บทที่ 24 หรือ ‘ความประหลาด’ มันจะติดกันได้?
Xiaobei
จีฮวันเลียริมฝีปากของอึนคัง ตามด้วยกัดเบาๆ อีกทั้งยังตามขบเม้มริมฝีปากล่างที่อวบอิ่มด้วยฟันหน้าวนเวียนซ้ำไปมา
ทนความรบเร้าไม่ไหว ในที่สุดริมฝีปากของอึนคังก็เปิดออก จีฮวันแทรกลึกเข้าไป เกี่ยวพันลิ้นชุ่มชื้นของอึนคังที่ถอยอย่างไม่มั่นใจ
หวาน มีรสขมเล็กน้อยของชาผูเอ่อร์ ภายในปากอวลด้วยกลิ่นไหม้ปนหวานปะแล่ม ลิ้นของอึนคังให้ความรู้สึกว่าหวานมาก
ขณะที่ลิ้นของจีฮวันสำรวจไปถึงโคนลิ้นของอึนคังอย่างรีบเร่งนั้นเอง
“…บี? คุณพีบี?”
เสียงผู้หญิงดังมาแว่วๆ จากที่ไหนสักแห่ง ลิ้นของจีฮวันหยุดชะงัก
“คุณพีบี เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
เสียงที่ได้ยินอย่างชัดเจนก็คือเสียงของอึนคัง อึนคัง? ตอนนี้ลิ้นของฉันพัวพันอยู่กับลิ้นของเธอ แล้วเธอพูดได้อย่างไร…
จีฮวันได้สติทันที เพ่งสายตาที่เคยล่องลอยอยู่ไปตรงหน้า อึนคังกำลังจ้องเขาตาแป๋ว แขนทั้งสองยกขึ้นท้าวคางอยู่บนโต๊ะ
จีฮวันอึ้งอยู่แป๊บนึง กะพริบตาอย่างงงๆ ว่านี่มันเรื่องอะไร
“คุณพีบี หลับกลางอากาศเหรอคะ”
“ครับ?”
“คุยเรื่องสเปกอยู่แล้วก็เงียบไปเลย ลืมตาอยู่แต่ตาเหม่อลอยไร้จุดโฟกัส ฉันโบกมือไปมาตรงหน้า ตาก็ไม่ไหวติง! มีนะคะคนที่นั่งอยู่แล้วหลับทั้งที่ยังลืมตา คุณพีบีก็ด้วยสินะคะ อาจจะเพราะเครียดมาก วิญญาณออกจากร่างเบาๆ…”
อึนคังตาแป๋วเอียงคอมองมา จีฮวันก็รู้สึกเหมือนมีน้ำเย็นๆ สาดเขาที่ท้ายทอยจึงได้เรียกสติตัวเองกลับมา
เขาลุกพรวดพราดขึ้นจากเก้าอี้ ต้นขาชนกับโต๊ะอย่างแรง
“อ๊ะ! เป็นไรไหมคะ”
ไม่รู้ว่าเจ็บหรือไม่ แต่จีฮวันก็รีบเดินไปที่ซิงค์และเปิดก๊อกน้ำ มองน้ำที่ไหลออกมานิ่งๆ จากนั้นจึงหยิบแก้วใบใหม่จากในตู้ออกมารองน้ำ และยกดื่มอั้กๆ
ปกติจีฮวันไม่ดื่มน้ำจากเครื่องกรองที่ยังไม่ได้ต้ม เขาจะดื่มแต่น้ำแร่จากภูเขาที่เกาะเชจูซึ่งจะส่งมาเป็นประจำทุกเดือน จีฮวันที่ไม่รู้ตัวว่าตอนนี้ตัวเองกำลังดื่มน้ำก๊อก แถมดื่มไปเกือบหมดแก้วเสียด้วยสิ
จีฮวันที่วางแก้วลงแล้วยืนยันซิงค์ น้ำหยดจากหน้าติ๋งๆ ตรงหน้าหวิวๆ รู้สึกเหมือนพื้นใต้เท้าหายไป
นี่ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย ให้ตายเถอะ บ้าไปแล้ว ตอนนี้เหมือนไม่ใช่สติของตัวเอง ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมจู่ๆ ถึงได้สติหายไปอย่างนี้
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
มือของอึนคังแตะหลังของจีฮวัน ในตาของจีฮวันที่หันกลับมานั้นสะดุ้งตกใจราวกับโดนไฟลวก เบื้องหน้าปรากฏใบหน้าของอึนคังที่เป็นห่วง ‘ที่ปรึกษานิยายออนไลน์ค่าตัวสิบล้านวอน’ จากใจจริง
ขณะมองใบหน้าใสๆ ของอึนคัง ใจของจีฮวันก็สงบลง ฉันคิดอะไรกับผู้หญิงใสซื่อบริสุทธิ์ตรงหน้าเนี่ย โอ๊ย รยูจีฮวัน ไอ้บ้าเอ๊ย!
