บทที่ 30-2 เธอ,ฉัน ทำไมรุ่มร้อนกันอย่างนี้
Xiaobei
จีฮวันยื่นมือข้างหนึ่งไปสอดรับท้ายทอยอึนคัง ขณะที่ริมฝีปากสัมผัสลงไปอีกครั้งก็โดนอึนคังผลักออกอย่างแรง นี่คิดจะจูบสองรอบเลยเหรอ
“เมาหรือบ้าไปแล้ว ถ้าเมาก็สร่างซะ ถ้าบ้าก็ตั้งสติได้แล้ว”
“ถ้าไม่ใช่ทั้งสองอย่าง? โกอึนคังหวานมาก หวานอร่อยแทบบ้า จะไปทนได้ไง”
“นี่แกล้งกันใช่ไหม”
“รู้แล้ว ว่ารสดี”
“เฮ้อ ถ้าฉันใช้ได้จริงๆ ตอนนี้จะไม่ด่าก็ได้”
“อยากทำกับโกอึนคัง โกอึนคังคิดยังไงเหรอ”
“ทะ ทำ อะไร…”
เธอรู้อยู่แล้ว ว่าที่จีฮวันพูดนั้นหมายถึงอะไร
“อยากนอนด้วย”
เฮือก อึนคังนิ่งอึ้งไปอีกครั้ง คำพูดที่ชวน ‘นอนกันเถอะ’ ด้วยเสียงจอร์จ คลูนีย์ผสมกับคิมนัมกิล ประหลาดขนาดนี้เลย คำพูดที่เคยเขียนในนิยายมาร้อยครั้งพันครั้งโดยไม่รู้สึกอะไร
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่ทันได้ตั้งตัวชวนสับสน อึนคังรู้สึกหวิวๆ
“ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า เมาเบียร์เหรอ ยังมีสติไหม”
“คิดว่าโกอึนคังร้อนรุ่ม”
“ฉัน ฉันทำไม! ฉันร้อนรุ่มอะไร!”
“สนใจฉันสินะ”
“พะ พูดอะไร ใครสนใจ หลงตัวเองแล้ว”
“เห็นจ้องยังกะจะจับกินตั้งแต่เจอกันครั้งแรก หน้าฉัน คอฉัน มือฉัน ถ้ามีโอกาสนิดๆ หน่อยๆ ไม่สิ ตั้งแต่แรกที่เจอกันก็จ้องอย่างเปิดเผย ทุกที่ที่ถูกสายตาของโกอึนคังโลมเลีย มันรู้สึกร้อนแล้วก็จั๊กจี้ นึกว่าเป็นโรคผิวหนัง อย่างนั้นมันคืออะไร ใช่สเปกใช่ไหม”
อึนคังทำท่าจะลุก แต่จีฮวันจับมือเธอให้นั่งลงอีกครั้ง มือที่จับเอาไว้แน่นนั้นร้อนราวกับไฟ
“ไป!”
“ไปไหน”
“ไปบ้านนาย!”
“นี่บ้านฉัน ห้อง 1401 ที่โกอึนคังมาอึแล้วหนี”
“ฮือออ เลิกพูดเรื่องนี้สักที!”
