ตอนที่45 ป้อนนมลูก
ใช้เวลาไม่นานก็ถึงบ้านของหลี่ถาว หลังจากเปิดประตูก็ได้ยินเสียงทารกร้องเสียงดังออกมา
เมื่อปิดประตูลานบ้านแล้ว หลี่ถาวก็รีบหยิบเอากุญแจออกมา หลังจากเปิดประตูห้องก็เดินเข้าไปข้างใน หันกลับมาพูดกับหลินหยาง “นายเอาข้าวโพดวางไว้บนพื้น จากนั้นก็เข้ามานั่งในห้องซักพัก”
หลินหยางเอาข้าวโพดจากบนรถลงมากองไว้ จากนั้นก็เข้าไปในห้อง
เมื่อเข้าไปก็เห็นหลี่ถาวนั่งอยู่บนโซฟา ในอกอุ้มทารกคนนึง หลี่ถาวกอดลูกไว้ในอกแล้วปลอบตลอด
“ ลูกคงหิวแล้ว” หลินหยางเอ่ย
“อืม พักซักแปปเดี๋ยวค่อยป้อนนม” หลี่ถาวปลอบลูกอีกครั้ง เธอเปิดเสื้อแล้วป้อนนมลูกโดยไม่ได้สนใจเลยว่าหลินหยางจะอยู่ข้างๆ
น่าจะเป็นเพราะว่าง่ายต่อการให้นมลูก หลี่ถาวจึงไม่ได้ใส่เสื้อใน เป็นส่วนหน้าอกที่เจริญเติบโตมาอย่างงดงาม เดิมทีคือใหญ่มาก ตอนนี้ยังมีลูกอีก เค้าโครงของหน้าอกยิ่งปรากฏออกมาใช้เห็นชัดเจน
มองดูส่วนปลายที่ยกนูนออกมายังคงเป็นสีแดง หลินหยางถึงกับอุทานในใจว่าช่างเป็นของเกรดดีมีคุณภาพจริงๆ รูปร่างที่มีเสน่ห์ดึงดูดและสองทรวงอกอันทนงนั้นกระตุ้นสายตาของหลินหยางอย่างมากเลยทีเดียว
เมื่อทารกได้ดูดกินนมแล้วก็ไม่ร้องไห้อีก
หลินหยางนั่งมองอยู่ข้างๆ แล้วคิดว่าสถานการณ์เริ่มตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง
พอเงยหน้าขึ้นมาเห็นหลินหยางที่กำลังจ้องมองหน้าอกที่นุ่มขาวของตนเองอย่างจริงจัง หลี่ถาวก็หน้าแดงเล็กน้อยและอดไม่ได้ที่จะพูดตำหนิออกมาว่า “นายมองอะไร?”
“ ไม่ได้มองอะไร” หลินหยางพูดด้วยเสียงเบาเล็ก
เมื่อเห็นหลินหยางมีท่าทีเก้อเขิน หลี่ถาวก็ขำในใจ และเริ่มถามต่อ “นายอยู่ที่มหาลัยไม่เคยเห็นมาก่อนใช่มั้ย”
“ไม่เคยเห็นใหญ่ขนาดนี้” หลินหยางพูดอย่างซื่อๆ
ใหญ่มากจริงๆหรอ? หลี่ถาวพูดด้วยตาที่เป็นประกาย น่าจะเป็นปัญหาที่กรรมพันธุ์ของหญิงสาวหมู่บ้านวี่หลง พวกเธอหน้าอกก็ใหญ่แบบนี้กันหมด
“ก็แน่สิ มันใหญ่แล้วก็ดูดี” หลินหยางกลืนน้ำลายแล้วพูด
“ เป็นเพราะว่านายไม่เคยเห็นก็เลยบอกว่ามันดูดีหน่ะสิ” หลี่ถาวแบะปากพูด
“จะเป็นไปได้ยังไง ใหญ่แบบนี้แล้วยังชิดกันอีก ดูแล้วมั่นคง มันดูดีมากจริงๆ” หลินหยางพูดอย่างจริงจัง
เมื่อถูกหลินหยางชื่นชมก็รู้สึกดีใจ หลี่ถาวจึงพูดขึ้นมาอย่างหน้าแดงอีกครั้ง “ถึงจะดูดีแต่นายก็ไม่ควรที่จะจ้องมองฉันแบบนี้ ฉันแต่งงานแล้วนะ”
