รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ – บทที่ 61-2 ความอิจฉาก็ทำให้แมวป่วยได้เหมือนกัน / บทที่ 62-1 บอกให้มาก็มา บอกให้ไปก็ไป เป็นผู้ชายแบบนั้น

บทที่ 61-2 ความอิจฉาก็ทำให้แมวป่วยได้เหมือนกัน / บทที่ 62-1 บอกให้มาก็มา บอกให้ไปก็ไป เป็นผู้ชายแบบนั้น

บทที่ 61-2 ความอิจฉาก็ทำให้แมวป่วยได้เหมือนกัน

จีฮวันกลับมาถึงบ้านด้วยสภาพหมดแรง

ทันทีที่เปิดตะกร้า จีองก็โดดออกมาและวิ่งไปยังห้องหนังสือ ท่าทางจะไปซ่อนในซอกอีกแล้ว จีฮวันนั่งลงที่โซฟา ไม่ไล่ตามไปตามคำแนะนำของยองอู

“จีอง ขอโทษนะ”

จีฮวันพูดออกไป หวังส่งความรู้สึกไปถึงจีองที่แอบอยู่สักที่จากใจจริง

“ขอโทษจริงๆ คงเสียใจมากเลยใช่ไหม เศร้ามากเลยสินะ ที่พ่อพาคนแปลกหน้าเข้ามาในบ้านแล้วก็ออกไปโดยไม่ได้บอกอะไร…ต้องอยู่บ้านคนเดียวทั้งคืน คงกลัวและเสียใจมากเลยใช่ไหม ขอโทษนะ พ่อขอโทษจริงๆ จะให้ขอโทษยังไงก็คงไม่พอ”

จีฮวันก้มหน้าที่ซีดเซียวลง

“พ่อยอมรับว่าหมู่นี้ไม่ค่อยมีสติเพราะคนคนนั้น พ่อชอบเธอมาก นานแล้วที่ไม่ได้เปิดใจชอบใครแบบนี้ แต่จีอง ถึงพ่อจะบอกว่าชอบเธอคนนั้นมาก ก็ไม่ใช่ไม่รักจีอง พ่อไม่มีทางรักจีองน้อยลงเด็ดขาด เพราะจีองเป็นครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวของพ่อ พ่อรักจีองมากที่สุด รักมาก่อนเธอคนนั้น และหลังจากเจอเธอคนนั้น มันก็ไม่มีทางเปลี่ยน ถ้าจีองเข้าใจก็คงจะดี ต่อให้เวลาผ่านไป แล้วพ่อไม่รักเธอคนนั้นอีกก็ตาม”

พูดไม่ออกไปชั่วครู่

วันที่รักร้อนแรงบรรเทาลง และไม่ได้รักอึนคังอีกต่อไป

“พ่อก็จะอยู่กับจีองตลอดไป จีองเป็นครอบครัวเดียวของพ่อ เพราะงั้น…”

แล้วน้ำตาก็ไหลลงมาอาบแก้มโดยไม่รู้สาเหตุ

แค่คิดถึงความจริงว่าถ้าไม่มีอึนคัง และต้องอยู่กันแค่สองคนกับจีอง และความจริงที่เธอยึดครองพื้นที่ส่วนมากในชีวิตของตัวเองไปแล้ว น้ำตาก็ไหลไม่หยุด

ไม่รู้ว่าร้องไห้เงียบๆ อยู่นานเท่าไหร่ ก็รู้สึกถึงน้ำหนักและความอบอุ่นที่มาสัมผัสที่ขา จีฮวันเงยหน้าขึ้น

จีองเอาก้นมาถูและนั่งหน้าตาเฉยอยู่ตรงหว่างขาของจีฮวัน

“จีอง นี่ลูก”

จีฮวันยิ้มน้ำตาคลอพลางตบก้นจีองเบาๆ จีองครางครืดคราดอย่างอารมณ์ดี

“ยกโทษให้พ่อแล้วใช่ไหม ถ้างั้นรีบไปกินข้าวเถอะนะ หืม?”

