บทที่ 39 นี่เราโรคจิตหรือ
Xiaobei
“ราฮี?”
ดวงตาของประธานปาร์คเบิกโพลง
“จะให้ลูกสะใภ้ขึ้นนั่งตำแหน่งประธานมูลนิธิ?”
“อดีตผู้ประกาศข่าวช่วงสามทุ่ม ทั้งสวยแล้วก็ฉลาด ยังต้องการอะไรอีก จะหาหน้าตาดีกว่านี้จากที่ไหนได้อีกครับ”
ประธานปาร์คเอียงศีรษะสีหน้าครุ่นคิด
“ตอนนี้แค่ราฮีเป็นข่าว คอมเมนต์ก็ขึ้นพรวดๆ เป็นร้อยๆ แล้ว แทบไม่มีคอมเมนต์แย่ๆ เลยด้วย ถ่ายรูปรูปเดียว ทั้งเสื้อผ้าที่ใส่วันนั้น รองเท้า กระเป๋า ต่างหูก็เป็นที่สนใจระเบิดระเบ้อ! พี่สวยจังค่ะ เล่อค่ามากเลย ฉลาดแล้วยังสวยอีกด้วย ดึงดูดไอ้พวกไร้สมองได้ดีเลย”
ประธานปาร์คแลบลิ้นเลียริมฝีปาก แสดงความสนใจ
“งั้นรึ”
“ความสนใจระดับดารา! ไหนๆ หน้าตาสะสวย ก็ใช่ประโยชน์ทำอะไรได้เยอะ ไม่งั้นดูสิ แต่ก่อนต้องไปก้มหัวให้ไอ้พวกนักข่าวตั้งเท่าไหร่ สิบครั้งถึงจะทำข่าวให้สักครั้ง ระยะแรกก็ใจกว้างลงทุนเยอะหน่อย พอเป็นจุดสนใจของสาธารณชนเยอะ ไม่แน่ตอนหลังอาจได้รับเชิญจากทำเนียบน้ำเงินก็ได้”
“ทำเนียบน้ำเงิน?”
แววตาของประธานปาร์คไหวระริก ทำเนียบน้ำเงิน เป็นคำที่ทั้งอันตราย หอมหวาน และล่อใจ ถ้าทำมูลนิธิการกุศล อาจจะได้รับเชิญไปทำเนียบน้ำเงินงั้นหรือ
ซองบอมรู้จุดอ่อนของประธานปาร์คและลงมือสั่นคลอนหัวใจของผู้เป็นพ่อ ประธานตัวคนเดียวมาตลอดชีวิต ในครอบครัวไม่มีเส้นสายกับนักการเมืองหรือผู้พิพากษาที่ไหน
“พ่อต้องได้จับมือกับประธานาธิบดีสักครั้ง คราวก่อนตอนกินข้าวร่วมกันกับประธานในเครือบริษัท ประธานโอตูกีที่แย่ไปช่วงนึงก็มาด้วย มีข่าวลือว่าบริษัทของเขาเป็นบริษัทที่ใจดีมีน้ำใจ ไม่ต้องสนอันดับในวงการการเงิน ก็ได้รับเชิญจากทำเนียบน้ำเงิน เห็นแล้วมันน่าอิจฉา ถ้าเราตั้งมูลนิธิแล้วทำเรื่องดีๆ เยอะๆ บูคยองเองก็จะมีข่าวออกไปว่าเป็นบริษัทที่ดี วันที่พ่อจะได้รับเชิญจากทำเนียบก็จะอยู่อีกไม่ไกล”
เป็นไง ค่อยๆ ตอดไปเรื่อยๆ
“ให้นังหนูนั่นบงการอยู่หลังแกไม่ได้รึไง นังหนูนั่นขอทำมูลนิธิแล้วนั่งเป็นตัวแทนงั้นเหรอ”
แต่ประธานปาร์คไม่ใช่คนที่ยอมอะไรง่ายๆ เรื่องเอาเงินออกจากกระเป๋าตัวเองจะยอมง่ายๆ ได้อย่างไร
“พูดอะไรของพ่อ เจ้าตัวยังไม่รู้เลยว่าผมกำลังเตรียมเรื่องนี้อยู่ นี่เป็นความคิดของผมล้วนๆ หมู่นี้ผมฮึดทำนู่นทำนี่แล้วอาจดูเหมือนจะพังไม่เป็นท่า แต่ที่ทำอย่างนี้ ก็อยากจะทำให้บริษัทมีภาพลักษณ์ที่ดี ผมใคร่ครวญหลายอย่างเลยว่าจะทำยังไง”
