ตอนที่76มานั่งข้างฉัน
“หลินหยาง,เมื่อไหร่คุณจะพาฉันออกไปเดินเล่น.”จางเยว่กล่าวอย่างไม่พอใจ
“วันมะรืนนี้พรุ่งนี้อยูบ้านอีกหนึ่งวัน,วันก่อนเพิ่งจะออกไปข้างนอกแม้ว่าผิวของคุณจะดูดีแต่ก็ยังงติดเชื้อได้ง่าย”หลินหยางหัวเราะ
“’งั้นก็ดี”จางเยว่กล่าวอยู่บนที่นอนจนเบื่อ
เมื่อมองดูท่าทางที่น่าเบื่อนี้ของจางเยว่,หลินหยางหัวเราะว่า:”คุณต้องการหาหนังสือเล่มหนึ่งมาอ่านฆ่าเวลามั้ย?”
“ก็ดีนะ,ดีกว่าไม่มีอะไรทำ”จางเยว่เห็นด้วยทันที
หลินหยางหยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาจากลิ้นชักโต๊ะ,เมื่อจางเยว่กำลังจะแจกมันทันใดนั้นเขามือสั่นก็หยุดทันที
“นี่เป็นหนังสือประเภทใด”จางเยว่คว้ามันหลินหยางไม่ได้ตรวจสอบสักพักแล้วก็ประสบความสำเร็จโดยจางเยว่
“ไม่สามารถดูได้”หลินหยางพูดเสียงดัง
“ไอ้ห่าอ่านอะไรไม่ได้โอ้-“จ่างเยว่จู่ๆก็ไม่ชัดเจนหลังจากดูหน้าชื่อหนังสือเล่มนี้เห็นได้ชัดว่าหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือตรัสรู้สำหรับเด็กที่ขายโดยผู้ขายริมถนน
จางเยว่ถามด้วยรอยยิ้มขี้เล่นว่า”คุณซื้อสิ่งนี้เมื่อไหร่?”
“ฉันซื้อมันในโรงเรียนมัธยมฉันไม่ได้เห็นมันมาหลายปีแล้วฉันคิดว่ามันถูกเหวี่ยงออกไปจากฉันมันกลับกลายเป็นว่ามันยังอยู่ใต้ตู้”ลินหยางสารภาพอย่างตรงไปตรงมา
“โย่มันยังอยู่ในช่วงเริ่มพัฒนาฉันรู้หนังสือเล่มนี้ในโรงเรียนมัธยม”จางเยวจ้องมองที่หลินหยางด้วยรอยยิ้มในดวงตาของเขา:“เอาละเจ้าไปหาหมอฉันจะอ่านหนังสือเล่มนี้”
เนื่องจากพบว่าไม่มีอะไรที่จะซ่อนเขาถอนหายใจว่าเขาถูกทำลายอย่างไร้เดียงสาโดยหนังสือเล่มนี้และเดินไปที่บ้านของฮันนาพร้อมกล่องฝังเข็ม
หลังจากมาถึงบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านฮันนานั่งอยู่บนโซฟาถูคอด้วยมือของเธอเมื่อเห็นหลินหยางเข้ามาเขาก็รีบทักทายว่า:”เสี่ยวหยางเข็มนำมาได้อย่างไร”
“แน่นอนนี่ไม่ใช่กรณีนี้ถ้าคุณพร้อมคุณสามารถเริ่มได้แล้ว”หลินหยางหัวเราะ
“โอเคฉันนั่งบนโซฟาหรือนอนบนเตียงเหรอ?”ฮันนาถาม
“ยังไงก็ได้ถ้าคุณนั่งแล้วไม่รู้สึกเหนื่อยก็นั่งไปเถอะและก็สามารถนอนบนเตียงก็ได้ครับ”หลินหยางพูดพร้อมรอยยิ้ม
“ใช้เวลานานเท่าไหร่เหรอ?”ฮันน่าถาม
“ไม่นานหรอกครับทั้งนวดพร้อมกับฝังเข็มก็ประมาณ20-30นาที”หลินหยางตอบปัญหาเล็กน้อยเหล่านี้ใช้เวลาเล็กน้อยก็สามารถรักษาได้แล้ว
“ครึ่งชั่วโมงก็ไม่นานนะเธอคงเหนื่อยแย่เลยมาที่เตียงเถอะ”แววตาที่มีเสน่ห์กวาดมองไปที่หลินหยางบิดตัวเล็กน้อยแล้วก็เดินเข้าไปในบ้าน:“เสี่ยวหยางตามฉันเข้ามาสิ”
