บทที่ 19 ผู้หญิงคนนั้นทำฉี่เลอะใส่อกฉัน!
Xiaobei
จีฮวันคิดว่า ‘คำพูด’ เป็นนิสัยประจำตัวของคนคนนั้น เพราะการอบรมสั่งสอนที่ดีของแม่ตั้งแต่เด็ก ดังนั้นเขาจึงไม่ด่าหรือพูดคำหยาบคาย แม้แต่สมัยเป็นวัยรุ่นเลือดร้อนก็ไม่เคยทำแบบนั้น
ก็มีอารมณ์ที่เป็นคนหยาบคาย พูดคำหยาบอย่างคำว่า ‘เหี้ย’ หรือ ‘สัตว์’ ออกไปบ้าง หลังจากพูดไปแล้วก็ไม่ได้รู้สึกสบายใจหรือดีใจ กลับอึดอัดใจมากกว่า
พอโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ยิ่งต้องระมัดระวังคำพูด เหมือนกับการสบถระหว่างขับรถ เขาก็พยายามจะหลีกเลี่ยงจนถึงที่สุด ในสถานการณ์ที่เกือบจะถูกชนท้ายหรือมีรถมาปาดหน้า จีฮวันก็เลยไม่เคยสบถคำหยาบออกมาเลย
แต่ตอนนี้ขณะที่เห็นหมากำลังฉี่ใส่ขาตัวเองอยู่ เสียงร้องโวยวายที่เต็มไปด้วยความโกรธของจีฮวันก็ระเบิดออกมาราวกับคำราม
“เฮ้ย! ไอ้ หมา นี่!”
ไอ้ลูกหมาอาจเป็นคำด่าที่แรงเกินไป คำที่ออกมาจากสมองของจีฮวันในขณะนั้นจึงเป็น ‘ไอ้หมานี่’
“อ๊ายยย! จากู! ทำไงดี! กรี๊ด!”
อึนคังหน้าซีด อุ้มจากูที่กำลังฉี่ขึ้นมา จีฮวันร้องห้าม
“อย่าอุ้มมันขึ้น…”
แย่มาก ผู้หญิงคนนี้!
ยังไม่ทันได้หลบ หายนะระลอกที่สองก็มา แถมอัปเกรดอีกต่างหาก
สิ่งที่ครอบครองทุกซอกมุมในโลกที่เราทั้งรู้และไม่รู้คือกฎของฟิสิกส์
ตอนที่ผู้หญิงสูงประมาณร้อยหกสิบสามเซนติเมตร อุ้มคอร์กี้ตัวผู้โตเต็มที่ขนาดราวสามสิบเซนติเมตรขึ้นมา องศาและความยาวของไอ้นั่นของหมา ความแรงและมุมพาราโบลาของฉี่ จะตกพอดีอย่างน่าอัศจรรย์ ฉี่สามารถพุ่งใส่อกชายหนุ่มสูงร้อยแปดสิบสามเซนติเมตรที่ยืนห่างไปประมาณสองก้าวพอดีอย่างแน่นอน
อาจจะเป็นความบังเอิญงี่เง่า หรือแค่ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ในโลกของฟิสิกส์
แต่จะความบังเอิญหรือความแน่นอน สำหรับชายหนุ่มที่โดนฉี่และหญิงสาวที่อุ้มหมาขึ้นมา อย่างไรก็เป็นหายนะที่คิดไม่ถึงแน่นอน
“เฮือก!”
นี่มันร้ายแรงเกินรับได้ อึนคังกรี๊ดไม่ออก เสียงที่ปล่อยออกมามีแค่เฮือก
จีฮวันที่จ้องมองฉี่หยดสุดท้ายจากหนอนน้อยของจากูหยุดติ๋งๆ หยดเปียกแขนอึนคัง เลื่อนสายตาลงมาที่หน้าอกตัวเองช้าๆ
ไม่อยากยอมรับ แต่ความเปียกที่ลามมาถึงเสื้อเชิ้ตและความร้อนที่ส่งผ่านมาถึงผิว ทำให้จีฮวันรู้ว่าไม่ใช่ความฝัน และไม่ใช่ภาพหลอนด้วย
“เฮ้อ!”
