ตอนที่54เขินอาย
เมื่อได้ยินที่หลินหยางพูดลั่วหยิ่งก็แววตาเป็นประกายเธอนั้นนั่งยองๆมาทั้งวันปวดขาปวดเอวไปหมดคำพูดของหลินหยางตอนนี้นั้นเหมือนกับความอบอุ่นท่ามกลางหิมะ
เธอจึงพยักหน้าตอบรับไปว่า“อื้มงั้นพี่หลินหยางนวดให้หนูหน่อยนะคะ”
เมื่อเห็นท่าทีที่รีบเร่งแสดงให้เห็นชัดเจนเลยว่าสาวน้อยคนนี้ต้องเหนื่อยมากแน่ๆและทั่วทั้งร่างกายยังเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อหลินหยางจึงพูดว่า“เสี่ยวหยิ่งไปอาบน้ำก่อนเถอะอาบเสร็จพี่ค่อยนวดให้”
เมื่อรู้สึกตัวว่าร่างกายตัวเองนั้นเหนียวหนึบหนับซึ่งผู้หญิงควรจะต้องรักความสะอาดเธอลังเลมองไปที่หลินหยางด้วยความอายแล้วก็พยักหน้าเบาๆ
“ห้องน้ำฝั่งตะวันออกมีฝักบัวนะ”หลินหยางตะโกนบอกไป
“รับทราบค่ะ”ลั่วหยิ่งตอบแบบเขินอายการที่ต้องมาอาบน้ำบ้านคนอื่นแล้วยังเป็นบ้านของชายที่อายุมากกว่าเธอสองสามปีอีกเธอก็รู้สึกว้าวุ่นไม่น้อย
สิบหน้าทีผ่านไปลั่วหยิ่งก็เดินเข้ามาอีกครั้งเมื่อมองคนที่อยู่ตรงๆหน้าผิวขาวนวลสดใสผมที่เปียกน้ำเล็กน้อยลั่วหยิ่งช่างอ่อนโยนและสวยงามมากราวกับดอกบัวที่เพิ่งบานเต็มที่
เมื่อเห็นลั่วหยิ่งในสภาพที่สวยแบบนี้หลินหยางก็อยู่ไม่สุขดวงตาก็จ้องมองด้วยความประหลาดใจแต่ยังยิ้มนิ่งแล้วพูดไปว่า“เสี่ยวหยิ่งแกสวยนะเนี่ย”
“ไม่หรอกค่ะ”ใบหน้าที่แดงด้วยความอายลั่วหยิ่งรู้สึกอิ่มเอมใจมาก
“โอเคเข้ามาในห้องพี่เดี๋ยวนวดให้”หลินหยางเปิดประตูแล้วเข้าไปในห้องของตัวเอง
เมื่อได้ยินว่าต้องเข้าไปในห้องนอนของหลินหยางลั่วหยิ่งก็รู้สึกลังเลแก้มเริ่มแดงแล้วก็เดินตามหลินหยางเข้าห้องไป
“เอนตัวนอนลงไปเถอะ”หลินหยางพูดขณะที่ชี้ไปที่เตียงใหญ่ของตัวเอง“ถอดรองเท้าด้วยนะ”
ในเมื่อเข้ามาแล้วจะมัวแต่เกร็งๆก็ไม่มีประโยชน์อะไรลั่วหยิ่งจึงทำได้แค่ยิ้มแบบอายๆถอดรองเท้าออกแล้ววางมันไว้ข้างเตียง
เธอมองไปที่หลินหยางอย่างหน้าแดงๆเธอรู้สึกกระสับกระส่ายแต่ก็ยังดีใจอยู่บ้างความคิดต่างๆในหัวสมองก็ผุดขึ้นมาไม่หยุดพี่หลินหยางคงจะไม่ฉวยโอกาสปล้ำเธอหรอกนะ?