จีองลุกขึ้นราวกับคอยคำนี้อยู่แล้ว ค่อยๆ เดินโยกย้ายไปยังชามอาหาร

กร้วมๆ ไม่นึกว่าเสียงแมวเคี้ยวอาหารจะเพราะขนาดนี้ แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น อึนคังโทรมา

บทที่ 62-1 บอกให้มาก็มา บอกให้ไปก็ไป เป็นผู้ชายแบบนั้น

ขณะที่กำลังปวดใจคิดถึงอึนคัง คนที่กำลังคิดถึงก็โทรมาพอดี สมกับเป็นอึนคัง จีฮวันกระแอมปรับเสียงแล้วรับสาย

“ฮัล…”

[คุณพีบี ทำไมเสียงเป็นแบบนั้นล่ะคะ ร้องไห้เหรอ]

“คะ ใครร้องไห้ ไม่ใช่นะครับ”

[เอ๋ เสียงเหมือนร้องไห้ไม่ใช่เหรอคะ เป็นอะไรคะ ไม่สบายเหรอ]

“ก็บอกว่าไม่ใช่ไงครับ”

[ก็มันไม่เหมือนไม่ใช่นี่นา อะไรคะ เกิดอะไรขึ้น บอกพี่สาวคนนี้มาเถอะ!]

จีฮวันเผลอยิ้มกับคำพูดไร้สาะ อ้า บ้าจริง เดี๋ยวร้องไห้ เดี๋ยวหัวเราะมีที่ไหน

[ไม่สบายเพราะเมื่อวานเหนื่อยมากไปใช่ไหมคะ]

“ก็บอกว่าไม่ใช่ไงครับ แล้วคุณนักเขียนเป็นยังไงบ้าง ไม่เป็นไรใช่ไหม เมื่อวานทำมากเกินไป…”

[ได้หลับเต็มที่ ตื่นมาก็สดชื่นแล้วค่ะ ถึงจะนอนเช้ามืด แต่ยังไม่สิบเอ็ดโมงก็ตื่นแล้ว การถึงจุดสุดยอดนี่เป็นยารักษาสารพัดโรคจริงๆ]

ใบหน้าของจีฮวันแอบร้อนขึ้น อึนคังเป็นคนพูด แต่ทำไมเขาถึงได้เป็นฝ่ายอาย

“งะ งั้นเหรอครับ โชคดีจัง”

[คุณพีบีดูเหมือนไม่สบายเลยนะคะ เสียงไม่ค่อยดีเลย!]

“ไม่ใช่ผมหรอกครับ จีองน่ะ นี่ก็เพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาล”

เขาเหลือบมองจีองที่กำลังกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อยพลางลดเสียงให้เบาลง

[หา! เป็นอะไรคะ เป็นเยอะหรือเปล่า]

“ไม่เป็นไรครับ ตรวจหมดแล้ว ไม่มีอะไรผิดปกติ ตอนนี้ก็โอเคขึ้นแล้ว”

[คุณพีบีคงตกใจมาก ถึงลูกๆ จะไม่สบายแค่นิดหน่อย แต่มันก็อดทุกข์ใจไม่ได้อยู่ดี เพราะถามก็ไม่ได้ว่าเจ็บตรงไหน ตอนไปตรวจที่โรงพยาบาลก็ทำเอาใจหายใจคว่ำ]

“ใช่ครับ แบบนั้นเลย ใจหายใจคว่ำ”

[ไม่ว่าคนหรือสัตว์ก็เหมือนกัน แค่สามสิ่ง กินอิ่ม นอนหลับ ปลดปล่อยดี ก็เป็นทางลัดของการอายุยืนปราศจากโรค]

แวบนึงที่จีฮวันเกือบเข้าใจผิดว่า ‘ปลดปล่อยดี’ หมายถึงอย่างอื่น ไม่ใช่ ‘การขับถ่าย’ อุจจาระ ปัสสาวะ ท่าทางปีศาจลามกจะเข้าสิงไม่ยอมออก

