“รู้แล้ว” ลู่ยาอารมณ์ดีขึ้นมาก
แม้เบื้องหน้าเขาจะทำเหมือนไม่มีอะไร แต่ในใจต้องสะกดกลั้นความโกรธไว้ ไม่ว่าอย่างไรเขาต้องสืบเรื่องนี้ให้กระจ่างให้ได้!
มู่จิ่วปลอบเขาอยู่สักครู่ เมื่อเห็นเขาสบายใจแล้วจึงเดินทางไปหน่วย
เรื่องที่ลู่ยาเจอหลีหังที่หงชางทำให้นางประหลาดใจ แต่เมื่อคิดดูดีๆ แล้วก็มีเหตุผลอยู่ ไม่ว่าจะนับเป็นความรับผิดชอบของใคร การหาเฟยอีเจอก็นับเป็นจุดจบสุดท้ายสำหรับคดีนั้นของพวกเขา
ไม่รู้ว่าอู่เต๋ออยู่ที่โลกมนุษย์จะเป็นอย่างไรบ้าง?
นางเคยรับปากจะมอบของที่เขาฝากไว้ให้เฟยอี
แม้ไม่ได้รับปากว่าจะไปตามหาให้ แต่หากหลีหังตามหาจนพบก็นับว่าลบล้างเรื่องที่ติดค้างในใจนางได้
ถึงแม้มู่จิ่วจะปลอบลู่ยาไม่หยุด แต่ใจกลับยังสงสัยในเรื่องนี้ ทำไมนางถึงรู้สึกว่าหนี่ว์วานิ่งเฉยเหมือนรู้เรื่องอยู่แล้ว? หากหนี่ว์วาไม่รู้มาก่อนแล้วเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น นางย่อมต้องเดินทางไปดูสิ? แต่นี่กลับทำสงบนิ่งบอกเพียงให้ลู่ยาไปจัดการด้วยตัวเอง…ไหนเลยจะเหมือนหนี่ว์วาผู้เปี่ยมเมตตาคนนั้น?
อีกทั้งทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่าหงจวินไปอยู่ที่ไหน ไม่พบเบาะแสเลยแม้แต่น้อย
ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเทพเซียนผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้กำลังทำอะไรอยู่
แต่ตอนนี้มีลู่ยาขบคิดปัญหาเหล่านั้นแทนนาง ไม่จำเป็นต้องให้นางเปลืองสมองเป็นกังวล คิดดูแล้วช่างสบายนัก หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าเก่งกว่านี้ก็ไม่อาจทำให้นางสงบใจได้
ในขณะที่ทางด้านนางกำลังเดินออกจากบ้านไป ทางลานสนเขียว หลินเจี้ยนหรูก็ออกไปข้างนอกเช่นกัน
เพิ่งจะเดินไปถึงประตูด้านหน้าก็พลันมีคนเข้ามาขวางทาง
“เจ้าจะไปไหน?”
หูเจียงเต๋อยืนขวางทางพลางเอามือไพล่หลัง เชิดหน้ายืดอก ราวกับเป็นพัศดีที่ควบคุมเขา
หลินเจี้ยนหรูไม่สนใจ เดินอ้อมเขาไปยังประตู
“เจ้าหูหนวกหรือ?!”
หูเจียงเต๋อพุ่งเข้าไปขวางข้างหน้าอีก สีหน้าเต็มไปด้วยความดูแคลน “วันนี้เจ้าไม่ต้องไปทำงาน เจ้าจะไปที่ไหน?! อาจารย์ลุงเจ้าสำนักมีคำสั่ง ไม่ว่าเจ้าจะไปที่ไหนก็ต้องรายงานข้า! หากไม่ตอบก็อย่าได้คิดออกไป!”
หลินเจี้ยนหรูกัดฟันแน่น สายตาที่จับจ้องไปยังสนด้านนอกปรากฏประกายเย็นเยียบ
“ดูหน้าโง่ๆ ของเจ้าสิ!” หูเจียงเต๋อยังล้อเลียนต่ออย่างไม่กลัวตาย แต่ก็โทษเขาไม่ได้ แต่ก่อนในสำนักแรกพยับ ใครอารมณ์ไม่ดีมาก็สามารถเตะหลินเจี้ยนหรูได้ เหมือนกับตอนที่เหลียงชิวฉานรู้ว่าเขาเป็นคนสังหารหลินเซี่ย ก็สามารถบุกเข้ามาถามหาเรื่องเขาอย่างโมโห…เมื่อกระทำมากเข้าก็กลายเป็นความเคยชินมาเนิ่นนาน จะเปลี่ยนแปลงชั่วข้ามคืนได้อย่างไร?