หลินหยางมองลั่วหยิ่งที่นอนอยู่บนเตียงเธอคงจะใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีเบจตัวนี้มาพักนึงแล้วถึงแม้ว่าจะยังสะอาดอยู่แต่สีบนผ้านั้นได้จางไปไม่น้อย
ถึงจะอายุแค่19ปีแต่ลั่วหยิ่งก็เติบโตเต็มที่โดยเฉพาะก้อนโตๆที่นูนออกมาตรงหน้าอก
เมื่อมองไปตรงจุดที่วุ่นวายนั้นหลินหยางก็กลืนน้ำลายลงไปแล้วก็ถอดรองเท้าออกนั่งลงที่ข้างเตียงหยิบขาของลั่วหยิ่งขึ้นมาแล้วใช้แรงจากภายในลงมือนวด
ความรู้สึกที่จั๊กกะจี้ก็เริ่มเกิดขึ้นลั่วหยิ่งรู้สึกได้ว่าขาของเธอกำลังถูกนวดอย่างนุ่มนวล
“เป็นไงสบายขึ้นมั๊ย?”หลินหยางถามขึ้นเมื่อเห็นว่าลั่วหยิ่งกำลังหลับตา
“อื้มไม่รู้สึกเมื่อยแล้วค่ะ”ลั่วหยิ่งก็พูดชม
“นี่คือการนวดของแพทย์แผนจีนเธอไปคุกเข่าข้างแม่น้ำมาทั้งวันเลือดลมก็ไม่ไหลเวียนที่ขาและเท้าฝังเข็มสักหน่อยก็หายละ”หลินหยางอธิบายพร้อมรอยยิ้ม
เมื่อยกเท้าของลั่วหยิ่งขึ้นมาหลินหยางก็ลงมือนวดออกแรงนวดอย่างนุ่มนวลแล้วก็นวดขึ้นไปบนกลางขาของลั่วหยิ่งลั่วหยิ่งรู้สึกสบาย
“พี่คะมหาลัยสนุกมั๊ย?”ลั่วหยิ่งถามขึ้นมาพร้อมด้วยแววตาแห่งความหวัง
“มหาวิทยาลัยค่อนข้างอิสระไม่มีการบังคับเหมือนมัธยมปลายซึ่งแน่นอนว่านอกจากจะต้องเรียนแล้วยังจะต้องหัดรับผิดชอบตัวเองเพราะมหาวิทยาลัยคือจุดเปลี่ยนระหว่างโรงเรียนกับสังคมจริงๆนั่นเอง”
“เมื่อเข้าเรียนมหาลัยไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือออกไปเผชิญโลกเยอะๆ”หลินหยางพูดพร้อมมุขตลก
“ในมหาลัยมีงานพาร์ทไทม์ให้ทำมั๊ยอ่ะ?”ลั่วหยิ่งถามต่อ
“มีพูดอย่างง่ายๆก็คือทำงานในโรงอาหารหรือเป็นพนักงานส่งของแต่เงินเดือนน้อยและเหนื่อยมากงานพาร์ทไทม์ในมหาลัยไม่ค่อยมีอะไรและไม่จำเป็นต้องรีบไปทำเมื่อเข้าเรียนใหม่อยู่มหาลัยให้ชินก่อนลองสำรวจหาช่องทางในเมืองดูมันจะพอมีโอกาสทำธุรกิจอยู่บ้าง”หลินหยางแนะแนวสาวน้อยคนนี้
ลั่วหยิ่งก็ตั้งใจฟังหลินหยางก็กำลังคิดเพื่อที่จะช่วยเหลือลั่วหยิ่งเมื่อถึงเวลา
“อุ้ย”ในขระที่ลั่วหยิ่งกำลังฟังเรื่องราวของมหาวิทยาลัยเมื่อลืมตาแล้วเห็นมือของหลินหยางนวดขึ้นมาบนต้นขาก็รู้สึกอายขึ้นมาทันที
ขาของลั่วหยิ่งนั้นยืดหยุ่นมากเพราะไม่มีไขมันเลยคนนวดจึงรู้สึกสบายมาก