“มะ ไม่เป็นไรครับ แค่เหนื่อยนิดหน่อย”
จีฮวันพูดพลางหลบตาอึนคัง เสียงของอึนคังดังขึ้น
“เหนื่อยเหรอคะ! ก็น่าเหนื่อยอยู่นะคะ! เมื่อวานก็ใส่รองเท้าหนังวิ่งรอบสวนเพราะฉัน คงเหนื่อยมาก แล้วยังตามเอากระเป๋ามาให้ ฉันก็ดันกลับมาทั้งอย่างนั้น ปกติฉันจะมีแค่กระเป๋าที่ใส่เครดิตการ์ดกับมือถือไม่มีกระเป๋าแบบนั้นหรอกค่ะ กระเป๋าเงินไม่คิดจะซื้อเด็ดขาดเพราะหายไปแล้ว พอมีกระเป๋าสตางค์แล้วไง ถ้าหายก็ต้องเสียเวลาไปทำเรื่องแจ้งบัตรประชาชนหายใช่ไหมล่ะคะ พอวางจากมือปุ๊บ กระปงกระเป๋า อะไรก็หายหมด นี่ฉันก็ไม่ได้เป็นโรคสมองเสื่อม ถ้ากระเป๋าหายไปล่ะก็เรื่องใหญ่แย่แน่ เพราะในนั้นมีสมุดเก็บข้อมูลกับสมุดจดงานใหม่ อ้อ? เมื่อวานคุณพีบีช่วยเอากระเป๋ามาคืนให้ ยังไม่ทันได้บอกลา โอ๊ย จากู ไอ้ตัวแสบ!”
จีฮวันมองอึนคังที่พูดรัวเป็นน้ำตกไม่หยุดราวกับติดมอเตอร์ที่ปากอย่างใจลอย เข้าใจแล้วว่าที่ตัวเองกลายเป็นแบบนี้ก็เพราะอึนคัง
เพราะอึนคังนี่แหละที่ทำให้เขาแปลกไป! ติดความประหลาดเหมือนพวกโรคจิตนี้มา! ติดเหมือนหวัด ติดเหมือนโรคหัด! ให้ตายเถอะ!
“แล้วก็เพราะโดนฉี่ใส่ เลยทำให้ขวัญกระเจิง กลับมาบ้านแทนที่จะได้พัก ก็ต้องมาทำเรื่องสัญญา”
รู้แล้วก็ไปซะ กลับไปได้แล้ว ยัยนักเขียนประหลาด! ได้โปรดหายไปจากสายตาฉันที! ตอนนี้ฉันทั้งอายทั้งขายหน้าจะตายอยู่แล้ว ขอร้อง หยุดแพร่เชื้อประหลาดให้ฉันสักที
“ฉันจะกลับแล้ว รีบพักผ่อนนะคะ”
อึนคังโค้งลาจีฮวัน ขณะกำลังจะเดินไปที่ประตู ก็เกิดเรื่องพูดไม่ออกขึ้น จีฮวันเอื้อมมือไปจับมืออึนคังเอาไว้
จีฮวันแทบไม่อยากเชื่อ มองมือตัวเองที่คว้ามืออึนคังไว้อย่างอึ้งๆ นั่นมันมือเขาแน่นอน นึกไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่ามันกลายเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร หรือสมองเขาจะเสียไปแล้ว หรือเขาไม่สบายตรงไหน กล้ามเนื้อขยับไปเองได้ด้วยเหรอ
อึนคังไล่มองมือไปจนถึงหน้าของจีฮวันด้วยใบหน้าสงสัย จีฮวันถึงกับสะดุ้งเฮือกเมื่อสบตากับเธอ แล้วรีบสะบัดมือออก ทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายไปจับมือเธอก่อนแท้ๆ
“ทำไงดี”
ครางนี้เป็นฝ่ายอึนคังที่คว้ามือเขา ลูบคลำฝ่ามือกดนิ้วไปมา และวางมือที่หน้าผากแล้วแตะที่ลำคอของจีฮวัน การกระทำของอึนคังที่ลูบหน้าลูบตัวเขาเหมือนทำกับจากูเป็นธรรมชาติมาก จนจีฮวันไม่คิดปัดมือเธอออก
“คุณพีบีมีไข้นี่คะ ตัวร้อนมากเลย”
ตัวร้อนเพราะอายต่างหากเล่า ขายขี้หน้าด้วย จินตนาการว่าจูบกับโกอึนคังอยู่คนเดียว ตัวร้อนเพราะความตื่นเต้น ตอนนี้คุณโกอึนคังก็มายืนซะชิด จ้องตรงโน้นตรงนี้ ยังไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี
“รีบไปนอนเถอะค่ะ”
“ผมไม่…”
“เวลาครั่นเนื้อครั่นตัว กินยาแล้วไม่ต้องทำอะไร นอนไปเลย ต้องนอนให้เต็มที่ จากูก็เหมือนกัน วันไหนออกไปวิ่งที่สวน ติดเชื้อโรคกลับมานอนครางหงิงๆ ก็จะรู้ตัวนอนซุกเบาะหลับเป็นตายสักสิบชั่วโมง ตื่นมาก็ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ จะคนหรือสัตว์ก็เหมือนกัน เวลาเป็นไข้ ต้องนอนสถานเดียว กินข้าวกินยาแล้วก็นอน”
จีฮวันกำลังถูกอึนคังดึงมือไป ช่างเป็นผู้หญิงที่ให้ตายก็ไม่ฟังคำพูดคนอื่นเลยจริงๆ
“อายุเลยสามสิบแล้ว ยิ่งต้องนอนให้เต็มที่ เฮ้อ นอนตื่นมาก็ผ่านไปวันนึงแล้วใช่ไหมคะ ความแก่นี่มันน่าเศร้า แต่นี่ถึงขั้นไม่สบาย…ต่อให้คุณพีบีจะแข็งแรงขนาดไหน วันนี้ก็ต้องพักก่อน พรุ่งนี้ค่อยตั้งใจทำงานกับฉันใหม่นะคะ”
นี่ ฉันไม่เป็นไร บอกว่าไม่ได้ป่วยไง แต่เพราะคุณ ทำให้ผมยิ่งขายหน้า ได้โปรดปล่อยผมไว้ แล้วกลับบ้านไปซะ!
“ไม่รู้กลับไปเอายาที่บ้านจะมีไหม อ้า คุณพีบีออกจะเจ้าระเบียบ เอ๊ย เตรียมพร้อม น่าจะมียาสามัญประจำบ้าน ใช่ไหมคะ ฉันตั้งใจว่าจะไปซื้อยาแก้หวัดกับยาช่วยย่อยมาไว้ตลอด แต่พอออกไปข้างนอกก็ลืมเฉย โอ๊ย หรือฉันจะสมองเสื่อมจริงๆ”
อึนคังบ่นรัวๆ พลางเดินตรงไปยังห้องนอนอย่างไม่รีรอ เพราะแปลนห้องเหมือนกัน
“ว้าว ไม่ใช่เล่นๆ เลยนะคะเนี่ย”
อึนคังที่เปิดประตูห้องนอนหยุดยืนอยู่หน้าประตู กวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องพลางเอ่ยปากชม
ถึงจะเป็นห้องเช่า แต่จีฮวันก็ไม่ได้อยู่ไปงั้นๆ หรือคิดว่าเป็นห้องของคนอื่น ถึงจะอยู่ไม่กี่เดือน เขาก็ทำพื้น ติดวอลเปเปอร์ ใช้เฟอร์นิเจอร์และวางของประดับต่างๆ ให้ตรงกับที่กายและใจชอบ
เขาพอมีเงินจากสมรภูมิทางการเงินที่ดุเดือดอยู่บ้าง โดนดูถูกดูหมิ่นจากพวกคนรวยจนพรุนเหมือนโดนยิงไปทั้งตัว ซึ่งบ้านเป็นพื้นที่เฉพาะของเขาที่ช่วยรักษาร่างกายที่โดนมาจนพรุนแบบนั้น
จีฮวันไม่ให้คนอื่นเข้าห้องนอนโดยเด็ดขาด ขนาดซอกยองที่สนิทกันมาเที่ยวบ้าน ยังให้นอนห้องอื่น
“พระเจ้าช่วย นี่ห้องของผู้ชายที่อยู่คนเดียวหรือคะเนี่ย นึกว่าอยู่กันสามสี่คน ห้องสวยและสะอาดเรียบร้อยมาก! การตกแต่งก็หรูหรา! แตกต่างกับห้องนอนฉันราวกับฟ้ากับเหว! ห้องฉันก็มีเตียง แต่บนเตียงมีแต่อะไรต่อมิอะไรกองอยู่ ถ้าจะหาที่นอน คงต้องใช้เวลาสักสามวันสามคืน ก๊ากๆ”
อึนคังปล่อยมือจีฮวันเดินเข้าไปข้างในห้องนอนช้าๆ จีฮวันมองหญิงสาวเดินเข้าไปพื้นที่ที่ไม่เคยให้ผู้หญิงเข้าไปสักครั้งด้วยความรู้สึกมวนท้อง
อึนคังมาถึงกลางห้องก็ชะงัก ก่อนจะทำท่ามูนวอล์คออกมาจากห้อง ไมเคิล แจ็คสันก็ไม่ใช่
“ทำอะไรครับ”
