“ดังนั้นเจ้าเลยมอบกุญแจปลอมให้นาง?”
มู่จิ่วถาม ในน้ำเสียงฟังไม่ออกถึงความเคารพอย่างแท้จริง
เขาไม่คู่ควรกับความเคารพ
ไม่พูดถึงว่าอวิ๋นเฉี่ยนเป็นภรรยาน้อยรังแกภรรยาหลัก การกระทำแบบนี้รับได้หรือไม่ พูดเพียงอ๋าวเชินที่รู้ชัดเจนว่าฝ่ายตรงข้ามมีแผนการถึงได้มา กลับยังเอาของปลอมหลอกเขาก็ช่างต่ำช้า ตระกูลอวิ๋นทำเพื่อรักษาชีวิตของพี่น้อง หากอ๋าวเชินเป็นผู้มีคุณธรรม ควรพูดความจริงออกมา ให้ไม่ได้ก็คือให้ไม่ได้ หลอกกันแบบนี้ นับเป็นชายอกสามศอกอะไร?
แต่ทั้งสองฝ่ายล้วนไม่ใช่คนดีอะไร ไม่คู่ควรเลือกข้างฝั่งไหนทั้งสิ้น
และเพราะปีนั้นกุญแจจันทราที่อ๋าวเชินให้ตระกูลอวิ๋นเป็นของปลอม ดังนั้นตอนพวกอ๋าวเจียงทุ่มเทไปเอามันกลับมาจากตระกูลอวิ๋นเพื่อรักษาวิญญาณเฉินผิง การแสดงออกของเขาถึงได้เฉยชาขนาดนั้น
ทั้งยังโกรธขนาดนั้นใส่อ๋าวเจียงที่พัวพันเรื่องนี้ไม่หยุด เพราะของจริงอยู่ในมือเขามาตลอด ตระกูลอวิ๋นไม่พูด เป็นไปได้ว่ายังไม่รู้ว่าจริงหรือปลอม หรืออาจรู้แล้วแต่กลับไม่เปิดโปง อ๋าวเจียงก่อเรื่องครั้งนี้ เป็นไปได้อย่างมากว่าตระกูลอวิ๋นจะเผยเรื่องจริงออกมา เขาจะให้อีกฝ่ายล่วงเกินได้อย่างไร?
คิดถึงตรงนี้ นางอดไม่ได้ยิ้มยิงฟันพูด “หายไปแบบนี้ก็สมน้ำหน้านัก ในเมื่อตอนแรกราชามังกรรับปากให้เขาไปแล้ว เขาเพียงมาเอาสิ่งของของตนเองกลับไป ความสูญเสียนี้ราชามังกรทำได้เพียงรับไว้!”
นางไม่ได้พูดแทนอวิ๋นเฉี่ยน แต่คุณธรรมของอ๋าวเชินแท้จริงช่างน่ารังเกียจ ละทิ้งของมีค่าไม่ได้ ทั้งยังตัดขาดภรรยาน้อยไม่ได้ จึงคิดแผนนี้ออกมา เขามองตัวเองเป็นนักรักหรืออย่างไร? นี่ดีแล้ว ตระกูลอวิ๋นก็ไม่โง่ เจ้าให้ของปลอมเขา เขาเพียงมาขโมยของจริงไปไม่ใช่หรือ?
เรื่องเวรนี่ไม่เกี่ยวอะไรกับนาง นางเพียงมองดูความคึกคัก
“ไม่ใช่!” นางกำลังมองอย่างดูแคลน อ๋าวเชินกลับร่างสั่นเล็กน้อย ส่งเสียงลอดไรฟัน “กุญแจจันทราที่ข้าให้ตระกูลอวิ๋นไปก็เป็นของจริง!”
มู่จิ่วแต่เดิมเข้าใจว่าเขาต้องการแก้ตัว กำลังยิ้มเยาะ แต่ฟังถึงตรงนี้พลันชะงัก นี่ก็เป็นของจริง? หมายความว่าอย่างไร?
“กุญแจจันทราแต่เดิมเป็นคู่! อันที่ข้าให้ตระกูลอวิ๋นเป็นของจริง ที่ถูกฝังอยู่ใต้ต้นโบตั๋นม่วงก็เป็นของจริง!” อ๋าวเชินเดินช้าๆ เข้ามาใกล้มู่จิ่ว บางทีอาจตื่นเต้นเกินไป เสียงของเขาจึงสั่นอยู่บ้าง “ข้าอ๋าวเชินถึงแม้จะผิดต่อภรรยา แต่สำหรับคนที่เหลือ ข้าไม่เคยทำผิดด้วย! หากกุญแจจันทรานั่นเป็นของปลอม พวกเขาจะรอจนเฉินผิงตายค่อยมาเอากุญแจดอกนี้หรือ?”