หลินเจี้ยนหรูมองสนต้นนั้น หรี่ตาลงก่อนหมุนตัวไป ยกปากขึ้นพูดกับเขาว่า “เจ้าอยากรู้ว่าข้าจะไปไหน?”
หูเจียงเต๋อชะงักเล็กน้อย พูดด้วยความโมโห “นี่เป็นคำสั่งของอาจารย์ลุงเจ้าสำนัก เจ้ากล้าไม่เชื่อฟังรึ?!”
“ไม่กล้า” รอยยิ้มของหลินเจี้ยนหรูกดลึกลงอีกเล็กน้อย พริบตาเดียวกลับยื่นมือไปคว้าลำคออีกฝ่ายไว้! เสียงกระดูกดังกร๊อบดังตามขึ้นมาทันที!
เขาไม่หวาดกลัวหรือลังเลเลยสักนิด กระทั่งมีรอยยิ้มเยาะหยันอยู่บางๆ ราวกับแค่ยื่นมือออกไปบี้มดตัวหนึ่งเท่านั้น
หูเจียงเต๋อไม่คาดคิดว่าเขาจะลงมือ! ทั้งยังมองไม่ออกเลยว่าลงมือตอนไหน!
เขาเบิกตากว้างมองหลินเจี้ยนหรู ปากอ้ากว้าง สองมือกำข้อมือหลินเจี้ยนหรูไว้แน่น ใบหน้าขึ้นสีม่วงคล้ำ ในขณะที่ช่วงล่างลงไปรวมถึงมือที่กำลังออกแรงนั้นกลับซีดขาว!
“เจ้าคงคิดว่าข้าเป็นเพียงสุนัขที่เรียกใช้ได้ตามใจชอบตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ถึงแม้ข้าจะเป็นสุนัขจริง เจ้าไม่เคยได้ยินเลยหรือว่าสุนัขก็กัดคนเป็น?” แววตาของหลินเจี้ยนหรูคมดุจใบมีด มือทั้งสองก็แข็งดุจคีมเหล็ก
เขาอดกลั้นความโกรธแค้นมาถึงสองร้อยกว่าปี แต่สองวันนี้กลับทำให้เขาทนไม่ได้และไม่คิดจะทนจริงๆ
แต่เดิมเขาคิดว่าตนเองสามารถเปลี่ยนแปลงดวงชะตาได้ อย่างเช่นว่าเขาเติมโตมาในสภาพแวดล้อมไม่ดีนัก แต่ก็ยังสามารถผลักดันตัวเองให้หลุดพ้นเหล่าศิษย์พี่น้อง ดิ้นรนมายังทัพทหารสวรรค์ พยายามด้วยตนเองจนได้รับความนับหน้าถือตาในกองทัพ และทุ่มเทจนสามารถซ่อมแซมจิตต้นกำเนิดของมารดาได้ แต่ตอนนี้ สิ่งที่พูดกันว่าให้ทำความดีเพื่อเจริญยิ่งขึ้นกลับไร้ประโยชน์สิ้นดี
อย่างน้อยที่สุด เขาก็ไม่ยินยอมปล่อยสุนัขรับใช้สำนักแรกพยับอย่างหูเจียงเต๋อไป
พวกมันสมควรตาย ตาต่อตาฟันต่อฟัน! ให้พวกมันรู้ว่าอะไรคือกรรมตามสนอง!
เขายกยิ้ม “การตายเช่นนี้ ไม่รู้เจ้าพอใจหรือไม่?”
หูเจียงเต๋อขยับไม่ได้ พูดก็ไม่ออก ลิ้นปลิ้นออกมา ร่างกายบิดงอไปข้างหลัง แต่สติที่ยังเหลืออยู่เพียงน้อยนิดยังบอกว่าหลินเจี้ยนหรูคิดจะฆ่าเขา! เขายังคิดว่าหลินเจี้ยนหรูเป็นเพียงสวะที่อยู่ขั้นจู้จีอย่างเช่นเมื่อสองร้อยปีก่อน เข้าใจว่าอีกฝ่ายยังเป็นเพียงสุนัขที่หมอบคลานใต้เท้าคนทั้งสำนักแรกพยับ แต่ตอนนี้ตนกลับกำลังจะตายในเงื้อมมือหลินเจี้ยนหรู!
เวลานี้ทุกคนต่างก็ไปทำงาน การที่จะมีคนบังเอิญมาเจอเข้าเป็นไปได้น้อยมาก แน่นอนว่าขนาดคนที่จะช่วยเขายังไม่มี!
