บทที่ 79-2 รู้ไหมสัญญาจะเปลี่ยนใหม่ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะตาย
ย้อนกลับไปตอนจีฮวันอายุสิบห้าสิบหก วันที่เขาเถียงกับพ่อที่กลับมาจากศาลแล้วตบตีแม่เพื่อระบายความเครียดเป็นครั้งแรก
พ่อปล่อยหมาโดเบอร์แมนที่เชื่อฟังแต่พ่อออกมาจากกรง สั่งให้วิ่งเข้าใส่เขาเพื่อดัดนิสัย
‘กัดเลย!’
จีฮวันได้แต่นั่งตะลึงด้วยความกลัว ตรงหน้ามีโดเบอร์แมนที่แยกเขี้ยวน่าสยดสยองพุ่งเข้ามา แต่ก่อนที่จะโดนกัด พ่อดึงสายจูงเอาไว้ จีฮวันเลยรอด แต่ก็ทำเอาเขาถึงกับฉี่ราด
โดเบอร์แมนตอนนั้นกับโดสะตอนนี้เหมือนภาพซ้อนทับ ต้องหนีแต่ก็คิดอะไรไม่ออกเลย จีฮวันยืนนิ่งอย่างหมดหนทาง ทำได้แค่หลับตาลงด้วยความหวาดกลัวเท่านั้น
ขณะที่เขี้ยวยักษ์ของโดสะกำลังจะฝังลงที่ต้นขาของจีฮวัน คอร์กี้ตัวเล็กตัวหนึ่งก็กระโดดเข้ามากัดเข้าที่ขาของโดสะที่ตัวใหญ่กว่าตัวเองสามสี่เท่า
โดสะที่ถูกจู่โจมอย่างกะทันกันเปลี่ยนเป้าหมายจากจีฮวัน ฝังเขี้ยวกระหายเลือดบนไหล่ของคอร์กี้แทน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าทำเอาจีฮวันสติหลุด เขี้ยวของโดสะยิ่งฝังลึกลงที่ไหล่ของคอร์กี้ เลือดไหลออกจากตัวของคอร์กี้เต็มไปหมด
ในหูของจีฮวันไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ทั้งเสียงร้องที่น่าสงสารของคอร์กี้ เสียงหวีดร้องของผู้คน มีแต่ความอื้ออึงเลือนราง
“จากู!”
เสียงร้องของอึนคังปลุกจีฮวันกลับมาสู่ความเป็นจริง ขณะที่อึนคังกำลังจะวิ่งไปหาจากู จีฮวันก็หายตัวแข็ง
เด็กชายสิบกว่าขวบที่เคยนั่งฉี่ราดหมดท่าต่อหน้าพ่อหายไป ลุกขึ้นสลัดความกลัว กลายเป็นชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะปกป้องผู้หญิงที่รักและครอบครัวของเธอ จีฮวันรีบวิ่งเข้าไป
ดึงคอร์กี้ที่สู้อย่างไม่คิดชีวิตออกมา หลังจากถอดเสื้อสูทพันแผลก็อุ้มจากกูวิ่งไป
ทั้งจีฮวันที่อุ้มจากู และอึนคังที่ตามไปข้างๆ ต่างเปรอะไปด้วยเลือดในขณะที่รีบวิ่งไปอย่างสุดกำลัง
* * *
ระหว่างที่ยองอูกำลังผ่าตัดจากูอยู่ในห้องฉุกเฉิน จีฮวันและอึนคังก็นั่งคอยอยู่ที่ห้องรับรองโดยไม่คิดจะเช็ดเลือดใดๆ ได้แต่จ้องมองนาฬิกาบนผนังกว่าโดยไม่พูดอะไรมาครึ่งชั่วโมงแล้ว
คนที่เป็นฝ่ายทำลายความเงียบก่อนก็คืออึนคัง
“นั่น สูทที่ฉันให้ใช่ไหมคะ”