ตอนนี้ไม่เพียงแค่มู่จิ่วที่สับสน แม้แต่ลู่ยายังขมวดคิ้ว “กุญแจจันทราแต่เดิมเป็นคู่ ในเมื่อตระกูลอวิ๋นมีแล้ว เช่นนั้นทำไมยังต้องมาเอาอีกดอกหนึ่งด้วย?”
“เพราะความสามารถของกุญแจจันทราต้องใช้เป็นคู่ถึงจะสำแดงได้!” อ๋าวเชินพูดเสียงหนัก “ดอกนั้นของตระกูลอวิ๋นคือกุญแจจันทราหยิน กุญแจหยินทำได้เพียงยืดระยะสูญเสียวิญญาณไป ไม่มีความสามารถรักษา ส่วนกุญแจหยางไม่เพียงสามารถรักษาวิญญาณ ยังรวบรวมพลังหยางที่พวกเขาอยากได้ อันที่จริงคือดอกนี้ในมือของข้า!”
กุญแจจันทรามีสองดอก…
มู่จิ่วนิ่งอึ้งไป ตระกูลอวิ๋นต้องการทั้งสองดอก?
“พูดแบบนี้แสดงว่าเจ้ารู้อยู่แล้วว่าเขามาเพื่อกุญแจจันทราหยินหยางนี้?” ไม่เพียงแต่รู้ว่าคนเขามาเพื่อกุญแจนี้ ยังรู้ว่ามาเพื่อดอกไหน แต่เขายังตั้งใจให้ดอกที่ใช้ไม่ได้แก่อีกฝ่ายไป
“ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร?” คิ้วของอ๋าวเชินผูกเป็นร่องลึกเหมือนกับร่องน้ำที่ถูกลมกัดเซาะหลายพันหมื่นปี “ปีนั้นข้าพบกับนางที่งานแต่งงานของมหาเทพจื่อเวย นางงดงามจนราวกับรวมแสงทั้งหมดบนโลกไว้ ข้าตกอยู่ในภวังค์ ส่วนนางทั้งเข้าหาและเป็นมิตร ภายหลัง…ภายหลังสุดท้ายข้าใจไม่สงบ จึงไปสืบเรื่องตระกูลอวิ๋น”
“สุดท้ายข้าสืบมาได้ อวิ๋นรองของพวกเขาถูกพลังหยินเย็นเยือกทำร้าย กุญแจจันทราหยางสามารถรักษาโรคหนาวเหน็บได้ นี่ชัดเจนมาก ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินมาจากไหนว่าวังมังกรทะเลสาบน้ำแข็งมีกุญแจจันทรา สามารถรักษาโรคของอวิ๋นรองได้พอดี แต่พวกเขาทิวเขาริ้วหยกกับทะเลสาบน้ำแข็งของข้าห่างกันครึ่งเก้าทวีป ไม่มีความสัมพันธ์ต่อกัน บางทีใช้แผนหญิงงามคงเป็นวิธีเดียวของพวกเขา”
อวิ๋นเฉี่ยนมาขอความรักก่อน มู่จิ่วไม่รู้สึกว่าประหลาด
ตั้งแต่ต้นจนจบ อวิ๋นเฉี่ยนรักษาความเป็นมิตรอย่างมากกับเขา บางทีนับได้ว่ามีไมตรีจิต ถึงแม้แต่แรกความสุขที่มากะทันหันทำให้อ๋าวเชินสับสน แต่ดูจากการที่เขาปกครองวังมังกร เขาต้องไม่ใช่คนที่ปกติไม่พกสมองไว้แน่ และต้องไม่ใช่คนที่ตลอดมาไม่สงสัยการกระทำของอวิ๋นเฉี่ยนเลย จุดสำคัญคือไม่เพียงแต่อวิ๋นเฉี่ยน แม้แต่ทีท่าของตระกูลอวิ๋นที่เป็นเผ่าพันธุ์เทพก็ไม่ชัดเจน
มู่จิ่วประเมินเขา เขาในตอนนี้กับตอนอยู่ที่ทิวเขาริ้วหยกดูแล้วเป็นคนละคน ราวกับพลังทั้งหมดตอนนี้สลายไปหมดแล้ว นางขมวดคิ้วก่อนพูด “ในพันปีนี้เจ้าแสดงละครมาตลอด?”