“เฮอะ นึกว่าจะคิดแต่เรื่องเมาหัวทิ่มหัวตำอย่างเดียวเสียอีก แต่คิดด้วยหัวแบบนั้นมันจะได้เรื่องสักแค่ไหน”
แม้จะถูกทำลายศักดิ์ศรี แต่ซองบอมก็อดทน ประจบประธานปาร์คสุดกำลัง มั่นใจว่าแค่คะยั้นคะยอนิดหน่อยก็จะได้หลายร้อยล้านมากิน
“พ่อ ผมได้ชื่อว่าเป็นทายาทของบูคยองใช่ไหมล่ะ ในสายตาพ่อผมอาจจะดูชอบกินเหล้าเที่ยวเตร่ แต่ผมก็มีเรื่องกลุ้มเยอะนะ ผมเองก็ทุกข์ใจเหมือนกัน! ถึงจะบอกว่าจะทำให้ดี แต่ผมคนเดียวจะทำอะไรได้ ไอ้ประธานโอก็คอยแต่จะดูถูก ไม่ฟังที่ผมพูด ผมเองก็ลำบากมากๆ พ่อ เชื่อผมสักครั้งเถอะนะ”
ซองบอมใช้ไม้ตายสุดท้าย ความรักและการอ้อนวอน ทำตาปริบๆ จับมือประธานปาร์คแกว่งไปมา ทำท่าติ๊งต๊องน่ารัก ในที่สุดประธานปาร์คก็หลุดยิ้มออกมา
ใครจะเป็นจะตายอย่างไร สำหรับประธานปาร์คแล้ว ซองบอมลูกชายคนโตก็เป็นเหมือนตัวแทนและหัวใจของตัวเอง
หลังจากคลอดลูกสาวสองคนในปีไล่ๆ กัน ภายในสองปีลูกสาวคนที่สามก็ถูกทำแท้งออกจากท้อง ซองบอมเป็นลูกชายที่กว่าจะได้มาแสนยากเย็น สามปีหลังจากซองบอมเกิด ก็ได้ลูกชายมาอีกคน แต่ไม่ว่าอย่างไร อำนาจของลูกชายคนโตก็ถือเป็นเด็ดขาด
ถ้าลูกชายคนเล็กที่ตอนนี้ไปเรียนต่อต่างประเทศกลับมา ก็จะมอบตำแหน่งให้ ส่วนประธานเครือบริษัทสมัยต่อไปเป็นของซองบอมอย่างแน่นอน
“มูลนิธิการกุศลโดยทั่วไปต้องใช้เงินเท่าไหร่”
ประธานปาร์คถามทำเป็นยอม ซองบอมลุกพรวดกอดประธานปาร์คหมับ
“ขอบคุณครับพ่อ! ขอบคุณจริงๆ! ผมจะทำให้สำเร็จ ภาพลักษณ์จะต้องดีขึ้นแน่ๆ!”
“ปล่อย ไอ้หมูนี่! อึดอัดน่า!”
ซองบอมนั่งลงบนโซฟาอีกครั้ง ตาเป็นประกาย
“เงินที่ใช้สร้างมูลนิธิ มีตั้งแต่น้อยๆ หลายสิบล้านวอน แต่บูคยองกรุ๊ป จะยอมขายหน้าด้วยเงินหลักสิบล้านวอนงั้นเหรอครับ ระดับประธานปาร์คชีดึกแห่งพูซาน มันต้องให้เงินช่วยเหลือประมาณสามร้อยล้านวอน ใช่ไหมครับพ่อ”
* * *
“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก…”
เสียงครางแปลกๆ ดังไปทั่ว เสียงหอบหายใจแรงและเร็วขึ้น
“ฮึบ…”
หลายครั้งที่กลั้นหายใจและผ่อนออกอย่างลำบากยากเย็น สุดท้ายก็ไม่สามารถทนต่อไปได้ ส่งเสียงร้องออกมา
“อ้า…แฮ่กๆ!”