“ถามครั้งสุดท้าย ถ้าอนุญาต ฉันจะทำกับโกอึนคัง แต่ถ้าปฏิเสธ”
อึนคังทำตาปริบๆ
“ก็จะไปส่งโกอึนคังที่ชั้นบน”
“แล้วถ้าฉันกลับ จะเป็นยังไงต่อไป”
“ก็ต้องทำสัญญาให้เสร็จ ย้อนเวลากลับไปหนึ่งวันก่อนหน้านี้ เป็นนักเขียนนิยายโรแมนซ์กับที่ปรึกษาทางการเงิน เป็นผู้ว่าจ้างที่จ่ายค่าที่ปรึกษา กับผู้รับจ้างที่ให้ข้อมูล ถามมาตอบไป สัมภาษณ์กันตามสัญญาเท่านั้น ย้อนกลับไปความสัมพันธ์ที่ไม่มากหรือน้อยกว่านั้น เอาละ โกอึนคัง เลือกสิ”
จริงที่อึนคังแอบมองจีฮวันหลายครั้ง จะว่าไปก็ทุกครั้งที่เจอกันนั่นแหละ เพราะเขาหล่อ เท่ ฉลาด หน้าตาดี แต่นี่เป็นการเลือกที่ไม่คิดฝันมาก่อน ว่าจะนอนกับเขาหรือไม่
“ถ้า…ไม่นอนด้วยกันวันนี้แล้วเลื่อนไปครั้งหน้าล่ะ”
“ไม่มีคราวหน้า ฉันไม่หน้าด้านพอไปจี้ถามผู้หญิงที่ตั้งท่าจะปฏิเสธอีกรอบหรอกนะ”
นั่นสินะ นายก็รู้ตัวดีนี่
“รยูจีฮวันไม่ใช่สเปกของฉัน”
“รู้แล้ว สเปกของโกอึนคังคือผู้ชายหน้าสวย อบอุ่น ปลอดภัย เจ้าเนื้อหน่อยๆ สูงร้อยเจ็ดสิบเซนกลางๆ แล้วโกอึนคังก็ไม่ใช่สเปกของผมแน่นอน”
“แล้วทำไมอยากนอนกับฉัน ชอบก็ไม่ได้ชอบ เกิดอารมณ์ก็ไม่ใช่ สเปกก็ไม่ใช่”
“นั่นสิ ทำไม”
“หรือเพราะโกรธที่เห็นผู้ประกาศข่าวแฟนเก่าที่ทิ้งไปแต่งงานตัวเองไปกับผู้ชายอื่น เลยมานอนกับผู้หญิงอื่น”
แววตาของจีฮวันสั่นไหวเล็กน้อย
“นึกว่าแฟนเก่าจะกลายเป็นป้าโทรมๆ ตรอมตรม ชีวิตแย่ แต่เธอกลับสวยขึ้น ดูเปล่งประกายกว่าตอนที่คบกันเสียอีก อารมณ์มันล้นทะลักออกมา อยากทำให้ผู้หญิงคนไหนก็ได้พังบ้าง แต่ก็ทำแบบนั้นไม่ได้ และผู้หญิงที่พอคุ้นเคยและอยู่ใกล้ๆ ก็มีแค่ห้อง 1503 ถึงจะเป็นยัยนี่ ก็น่าจะทำอะไรสักอย่างได้บ้าง ในหัวคิดแบบนั้นอยู่ใช่ไหม นายน่ะ”
จีฮวันยอมรับอย่างสงบเยือกเย็น
“การได้เจอแฟนเก่าเหนือความคาดหมาย ความจริงก็สับสนอยู่สักพัก ส่วนที่ว่ามานอนด้วยเพราะผลมาจากความโกรธ? ไม่น่าใช่อย่างนั้น ฉันก็ยังไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ต้องการตอนนี้ คือโกอึนคัง ไม่ใช่ผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น”
ใจของอึนคังหล่นวูบ
“ฉันต้องการเธอมาก ไม่ใช่สมอง แต่เป็นร่างกายของฉัน ตั้งแต่เมื่อวาน ทุกครั้งที่มองเธอก็อึดอัดแทบบ้า เหมือนมีปีศาจมักมากสิง เหมือนวัยรุ่นฝันเปียกสิบกว่าที่พร่ำเพ้อไร้สาระ มันร้อนรุ่มน่าหงุดหงิดมาก เธอ ทำอะไรกับฉันกันแน่ ร่างกายฉันถึงได้ร้อนรุ่มไม่สมกับเป็นฉันแบบนี้ ฉันไม่เคยขอร้องอ้อนวอนผู้หญิงเลยสักครั้ง ได้โปรด นอนกับฉันสักครั้งได้ไหม”
“ฉันเป็นผู้หญิงที่ไปอึบ้านคุณแล้วหนีนะ ลืมแล้วเหรอ”
“จะไปลืมเรื่องนั้นได้ยังไง ในเกาหลี นอกจากฉัน ไม่มีผู้ชายคนไหนเจอประสบการณ์แบบนั้นหรอกนะ”
จีฮวันลูบไล้ใบหูอึนคังด้วยนิ้วยาว เฮ้อ แบบนี้ขี้โกงนี่นา ความรู้สึกวูบไหวแล่นจากกระดูกสันหลังไปจนถึงปลายเท้า อึนคังได้แต่กำมือแน่น
ไม่ปฏิเสธมือเขาเท่ากับยอมตกลง ขณะที่จีฮวันกำลังจะแตะริมฝีปากลงไปอีกครั้ง ก็มีคำพูดไม่คาดคิดออกมาจากปากเธออีก
“เก่ง…ไหม”
“ฮ่าๆๆ!”