ตอนนั้นจีฮวันถึงเพิ่งได้สำรวจสภาพตัวเอง ทั้งเสื้อคลุมที่วางกองอยู่ข้างๆ เสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกง เลอะไปด้วยเลือดแทบจะทั้งตัว
“ใช่ครับ”
“ต้องทิ้งอีกแล้วสินะ”
“ไม่ทิ้งหรอกครับ ทิ้งไม่ได้ ก็ใครเป็นคนให้มากันล่ะครับ”
“ขอบคุณนะคะที่เข้าไปช่วยจากู”
“ใครกันแน่ที่ควรขอบคุณ โกอึนคังคุณบ้าไปแล้วเหรอ”
จีฮวันจ้องอึนคังด้วยความโกรธ
“จากู เกือบตายเพราะผม จากูโดนกัดเพื่อช่วยผม! จะตายหรือเปล่าก็ไม่รู้! แล้วยังมาขอบคุณอีกงั้นเหรอ”
น้ำตาเหมือนจะไหลออกมาจากดวงตาแดงก่ำของจีฮวัน
“จากูไม่ตายหรอกค่ะ ยังมีของที่อยากกินอีกเยอะ เจ้าหมูนั่นจะตายไม่ได้เด็ดขาดค่ะ”
แม้อึนคังจะพูดล้อเล่น แต่สีหน้าของจีฮวันก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
“ผมได้แต่มองไปข้างหน้า ขยับเขยื้อนไม่ได้ เหมือนกับเมื่อยี่สิบปีก่อนที่เกือบจะโดนหมาที่พ่อปล่อยมาดัดนิสัยกัด เห็นจากูเลือดออกเพราะผม ตัวก็แข็งไปหมด ตอนนั้นกับตอนนี้ก็น่าสมเพชไม่ต่างกัน…”
จีฮวันพรั่งพรูความรู้สึกออกมา อึนคังกอดเขาเอาไว้เงียบๆ
“ใครน่าสมเพชกัน สุดท้ายคนที่ช่วยจากูก็คือคุณ รยูจีฮวัน เอาจากูที่สู้ไม่ถอยออกมา ห้ามเลือด วิ่งยังกับคนบ้ามาถึงโรงพยาบาลทันเวลา ที่น่าสมเพชกว่า คือการดูถูกตัวเองที่ไม่ได้น่าสมเพชเลยสักนิดค่ะ”
จีฮวันเงยหน้าน้ำตาคลอ
“ถ้าผมยังทำเหมือนเดิมอยู่ คุณจะว่ายังไง”
“ฉันจะลองคิดอีกครั้ง ถึงการชอบคุณ ฉันไม่ได้ชอบความน่าสมเพชที่คุณดูถูกตัวเอง แต่หลงรักเลยค่ะ”
จีฮวันกะพริบตาปริบๆ ทำหน้าไม่เข้าใจ
“คุณรยูจีฮวัน ที่ฉันอยากบอกคือฉันชอบคุณค่ะ ในสัญญาไม่มีบอกสักหน่อยนี่คะว่าจะเป็นโมฆะถ้าเกิดใครชอบใคร เพราะฉะนั้นอย่าคิดจะยกเลิกสัญญา อุ๊บ”
คำพูดของอึนคังถูกปิดกั้นจากจีฮวันที่ประกบริมฝีปากลงมา หลังจากประสานริมฝีปากกันสักพัก จีฮวันก็กุมใบหน้าของอึนคังและจ้องมองด้วยความเคลิบเคลิ้ม
“มีข้อตกลงในสัญญาที่ลืมไป”
“อะไรคะ”
“ถ้ามีใครชอบใคร สัญญาจะต้องถูกทำใหม่โดยอัตโนมัติ”
“ไปจนถึงเมื่อไหร่”
“ตลอดชีวิต”
อึนคังกดริมฝีปากลงบนริมฝีปากของจีฮวันราวกับประทับตราสัญญาที่ทำใหม่
หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ยองอูก็ผ่าตัดเสร็จและออกมาจากห้องผ่าตัด
จากูรอดชีวิตสมกับเป็นหมาที่กล้าหาญเผชิญหน้ากับโดสะ ยองอูเห็นอึนคังกับจีฮวันที่ตัวเปื้อนเลือด นั่งจับมือพิงหัวกันหลับ