เข่าทั้งสองของเขาอ่อนทรุดลงไป สุดท้ายก็คุกเข่าลงบนพื้น เขาใช้กำลังทั้งหมดอ้าปาก คิดจะขอให้หลินเจี้ยนหรูไว้ชีวิต แต่กลับไม่มีเสียงออกมาแม้แต่น้อย!
“หลินเจี้ยนหรู!”
ตอนนี้พลันมีคนพุ่งเข้ามา ไม่ถึงพริบตาเดียวก็มาถึงตรงหน้า “ปล่อยเขา!”
เหลียงชิวฉานจับข้อมือเขา ดึงมันให้แยกออกอย่างเอาเป็นเอาตาย
หลินเจี้ยนหรูปล่อยมือ มองนางอย่างเย็นชา ก่อนเหยียบลงไปบนหน้าหูเจียงเต๋อที่ล้มอยู่บนพื้น แล้วหมุนตัวออกจากประตูไป
หูเจียงเต๋อหมอบตัวสั่นอยู่บนพื้น ทั้งใบหน้าและจมูกเต็มไปด้วยเลือด แม้แต่หายใจแรงๆ ยังไม่กล้า
เหลียงชิวฉานมองตามหลินเจี้ยนหรูไป ก่อนหันกลับมามองหูเจียงเต๋อ ตำหนิด้วยความโกรธว่า “เจ้าไม่มองเขาเป็นมนุษย์ ก็อย่าโทษที่เขาทำกับเจ้าราวกับไม่ใช่มนุษย์! เขาอยากจะฆ่าเจ้าก็เป็นเรื่องง่ายดายนัก ดูสิว่าวันหลังเจ้าจะยังกล้าทำเรื่องสมควรตายต่อหน้าเขาอีกหรือไม่!”
“ข้า ข้าไม่กล้าอีกแล้ว!”
แม้แต่เสียงของหูเจียงเต๋อยังสั่นพร่า
เขาไม่รู้ว่าเหลียงขิวฉานเข้ามาได้จังหวะเวลาได้อย่างไร แต่เขารู้ว่าหากนางไม่มา วันนี้เขาต้องตายแน่!
ที่แท้หลินเจี้ยนหรูเก่งกาจถึงเพียงนั้น ลงมือรวดเร็วจนเขามองไม่ทัน พอเขานึกถึงท่าทางกร่างที่ตนแสดงต่อหน้าหลินเจี้ยนหรูในหลายวันนี้ ร่างกายก็หลั่งเหงื่อเย็นออกมาต่อเนื่องไม่หยุด หัวชิงใช้ให้เขาอยู่ที่ลานสนเขียวเพื่อจบตาดูหลินเจี้ยนหรู นี่มิใช่การส่งเขามาตายหรอกหรือ? จากนี้ไปเขาจะยังกล้าอาศัยอยู่ที่นี่ต่อไปหรือไร? ไม่ระวังชั่วครู่เดียวก็ตายแล้ว!
เขาลุกขึ้นมาเกาะขานาง “ศิษย์พี่ฉานช่วยข้าด้วย! ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ท่านช่วยไปพูดกับอาจารย์ลุงเจ้าสำนักที ให้ท่านยกเลิกคำสั่งแล้วปล่อยข้าไป! วันหลังหากท่านให้ข้าไปบุกน้ำลุยไฟที่ไหนข้าล้วนไม่เกี่ยง!”
เหลียงชิวฉานถอยหลัง ทำหน้าตึง “ในเมื่อเป็นคำสั่งของเจ้าสำนัก จะเปลี่ยนแปลงได้ง่ายๆ อย่างไร?”
หูเจียงเต๋อกุมหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดพลางร้องห่มร้องไห้
เหลียงชิวฉานมองเขาก่อนเอ่ยช้าๆ “อาจารย์ให้เจ้าจับตาดูเขา ไม่ได้ให้มาก่อเรื่องให้ แค่รู้จักอยู่ให้เป็น ก็มิใช่ว่าจบเรื่องแล้วหรือ?”
อยู่ให้เป็น…
หูเจียงเต๋อเงยหน้า เห็นเหลียงชิวฉานจับจ้องเขาอย่างจริงจังก่อนจะจากไป
เหลียงชิวฉานกลับมาถึงห้อง มือยังคงสั่นระริก
นางยังจำสายตาของหลินเจี้ยนหรูที่ตั้งใจจะฆ่าหูเจียงเต๋อได้ นั่นเป็นสายตาที่ต้องการฆ่าอย่างแท้จริง
นางก็ไม่รู้ว่าอะไรผลักดันให้ตนตรงเข้าไป นางเพียงไม่ต้องการให้หลินเจี้ยนหรูฆ่าเขา!
………………………………………