จีฮวันระเบิดหัวเราะลั่น
“บ้าเหรอ จะมีคนบ้าคนไหนสารภาพกับผู้หญิงที่ถามว่าไม่เก่งบ้าง”
“นั่นสิ”
หลังจากยี้หัวอึนคังเบาๆ จีฮวันก็กระซิบข้างหู
“ใช้ได้อยู่ ไม่ต้องห่วง”
ลมหายใจร้อนๆ ที่เข้ามาในหูทำเอาเบื้องหน้าของอึนคังหวิวๆ ใช่แล้ว ฉันเป็นนักเขียนนิยายโรแมนซ์ แถมเป็นโรแมนซ์สิบเก้าบวกเสียด้วยนะ ที่ทำแบบนี้ลงไปก็เพื่อเก็บข้อมูล และเป็นพื้นฐานในการเขียนนิยาย แล้วก็…
อึนคังหลับตาแน่นแล้วลืมตาขึ้นมา
“มาทำกันเถอะ”
ทันทีที่ตัดสินใจได้ อึนคังก็โน้มคอจีฮวันมากอด จีฮวันแกะแขนที่โอบรอบคอของเขาออกช้าๆ และจ้องหน้าเธอ
“มีเรื่องจะสารภาพก่อน ว่าได้ยินแล้วจะโอเคไหม”
อึนคังสวนถามขึ้นมาทันที
“แต่งงานแล้วเหรอ”
“เปล่า”
“งั้นมีลูกซุกไว้”
“ไม่ใช่ ฉันไม่คิดจะแต่งงาน จนถึงตอนนี้ ต่อไปข้างหน้า จนกระทั่งตาย ฉันเป็นพวกรักชีวิตโสด”
“จะสารภาพเรื่องนี้? ว่าเป็นพวกรักชีวิตโสด?”
จีฮวันพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง
“หลังจากนอนด้วยกันแล้ว กลัวฉันจะรีบเร่งให้แต่งงาน?”
จีฮวันพยักหน้าอีกครั้งด้วยสีหน้าจริงจังยิ่งกว่าเดิม
“เฮ้อ เรื่องนั้นฉันเองก็อยากพูดค่ะ บอกหลายครั้งแล้วว่าผู้ชายอย่างรยูจีฮวันไม่ใช่สเปกของฉัน และฉันเองก็จะไม่แต่งงานเหมือนกัน”
“จริงเหรอ งั้นก็โชคดี”
อึนคังที่ใจร้อนพยายามจะดึงสเว็ตเตอร์มีฮู้ดของจีฮวันขึ้น แต่เขาก็มาจับมือเธอเอาไว้อีกรอบ
“มีอีกอย่าง”
“อะไรอีก! ล้อเล่นกันอยู่หรือไง!”
“ห้ามด่าว่าโรคจิต”
“ชอบแนวมัดมือมัดเท้า? เป็นพวกซาดิสม์เหรอ”
“ไม่ใช่ ไม่มีรสนิยมแบบนั้น”
“งั้นอะไรอีก อะไรอีก!”
“ฉันผ่าตัดทำหมันแล้ว”
“อะไรนะ”
อึนคังกะพริบตาปริบๆ จนถึงตอนนี้ไม่เคยสารภาพความจริงเรื่องทำหมันกับผู้หญิงคนอื่นๆ มาก่อนเลยสักครั้ง แต่ทำไมถึงบอกเรื่องนี้กับอึนคัง
จีฮวันสังเกตสีหน้าของอึนคัง ตื่นเต้นว่าจะเจอความอึดอัดใจหรือความรู้สึกดูถูกไหม
ถ้าเจอคำถามว่าทำไมโสด ทำไมจะไม่แต่งงาน และทำไมถึงทำ จะต้องตอบว่าอย่างไรดี
“ว้าว สุดยอด!”
ดวงตาที่โตขึ้นของอึนคังเป็นประกาย
“ฉันเพิ่งเคยเจอผู้ชายทำหมันเป็นครั้งแรก! งั้นก็ไม่ต้องกังวลเรื่องคุมกำเนิดสินะ เยี่ยม! เริ่ดไปเลย!”
อึนคังยังยิ้มสดใสไม่เปลี่ยนแปลง โอบรอบคอจีฮวัน
อ้า แบบนี้แหละ ผู้หญิงที่สนุกสนานร่าเริงสดใสเหมือนลูกหมา
จีฮวันอุ้มอึนคังเดินตรงไปยังเตียงที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้นอนนอกจากจีอง