“อ้า…”
ท่าทางจะไม่ต้องฟังคำตอบของอึนคังแล้ว แต่กลับรู้สึกโล่งใจ เพราะถึงจะบอกว่าเป็นเพื่อนนอน แต่เห็นอาการรอคอยอย่างร้อนใจ ก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายอยู่ในใจของอึนคัง
และจะว่าไป คนที่แนะนำนิยายออนไลน์และนิยายของอึนคังให้แก่จีฮวันก็คือยองอูนี่แหละ
ความรักของผู้หญิงเลี้ยงหมากับผู้ชายเลี้ยงแมว… ยองอูปิดไฟป้ายโรงพยาบาลพลางคิดว่าเป็นตัวอย่างดีๆ ที่น่าเอาไปลงเป็นแบบอย่างที่น่าชื่นชมของโรงพยาบาล
ทั้งหมาที่เพิ่งผ่าตัดใหญ่เสร็จ คู่รักที่หลับด้วยความเพลีย และแมวที่คอยอยู่ที่บ้าน เป็นเวลาในฝันที่ทุกคนมีความสุข
บทที่ 80-1 ได้แต่หวังให้คนคนนั้นตาย
ราฮีลากร่างที่หนักอึ้งเหมือนสำลีเปียกน้ำกลับมาบ้าน
หลังจากสารภาพกับจีฮวันก็ขับรถเตร่ไปที่นู่นที่นี่ กว่าจะตั้งสติได้ก็มืดแล้ว และก็พบว่าตัวเองอยู่แถวๆ บ้าน
อยากหายไปจากโลกที่ไม่มีสามีและพ่อแม่สามี แต่ก็ยากเหลือเกิน
ภายในบ้านมืดสนิท ขณะที่เปิดไฟ คิ้วของราฮีก็ขมวดเข้าหากัน ถังน้ำแข็งกับขวดเหล้าที่พร่องไปกว่าครึ่งบนโต๊ะในห้องรับแขก ชามอาหารที่สั่งมาแล้วก็ซองขนมเกลื่อนกลาดเข้ามาในสายตาเป็นอันดับแรก
เฮ้อ อีกแล้ว…
หลังออกจากโรงพยาบาล ซองบอมก็มีสภาพเหมือนถูกขัง เขาจะไม่ออกไปปรากฏตัวต่อสังคมจนกว่าเรื่องจะเงียบสงบ เพราะคำเตือนของประธานปาร์คที่สั่งห้ามไปร้านเหล้าและบาร์
ไม่ยอมก้าวเท้าออกนอกบ้านเลยสักก้าว ไม่รู้ว่าคำเตือนของประธานปาร์คแค่ขู่หรือเปล่าว่าคราวนี้ไม่ใช่แค่แขน แต่จะตีขาให้หักทั้งสองข้าง ในเมื่อโดนตีแขนหักไปแล้ว จะไปคิดว่าที่ประธานปาร์คพูดมาเป็นเรื่องล้อกันเล่นได้อย่างไรกัน
‘การอบรมสั่งสอน’ จากพ่อครั้งแรกในวัยที่จวนเจียนจะสี่สิบ มีผลกระทบอย่างมาก ซองบอมใจคอหดหู่อย่างเห็นได้ชัด ครึ่งวันเอาแต่นอนอยู่บนเตียง ตื่นมาก็ไปนั่งใจลอยดูทีวีที่โซฟา ทั้งหมดมีแค่นั้น
จนถึงตอนนี้ราฮีก็ยังตื่นแต่เช้ามาเตรียมอาหารให้ซองบอม ตอนเธอออกไปทำงานมูลนิธิ คุณนายจางก็แอบประธานปาร์คส่งคนมาจัดการอาหารให้ซองบอม
แต่ความอยากอาหารกลับไม่ได้ลดลง เวลาอาหารของซองบอมยิ่งหนักกว่าเดิม กินข้าวแล้วก็ลุกไปแกะขนม กินแต่น้ำผลไม้กับโคล่า