“ฉันก็แค่ดูนิดหน่อย เป็นส่วนที่ดูดีขนาดนี้ ตอนนี้ไม่ดู ฉันกลัวว่าหลังจากนี้คงไม่ได้เห็นแล้ว” หลินหยางพูดอย่างรีบร้อน
เมื่อได้ยินคำกล่าวชมเชยของหลินหยาง ใบหน้าอันงดงามของหลี่ถาวก็ถูกปกคลุมด้วยเมฆสีชมพูผ่องใสสองก้อน และยังเหมือนกับดอกท้ออีกด้วย ดูคล้ายกับชื่อของเธอ
เมื่อมองที่ตาของหลินหยางหลี่ถาวก็เอ่ยขึ้นว่า “ถ้านายรู้สึกว่าดูดีงั้นนายก็ดูให้เยอะๆ”
ผ่านไปซักพัก ลูกของหลี่ถาวก็กินอิ่ม คายปากออกจากเต้านม นอนที่อกแม่แล้วหลับต่อ
มองไปที่ลูกน้อยกำลังหลับปุ๋ย หลี่ถาวก็วางเขาไว้ในเปลเด็ก แล้วไกวไปอีกด้าน
มองไปที่หลินหยางที่ยังคงกำลังจ้องมองตนเองอย่างละเอียด หลี่ถาวก็พูดอย่างหน้าแดง “นายดูพอรึยัง”
หลินหยางที่เดิมทีนั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามกับหลี่ถาวก็รีบลุกมานั่งข้างๆหลี่ถาวทันที
เมื่อเห็นหลินหยางเข้ามา ใจหลี่ถาวก็เต้นสั่น ผู้ชายคนนี้คงจะไม่มาฉวยโอกาสกับตนเพียงเพราะว่าตอนนี้ในบ้านไม่มีคนหรอกนะ ในใจหลี่ถาวทั้งเฝ้ารอและตื่นเต้นนิดหน่อย
ตนเองหลังจากที่แต่งงานแล้ว สามีก็มักจะไปทำงานข้างนอก ปีนึงกลับบ้านอย่างมากก็สองสามครั้ง และเฉพาะปีใหม่เท่านั้นถึงจะอยู่บ้านนานๆประมาณหนึ่งถึงสองเดือน
นอกนั้นก็มาแค่สองสามวันแล้วก็ไป รสชาติชีวิตที่พึ่งเริ่มต้นของผู้หญิงอย่างหลี่ถาวก็ยังรอคอยเรื่องอย่างว่าของหนุ่มสาว
อีกทั้งใจของตนเองก็ไม่ได้ต่อต้านหลินหยางแม้แต่นิดเดียว แถมยังรู้สึกรอคอยให้เขามากลืนกินตน
ในใจของหลี่ถาวก็เกิดความยุ่งเหยิง มองไปที่แววตาของหลินหยางที่แอบซ่อนความเลสนัย
“แน่นอนว่ายังดูไม่พอ ถ้าเธอไม่รีบแล้วหล่ะก็ ให้ฉันดูอีกซักพัก” หลินหยางมองไปยังสิ่งของเอิบอิ่มนั้นยิ่งไปกว่านั้นยังมีความนุ่มของเนื้อที่ขยายเพิ่มขึ้น หลินหยางกลืนน้ำลายคำใหญ่แล้วพูดเอ่ย
โดนเพื่อนร่วมห้องตอนมัธยมต้นจ้องมองที่หน้าอกทั้งใจของหลี่ถาวก็รู้สึกกระดากอาย แต่มองไปที่สายตาอันเร่าร้อนของหลินหยางและบนตัวของเขา คล้ายกับมีอะไรบางอย่างที่เฉพาะตัวกำลังดึงดูดตัวเอง หลี่ถาวจับพลัดจับผลูตอบตกลงให้หลินหยางดู
“เอาถ้วยนั้นมาให้ฉัน” หลี่ถาวถกเสื้อตัวเองขึ้นโดยไม่ให้เสื้อตกลงมา พูดกับหลินหยาง
หลินหยางถือถ้วยเปล่าจากบนโต๊ะมาวางไว้ที่หน้าหลี่ถาวแล้วถามด้วยเสียงเบาๆ “จะเอาถ้วยมาทำอะไร?”