“ไม่” อ๋าวเชินส่ายหน้า “ข้ากลับชอบนางจริง คนอย่างข้าหน้าตาไม่ดี ทั้งเป็นลูกภรรยาน้อย ส่งเข้าไปในกลุ่มคนจะหาก็หาไม่เจอ หากไม่ใช่เพราะแต่เล็กได้รับความรักจากท่านพ่ออย่างจริงใจ ไม่แน่ว่าจะข้ามีสิทธิปกครองทะเลสาบน้ำแข็งที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ ดังนั้นแต่ไหนแต่ไรข้าไม่เคยได้รับความสนใจจากผู้ใด แม้แต่ราชินี นางก็ถูกบิดามารดาบังคับให้แต่งกับข้า”
“ข้าเข้าใจความลำบากของราชินี นางหน้าตางดงาม ตระกูลก็ใหญ่ แต่เพื่อความสัมพันธ์ของสองตระกูล จึงไม่อาจไม่แต่งให้กับคนตัวเล็กเยี่ยงข้า นางโทษว่าข้าน่าเกลียด โทษว่าข้าพูดไม่เก่ง ตั้งครรภ์ลูกแต่ละครั้งล้วนกลับบ้านแม่ไปคลอด เพราะพวกเขามีวิชาลับ หากเด็กคลอดที่บ้านแม่ ต่อไปจะเกิดมาเหมือนแม่”
“ดังนั้นลูกแต่ละคนถึงไม่มีสักคนเหมือนข้าเลย แต่ก่อนข้ากอดพวกเขาแล้วมองอย่างละเอียดอยู่บ่อยครั้ง ดูว่าสามารถหาร่องรอยข้าบนใบหน้าของพวกเขาได้หรือไม่ แต่ก็ไม่มี ฟ้ารู้ว่าในใจข้าน้อยเนื้อต่ำใจขนาดไหน กระทั่งบางครั้งข้ารู้สึกว่าเป็นส่วนเกินในบ้านนี้”
“หากอาเฉี่ยนไม่ปรากฎตัวออกมา ข้ายังยินดีจะใช้ชีวิตจนถึงท้ายที่สุดภายใต้การบ่นและสายตาเย็นชาของราชินี แต่ไหนแต่ไรข้าไม่ต้องการอะไร มีเมืองใหญ่ขนาดนี้ให้สามารถสืบทอดได้ มีลูกชายลูกสาว มีเผ่าพันธุ์พ่อและตระกูลแม่ที่ยิ่งใหญ่ ข้ารู้สึกว่าข้าควรพอใจแล้ว แต่ข้ายังไม่เข้าใจว่าความสุขคืออะไร”
“ตอนนี้เองที่นางจงใจปรากฎตัวขึ้น ข้าได้รับความอบอุ่นและความใส่ใจที่แต่ก่อนไม่เคยได้ แท้จริงตอนเริ่มแรกข้าสับสนอยู่บ้าง ข้ารังเกียจที่ตนไม่ดีพอ แข็งแกร่งไม่พอ หากข้าแข็งแกร่งพอ ข้าก็อยากให้ทุกอย่างที่นางอยากได้ ภายหลังถึงแม้รู้ว่านางไม่ได้จริงใจกับข้า ข้าก็ยังเต็มใจ”
“ในฐานะที่เป็นผู้ชาย ข้าหวังอย่างมากว่าจะมีหญิงที่สามารถแหงนหน้ามองข้า หวังยิ่งนักว่าจะมีคนใส่ใจทุกข์สุขของข้า ถึงแม้นางจะเป็นของปลอม ข้าก็ยอม มิฉะนั้นชีวิตข้าที่เหลือนี้จะไม่โดดเดี่ยวเกินไปหรือ?”
มู่จิ่วฟังจบ หันศีรษะไปมองเหล่าลูกชายลูกสาวที่อยู่ไม่ไกล พวกเขานิ่งอึ้งอยู่ตรงนั้นไม่ต่างจากที่คาดเดาไว้ บนหน้าละอายใจอยู่บ้าง อ๋าวเชินอาจไม่ได้โกหก ไม่พูดถึงราชินีมังกร ปกติเหล่าลูกชายลูกสาวมังกรเหล่านี้ก็ไม่ได้ใกล้ชิดอ๋าวเชินเท่าไหร่นัก
…………………………………………………………