[ยังไงไม่เป็นไรก็ดีแล้วค่ะ เพราะจีองนี่เองเสียงถึงเป็นแบบนั้น ฉันนึกว่าคุณพีบีจะเป็นลมซะอีก นึกว่าขี้โม้ที่ว่ามากกว่าสิบรอบก็ยังไหว…]

“ก็บอกว่าไม่ใช่ไงครับ! ทำแค่นั้นล้ม เห็นผมเป็นอะไร”

[เห็นเป็นอะไร ก็เป็นลุงวัยสามสิบกลางๆ ไงคะ]

ดูยัยผู้หญิงคนนี้ เรียกใครว่าลุง? จีฮวันแอบเคือง ผู้ชายวัยสามสิบกว่าที่ยังมีพลังเหลือเฟือยันเช้ามืดยังกับกินไวอากร้า ทำไมถึงมองเป็นลุงอยู่ได้

ไปไหนก็ยังดูไม่เหมือนสามสิบหก จีฮวันไปไหนก็ได้ยินแต่คำชมว่าหน้าเด็ก และดูแลตัวเองดีมาก

“เคยเห็นลุงที่ไหนผิวดี พุงไม่ยื่น ผมหนา กำลังวังชาดีอย่างผมหรือไงครับ”

[อืม ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ]

“ไม่รู้อะไร ไม่รู้ได้ยังไง คุณนักเขียนไม่มีตาหรือไง ลองไปยืนในสวนริมทะเลสาบสักชั่วโมงนะครับ ในบรรดาวัยเดียวกัน จะมีผู้ชายที่มีกลิ่นอายความเป็นลุงอย่างผมไหม”

[ความจริง หลังจากอายุยี่สิบแปด ฉันก็ไม่เคยคบกับผู้ชายที่อายุมากกว่าอีกเลย ก็เลยไม่ค่อยรู้ ว่าเดี๋ยวนี้ลุงๆ เขาเป็นยังไงกัน]

“เอ่อ”

จีฮวันอึ้งไปชั่วขณะ เป็นคำตอบที่ไม่คาดคิด

“จริงเหรอครับ”

[ค่ะ คุณพีบีเป็นคนแรก]

“ถ้าอย่างนั้น ล่าสุดผู้ชายที่คุณนักเขียนเคยคบเมื่อหลายปีก่อน คืออายุน้อยกว่าทั้งหมดเลยสินะ”

[เฮือก! รู้ได้ยังไงคะ]

อึนคังถามด้วยความตกใจ จีฮวันนึก บางครั้งคนที่ตัวเองกำลังคุยโทรศัพท์ด้วยก็บ้าจนพูดไม่ออกเหมือนกัน

“จะรู้ได้ยังไงล่ะครับ ก็คุณนักเขียนเป็นคนพูดเองไม่ใช่หรือไง ว่าหลังจากอายุยี่สิบแปดไม่เคยคบกับผู้ชายที่อายุมากกว่าตัวเองเลย จากคำพูดนั้น ก็ต้องหมายความว่าเคยนอนแต่กับคนอายุน้อยกว่าไม่ใช่เหรอครับ”

[อ๋า นั่นสินะ! ก๊ากๆๆ!]

นานแล้วที่ไม่ได้ฟังเสียงลูกเห็บตกใส่หลังคาสังกะสีทางโทรศัพท์ จีฮวันเอนตัวนอนลงบนโซฟา รู้สึกผ่อนคลาย

จีองที่กินอาหารเรียบร้อย เลียน้ำแผล็บๆ หลังจากนั้นก็ป้ายน้ำลายล้างหน้าแต่งขนอย่างประณีต กระโดดขึ้นโซฟามานั่งบนพุงของจีฮวัน

ฟังเสียงผู้หญิงที่ชอบดังลอดมาตามสาย มีความอบอุ่นจากแมวที่รักอยู่บนท้อง ไม่มีอะไรจะสุขสงบไปกว่านี้แล้ว แต่ในใจของจีฮวันก็ยังไม่สบายซะทีเดียว