“คัดเต้านิดหน่อย เอาน้ำนมออกมาหน่อย นายช่วยฉันยกถ้วย” หลี่ถาวพูดเขินอายอย่างหน้าแดง
เมื่อได้ยินหลี่ถาวพูด หลินหยางก็รีบเอาถ้วยวางไว้ที่ใต้ราวนมข้างขวา
หลี่ถาวสองมือจับไปที่นมของตนเอง ใช้แรงบีบ ทันใดนั้นน้ำนมที่ถูกบีบก็ไหลออกมา
หลินหยางที่อยู่ข้างๆก็ใจเต้นเร็วขึ้น มองไปยังหน้าอกที่เปลี่ยนรูปร่างอยู่ตลอดเวลา แล้วพูดขึ้นว่า “ไม่งั้นให้ฉันช่วยเธอบีบมั้ย”
เมื่อได้ยินหลินหยางพูดใบหน้าของหลี่ถาวก็กลับมาแดงอีกครั้ง ใจก็เต้นแรงขึ้น พยักหน้าอย่างเขินอาย “ได้ แต่นายทำเบาหน่อยนะ”
ตรงนั้นของหลินหยางก็นูนปูดตั้งขึ้น ในมือก็บีบอย่างต่อเนื่อง ไม่นานน้ำนมก็ถูกหลินหยางบีบออกมา
หลินหยางฝึกบทหลงเฟิงเจว๋ เป็นแรงดึงดูดยั่วยวนหญิงสาวที่ถึงกับชีวิต ความรู้สึกที่ได้ลูบคลำบนยอดเขาที่สวยงาม ก็ยิ่งสบายและสดชื่นกว่าคนปกติ
เพียงเวลาอันเล็กน้อย ภายใต้การกระตุ้นของหลินหยางอย่างต่อเนื่อง ลมหายใจของหลี่ถาวก็ถี่กระชั้นขึ้นมา
ใบหน้าแดงๆมองที่หน้าของหลินหยาง ลมหายใจที่แผ่วร้อนรดไปที่หน้าของหลินหยาง หลี่ถาวก็ร้องออกมาทางจมูกอย่างเบาๆ
เมื่อจิตใต้สำนึกรับรู้ถึงความไม่เหมาะสม หน้าของหลี่ถาวก็ยิ่งแดงกว่าปกติ
“พอแล้ว ไม่ต้องทำอีกแล้ว” หลี่ถาวพูดด้วยแรงหายใจที่หอบ
“ยังเหลืออีกนิดนึง” หลินหยางรู้เป็นอย่างดีเกี่ยวกับร่างกายของมนุษย์ รู้โดยธรรมชาติว่าเวลาที่หน้าอกขยายออกมาจะนวดยังไง นวดเพียงอย่างง่ายๆไม่กี่ครั้ง น้ำนมที่มากเกินไปข้างในเมื่อบีบออกมาแล้วข้างในก็จะชำระอย่างสะอาด
เวลาที่เหลือหลินหยางก็เพลิดเพลินไปกับก้อนเนื้อสองอันที่นุ่มนิ่ม
ด้วยฝ่ามือที่ใหญ่อันมีพลังและเสน่ห์ ทำให้หลี่ถาวยิ่งเคลิบเคลิ้ม ลมหายใจก็ยิ่งถี่กระชั้นขึ้น มองไปที่สายตาของหลินหยางก็ยิ่งเพิ่มความอายและความปรารถนา
หลังจากที่เพลิดเพลินไปกับการนวดคลึงพอสมควรแล้ว หลินหยางก็ยังคงไม่อยากที่จะคลายมือ
เมื่อหลินหยางกำลังจะเอามือออกนั้น จู่จู่ก็ถูกสองมือของหลี่ถาวยับยั้งไว้
มองหลินหยางอย่างอ่อนอ้อนแล้วพูดด้วยเสียงเล็กๆว่า “ถ้านายอยากจะคลำ ถ้างั้นก็คลำอีกซักหน่อยเถอะ”
หลินอยางได้ยินดังนั้นก็ดีใจ มองไปที่หน้าแดงอมชมพูของหลี่ถาว แล้วกระซิบที่ข้างหูของเธอ “นวดแบบนี้สบายใช่ไหม”
“อืม” หลี่เถาตอบด้วยเสียงเบาเล็ก
หลินหยางยิ้มในใจ บนมือก็ขยับด้วยความเบาและเร็วขึ้นอีก ไม่นาน ลมหายใจของหลี่ถาวก็แรงกระชั่นขึ้นมาอีก ไม่เพียงแต่ร้องตลอดเวลาแต่ยังเพิ่มเสียงดังกังวาลขึ้นมาอีก
ความรู้สึกระทวยที่ออกมานั้นทำให้ใจของหลี่ถาวเพิ่มความปรารถนา จ้องมองที่หลินหยางแล้วเอ่ย “หลินหยาง จับให้แรงกว่านี้”