เสียงถอนหายใจดังออกจากปากจีฮวัน
คนเราเวลามีเรื่องอึดอัดคับข้องใจ มักจะแหงนมองท้องฟ้าโดยไม่รู้ตัว จีฮวันไม่เชื่อในพระเจ้า เขาเชื่อว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนโลกล้วนแต่มีเหตุและผล เขาเงยหน้าแหงนมองฟ้า แต่สิ่งที่เห็นไม่ใช่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง แต่เป็นเพดานหน้าในคอนโดแทน
จีฮวันแหงนมองเพดานอีกครั้งแล้วหลับตาแน่น ได้โปรด ถ้านี่เป็นความฝัน ก็ขอให้เขาตื่นเลยด้วยเถิด
“โอ๊ย ทำไงดี ทำไงดี”
เสียงร้องที่ได้ยินจนเคยชินของอึนคังลากจีฮวันกลับมาสู่ความเป็นจริงอันโหดร้ายที่ทั้งเปียก ทั้งอุ่น ทั้งกลิ่นฉุน
จีฮวันมองอึนคังที่หน้าซีด ตามด้วยจากูที่แลบลิ้นแฮ่กๆ อยู่ในอ้อมกอดของเธอ
“อ้า ทำไงดีคะ ขะ ขอโทษ”
“เอาไอ้ เอ่อ หมานี่ไปที…”
อึนคังกอดจากูวิ่งเข้าไปไปในห้อง ปิดประตูแล้วกลับออกมา เสียงหมาที่ถูกขังแล้วพยายามตะกุยประตูทำให้จีฮวันปรี๊ดแตก
อึนคังเดินเข้าไปใกล้จีฮวันตัวสั่น มือสั่นๆ ของเธอยื่นไปที่เสื้อสูท จีฮวันถลึงตาเย็นยะเยือก
“จะทำอะไรครับ”
“ตะ ต้องรีบเอาไปซัก ไม่งั้นกลิ่นจะติด”
อึนคังยื่นไปจะปลดกระดุมสูทของจีฮวัน แต่เขาคว้ามือเธอเอาไว้เสียก่อน
“เฮือก!”
“อย่าจับ”
ความเย็นยะเยือกที่แผ่ซ่านออกมาจากจีฮวัน ทำให้อึนคังรู้สึกเย็นวาบเหมือนจะเป็นน้ำแข็ง
“มันเลอะฉี่”
“ขะ ขอโทษจริงๆ…”
จีฮวันยกมือห้ามทำให้อึนคังหุบปาก เขาส่งสายตาออกไปประมาณว่า ถ้าขืนพูดอีกคำเดียว อาจตายได้ แล้วถอยห่างจากเธอไปหนึ่งก้าว ก่อนจะออกจากประตูไปอย่างช้าๆ
“อ้า ทำไงดี”
อึนคังทรุดนั่งกับพื้นประตูหน้าห้อง ที่พื้นมีรอยฉี่ที่เท้าซ้ายของจีฮวันประทับไว้ให้เห็นแจ่มชัด
จีฮวันกลั้นหายใจวิ่งลงบันได
ความรู้สึกเวลาขากางเกงข้างซ้ายที่เปียกฉี่พันรอบขาทุกครั้งที่ขยับเป็นอะไรที่ทารุณแทบบ้า ที่โหดกว่าคือความเปียกที่มาแปะหน้าอกทุกครั้งที่หายใจ และที่โหดยิ่งกว่าอะไรคือกลิ่นเหม็นฉุนของฉี่หมาที่ตามติดจมูกตลอด
ถ้าให้เลือกผ้าที่ใช้ตัดสูทระหว่างผ้าอิตาลีกับผ้าอังกฤษ จีฮวันเลือกฝั่งอิตาลีแน่นอน ผ้าอังกฤษทนทานต่ออากาศที่หนาวและชื้น เป็นประเภทที่แข็งแรงทนทาน แต่อีกด้านก็ให้ความรู้ที่นุ่มเบา