บ้านของหัวหน้าหมู่บ้านนั้นดีจริงๆเฟอร์นิเจอร์ก็โอเคแค่พูดถึงเรื่องเตียงของฮันน่ามันทั้งใหญ่และสบายกว่าของเธอมาก
ฮันน่าถอดรองเท้าแล้วขึ้นไปนอนบนเตียงหลินหยางนั่งลงข้างๆเตียงหลังจากฮันน่าเตรียมตัวพร้อมแล้วเลือดลมในกายแล่นสูบฉีดจากนั้นก็วางมือลงบนคอของฮันน่าและนวดเบาๆ
“ใช่แล้วทำไมถึงไม่เจอผู้ใหญ่บ้านเลยล่ะครับ?”หลินหยางถามขึ้นอย่างสงสัย
“ไปประชุมที่เจียงหลิงน่ะคาดว่าคงไม่ใช่เรื่องใหญ่พาลูกไปด้วยอีกในบ้านจึงเหลือฉันแค่คนเดียว”ฮันน่าตอบ
หลินหยางไม่ได้ถามอะไรเพิ่มมือก็นวดไปรอบๆลำคอที่ลำคอของฮันน่ามีเสียงกระดูกลั่นรัวๆ
“สบายจังเสี่ยวหยางฝีมือของเธอนี่ไม่เลวเลยทีเดียวรู้สึกว่าสบายที่คอขึ้นมากเลยล่ะ”ฮันน่าพูดยิ้มๆ
“นี่แค่ผิวเผินเองมีเลือดบางส่วนค้างอยู่ตรงลำคอของคุณผมจะจัดการให้สักหน่อยถ้าคุณหันคอคุณก็จะเจ็บรอให้ผมนวดให้ทั่วๆจนเสร็จก่อนแล้วค่อยหันคอนะครับ”
ฮันน่าพยายามที่จะไม่หันคอและนอนอยู่บนเตียงนิ่งๆแล้วถามออกไปด้วยน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำว่า:“เสี่ยวหยางเมื่อวานมีคนที่มาบ้านของเธอสองสามคนนี่แล้วทั้งหมดมาจากที่ไหนเหรอทำอะไรกันเหรอ?”
“ทั้งหมดเป็นคนในเมืองน่ะเหมือนจะมีอาการอะไรบางอย่างซึ่งต้องรักษาโดยการฝังเข็มประจวบเหมาะกับที่สองสามวันก่อนผมเข้าไปในเมืองพอดีและพบกับพวกเขาผมเลยบอกไปว่าผมสามารถรักษาได้ให้พวกเขาหาเวลามาหาผมแล้วเมื่อวานนี้พวกเขาก็มาเลยรักษาให้เสร็จพวกเขาก็กลับไป”
“เธอเก่งจังเลยสามารถทำให้คนในเมืองมาหาหมอได้พวกเขาจ่ายเงินเธอเท่าไหร่อ่ะ?”ฮันน่าถามขึ้น
“ไม่เยอะหรอกครับแต่ก็ไม่น้อยคงจะพอกับค่ากินอยู่ในมหาวิทยาลัยของผมน่ะ”หลินหยางบอกอ้อมๆ
“งั้นก็คงไม่น้อยในเมื่อเธอจ่ายค่าครองชีพในมหาวิทยาลัยได้ก็คงจะหลายพันหยวนอยู่หรอก”
หลินหยางไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่ยิ้มดูเหมือนว่าจะหลายพันหยวนอยู่เมื่อฮันน่าเห็นว่าหลินหยางไม่ได้ปฏิเสธมันยืนยันสิ่งที่คิดอยู่ในใจของตัวเองแน่นอนปากก็อุทานออกมาว่า:“เธอยังเด็กอยู่เลยและด้วยทักษะของเธอแล้วนั้นคงจะเพียงพอที่จะหาภรรยาดีๆในอนาคต”
“ที่ไหนกันล่ะครับจะเป็นที่พึ่งให้แฟนยังไม่ได้เลยจะเอาที่ไหนมาเลี้ยงภรรยาล่ะครับ”หลินหยางพูดพร้อมหัวเราะแห้งๆ
“จะรีบร้อนทำไมกันเธอดูดีและยังมีทักษะด้วยต่อไปไม่มีอะไรที่จะหาไม่เจอหรอก”หลังจากหยุดไปฮันน่าจึงถามขึ้นมาอย่างลับๆว่า:“เสี่ยวหยางเธอกับหญิงสาวในบ้านของเธอน่ะทำเรื่องแบบนั้นกันหรือเปล่า?”