ร่างเปลือยชุ่มไปด้วยเหงื่อของจีฮวันทิ้งตัวนอนลงกับพื้นห้องรับแขก หัวใจเหมือนจะระเบิด กล้ามเนื้อแขน ไหล่ หน้าอกยังคงสั่นระริก ผลของการวิดพื้นร้อยครั้ง สองชั่วโมงแล้ว ทันทีที่ตื่นเช้า ก็ควบคุมความหื่นไม่ได้ ออกไปวิ่งที่สวนริมทะเลสาบมาหนึ่งชั่วโมง
กลับบ้านมาก็มายกดัมเบล แพลงก์แล้วก็สควอทอีก แต่ก็ยังดับความร้อนรุ่มไม่ได้ เขากำลังใช้ร่างกายอย่างหนักไปกับการออกกำลังกายกล้ามเนื้อทุกส่วน
“แฮ่กๆ อยากจะบ้า”
ตรงหน้าของจีฮวันที่เต็มไปด้วยเหงื่อและความร้อนมีแต่ภาพเดิมๆ ปรากฏขึ้นมา แม้จะพยายามสลัดออกเท่าไร ภาพของอึนคังก็ยังปรากฏขึ้นราวกับตอกแน่นในประสาทการมองเห็น
อึนคังที่เคยมองตัวเองด้วยสายตาของสัตว์กินเนื้อที่เอาเหยื่อมาวางไว้ตรงหน้า อึนคังถอดเสื้อและจ้องเขม็งมาที่คอและกระดูกไหปลาร้าของจีฮวันเหมือนผีดูดเลือด อึนคังที่ขยุ้มผมเขากรีดร้องกระโจนไปยังจุดหมายปลายทาง อึนคังที่ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างระเบิดในที่สุด และดูดกลืนจีฮวันเหมือนหลุมดำ
“อ๊ากกก! ภาพหลอนหรือเนี่ย!”
จีฮวันร้องโวยวายลุกพรวดขึ้นมา จีองที่กำลังเคลิ้มอยู่บนเก้าอี้โยกตกใจจนหันไปมองเขา
“เมี้ยววว?”
“จีอง พ่อจะทำยังไงดี พ่อเหมือนจะแย่แล้ว”
นึกว่าถ้ายิ่งออกกำลังกาย ความใคร่จะลดลง กลับกลายเป็นยิ่งกว่าเดิม
จีฮวันอาบน้ำเย็นให้สติกลับคืนมา เขายืนอยู่หน้ากระจก หลายวันที่ผ่านมาเอาแต่ฮึดออกกำลังกายแทบไม่ได้กิน จนตอนนี้หน้าที่เรียวอยู่แล้วยิ่งซูบซีดลง คางแหลม แต่ใบหน้าอยู่นอกเหนือความสนใจของเขา
จีฮวันส่องกระจกเงียบๆ ลูบคอและไหปลาร้า รอยจูบที่อึนคังทำไว้กำลังเลือนรางไป ถึงแม้จะน่าอายจนอยากจะลบทิ้ง แต่พอเอาเข้าจริงความรู้สึกเสียใจที่มันกำลังจะหายไปนี้คืออะไร
ในที่สุดจีฮวันก็เริ่มลงมือทำความสะอาดใหญ่เพื่อลบความหมกมุ่น ปัดฝุ่นกรอบหน้าต่างทุกซอกมุม เช็ดตู้เย็นและชั้นทั้งหมด เอาหนังสือจากชั้นมาจัดใหม่
แต่ถึงแม้จะทำอะไรก็ไร้ประโยชน์ การทำความสะอาดที่ชอบก็ไม่สนุก จะอ่านหนังสือ ดูทีวี หรือแม้แต่เล่นโยนหนูของเล่นกับจีอง ก็ยังเอาอึนคังออกจากหัวไม่ได้ ร่างกายของอึนคังและค่ำคืนที่มีกับเธอยังคงแจ่มชัด