แต่จีฮวันเลือกบุคลิกดีมากกว่าความทนทาน เขาชอบผ้าอิตาลีที่ห้อหุ้มร่างกายแล้วทำให้ร่างกายดูแพงขึ้น
ชุดที่จีฮวันใส่อยู่เป็นชุดล่าชุดที่เพิ่งซื้อเมื่อเดือนกันยายนปีนี้ ทำด้วยผ้าอิตาลีชั้นดีจากขนสัตว์แท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นงานแฮนด์เมดที่ตัดด้วยหยาดเหงื่อของช่างตัดสูทร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่น่าเสียดาย เพิ่งใส่ได้ไม่กี่ครั้งก็มาเลอะฉี่หมา…
ตอนแรกนึกว่าสูทจะรอดจะได้ทิ้งแค่กางเกง แต่เพราะอึนคังอุ้มจากูขึ้นมา เลยเลอะมาถึงเสื้อสูทตัวบนด้วย จีฮวันหยุดยืนที่บันได้ ความโมโหพุ่งปรี๊ด
“โอ๊ย ยัยบื้อเอ๊ย! ไม่มีหัวคิดหรือไง หมายังฉี่ไม่เสร็จ อุ้มขึ้นมาแบบนั้น ฉี่มันก็ต้องพุ่งขึ้นข้างบนไม่ใช่หรือไง เขียนนิยายสิบเก้าบวกได้ขนาดนั้น ไม่รู้หรือไงว่าโครงสร้างของไอ้นั่นมันเป็นยังไง”
กลิ่นฉี่ฉุนขึ้นมาอีกแล้ว จีฮวันอุดจมูกแล้วรีบวิ่งลงบันไดต่อ
จีฮวันเป็นคนที่รับรู้ไวแม้แต่กลิ่นตัวเอง จึงมักมียาดับกลิ่นกายและน้ำหอมแต่ละประเภทเตรียมเอาไว้พร้อม จีองแม้จะสวยขนาดไหน แต่กลิ่นอึฉี่ของแมวก็ยากเกินที่มนุษย์จะทานทน จีฮวันจึงวางเครื่องหอมจากธรรมชาติที่ทำจากถ่าน กากกาแฟ และใบชาแห้งเอาไว้ทั่วบ้าน
แต่สำหรับเขาคราวนี้เป็นกลิ่นฉี่หมา!
“ปีนี้ซวยสามครั้งแล้ว หรือจะมีผีตาม ต้องไปดูดวงที่ไหนดีเนี่ย”
จีฮวันไม่เคยเชื่อเรื่องแบบนี้ แต่เจอหลายๆ ครั้งเข้ามันก็ชวนให้คิด
“หรือจะเป็นเพราะคอนโดนี่?”
ลองคิดๆ ดู เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นหลังจากย้ายมาที่นี่ ทั้งเรื่องที่ผู้หญิงที่นัดเจอ เรื่องที่ต้องออกจากบริษัท เรื่องที่เจอมหันตภัยอึ และก็ยังที่โดนหมาฉี่ใส่นี่อีก ไม่อยากเชื่อว่าหายนะทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในเวลาไม่ถึงเดือน
ที่ย้ายมาที่นี่เพราะจีองล้วนๆ เขาหาคอนโดที่มีวิวสวนริมทะเลสาบที่ดีที่สุด เพราะจีองชอบดูวิวนอกหน้าต่าง จะต้องย้ายอีกแล้วเหรอ เหลืออีกสิบเดือนถึงจะหมดสัญญา เฮ้อ…
ทันทีที่มาถึงห้อง จีฮวันก็ยืนถอดเสื้อที่ประตูหน้าห้อง
“เมี้ยววว…?”
ดวงตาของจีองที่โดดลงจากเก้าอี้โยกมาหาจีฮวันเบิกโต รับกลิ่นไวสมกับเป็นแมว กลิ่นหมาที่ติดมาจากข้างนอกไม่มีทางหลุดรอดไปได้
“แฟ่!”