“ชอบผู้ชายเด็กๆ แบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”

จีฮวันโพล่งถามพลางใช้นิ้วลูบขนของจีองไปด้วย อึนคังหยุดหัวเราะ

[อืม ตั้งแต่เกิดล่ะมั้งคะ]

พูดอะไรเนี่ย ยัยคนนี้นี่

[ก็แค่ไปได้ไม่ดีกับคนที่อายุมากกว่า ผู้ชายคนแรกที่คบตอนมหาลัย เป็นรุ่นพี่อายุมากกว่าสองปี แต่หลังจากนั้นที่คบกันเป็นทางการ รักข้างเดียว หรือกิ๊กกัน ก็มีแต่พวกผู้ชายที่เด็กกว่า]

จีฮวันอดกลั้นเอาไว้ อยากถามว่าที่คบกันเป็นทางการมีกี่คน ผู้ชายที่รักข้างเดียวกี่คน แล้วไอ้ที่กิ๊กกั๊กกันนั่นเป็นคนแบบไหน

“ที่เด็กกว่านี่ ประมาณกี่ปีครับ”

[น้อยสุดก็อายุประมาณสิบเจ็ดล่ะมั้ง ไม่สิ สิบแปด]

เฮ้ย สะ สิบแปด? เคยคบกับผู้ชายอายุสิบแปด จีฮวันอายุสามสิบหก ถึงว่าถึงได้ชอบเรียกเขาที่อายุมากกว่าตัวเองสามปีว่าลุงนัก! ให้ตายเถอะ! ไม่เข้าใจเลย! ไม่เข้าใจ!

“ทำไมถึงไม่คบกับคนที่อายุมากกว่า ไม่ชอบสิ่งที่คนอายุมากกว่าไม่มีให้งั้นเหรอครับ คนอายุมากกว่าจะจับคุณนักเขียนกินหรือไงกัน หรือก็แค่ชอบเด็กๆ ไม่ชอบคนแก่”

การถูกมองว่าเป็นคนแก่สำหรับผู้หญิงที่ชอบโดยไม่คาดคิดนั้นทั้งเศร้าและเจ็บปวด

[ต้องบอกว่าเคยมีบาดแผลใหญ่จากรักแรกล่ะมั้งคะ ผู้ชายคนแรกที่คบชอบสอนฉันน่ะค่ะ ชอบกดด้วยอายุ แค่ฉันพูดอะไรก็ผิดไปหมด ไม่สนใจ มองฉันแล้วก็สั่งให้หยุดทำ บอกให้อยู่เงียบๆ เรียบร้อย ให้ว่านอนสอนง่าย ทำตัวให้สมกับเป็นผู้หญิง ให้ใช้ความคิดซะบ้าง เลิกทำอะไรบ้าๆ เจอกันทุกวันก็เอาแต่บ่น แล้วก็สั่งๆ คนอื่น…]

จีฮวันเผลอสะดุ้ง ถ้าเรื่องบ่น ตัวเองก็ไม่น้อยหน้าเหมือนกัน

[นั่นมันเป็นความรักยังไงกัน เหมือนโดนเรียกไปห้องพักครู มันน่าเศร้าจนทนไม่ไหว]

“ดังนั้นคุณนักเขียนก็เลยขอเลิกน่ะเหรอครับ”

[เปล่าค่ะ ฉันถูกเขี่ยทิ้ง]

เสียงของอึนคังสดใสมาก อารมณ์ของจีฮวันเลยพลอยสดชื่นขึ้นไปด้วย เรื่องก็ผ่านมาสิบปีแล้ว คำว่าถูกเขี่ยทิ้ง ทำไมถึงได้ฟังแล้วอารมณ์ดีอย่างนี้

[รู้ไหมคะว่าฉันถูกเขี่ยทิ้งยังไง]

“หรือว่า ตอนจับปลาสองมือ หนึ่งในซีรีส์อดีตแฟนไร้สาระ?”

