเครียดบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย ไม่รู้ทำไมผมถึงได้ก็อยากเตรียมสิ่งนี้มาด้วยก็ไม่รู้นะครับ”
หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่น
“ไม่อยากจะเชื่อ”
“อะไรครับ”
“ชายโสดที่ยังไม่แต่งงานเนี่ยนะจะทำหมัน ไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้มาก่อน!”
“ก็มีนี่ไงครับ”
จีฮวันยักไหล่ หญิงสาวจ้องจีฮวันด้วยสีหน้าที่มองว่าแกมันผู้ชายเฮงซวยที่สุดในโลก ขนาดเช็คเอกสารด้วยสองตาแล้ว สีหน้ายังไม่เลิกกังขา
“ขนาดเมียคลอดลูกไปแล้วสองสามคน ขอร้องให้ทำเพราะกังวลใจ พวกผู้ชายส่วนใหญ่ยังไม่อยากทำจะเลย บอกว่ามันทำให้กำลังวังชาลดลง ชายโสดที่ไหนจะสมัครใจทำหมันเอง”
เสียงของหญิงสาวค่อยๆ สูงขึ้น ราวกับเป็นโซปราโนเอกการขับร้อง เพิ่มความสูงต่ำอีกหน่อยนี่ยังกะร้องเพลง
“หรือจะให้ผมติดต่อหมอที่ผ่าตัดให้ไหมล่ะครับ ต้องทำขนาดนั้นถึงจะเชื่อใช่ไหม”
เขาดูนาฬิกา
“ห้าโมงครึ่งแล้ว วันเสาร์ ตอนนี้โรงพยาบาลปิดแล้ว เอาไงดี วันจันทร์ไปโรงพยาบาลด้วยกันไหมครับ”
หญิงสาวกัดริมฝีปากสีหน้าฉุนเฉียวเกินทน ดวงตาที่เคยมีน้ำตาอย่างใสซื่อบริสุทธิ์ก่อนหน้านี้ แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาในชั่วพริบตา
“พวกผู้ชายไม่ยอมใส่ถุงยางเพราะบอกว่าทำให้ความรู้สึกทางเพศลดลง เลือกที่จะปลอดปล่อยอารมณ์เต็มที่แทบทั้งนั้น แต่พอทำผู้หญิงท้องก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่มีความรับผิดชอบแม้แต่ขี้เล็บ แต่นี่ยอมทำแม้กระทั่งไปทำหมันก่อน ป้องกันไม่ให้ผู้หญิงท้อง ผู้ชายที่ทำเพื่อผู้หญิงแบบนี้มีที่ไหนในโลก!”
อืม เป็นแบบนี้เองสินะ จีฮวันขมวดคิ้วกับหน้าใสซื่อของหญิงสาวที่บัดนี้หายไปจนหมดแล้ว
หญิงสาวที่โกรธจนสติแตก ทิ้งคอนเซ็ปต์หญิงสาวครอบครัวดีมีฐานะและได้รับการอบรมอย่างดีไปในพริบตา
เสียงซุบซิบและสายตารอบตัวจ้องมองมาที่หญิงสาวที่พ่นคำด่าหยาบคายออกมาจากปากโดยไม่ได้ยั้งคิดเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น จีฮวันก็โดนด้วยเช่นกัน
“ท่าทางคุณจะเข้าใจอะไรผิดไป ผมไม่ได้ทำเพื่อผู้หญิง ผมทำเพื่อตัวเอง ผู้ชายทั้งโลกอาจจะปล่อยอสุจิตัวเองไปทั่วโดยไม่อนาทรร้อนใจ แต่พวกที่อายุยังน้อย ยังไม่ได้แต่งงาน แต่เกลียดเด็กเหมือนผมก็มีเยอะ อย่ามั่นใจว่าความต้องการในการขยายพันธุ์เป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ทั้งเจ็ดพันล้านคนเลยดีกว่าครับ”
หญิงสาวสบถออกมาด้วยใบหน้าฉุนเฉียว
“อวดดีนักนะ”
“ไม่ใส่ถุงยางเพราะหมดอารมณ์ แถมยังบังคับตัวเองไม่ให้ปล่อยในไม่ได้ คนที่ไร้ความรับผิดชอบแบบนี้เป็นพ่อเด็กสินะครับ หรือไม่รู้ว่าพ่อเด็กเป็นใคร”
ใบหน้าของหญิงสาวไร้สีเลือด
“ไอ้พวกที่ไม่มีความรับผิดชอบแบบนี้ยอมแต่งงาน แต่ไม่มีทางยอมจ่ายค่าทำแท้งให้สินะ”
ความคิดแวบขึ้นมา จีฮวันลูบคางขณะจ้องหญิงสาวด้วยแววตาสงสัย
“ก่อนเจอผม คุณรู้ว่าตัวเองท้องอยู่แล้ว ใชไหม”
หญิงสาวตกใจ ตอบตะกุกตะกัก
“พะ พูดอะไรน่ะ ฉะ ฉันจะไปรู้ได้ยังไง”
“ตอนเจอกันครั้งแรก ผมก็เปิดเผยกับคุณว่าเป็นคนรักความโสด เชื่อคำพูดคุณที่เห็นดีด้วยและไม่คิดจะแต่งงาน เลยยอมคบคุณ เพราะไม่อยากให้มาบีบบังคับให้แต่งงาน แล้วเด็กก็โผล่มา ถ้าผมเป็นมนุษย์ที่จะเป็นจะตายกับความรับผิดชอบ หรือโง่เชื่อว่าเป็นลูกตัวเอง ก็คงจะตัดสินใจแต่งงาน ถึงแต่งไม่ได้ ดื้อดึงไปก็อาจจะไถเงินมากมายเป็นข้ออ้างค่าทำแท้ง จะแต่งงานหรือทำแท้ง ดูยังไงคุณก็มีแต่ได้ประโยชน์จริงไหม ดังนั้นถึงได้เลือกผมสินะ”
จีฮวันถามซ้ำๆ และจ้องมองราวกับสอบสวน ใบหน้าของหญิงสาวขาวจนเขียว ดูน่าสงสาร
“จะการแต่งงานหรือว่าเงิน คุณคิดว่าจะได้ตามต้องการง่ายๆ ขนาดนั้นเลยเหรอ นี่ คุณชเวซูจอง ถ้าคิดจะหลอกผม คุณต้องใช้หัวมากกว่านี้หน่อยนะครับ แค่นี้คิดว่าจะสำเร็จหรือไง มีผมให้เข้าไปทำที่ร้านเสริมมาซะสวย แต่ไม่มีสมองบ้างเลยเหรอ”
หญิงสาวตัวสั่นหงึกๆ ลุกพรวดขึ้น
“คะ คนบ้าอะไรเนี่ย! ไอ้โรคจิต!”