จีองขู่หลายครั้งก่อนวิ่งกลับไปที่เก้าอี้โยก
“จีอง อย่าขู่แบบนั้นสิ ขนาดหนูไม่ว่า พ่อก็เหมือนจะตายอยู่แล้ว”
ตอนถอดเสื้อเชิ้ตที่แนบติดกับอกเพราะเปียกฉี่ทำเอาเกือบร้องไห้ จีฮวันวิ่งเข้าห้องน้ำ ล้างแล้วล้างอีก หยิบกระทั่งบอดี้ชาวเวอร์ที่ปกติไม่ค่อยใช้เพราะทำให้ตัวแห้งออกมาละเลงบนตัวหลายรอบ โดยเฉพาะที่หน้าอกกับขาที่ถูกฉี่ใส่ ถูด้วยผ้าขัดตัวจนหนังแทบจะหลุด
อาบแล้วอาบอีก กลิ่นฉี่ก็ยังเหมือนเหลืออยู่ จีฮวันแทบบ้า อาบน้ำจนขาสั่นแล้วต้องเลิกอาบ
จากนั้นจีฮวันสวมแค่เสื้อคลุมอาบน้ำออกมาในสภาพหมดแรง เปิดหน้าต่างทั้งหมด เปิดเครื่องฟอกอากาศสองเครื่อง และเทเครื่องหอมที่ประตูหน้าห้อง
พยายามระบายอากาศทุกทาง มองกองเสื้อผ้าที่ถอดไว้ตรงประตูหน้าห้องแล้วถอนหายใจ ไม่มีอีกแล้ว ความรู้สึกตอนใส่ สีที่เพอร์เฟกต์ด้วยเทคนิคการย้อมสีกว่าร้อยปี เสียดายแทบบ้า
“ยังไงก็ไม่ได้สินะ”
จีฮวันหยิบที่คีบที่ใช้เวลาต้มผ้าเช็ดตัวของจีองกับถุงขยะออกมาจากสิ้นชักใต้อ่างซิงค์ คีบเสื้อสูทก่อนเป็นอันดับแล้วอย่างระมัดระวัง
“ลาก่อน ขอโทษที่ปกป้องแกไม่ได้”
จีฮวันที่กำลังจะคีบสูทใส่ถุงขยะลองดมกลิ่มด้วยสีหน้าลังเล
“แหวะ!”
เขานิ่วหน้าก่อนจะได้เอามาใกล้จมูกเพื่อดมกลิ่น แล้วเขี่ยสูทใส่ถุงขยะอย่างไม่ไยดี ต่อไปก็เป็นกางเกง ตามด้วยเสื้อเชิ้ต และรองเท้าเป็นอย่างสุดท้าย ทันใดนั้นมือถือก็ดังขึ้น
ซอกยองโทรมา จีฮวันรับสายอย่างดุดัน
“มีอะไร ฉันกำลังยุ่ง…”
[เฮ้ย! นายมีเรื่องอะไรกับนักเขียนโก หา? เขาจะไปตายกันอยู่แล้ว]
“ใครจะไปตาย”
[ก็นักเขียนโกไง! เมื่อกี้เธอโทรมาหาน้องเมีย หลังจากมีตติ้งกับนาย ก็บอกว่าจะไปตาย พูดวนไปวนมาว่าตัวเองจบสิ้นแล้ว จะเลิกเป็นนักเขียน ลาโลก ไม่ต้องตามหา แล้วก็ขอบคุณ ร้องห่มร้องไห้ว่าตัวเองทำความผิดที่ลบล้างไม่ได้กับนาย บอกว่านายคงจะไม่ยอมมาเจอเธออีกแล้ว! เกิดอะไรขึ้นตอนมีตติ้ง คุณนักเขียนเขาทำความผิดใหญ่หลวงอะไรกับนาย ถึงได้ดูเหมือนคนสิ้นหวังจะลาโลกแบบนี้ หา?]
