แท้จริงแล้วถ้ำลมหนาวคือคุกใต้ดินของสำนักแรกพยับ
หลินเจี้ยนหรูอยู่ในคุกน้ำด้านในสุด ที่นี่ไม่เพียงอยู่ในส่วนลึกที่สุดของกลางไหล่เขา แต่ยังหนาวเย็นจนเสียดแทงกระดูก และไม่ใช่ที่อยู่สำหรับมนุษย์
แต่เขาก็รู้สึกว่ายังสงบใจได้ เมื่อผ่านไปสามวัน นอกจากเท้าชาและบาดแผลบนไหล่ที่เปิดออกแล้ว ก็ไม่มีอะไรถึงขั้นเอาชีวิต เมื่อหวนนึกถึงตอนที่โดนรังแกมามากในสำนักแรกพยับ เขาจำได้ว่ามีครั้งหนึ่งถูกจีหมิ่นจวินตีจนขาหัก จากนั้นเมื่อตกดึกจีหย่งฟางก็แอบเอามีดเข้ามา กรีดสร้างแผลตรงขาที่หักและใส่หนอนลงไป
ครั้งนั้นเขาเกือบเอาชีวิตไม่รอด
ก็ไม่รู้ว่ารอดมาได้อย่างไร
แน่นอนว่าคุกใต้ดินนี้ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไหร่ แต่พลังบำเพ็ญและพลังวิญญาณนี้เป็นของดีจริงๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกขอบคุณชายชุดเขียวผู้นั้น ไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องอื่น อย่างน้อยเขาก็รับมือกับคุกนี้ได้ไม่มีปัญหา
เรื่องที่ยากลำบากเพียงสิ่งเดียวคือ เขาออกไปไม่ได้
คุกนี้มีเขตพลังที่เจ้าสำนักสร้างไว้ หากหัวชิงไม่สั่งปล่อยตัว เขาก็ไม่มีหนทางออกไปได้ตลอดชีวิต
และหัวชิงไม่มีความคิดจะปล่อยตัวเขาออกไปแน่ นอกจากเขาจะพูดความจริงออกไป!
นี่เป็นเรื่องที่ทำให้เขาปวดหัวนัก
เขาลองขับเคลื่อนพลังปราณทำลายเขตพลัง แต่ก็ไม่สะเทือน
ครั้นลองอีกครั้ง กลับมีคนพลันเข้ามาจากประตูคุก สองขามาหยุดยืนอยู่ด้านหน้า
เขาหรี่ตามอง เห็นใบหน้าเรียบเฉยมองไม่ออกถึงอารมณ์ความรู้สึก
เขายิ้มเย้ยหยัน ลูบใบหน้าก่อนถอยไปชิดกำแพงด้านหลัง มือทั้งสองยันหินข้างกาย เชิดคางขึ้นพลางเหลือบตามองนาง
เหลียงชิวฉานยืนอยู่ริมสระ มองเขาจากที่สูง แต่กลับไม่รู้สึกถึงความสูงส่งกว่าเลยสักนิด เขาแช่อยู่ในน้ำที่เย็นจนสามารถสลายกระดูกได้ บาดแผลบนไหล่เปิดออก ทำให้เสื้อถูกย้อมเป็นปื้นดำไปเป็นส่วนใหญ่ แต่ตัวเขากลับเหมือนคนปกติทุกอย่าง สายตาเย็นชาไม่แยแสสบมองนาง ราวกับเขาต่างหากเป็นคนที่มีอิสระและอยู่เหนือกว่าทุกอย่าง
ลมหายใจของนางติดขัดเล็กน้อย “เจ้าไม่กลัวตายหรือ!”
“คำพูดเช่นนี้ พวกเจ้าควรถามข้าตั้งแต่เมื่อสองร้อยปีก่อนแล้ว” หลินเจี้ยนหรูยกมุมปาก “เวลาสองร้อยปีที่ข้าอยู่ในสำนักแรกพยับ มีเวลาไหนบ้างที่มิใช่อยู่มิสู้ตาย?”