“ฉันลืมไปเลยค่ะ ว่าจะเข้าห้องนอนคนอื่นไม่ได้ เอ่อ แต่ห้องสะอาดและเป็นระเบียบมากเลยนะคะ…”
“แต่ก็เข้าไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ”
“นะ นั่นสินะคะ ก๊ากๆ คุณพีบีรีบนอนเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันอยู่ดูคุณนอน ห่มผ้าให้แล้วจะไป”
อึนคังจับมือจีฮวันอีกครั้งแล้วดึงเข้าไปในห้อง ท่าทางไม่ได้สำนึกเลยว่ากำลังจับมือผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ญาติ ไม่มีอาการใจเต้นหรือลังเลแม้แต่ขี้เล็บ
แล้วท่าทางจะไม่สนใจเลยด้วยว่าที่ที่กำลังลากผู้ชายไปนั้นคือห้องนอนไม่ใช่ที่อื่น เฉยขนาดนั้นได้อย่างไรกัน หรือเพราะเขาไม่ใช่สเปก ชายหญิงอยู่ในห้องนอนด้วยกันสองต่อสองยามโพล้เพล้…
จีฮวันปล่อยตัวให้อึนคังลากไปในสภาพหมดแรง เขาเรียนรู้จากประสบการณ์หลายครั้ง ว่าถ้าโกอึนคังตั้งใจแล้วว่าจะให้รยูจีฮวันนอนลงบนเตียง อย่างไรก็ต้องทำให้ได้
อึนคังเลิกผ้าห่มที่จัดไว้อย่างเรียบร้อย คอยให้จีฮวันเข้าไปนอน นี่มันเรื่องอะไร เขาก็ไม่ใช่เด็กๆ เสียหน่อย ทำไมถึงยอมทำตามโกอึนคังอย่างว่าง่าย
จีฮวันนอนลงบนเตียงอย่างเรียบร้อยทั้งที่แอบบ่นในใจ อึนคังดึงผ้าห่มมาคลุมให้ถึงคาง จีฮวันเก็บมือเก็บเท้ากลั้นหายใจ แค่ไม่สบายนิดหน่อย ทำเหมือนเขาเป็นคนขี้โรคไปได้
“นอนพักผ่อนให้เต็มที่นะคะ”
เดี๋ยว นี่มันเพิ่งหกโมงเย็น ข้างนอกยังสว่างขนาดนั้น
ทันใดนั้นจีฮวันก็แทบหยุดหายใจ เพราะมือของอึนคังที่วางลงมาบนหน้าผาก เธอใช้มือข้างหนึ่งวางบนหน้าผากเขา และอีกข้างแตะที่หน้าผากตัวเองเปรียบเทียบอุณหภูมิหน้าเครียด จีฮวันถึงกับกลั้นหัวเราะเพราะท่าทางเก้ๆ กังๆ นั่น
“ดูเหมือนตัวจะร้อนน้อยกว่าเมื่อกี้แล้ว ยังไงก็ห้ามเอาผ้าห่มออกนะคะ ช่วงนี้อากาศแห้งมาก คนเป็นหวัดคัดจมูกกันได้ง่าย”
แปลกจริงๆ ก็ไม่ได้เป็นไข้ แต่หลังมือของอึนคังที่สัมผัสหน้าผากกลับทำให้จิตใจที่คับแน่นของจีฮวันสงบลง ความรู้สึกสบายแพร่กระจายจากหน้าผากมาทีละน้อย จนหนังตาค่อยๆ หนักอึ้งขึ้นทีละนิด ทีละนิด
ต้องปริ้นท์สัญญาใหม่ ข้าวเย็นก็ยังไม่ได้กิน ต้องเปลี่ยนน้ำและให้อาหารจีอง ต้องซักผ้า ถ้วยชากับกาก็ยังไม่ได้ล้าง…แต่ทำไมตัวถึงรู้สึกหนักอย่างนี้ เพลียไปทั้งร่าง เหมือนใครฉุดดึงเอวของเขาไว้จากในเตียง
“อ้า ดีจัง ยอมฟังที่บอกด้วย”
ใครดี ถ้ารู้ว่าเขาจินตนาการวาบหวิวแบบไหนด้วยจะยังพูดแบบนั้นอยู่ไหม ถ้ารู้ว่าในใจของเขามันดำมืด จะบอกว่า ‘โอ๊ย ร้อน’ แล้วหนีไปเลยหรือเปล่า
อึนคังกระซิบพลางตบผ้าห่มเบาๆ จีฮวันก็เข้าสู่ห้วงนิทรา เคลิ้มและหลับสนิท ไม่ฝัน ไม่มีกระสับกระส่ายใดๆ ทั้งสิ้นอย่างที่ไม่ได้เป็นมานาน