ลั่วหยิ่งหน้าแดงเมื่อมองเห็นมือของลั่วหยิ่งที่ค่อยๆเลื่อนมาจนเกือบนะถึงโคนขาแล้วหลินหยางไม่ทันได้สังเกตุหรืออะไรกันนิ้วมือของเขาก็เข้าใกล้จุดที่ยั่วยวนของตัวเองถึงจะผ่านไปแค่แวบเดียวแต่สาวน้อยคนนี้ก็รู้สึกถูกยั่วยวนมาก
“ถึงแม้ว่าเลือดจะไปค้างอยู่ที่ขากับเท้าแต่ถ้าไม่ได้นวดทั้งตัวล่ะก็เลือดลมก็จะติดค้างที่เอววันนี้แกนั่งยองๆมาทั้งวันจะต้องปวดเอวอยู่แล้วถ้ายิ่งนวดมาแค่ที่เอวพรุ่งก็จะปวดเอวขึ้นมาอีก”หลินหยางแซวเบาๆ
“งั้นพี่กดแรงอีก”ลั่วหยิ่งพูดเบาๆ
เขาหยุดนวดที่ขาอยู่พักหนึ่งหลินหยางก็เลื่อนมือขึ้นไปตรงส่วนเอวของลั่วหยิ่ง
ตอนนี้กำลังภายในของหลินหยางก็ถูกส่งออกมาอย่างต่อเนื่องเสน่ห์ที่ทำให้ผู้หญิงหลงใหลก็ส่งออกมาอย่างไม่หยุดรวมไปถึงมือที่กำลังนวดลงบนกายของหญิงสาวคนนี้ลั่วหยิ่งก็หน้าแดงและหายใจอย่างลุกลี้ลุกลน
และการที่มือของหลินหยางลงมือนวดอย่างต่อเนื่องลั่วหยิ่งก็ยิ่งหายใจแรงขึ้นหน้าของเธอก็แรงขึ้นเรื่อยๆ
ไม่นานหลินหยางก็นวดไปถึงหน้าอกมือทั้งสองข้างได้นวดบริเวณรอบๆหน้าอกเสียงกรุบกรับตรงหน้าอกก็ดังขึ้น
ลั่วหยิ่งใจเต้นรัวๆจนต้องกำมือแน่นๆถึงอยากจะปฏิเสธแต่ในใจก็ไม่อาจปฏิเสธได้ในใจกลับมีความปราถนาอันแรงกล้า
ด้วยการหายใจที่รุนแรงกล้ามเนื้อส่วนหน้าอกก็กระตุกขึ้นกระตุกลงราวกับคลื่นน้ำ
ตอนนี้หลินหยางปากแห้งและก็หายใจหนักขึ้นความรู้สึกอันนุ่มนวลนั้นหลินหยางได้ตัดสินใจเอามือกดลงไป
“อุ้ยว้าย!”เสียงที่เขินอายก็ดังขึ้นอีกครั้งลั่วหยิ่งเอามือปิดหน้าตัวเองแล้วถามไปว่า“พี่หลินหยางพี่ทำอะไรน่ะ?”
“นวดให้ไงเลือดลมมันติดมาจนถึงส่วนนี้”หลินหยางก็อธิบายอย่างรู้สึกอาย
ขณะที่พูดหลินหยางก็ยัไม่หยุดที่จะเอามือนวดตรงบริเวณที่นุ่มนวลนั้น
ความรู้สึกผ่อนคลายจากการนวดและความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนจากการสัมผัสส่วนที่อ่อนไหวนั้นก็มาถึงตรงหัวใจของลั่วหยิ่งลั่วหยิ่งหายใจหนักขึ้นปากก็อ้าออกมาเล็กน้อยและมองไปที่หลินหยางด้วยความหลงใหล
ถึงจะมีชุดชั่นในกันไว้แต่เนื่องจากคุณภาพไม่ค่อยดีเนื้อผ้าบางมากจนหลินหยางก็รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นภายในได้อย่างชัดเจน