เขายกมือขึ้นเช็ดเลือดบนหัวไหล่ ก่อนยกขึ้นจรดริมฝีปากแล้วเลีย เลือดที่เปื้อนบนมุมปากทำให้เขายิ่งดูเต็มไปด้วยอันตราย
เหลียงชิวฉานใจสั่น ก้าวไปข้างหน้าครึ่งก้าวโดยไม่อาจหักห้าม “เจ้าไม่แยแสความตายเช่นนี้ ก็ให้อาจารย์มาสังหารเจ้าเสียให้จบ! ข้าจะไม่ใจอ่อนอย่างเด็ดขาด จะไม่ขวางเขาสักก้าวเดียว! และจะให้เขาลงมือต่อเจ้าอย่างโหดร้าย ถึงจะคู่ควรกับความแค้นในใจข้า!”
น้ำเสียงของนางเปลี่ยนไปเล็กน้อย เสียงดังสะท้อนอยู่ในถ้ำ
“ก็แล้วแต่” หลินเจี้ยนหรูพูด แววตาเหมือนกับลำแสงที่พุ่งตรงและมั่นคง “ถึงแม้เจ้าลงมือฆ่าข้ากับมือ ข้าก็ไม่ตกลงว่าจะอยู่ร่วมกับเจ้าอย่างเด็ดขาด”
มือทั้งสองของเหลียงชิวฉานกำประตูคุกแน่น ตัวสั่นเทา น้ำเสียงก็ขาดเป็นห้วงๆ “ทำไม?!”
เหตุผลหลักเป็นเพราะเขาสัญญาไว้แล้วว่าจะไม่ทำร้ายผู้อื่นอีก เขาตอบในใจ ถึงแม้เหตุที่เขาไม่คิดทำร้ายนาง ไม่ได้เป็นเพราะตัวนางเอง แต่ไม่ว่าอย่างไร ตอนนี้เขาไม่อยากทำร้ายจิตใจนางก็เป็นเรื่องจริง เขาไม่อาจชมชอบนางหรือชอบคนที่เคยดูถูกรังแกตนเองมาก่อนได้ ถึงแม้อยู่ด้วยกัน เขาก็ทำได้เพียงใช้ประโยชน์นาง
เขารู้สึกว่ามันไม่มีความหมาย
“เจ้าจะต้องเสียใจ!”
เหลียงชิวฉานยืนขึ้น กัดฟันชี้เขา “เจ้าจะต้องเสียใจ!”
เขายกยิ้ม แววตายามที่มองนางเจือไปด้วยความจริงใจหลายส่วน
นางหมุนตัวกลับออกไปราวกับลม
หลินเจี้ยนหรูทิ้งมือลง ร่างจมลงไปในน้ำดุจหินหนัก
ถึงแม้อาศัยพลังบำเพ็ญและพลังวิญญาณของชายชุดเขียว ทำให้ไม่ถึงกับตาย แต่น้ำเย็นนี้ยังคงทำให้เขาค่อยๆ รู้สึกชา สระที่ถูกขนานนามว่าเป็นน้ำเย็นสลายกระดูกไม่อาจดูแคลนได้เลย
เหลียงชิวฉานพุ่งออกจากถ้ำด้วยความโกรธกริ้ว ลมเย็นตรงปากประตูพัดเข้ามาปะทะ ทำให้นางสั่นขึ้นมาคราหนึ่ง น้ำตาก็ร่วงหล่นลงมาเช่นเดียวกัน
เจ้าสัตวเดรัจฉาน ปีศาจที่ต่ำช้าไร้ยางอาย!
เขาตายก็ดีแล้ว! นางจะไม่สนใจเขาอีก! ให้เขาอยู่ที่สระน้ำเย็นนั่นจนตายไปซะ! หรือให้หัวชิงผลักเขาลงหลุมตัดวิญญาณไปเป็นเพื่อนจีหย่งฟางเสียเลย!
นางปล่อยให้น้ำตาไหลรินอยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานนางก็กลับเข้าไปในคุกราวกับลม
หลินเจี้ยนหรูไม่คาดคิดว่านางจะกลับมาอีก เขากำลังดิ้นรนขับเคลื่อนพลังวิญญาณภายใต้อาคมมัดกาย คิดจะดิ้นรนออกไป น้ำเย็นทำให้แขนขาเขาซีดขาว ตัดกับใบหน้าและลำคอแดงเถือกที่เกิดจากการพยายามใช้พลังของเขา ดูแล้วไม่ต่างจากคนตาย ยามที่เขาเห็นนางก็รีบเก็บพลังไปทันที ลอยคอหอบหายใจอยู่ในน้ำ
เหลียงชิวฉานยอบกายลงมองเขาอยู่นาน จากนั้นหยิบยาฟื้นฟูกำลังสองเม็ดจากในกระเป๋าเล็กส่งให้เขา “กินนี่ลงไปซะ!”