หน้าอกอันใหญ่อวบอิ่มในมือหลินหยางก็เปลี่ยนรูปทรงอย่างรวดเร็ว จากการที่โดนกระตุ้น หลี่ถาวได้ถอดเสื้อออกด้วยตัวเองอย่างไม่รู้ตัว
เนื่องจากเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลินหยางก็ค่อยค่อยกดตัวหลี่ถาวไปอยู่ที่ใต้เรือนร่างของตน
ความเข้นข้นของความเป็นชายที่ออกมา ทำให้ดวงตาของหลี่ถาวพร้าเบลอเล็กน้อย จ้องมองไปที่แววตาใกล้ๆของหลินหยาง สุดท้ายแล้วหลี่ถาวก็ยังคงมีความรู้สึกละอายต่อบาป จึงพูดออกมาด้วยเสียงเบาๆว่า “หลินหยาง วันนี้พอแค่นี้เถอะ”
ดูจากแววตาที่หนักแน่นของหลี่ถาว หลินหยางรู้ดีว่าข่มเขาโคขืนกินหญ้า ยอมไม่ได้ผลดังที่ต้องการ ถ้าเกิดครั้งนี้ตนเองใช้กำลัง หลังจากนี้อาจจะไม่สะดวกพบเจอกันอีก
ก่อนที่จะปล่อยมือเขาก็ได้บีบไปที่หน้าอกอีกหนึ่งครั้งแล้วถึงจะช่วยประคองหลี่ถาวขึ้นมา
“ฉันคิดว่านายจะยับยั้งใจไม่ได้ซะอีก” คาดไม่ถึงว่าหลินหยางจะยับยั้งตัวเองได้แล้ว หลี่ถาวมองไปที่หลินหยางอย่างสวยหยาดเยิ้ม
“ถ้าหากเธอหวังว่าฉันจะยับยั้งตัวเองไม่ได้ ฉันช่วยให้เธอสมหวังได้นะ” หลินหยางยิ้มขำ สวยตามองที่หน้าอกอันเอิบอิ่ม เอามือของตัวเองยื่นไปจับไว้ต่อ
“ ครั้งนี้ไม่เอาแล้ว นายไม่ต้องขยับมือแล้ว” หลี่ถาวพูดดด้วยเสียงสั่น
หลังจากหลินหยางหยิบเสื้อผ้ามาให้หลี่ถาวใส่ แล้วพูดอย่างขำๆว่า “ถ้าต้องการค่อยมาหาฉัน”
หลี่ถาวไม่ได้ตอบแต่อย่างใด เพียงแค่หน้าแดงแล้วก็ใส่เสื้อผ้า มองหลินหยางอย่างว่างเปล่าแล้วพูดว่า “งั้นฉันไปอาบน้ำก่อน ถ้านายไม่มีธุระอะไรก็กลับไปก่อน”
หลินหยางได้ยินดังนั้นก็อยู่ไม่นานแล้วก็บอกลาหลี่ถาวอย่างยิ้มแย้ม กลับไปทางบ้านของตนเอง
ขณะนี้ถึงเวลาของอาหารกลางวันแล้ว หลินหยางทำข้าวหน้าเนื้อมาหนึ่งที่ หลังจากทานอาหารแล้ว เขาก็ฝึกเขียนตัวอักษรอยู่ที่บริเวณลานบ้าน ผ่านไปไม่นานเขาก็หยิบครีมบำรุงออกมาจากกระเป๋าเป้ ปิดประตูหน้าบ้านของตนเองแล้วก็เดินไปทางร้านเล็กๆตรงทางเข้าหมู่บ้าน
เมื่อกินข้าวกลางวันเสร็จ คนในหมู่บ้านส่วนใหญ่น่าจะไปที่ไร่ของตัวเองเพื่อหักข้าวโพดแล้ว ทั้งหมู่บ้านก็จะเจอไม่กี่คน
เมื่อไปถึงทางเข้าหน้าหมู่บ้านแล้ว หลินหยางก็เดินอย่างย่องๆเข้าใป
“ทำไมเจ้าหนุ่มหลินหยางถึงยังไม่มา ครีมบำรุงแม่ใกล้จะใช้หมดแล้ว” พอมาถึงที่หน้าประตูร้าน โสตประสาทที่ดีมากๆของหลินหยางก็ได้ยินเสียงที่พูดจากข้างในร้านออกมา
เมื่อหลินหยางได้ยินก็ยิ้มอ่อน มองไปที่หน้าต่างข้างๆ นั่งยองตัวลง จากนั้นเอาครีมบำรุงที่อยู่ในมือยกวางไปบนทางหน้าต่าง