เขาเลิกกับราฮีมาได้สี่ปีแล้ว ช่วงนั้นจีฮวันอยู่อย่างหักห้ามใจต่อกามตัณหาเหมือนพระสงฆ์ครองสันโดษ เวลาที่เหงาเกินต้านทานหรือต้องการฟังเสียงหัวใจและกลิ่นเนื้อของคนอื่น ก็จะหาผู้หญิงอย่างช่วยไม่ได้
เนื่องจากความรักมันน่ารำคาญ และความรู้สึกก็เป็นอะไรที่ยุ่งยาก ปีนึงเขาจะมีวันไนต์สักครั้งสองครั้งเหมือนงานประจำปี แต่ครั้งเดียวไม่เคยพอใจ ทั้งร่างกายและจิตใจมันไม่พอ เช้าในห้องของโรงแรมกับผู้หญิงแปลกหน้า ก็แค่กอดความว่างเปล่าและสิ้นหวัง
แต่หนึ่งคืนกับอึนคังต่างออกไป ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นครั้งแรก ไม่มีความเคอะเขินแม้แต่น้อย เป็นประสบการณ์ที่ทั้งร่างกายและจิตใจรวมกันอย่างเพอร์เฟกต์
อยากถูกกอดอยู่ภายใต้ร่างอึนคังอีกครั้ง อยากรู้สึกระหว่างถูกงับที่ไหปลาร้าอีกรอบ
“หรือว่าเราจะเป็น…อย่างที่เคยแต่ได้ยิน”
จีฮวันขยี้หัวอย่างแรง เชื่อว่าจะไม่ใช่อย่างนั้น ต้องไม่ใช่ เวลาวุ่นวายใจ ต้องจัดนิยายสักเรื่อง จีฮวันนอนลงบนโซฟา เริ่มกวาดสายตาดูผลงานที่เตะตาจากในบรรดาผลงานยอดเยี่ยมเรื่องใหม่ที่ไม่ได้อ่านมาหลายวัน แต่ทว่า…
[ทายาทเศรษฐีรุ่นที่สาม ในสิบอันดับวงการการเงินเกาหลี ตลอดชีวิตของฉันที่เกิดมาในตระกูลที่เพียบพร้อม ผู้หญิงที่ถ่มน้ำลายใส่หน้าของฉัน เพิ่งมีเธอเป็นคนแรก]
พระเอกทายาทเศรษฐีรุ่นที่สาม ทั้งที่เคารพตัวเองแต่กลับรู้สึกเกิดความใคร่กับผู้หญิงที่ถ่มน้ำลายใส่หน้า และเข้าใจรสนิยมทางเพศที่แท้จริงของตัวเอง ทุกครั้งที่เกิดความต้องการ ก็จะว่าจ้างผู้หญิงซึ่งเป็นนางเอกมา ‘ถ่มน้ำลายให้’ ทุกคืนจะจัดงานเลี้ยงระเบิดน้ำลายสกปรก…
[ความพยายามที่จะตัดขาดผมเป็นเพียงการสมมติใช่ไหม คุณเป็นสเปกของผม ผมชอบผู้หญิงที่เหยียบย่ำและกดดันจิตใจ แล้วก็มองลงมาที่ผมอย่างยโสจากบนตัวผม ผู้หญิงอย่างคุณที่ด่าทุกคำที่พ่นออกมา ใช่แล้ว ด่าอีกสิ ด่าอีก ด่าใส่หูผมด้วยคำที่แรงที่สุดที่คุณรู้มาเลย ได้โปรด]
เรื่องราวของพระเอกซึ่งเป็นสุดยอดนักแต่งเพลงในตอนนี้ ที่ไม่ว่าจะออกผลงานเพลงไหนมาก็จะได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง โดยมีแรงบันดาลใจในการสร้างผลงานจากคำด่าของนางเอก…
“ไร้สาระชะมัด…”
ไล่ดูไปไม่กี่เรื่องจีฮวันก็ถึงกับจิ๊ปาก ในนิยายออนไลน์เป็นแหล่งรวมพระเอกที่มีรสนิยมมาโซคิสม์ พระเอกที่ชอบถูกผู้หญิงกระทำมีเพียบ