[เฮือก! จำได้ด้วยเหรอคะ ยังไม่ได้บอกเนื้อหา ก็บอกชื่อเรื่องได้แล้วเหรอ]

“ดูท่าทางจะชอบลืมนะครับ ว่าผมความจำดี โดยเฉพาะเรื่องที่คุณนักเขียนพูด…”

ขนาดเรื่องที่เคยคุยกับคนที่เจอกันเรื่องงานเมื่อหลายปีก่อนยังจำได้ กับคำพูดของคนที่ชอบยิ่งไม่มีทางลืมแน่นอน คำพูดของอึนคัง เสียงหัวเราะ กระทั่งสีหน้าและการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ล้วนสำคัญสำหรับจีฮวัน

[เรื่องที่ฉันพูดน่ะอะไรเหรอคะ]

“ก็ไม่ว่าจะเรื่องเหลวไหลไร้สาระอะไร ผมก็จำได้หมดแหละครับ”

[หือ? ไม่น่าจะใช่หรือเปล่าคะ ถ้าเป็นเรื่องไร้สาระ ก็ไม่น่าจะจำได้มากกว่าหรือเปล่า]

“ระ เรื่องนั้น”

[ท่าทางรอบๆ ตัวคุณพีบีคนที่พูดจากไร้สาระคงจะมีฉันคนเดียว ถึงได้จำได้!]

จีฮวันโล่งอก

“เพราะไอ้เลวที่อายุเยอะกว่าหน่อย ทำตัวเป็นคนแก่ขี้บ่น ยังไม่พอยังจับปลาสมองมือ ตั้งแต่นั้นเลยคบกับผู้ชายที่เด็กกว่างั้นเหรอครับ”

[จะว่าแบบนั้นก็ได้ค่ะ แล้วนั่นเหมือนเป็นการเปิดรสนิยมเรื่องคนรักของฉันด้วยมั้งคะ ฉันทนไม่ได้จริงๆ ที่จะให้ใครมาควบคุม บงการนู่นนี่ ถึงคนนั้นจะดีแค่ไหน ถ้าจะมาทำตัวเป็นเจ้าของเจ้าของฉัน เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นแฟน มันก็ทำให้เกิดความขัดแย้ง เข้าใจใช่ไหมคะ]

รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ

รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ

Status: Ongoing

รยูจีฮวัน ที่ปรึกษาด้านการเงินสุดเนี้ยบและปากร้าย อยู่มาวันหนึ่งมีผู้หญิงแปลกหน้าเข้ามาประชิดตัวเขา ใบหน้าของเธอซีดเผือด เหงื่อเกาะพราวอยู่เต็มดวงหน้า อีกทั้งยังหายใจหอบถี่ เธอกระซิบข้างหูเขาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

“ได้โปรด ชะ ช่วยฉันด้วย อึก!”

ยังไม่ทันที่จีฮวันจะตั้งสติได้ หญิงสาวก็วิ่งพรวดพราดเข้าไปในห้องของเขา แล้วเสียง ปู้ด! ป้าด! ที่ได้ยินจากห้องก็แทนคำอธิบายได้เกินพอ

หลังจากนั้นชีวิตของจีฮวันราวกับต้องคำสาป เขาตกงานเพราะปฏิเสธรักหลานสาวลูกค้ารายใหญ่ของบริษัท นับว่าโชคยังเข้าข้างอยู่บ้าง เขาได้งานเป็นที่ปรึกษาของนักเขียนชื่อดัง แต่ลูกค้าคนนั้นดันเป็น โกอึนคัง หญิงสาวที่เข้ามาอึในห้องของเขา ซ้ำร้ายเธอยังอยู่คอนโดเดียวกันกับเขาอีกต่างหาก!

แล้วเรื่องราววุ่นๆ ของชายหญิงที่นิสัยต่างกันสุดขั้วจึงเกิดขึ้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท