ตอนที่11 ยาวิเศษ
“ใครกัน?” เมื่อได้ยืนเสียงเคาะประตูจากทางด้านนอก เซี่ยผิงจึงเอ่ยถามขึ้น
“ผมเองครับ หลินหยาง” หลินหยางที่ยืนอยู่หน้าบ้านของเธอเอ่ยตอบกลับไป
เสียงดึงประตูเหล็กเปิดออกดังขึ้น หลังจากที่เห็นว่าเป็นหลินหยางแล้ว อดไม่ได้ที่จะต้องบ่นเขาออกไป “ทำไมเมื่อคืนเธอไม่มาหาฉันล่ะ?”
“เมื่อคืนผมฝึกวิชาอยู่ที่บ้านน่ะครับ เลยไม่ได้มาหา” เขาหัวเราะพลางอธิบายกลับไป
เซี่ยผิงมองไปยังข้างนอก เมื่อเห็นว่าไม่มีคน เธอจึงรีบดึงหลินหยางเข้ามาด้านใน แล้วล็อคประตู “วันนี้ทำไมมาเร็วจัง คิดถึงฉันหรือ?”
“ไม่ใช่เสียหน่อย ก็เมื่อวานผมไม่ได้มา วันนี้ก็เลยรีบมาอย่างไรครับ” หลินหยางถือโอกาสโอบกอดเซี่ยผิงไว้ ส่วนอีกมือหนึ่งก็วางอยู่บนหน้าอกของเธอ คลึงไปคลึงมาไม่หยุด
วันนี้เซี่ยผิงก็ไม่ได้สวมใส่ชุดชั้นในเหมือนเคย ความนุ่มนิ่มทำให้คนสัมผัสรับรู้ได้ถึงความยืดหยุ่นนั้น
เมื่อเข้าไปในห้องโถง เซี่ยผิงนั่งลงบนโซฟา แล้วหยิบชุดที่เธอกำลังเย็บไว้ขึ้นมาเย็บต่อ ปากก็เอ่ยกับเขา “เธอรอฉันแป๊ปเดียว ฉันขอเย็บชุดนี้ให้เสร็จก่อน”
“เซี่ยผิง คุณอย่าเพิ่งขยับ ผมขอทายานี้ให้คุณก่อน” หลินหยางพูดจบก็ดึงแขนของเธอมา
“ทาอะไรน่ะ? ดูมีลับลมคมในแปลกๆ?” เซี่ยผิงรู้สึกแปลกใจในการกระทำของเขา
“นี่เป็นยาลับ สูตรของบรรพบุรุษของผมเอง จะช่วยรักษาแผลเป็นและผิวพรรณได้ดี รอยแผลเป็นจะหายไป หรือถ้าใช้ทาหน้าก็จะทำให้ใบหน้าไม่มีริ้วรอย ขาวสวยแล้วก็ไม่เหี่ยวย่น” หลินหยางหยิบขวดยาออกมาจากกระเป๋ากางเกง แนะนำผลิตภัณฑ์ของตัวเอง
“มันวิเศษขนาดนั้นเชียวหรือ!” ได้ยินดังนั้น เซี่ยผิงรู้สึกตกใจถึงขนาดวางเสื้อผ้าในมือลง
เห็นท่าทางกระตือรือร้นของเซี่ยผิงเช่นนั้น เขารู้สึกโล่งใจ ขอเป็นเพียงผู้หญิงถึงอย่างไรก็ต้องการหาวิธีที่จะทำให้ตัวเองสวยงามอยู่แล้ว
“นี่เพิ่งเป็นสิ่งที่ผมคิดค้นขึ้นมา ยังไม่รู้ว่าผลจะออกมาดีหรือเปล่า ผลก็เลยเอามาให้คุณลองใช้เสียก่อน ที่แขนข้างซ้ายของคุณมีรอยแผลเป็นอยู่ไม่ใช่หรือ ผมทาให้นะ”
“เธอเป็นคนละเอียดลออดีเสียจริง” เมื่อได้ยินหลินหยางว่าดังนั้น ในใจของเธอรู้สึกซาบซึ้ง แล้วยื่นแขนข้างซ้ายให้เขา
มองดูแผลเป็นที่เป็นรอยยาวกว่าสามถึงสี่เซ็นที่เลยมาถึงข้อศอก หลินหยางดึงฝาจุกออก แล้วใช้นิ้วป้ายยาทาลงบนรอยแผลเป็นให้เธอแล้วเกลี่ยไล่ยาทาให้เสมอกัน
“เย็นๆนะ รู้สึกสบายดี” เมื่อทายาลงไปแล้ว เซี่ยผิงเอ่ยบอกเขาพลางหัวเราะออกมา
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผลของยาจะออกฤทธิ์นานขนาดไหน คุณยังไม่ต้องไปสนใจมันหรอก เย็บผ้าของคุณต่อเถอะ” หลินหยางเอ่ยเตือนเธอ
“ได้สิ แผลเป็นนี้ฉันถูกถ่านหินลวกไหม้ หน้าร้อนใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น ดูแล้วคงจะซึมเข้าไปได้ดี ถ้าหาครั้งนี้รักษาหาย ไม่รู้ว่าจะขอบคุณเธออย่างไรดี” เซี่ยผิงร้อยด้ายเข้าไปในเข็มด้วยความชำนาญ งานเย็บปักถักร้อยของเธอทำให้หลินหยางมองแล้วเอ่ยชมไม่ขาดปากว่าหลี่เฉียงมีภรรยาที่ดีเสียจริงๆ
“จุดด่างเพียงเล็กน้อยจะมาเทียบกับความงามของคุณได้อย่างไรกัน จะไปสนใจทำไม” หลินหยางกล่าวแล้วสอดมือเข้าไปในเสื้อของเซี่ยผิง แล้วลูบคลำไปยังบริเวณภูเขาสองลูกของเธอ
“เธอรอฉันก่อนสิ เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว จะรีบร้อนอะไรกัน” เซี่ยผิงมองไปยังหลินหยาง
“ฮ่าๆ คุณก็ทำงานของคุณไป ผมก็ยุ่งกับงานของผม” หลินหยางไม่พูดเปล่า แต่เอาศรีษะของตัวเองไปซุกอยู่ระหว่างภูเขาสองลูกของเซี่ยผิง
ภายใต้การหยอกล้อยั่วยุจากลิ้นของหลินหยาง นั่นทำให้ลมหายใจของเซี่ยผิงหอบถี่ขึ้น งานในมือเธอก็เริ่มที่จะค่อยๆทำช้าลง
“หลินหยาง เธออย่าเลียสิ อีกนิดเดียวฉันก็จะทำเสร็จอยู่แล้วว…” เซี่ยผิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นๆ รู้สึกอีกนิดเดียวตัวเองก็จะทนไม่ไหวเสียแล้ว
“ให้ผมเล่นซักหน่อย พอคุณทำงานคุณเสร็จผมก็จะได้เข้าไปในนั้นได้เลยไง” หลินหยางหัวเราะออกมา แต่มือก็ไม่หยุดยังคงสอดแทรกเข้าไปอยู่ดี
เนื่องจากว่าอยู่บ้าน กางเกงที่เซี่ยผิงสวมใส่อยู่นั้นเป็นเพียงกางเกงยางยืดธรรมดา มือสามารถสอดเข้าไปได้เลย
มือขวาของหลินหยางจึงสอดแทรกเข้าไปในกางเกงของเซี่ยผิงอย่างชำนาญ สอดเข้าไปในป่าทึบของเธอ แล้วไม่นานช่องเขาของเธอก็เปียกชื้นเต็มมือของหลินหยาง
นิ้วที่กำลังเย็บปักผ้าในมืออยู่นั้นก็ยังคงถูกกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง ลมหายใจของเธอยิ่งเพิ่มความหอบถี่ยิ่งขึ้น จนในที่สุดเธอจึงทนไม่ไหวที่จะส่งเสียงร้องครางออกมา ก้นของเธอก็บิดขยับไปด้วยเช่นกัน
“ยกก้นขึ้นหน่อยสิ” หลินหยางเอ่ยเสียงเบาๆ เมื่อมือเขาดึงทั้งกางเกงและกางเกงชั้นในของเธอก็หลุดออกมาพร้อมกัน