“พระเอกเป็นเหมือนกันหมด ทนถูกผู้หญิงเหยียบย่ำเนี่ยนะ หรือมาโซคิสม์จะมารวมกลุ่มกันในโลกนิยายออนไลน์”
ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่ก็เข้าใจจิตใจของพวกพระเอกเหล่านั้นมากๆ พอนึกถึงสายตาที่เหมือนสัตว์ป่าของอึนคัง ความต้องการมันก็ลุกพรึ่บขึ้นมาอีกครั้ง
จีฮวันเข้าไปยังคอมมูนิตี้ที่ตัวเองชอบเข้าไป เป็นคอมมูนิตี้ที่เป็นที่รวมตัวของเหล่าพนักงานธนาคาร, นักเล่นหุ้น, นักลงทุน นอกจากเรื่องงานปรึกษาด้านกฎหมาย ข้อมูลการลงทุน ก็ยังมีอีกหลากหลายหัวข้อ อย่างเรื่องกลุ้มใจหรือเหตุการณ์ต่างๆ
ไม่ต้องกังวลเรื่องชื่อเสียง โดยเฉพาะในหมวด ‘เพศและความรัก’ มักจะมีคำแนะนำเรื่องกลุ้มใจเกี่ยวกับเรื่องเพศเสมอ จีฮวันที่เคยได้แต่อ่านเริ่มลงมือพิมพ์ข้อความที่กังวล
พิมพ์หัวข้อกระทู้ไปว่า
[ผมกลัวว่าตัวเองจะผิดปกติ]
[ผมนอนกับผู้หญิงที่เพิ่งเจอกันได้ไม่เท่าไหร่ ปัญหาคือผู้หญิงคนนี้กระตือรือร้นมากทีเดียว อยู่มาสามสิบกว่าปี ถึงจะไม่ได้คบผู้หญิงมาเยอะ แต่จนถึงตอนนี้ก็เป็นผู้นำในเรื่องบนเตียงมาตลอด]
พิมพ์มาจนถึงตอนนี้จีฮวันก็เปลี่ยนผู้นำเป็น ‘คนนำพาบรรยากาศ’
[จนถึงตอนนี้ผมเป็นฝ่ายนำพาบรรยากาศบนเตียงมาโดยตลอด ทั้งผมและผู้หญิงคนอื่นๆ การนำพาของผมก็เป็นไปตามปกติ แต่ผู้หญิงคนนี้ต่างกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ผมเคยเจอมามาก]
จีฮวันกลุ้มใจอยู่พักหนึ่ง เพื่อบรรยายความสดใสกระตือรือร้นของอึนคังให้สวยงาม คนอ่านจะได้ไม่เข้าใจผิดว่าอึนคังเป็นผู้หญิง ‘รุนแรง’
[เธอทำงานเกี่ยวกับศิลปะ เป็นที่น่าเชื่อถือในโลกของตัวเอง และเป็นคนมีชื่อเสียงทางด้านนั้น นิสัยใจกว้างและเปิดเผย โดยปกติจะไม่แต่งหน้าแต่งตัว จะใกล้เคียงกับคำว่าน่ารักและใสซื่อได้ไหมนะ
ปัญหาก็คือ ผมเอาแต่คิดถึงเรื่องคืนนั้น เธอต้องการตัวผม สายตาที่เหมือนสัตว์ป่าของเธอที่จ้องมองมาขณะที่สัมผัสลูบไล้ มันทำให้ผมตื่นเต้นตลอด
ผมนึกถึงเรื่องคืนนั้นตลอด ทุกครั้งที่นึกถึงเธอที่มองลงมาที่ผม ก็จะรู้สึกตื่นเต้น ผมดำเนินชีวิตตามปกติไม่ได้ หรือผมจะเป็นพวกชอบความซาดิสม์ ผมกลัวว่าตัวเองจะผิดปกติ ทำอย่างไรดีครับ]