เฮ้อ ผู้หญิงคนนี้นี่จริงๆ เลย ใครกันแน่ที่อยากร้องไห้
[น้องเมียถามว่ามีเรื่องอะไร ก็เอาแต่บอกว่าถึงตายก็พูดไม่ได้แล้วก็ร้องไห้! จะไปหาที่บ้านก็บอกว่าอย่ามา ถ้ามาจะโดดตึกตาย เลยไปหาไม่ได้ น้องเมียฉันเป็นห่วงมาก]
โอ้ ยัยอึน่ะนะ?
[นี่! เกิดอะไรขึ้นระหว่างมีตติ้งกันแน่]
พูดให้ชัดๆ คือเรื่องเกิดก่อนมีตติ้งต่างหาก เริ่มจากมาอึแล้วหนีที่บ้านคู่กรณี วันมีตติ้งหมาที่เลี้ยงไว้มาฉี่ใส่อีก เรื่องน่าอับอายขายหน้าขนาดนี้คงเล่าออกมาจากปากไม่ได้หรอก
“ไม่รู้ ไปถามคนทำเอาเองสิ”
[เฮ้ย นายโกรธเหรอ นายโกรธใช่ไหม นายโกรธเหรอเนี่ย เสียงแบบนี้โกรธแน่ๆ! นี่ จีฮวัน เบาๆ หน่อยเถอะ หือ? ไม่รู้ว่าคุณนักเขียนทำผิดอะไร แต่นายเองก็ควรมีความรับผิดชอบบ้างนะ]
“อะไรนะ”
จีฮวันถึงกับคิ้วกระตุก
[นักเขียนที่วันๆ ได้แต่เขียนนิยายอยู่มุมห้อง ได้มาเจอคนอย่างนายที่ขนาดมีดแทงเลือดก็ยังไม่ออกสักหยดครั้งแรก จะตกใจและประหม่าแค่ไหน สภาพเหมือนกระต่ายป่ากระโดดโลดเต้นอย่างร่าเริงมาเจอหมาป่าในภูเขา แม้แต่ฉัน ถ้าเจอนายตาแข็งทำหน้าเคร่งเครียดด่าใส่ยังกลัวเลย แล้วคุณนักเขียนที่ใจดีคนนั้นจะเป็นยังไง]
“ฮะ เฮ้ย นี่ นี่ นาย นายพูดแบบนั้นได้ยังไง”
แทนที่จะได้รับการปลอบใจ กลับกลายเป็นหมาป่าตัวร้ายเสียโดยไม่คาดคิด ทำเอาจีฮวันถึงกับพูดไม่ออก
“ฉันไม่ได้ทำ ผู้หญิงคนนั้นต่างหากที่เป็นคนทำ! เรื่องอะไรมาโยนความผิดให้ฉัน! ไม่ใช่ฉัน ผู้หญิงคนนั้นต่างหาก!”
[นายมันก็พวกหมาป่าที่ไล่ต้อนกระต่ายป่าจนจนมุม! ก่อนที่นายจะประทับตราลงบนสัญญา ยังไงนายก็ต้องตรวจตราอย่างละเอียดรอบคอบอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ! หรือว่านายทำสัญญาไม่เป็นธรรมกับพวกลูกค้ากันแน่! ถ้าฉันเป็นลูกค้า ฉันคงไม่เซ็นสัญญากับนายแน่นอน!]
“นี่ อะไรกันเนี่ย แกพูดบ้าอะไรอยู่”
[ฉันรู้ว่านายเป็นพวกเลือดเย็น แต่ นี่ รยูจีฮวัน นายไม่ใช่คนแบบนั้น เป็นไปได้ก็ช่วยหน่อยเถอะ นึกว่าเห็นแก่ฉันกับน้องเมีย…]
“บอกว่าฉันเป็นฝ่ายโดนไง! ฉันต่างหาก!”
เส้นเลือดขึ้นที่คอของจีฮวันด้วยความโกรธ
“ผู้หญิงคนนั้นทำฉี่เลอะใส่อกฉัน!”