ชีวิตที่ไม่มีชีวิตชีวาของจางหุ้ยฉุ้ย เธอพูดซุบซิบนั่งฟุบหมอบอย่างเบื่อหน่ายอยู่บนโต๊ะ จู่จู่ก็มีเสียงออกมาจากข้างตัว จางหุ้ยฉุ้ยก็ตื่นตกใจในทันทีทันใด
เธอหันกลับมาอย่างเร็ว แต่ไม่มีคน ขณะที่กำลังแปลกใจอยู่นั้น มองไปแวบๆก็เห็นครีมบำรุงที่ริมขอบหน้าต่าง
รู้สึกแปลกใจจึงยืนขึ้นมองที่นอกหน้าต่าง แต่ก็ไม่มีคน จางหุ้ยฉุ้ยยื่นมือจะไปเอาครีมบำรุงขวดนั้น
“ป้าจาง ฉันกลับมาแล้ว” หลินหยางที่กำลังนั่งยองๆอยู่นั้นก็ยืนขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ข้างหน้าสายตามีคนลุกยืนขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทำให้ป้าจางตกใจกลัว เมื่อเห็นว่าคนที่มาคือหลินหยาง จึงพูดด่าพลางยิ้มว่า “เจ้าหนุ่มคนนี้ จะมาก็มา ยังมาหลบหลบซ่อนซ่อนทำให้คนตกใจ”
“ใช่ซะที่ไหน แบบนี้เป็นการทำให้ป้าจางแปลกใจและดีใจ” หลินหยางพูดพลางยิ้ม เขาเดินอ้อมหน้าต่างแล้วเข้ามาทางประตู
“นี่คือครีมบำรุงที่นายซื้อมาหรอ ดูเหมือนว่าจะคุณภาพดี ราคาเท่าไหร่?” จางหุ้ยฉุ้ยยิ้มแล้วถาม
“แปดสิบกว่าหยวน” หลินหยางตอบตามความจริง
“ทำไมแพงขนาดนี้?” งั้นฉันเอาเงินให้เธอเพิ่ม เมื่อได้ยินหลินหยางพูดราคาออกมา ถึงแม้ว่าจางหุ้ยฉุ้ยจะรู้สึกเสียดายเงินนิดหน่อย แต่เธอก็ไม่เอาผลประโยชน์จากหลินหยาง
“ อาสะไภ้ ฉันซื้อมาแล้ว จะเอาเงินป้าได้ยังไง ครั้งนี้ฉันไปเมืองเจียงหลิง หาเงินมาได้นิดหน่อยก็เลยซื้อที่ใช้แล้วดีหน่อยให้ป้า” หลินหยางปฏิเสธอย่างยิ้มๆ
“จะเป็นไปได้ยังไงกัน นายไปอยู่ที่นั่นกี่วัน จะหารายได้อะไรได้” จางหุ้ยฉุ้ยพูดด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
“แน่นอนว่าหาเงินได้แล้ว ไม่อย่างนั้นจะเอาเงินจากที่ไหนซื้อของให้ป้า ฉันช่วยชีวิตคนหนึ่งที่ในเมือง คนนั้นให้เงินฉันมานิดหน่อย ฉันคิดแล้วคิดอีกว่าป้าจางสวยขนาดนี้ใช้ของที่ดีหน่อยถึงจะเหมาะสมก็เลยซื้ออันนี้มา”
คำพูดของหลินหยางก็ทำให้จางหุ้ยฉุ้ยจิตใจเบิกบานเป็นอย่างยิ่ง
“ดูนายพูดสิ ฉันโตเป็นผู้ใหญ่ขนาดนี้ละ จะสวยตรงไหน?” จางหุ้ยฉุ้ยพูดอย่างเสียงอ่อน
“แน่นอนว่าสวย ใบหน้าก็สวย ดูแล้วสบายตา ทำให้รู้สึกถึงรสชาติของความสุกงอมเป็นผู้ใหญ่ ใครที่พบเห็นก็จะต้องประหลาดใจ” หลินหยางพูดประจบสอพลอออกมาอย่างเต็มปาก
แม้จะรู้ว่าหลินหยางพูดออกแนวประจบประแจงแต่จางหุ้ยฉุ้ยก็ยังรู้สึกได้รับสิ่งที่มีประโยชน์อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ รีบเร่งเปิดครีมบำรุงที่หลินหยางให้มา ดมกลิ่นที่อยู่ข้างใน กลิ่นหอมสดชื่นแต่ไม่เลี่ยนทำให้จางหุ้ยฉุ้ยชอบมาก เป็นสินค้าที่ดีกว่าต้าเปาที่ตัวเองใช้อยู่เป็นมาก