หลินเจี้ยนหรูเหลือบมองนางอย่างไร้เรี่ยวแรง ไม่ขยับเขยื้อน อันที่จริงเขาไม่มีแรงจะขยับแล้ว เขาควรจะเข้าปะทะกับหัวชิงตั้งแต่แรก หนีออกจากสำนักแรกพยับก่อนค่อยว่ากัน แต่ถึงแม้มีเรี่ยวแรงเขาก็ไม่อาจรับความเห็นใจจากนางได้ นางอยากจะฉีกเขาเป็นชิ้นยิ่งกว่าสิ่งใด จะมอบยาให้เขาได้อย่างไร?
เหลียงชิวฉานออกจะร้อนใจ มองซ้ายขวาก็ไม่พบสิ่งใดที่จะลากเขาเข้ามาได้ เมื่อคิดดูก็นึกได้ว่าตนเองมีกระชอนอันหนึ่งจึงรีบหยิบออกมา โยนมันออกไปเกี่ยวเสื้อเขา จากนั้นดึงตัวเขาเข้ามาริมสระ
นางบีบปลายคางเขาแล้วป้อนยาเข้าไป ตั้งแต่ช่วงอกของหลินเจี้ยนหรูลงไปไปถูกอาคมมัดกายรัดอยู่ ทำได้เพียงรับการกระทำของนางไว้ แต่ถึงแม้ยาจะเข้าไปในปากแล้ว เขากลับไม่กลืนลงไป จนเมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีอันตรายจึงค่อยกลืน
เหลียงชิวฉานเห็นสีหน้าเขาค่อยๆ ดีขึ้น จึงได้ปล่อยมือที่กำตะรางคุกสำริดอยู่ลง
นางคุกเข่านั่งบนพื้น หลินเจี้ยนหรูก็ปรับลมหายใจอยู่ในน้ำ
บรรยากาศในคุกค่อยถึงเริ่มผ่อนคลายลงหน่อย
“เจ้ายินดีที่จะตายมากกว่าเคียงคู่กับข้าหรือ?” นางมองเขาอย่างอ่อนแรง น้ำตาเหือดแห้งไปแล้ว และน้ำเสียงก็สงบนิ่งนัก
หลินเจี้ยนหรูมองนางอยู่นาน ก่อนเอ่ยว่า “สองร้อยปีที่ข้าอยู่สำนักแรกพยับ พูดจากลับกลอกมามาก ทำเรื่องผิดมาเยอะ ตอนนี้ไม่อยากทำเช่นนั้นอีกแล้ว ข้าบอกว่าข้าไม่อาจชอบเจ้าได้ เช่นนั้นชาตินี้ชีวิตนี้ก็ไม่อาจเคียงคู่กับเจ้าได้”
“เจ้าคนระยำ!” เหลียงชิวฉานตะโกนลอดประตูคุกมา ไม่รู้ว่าเพราะโกรธหรือเจ็บปวด น้ำตาไหลลงมาอีกแล้ว
“ข้ารู้” เขาขยับแขนเล็กน้อย เปลี่ยนท่าทาง เอ่ยอย่างเย้ยหยัน “ที่จริงด่าว่าระยำยังน้อยไปสำหรับข้าด้วยซ้ำ เจ้าควรด่าข้าว่าเดรัจฉาน สวะ บางครั้งข้าก็ด่าตนเองเช่นนี้ เจ้ารู้หรือไม่? ตอนข้าฆ่าหลินเซี่ยไม่ได้ลังเลเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังไม่เสียใจด้วย หากย้อนหลับไปอีกครั้ง ข้าก็คงยังทำเช่นนั้น”
“เพราะข้าต้องการมีชีวิตอยู่”
“หากข้าต้องตาย ข้าก็อยากตายเพื่อคนที่คู่ควร หากข้าจะมีชีวิตอยู่ ข้าก็อยากอยู่เพื่อช่วยคนที่ทำดีกับข้า นี่ถึงจะเรียกว่าใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า ตายก็ตายอย่างมีคุณค่า”
“หลินเซี่ยไม่คู่ควรให้ข้าละเว้น ยังมีจีหย่งฟางอีก พวกเขาสมควรตาย แต่หากข้ามีทางเลือกอื่น ข้าก็คงไม่ลงมือฆ่าพวกเขา”
…………………………………………………..