การถูกตีเกือบตายและโดนขังอยู่ในบ้านจากพ่อที่นึกว่าอย่างไรก็อยู่ข้างตัวเอง ทำเอาเขาหมดอาลัยตายอยากมาก ราฮีไม่ได้บ่นสักคำ เติมของใส่ชั้นขนมและตู้เย็นอย่างขยันขันแข็ง คำนวณแล้วว่ากินของกินเล่นก็ยังดีกว่าดื่มเหล้าเป็นร้อยเท่า
แต่พอหันไปมองขวดเหล้าที่หายไปกว่าครึ่ง ราฮีก็ถอนหายใจ นั่นสิ นิสัยเดิมคงยากจะเปลี่ยนไป แค่สิบวันนี่ก็มากเกินพอแล้ว
ราฮีถอดเสื้อโค้ตและลงมือเก็บโต๊ะ เอาขวดเหล้าและถังน้ำแข็งไปวางในครัวแล้วกลับออกมา ขณะกำลังเก็บซองขนมกับชามอาหารที่เกลื่อนกลาดอยู่กับพื้น สายตาของราฮีก็เหลือบไปเห็นกระดาษกระจายเกลื่อนอยู่ใต้นั้น ซึ่งกระดาษเหล่านั้นคือรูปถ่าย
ขณะที่หยิบรูปใบหนึ่งมาดู เลือดก็แทบจะหายไปจากร่างกายของราฮีในชั่วพริบตา
“นะ นี่มัน อะไร… มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง…”
คนในรูปคือราฮีกับจีฮวัน ราฮีทรุดลงนั่งรีบเก็บรูปที่เหลือขึ้นมา รูปหลายสิบใบเป็นรูปของเธอกับจีฮวันทั้งหมด
ทั้งตอนกินข้าวในร้านอาหาร นั่งหัวเราะคุยกันในคอฟฟี่ช็อป เดินควงแขนไปตามถนน กระทั่งขึ้นรถออกมาจากโรงแรมด้วยกัน เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขของทั้งคู่ก่อนแยกทางกัน
มือที่ถือดูรูปของราฮีสั่นน้อยๆ เธอกับจีฮวันในรูปดูเป็นธรรมชาติ สีหน้าปกติไม่รู้ว่ากำลังถ่ายรูป เป็นการแอบถ่ายที่เพอร์เฟกต์
ราฮีปารูปทิ้ง ดูจากเสื้อผ้าที่เปลี่ยนไปต่างกันตามฤดูแล้ว แสดงว่าถูกแอบถ่ายมานานหลายเดือน น่ากลัว แค่คิดว่ามีคนแอบตามดูและถ่ายรูปตัวเอง ราฮีก็ขนลุกไปทั้งตัวแล้ว
“คู่นี้เหมาะกันดีว่าไหม”
ราฮีตกใจหันไปมองเสียงที่อยู่ๆ ก็ดังขึ้น ซองบอมยืนอยู่ที่ประตูห้องนอนในสภาพซีดเซียว ราฮีลุกขึ้นช้าๆ
“นี่มันอะไรคะ”
“คุณกับผู้ชายคนนั้นเมื่อหลายปีมาแล้ว ไปไหนมาไหนด้วยกันดูดีมาก ตอนอยู่กับเขาคุณดูเปล่งประกายที่สุดรู้ไหม”
“ฉันถามว่ารูปพวกนี้มันอะไรกันคะ! ทำไม ตั้งแต่เมื่อไหร่! คุณแอบตามฉันงั้นเหรอ!”
“ไม่ใช่ฉัน”
“โกหก! หลักฐานก็ทนโท่อยู่นี่!”
“พ่อ”
“อะไรนะ”
“พ่อใช้ให้คนไปทำ พอรู้ว่าผมสนใจคุณ สิ่งแรกเลยที่ทำคือตามสืบเบื้องหลังของคุณ ว่าชีวิตส่วนตัวสะอาดเรียบร้อยไหม บอกว่าผู้หญิงหน้าตาระดับนี้ น่าจะมีผู้ชายมาเกี่ยวพันเยอะ…”
ถึงจะไม่เห็นและไม่ได้ยินด้วยตัวเอง แต่นึกออกทั้งสายตา คำพูด และสีหน้าของประธานปาร์คที่สั่งให้แอบตามสืบ
“ถะ ถ้างั้น คะ คุณพ่อก็เห็นรูปพวกนี้แล้วใช่ไหม”