ส่วนที่นุ่มนวลและมีเสน่ห์นี้หลินหยางก็ตื่นเต้นขึ้นไปอีก
แต่ลั่วหยิ่งที่โดนหลินหยางนวดอยู่นั้นก็หน้าแดงไปทั้งหน้าอ้าปากเล็กน้อยพร้อมกับแววตาที่เคลิบเคลิ้ม
เมื่อเท้าทั้งสองข้างถูกปิดเข้าด้วยกันความรู้สึกแปลกๆก็เกิดขึ้นมาในที่สุดลั่วหยิ่งก็ทนไม่ไหวจึงร้องออกมา
เสียงที่ร้องออกมานั้นเหมือนกับเสียงของเมธินีเมื่อครั้งที่แล้วลั่วหยิ่งก็รู้สึกอายขึ้นไปอีก
“พีหลินหยางทำไมนวดนานขนาดนี้”ลั่วหยิ่งถาม
“นี่เป็นจุดใหญ่จะต้องนวดนานหน่อยไม่งั้นเลือดลมไม่ไหลเวียน”หลินหยางอธิบายตามหลักของแพทย์แผนจีนแต่เขากลับอธิบายอย่างเลิ่กลั่ก
“อ่อ”ลั่วหยิ่งรู้สึกถึงความหื่นกามของหลินหยางแต่ไม่กล้าพูดออกมาได้แต่หลับตาและยอมรับในความทะเล้นของเขา
เมื่อผ่านไปห้านาทีเลือดลมบนหน้าของลั่วหยิ่งก็ระบายออกหลินหยางจึงวางมือแล้วพูดกับลั่วหยิ่งว่า“โอเคตอนนี้รู้สึกยังไง?”
ลั่วหยิ่งที่ไม่รู้ว่าหลินหยางนวดไล่ลมออกไปมากเท่าไหร่จึงพูดแบบอายๆว่า“รู้สึกสบายมากค่ะไม่เมื่อยเลย”
“งั้นก็ดีละ”หลินหยางนั่งลงข้างๆลั่วหยิ่งเนื่องจากเมื่อกี้ใช้แรงไปมากทำให้เขาเหนื่อยมาก
ลั่วหยิ่งที่กำลังนอนอยู่บนเตียงตอนนี้เมื่อรู้ว่าหลินหยางกำลังจ้องมาที่หน้าอกของเธอก็ตกใจหน้าอกที่ได้รับการนวดจนนุ่มจากหลินหยางเมื่อสักครู่นี้ก็กลับมาแข็งอีกครั้ง
“พี่หลินหยางจ้องมองแบบนี้มันไม่สมควรเลยนะคะ”สาวน้อยคนนี้ก็ทนไม่ไหวจนต้องตำหนิออกมา
หลินหยางที่กำลังหลงใหลเมื่อได้ยินดังนั้นก็ตอบอย่างเลิ่กลั่กว่า“แค่ดูเฉยๆ”
“พี่หลินหยางผู้หญิงคนนี้สวยขึ้นมั๊ยคะ”ลั่วหยิ่งพูดด้วยเสียงเล็กๆ
หลินหยางได้ยินก็ตกใจแล้วมองไปที่หน้าอกของลั่วหยิ่งพยักหน้าแล้วพูดว่า“อื้มลั่วหยิ่งก็โตแล้วก็คงจะสวยมากนะ”
“ทำไมแค่คงจะล่ะคะ?”ลั่วหยิ่งรีบถามต่อ
“ก็พี่ไม่เคยเห็นนี่จะไปรู้ได้ยังไง”หลินหยางตอบไปอย่างดีใจ
เมื่อได้ยินที่เขาพูดลั่วหยิ่งก็อายพอลุกขึ้นนั่งก็ก้มลงมองหน้าอกของตนเองเธอยิ้มอ่อนๆแล้วพูดเบาๆว่า“พี่หลินหยางงั้นหนูเปิดให้ดูพี่ดูซิว่ามันสวยมั๊ย”
พูดเสร็จลั่วหยิ่งก็เปิดเสร็จให้ดูหลินหยางก็ตาลุกโพลน
ในเวลาอันรวดเร็วบริเวณที่ทำให้คนตื่นเต้นก็ถูกเปิดโชว์ออกมาเมื่อมองที่ก้อนเนื้อขาวๆนุ่มๆและอวบอิ่มหลินหยางก็เลือดกำไลออกมาจากที่เขาเริ่มมีอารมรณ์เมื่อก่อนหน้านี้คราวนี้อารมณ์นั้นก็รุนแรงกว่าเดิม
“พี่หลินหยางของหนูสวยมั๊ย?”ลั่วหยิ่งถามต่อ
“สวยสิผู้ชายเห็นแล้วชอบแน่”หลินหยางพยักหน้าตอบ
เมื่อได้ยินที่เขาพูดลั่วหยิ่งก็ก้มหน้าลงเอาเสื้อปิดบริเวณหน้าอก
“พี่หลินหยางพี่ชอบมั๊ยคะ?”ลั่วหยิ่งถามอีก
“พี่……..”หลินหยางก็หยุดชะงั้นไปชั่วครู่เขาลังเลว่าควรจะตอบยังไง
“หนูรู้ละ”ลั่วหยิ่งพูดขึ้นมาโดยไม่รอให้เขาตอบ
“แกรู้อะไร?”หลินหยางถามพร้อมรอยยิ้ม
“พี่ต้องชอบแน่ๆ”ลั่วหยิ่งยืนยันในความเห็นของตัวเอง
“รู้ได้ยังอะ?”หลินหยางก็เกิดตกใจเด็กคนนี้รู้ได้ไงว่าเขาชอบหรือไม่ชอบ
“มาถึงขนาดนี้แล้วยังไม่ชอบอีกหรอ?จะโกหกทำไม?”ลั่วหยิ่งก็เอามือไปแตะมือหลินหยางกำอย่างแน่นพร้อมความรู้สึกที่เร่าร้อน
หลินหยางก็หน้าแดงสาวน้อยคนนี้ไม่ใช่เด็กๆแล้ว
เหมือนว่าลั่วหยิ่งจะมีความสนใจในร่างกายของผู้ชายมากไม่นานก็ลูบไล้ไปทั่วร่างของเขาลูบจนถึงบริเวณของลับหลังจากที่ลูบไปรอบๆเธอก็มองไปที่หลินหยางแล้วพูดว่า“พี่หลินหยางของพี่ก็ใหญ่นะเนี่ย”
“รู้ได้ไงว่าใหญ่?เคยเห็นหรอ?”เมื่อได้ยินหลินหยางก็ถามกลับด้วยความอาย
“จะไปเคยเห็นได้ไงหนูฟังจากเพื่อนที่อยู่หอพูดกัน”ลั่วหยิ่งตอบกลับด้วยเสียงที่เบา
“เพื่อที่อยู่หอ?พวกเขาเคยเห็นจริงๆหรอ?”หลินหยางก็ตกใจเพื่อนๆของลั่วหยิ่งนั้นก็อยู่ม.ปลายเหมือนกับเธอทำไมเด็กม.ปลายสมัยนี้ถึงเปิดกว้างแบบนี้นะ?
“จะไปเคยเห็นได้ไงคือมีเพื่อนเคยเห็นแค่คนเดียวเองเธอชื่อตงฟางเยี่ยนซึ่งหนูค่อนข้างสนิทได้ยินว่าเขาสอบติดหมอนะ”ลั่วหยิ่งคิดไปพูดไป
“เขาเคยเห็นได้ยังไง?นี่ปกติคุยอะไรกันเนี่ย?”ลั่วหยิ่งทำให้หลินหยางรู้สึกสงสัยจึงรีบถามกลับไป
“ไม่ได้คุยอะไรมากค่ะแค่เรื่องที่นางเคยเห็นของลับของผู้ชายแล้วเล่าว่าส่วนใหญ่มันจะยาว13ซม.กว่ายาวที่สุดก็คือ16ซม.แต่ของพี่หลินหยางนั้น…….”เมื่อพูดเรื่องที่เขินอายลั่วหยิ่งก็พูดต่อไม่ออก
เมื่อได้ยินหลินหยางก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจว่าตนเองนั้นทุนหนาซึ่งเขาภูมิใจมากเขาจึงให้ลั่วหยิ่งลูบไล้บนกายเขาต่อเพื่อจะสัมผัสถึงมืออันนุ่มๆนั้น