หญิงสาวที่ลุกพรวดขึ้น สาดแก้วชาที่เย็นแล้วในมือไปที่เขาแล้วออกจากร้านไป โวะ! หนูพอถูกต้อนให้จนมุม ก็เลยหันมากัดแมว
ได้กลิ่นชาสมุนไพรที่เย็นลงแล้ว เขาแค่นหัวเราะตัวเปียกโชก ใครกันแน่ที่สมควรเป็นคนโกรธ คนผิดกลับเป็นฝ่ายโกรธเสียนี่ ไม่รู้โกรธเพราะขายหน้าที่โดนจับได้ง่ายๆ หรือตกใจที่รู้ความจริงว่าเขาทำหมันแล้วกันแน่
ผู้หญิงคนนั้นอาจลืมเสียสนิทว่าตัวเองเป็นฝ่ายโกหก แล้วมาหาว่าจีฮวันเป็นพวกโรคจิต เพราะแค่เขาเป็นหนุ่มโสดที่ไปทำหมัน ทำให้ตัวเองเป็นผู้เสียหาย เพราะจะได้ไม่ต้องขายหน้าและเสียศักดิ์ศรี
เขาเคยคบผู้หญิงมาประมาณห้าครั้ง และการคบครั้งที่ห้าก็ไปโรงแรม รูปร่างหน้าตาดี น้ำเสียงเธอสดใสถูกใจจีฮวัน อ่านหนังสือเยอะ ทำลายอคติที่ว่าพวกที่มีความสามารถทางศิลปะไม่มีสมอง สดใสและน่าประทับใจ เพราะรักชีวิตโสดทั้งคู่ เลยคิดว่าน่าจะคบกันได้ โดยไม่ต้องถูกบีบคั้นให้แต่งงาน ไม่นึกเลยว่าจะจบเละเทะแบบนี้
* * *
จีฮวันกลับมาบ้านด้วยจิตใจที่เหนื่อยล้าเกินบรรยาย เขายืนเหม่ออยู่หน้าลิฟต์ที่จอดรถชั้นใต้ดิน อยากร้องไห้ ลิฟต์ที่เคยเป็นปกติดันมาเสียและกำลังซ่อมอยู่
“อีกประมาณชั่วโมงกว่าถึงจะเสร็จครับ”
จากคำบอกเล่าของช่าง ทำเอาจีฮวันกล้ำกลืนอาการคลื่นไส้ที่พุ่งขึ้นมาอย่างยากเย็น ขารู้สึกหนักขึ้นมา การเดินจากที่จอดรถชั้นใต้ดินขึ้นไปถึงชั้นสิบสี่นั้นไกลมาก จะกินมื้อเย็นรอที่ค็อฟฟี่ช็อปก็ได้ แต่ตอนนี้เขาไม่คิดจะกินอะไร ใจอยากแต่จะรีบกลับห้องไปพักผ่อนเท่านั้น
อยากอาบน้ำอุ่นๆ ดื่มไวน์สักแก้ว นั่งกอดจีองบนเก้ากี้โยก ฟังเสียงจีองที่ส่งเสียงครืดคราดๆ อย่างอารมณ์ดี
สุดท้ายจีฮวันก็เริ่มเดินขึ้นบันได เขาเกลียดการที่เหงื่อไหลโดยไม่ได้อยู่ในชุดออกกำลังกายและรองเท้ากีฬา แต่มันไม่มีทางเลือก
วันนี้ทำไมบันไดถึงได้ยาวและชันขนาดนี้ จีฮวันที่หอบขณะไต่มาถึงชั้นสิบสี่ กดรหัสประตูเข้าบ้าน จังหวะที่กำลังจะเปิดประตู อยู่ๆ ก็มีใครบางคนมาคว้าหมับเข้าที่ข้อมือของเขาจากด้านหลัง
“เฮ้ย!”
จีฮวันตกใจ ใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม
จีฮวันตัวสั่นหันกลับไปมอง เห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่
“ชะ ช่วยด้วยค่ะ ได้โปรด…”