“ไม่หรอกครับคุณคิดไปถึงไหนแล้วเนี่ยครับ?”คราวนี้หลินหยางพูดขึ้นอย่างจริงจัง
“จริงๆนะสาวใหญ่รูปร่างสวยขนาดนั้นอยู่ในบ้านของเธอเธอได้เห็นทุกสัดส่วนของร่างนั้นอยู่แล้วเธอยังไม่ได้ทำอะไรกันเลยเหรอเธอโกหกหรือเปล่า?”ฮันน่ายังคงไม่เชื่อเท่าไหร่
“เป็นไปได้ยังไงกันครับเธออายุสามสิบแล้วนะแก่กว่าผมตั้งหลายปี”หลินหยางพูดแก้ตัว
ฮันน่าเลยพูดขึ้นว่า:“สามสิบแล้วยังไงล่ะเธอรังเกียจสาวใหญ่อย่างนั้นเหรอ?”
“จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไงล่ะครับฮันน่าผมแค่รู้สึกว่าคุณยังดูเด็กมากเลยล่ะจะไปรังเกียจสาวใหญ่ได้ยังไงกันเพียงแต่คนในบ้านคงจะมองว่าผมยังเป็นเด็กอยู่แน่ๆเลย”หลินหยางพูด
ได้ยินหลินหยางพูดว่าตัวเองยังเป็นเด็กอยู่ฮันน่าเองก็ชื่นใจใจเต้นตึกตักและพูดออกมาว่า:ดูเธอพูดเข้าสิป้าน่ะแก่แล้วนะยังเด็กอยู่ที่ไหนกันล่ะ?”
“แก่ยังไงครับไม่แก่เลยสักนิดคุณดูผิวของคุณสิครับยังดูอ่อนโยนและสวยกว่าสาวๆอีกถ้าคุณไม่บอกว่าแก่แล้วเนี่ยคงจะไม่มีคนแก่หรอกครับ”
“อย่ามากวนน่าพูดไร้สาระ”หลังจากที่ฮันน่าได้ยินก็เหมือนพูดกับหลินหยางต่อว่า:“แม้ว่าเธอจะยังเด็กอยู่แต่ไม่ใช่ว่าผู้หญิงทุกคนจะไม่ชอบคนที่เด็กกว่าหรอกนะเธอน่ะมีทั้งเงินทุนและยังแข็งแรงถ้าหล่อนรู้หล่อนจะต้องชอบแน่ๆ”
“ครับฮันน่าคุณอย่าเพิ่งพูดไร้สาระเลยครับหล่อนถูกผมดึงขึ้นมาจากแม่น้ำร่างกายก็ยังไม่หายดียังไม่สามารถที่จะทำอะไรได้หรอกครับ”
“นี่ก็แปลกนะเธอไม่ได้ขโมยของๆใครมาแต่ก็กลัวว่าจะกินไม่ได้”ฮันน่าหัวเราะออกมาในขณะที่พูดเล่นๆ
“เพี้ยะ!”เสียงดังขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อมือของหลินหยางตบลงไปที่ก้นของฮันน่า
“อ่า!”ทันใดนั้นก็ถูกหลินหยางโจมตีฮันน่าก็ร้องอุทานออกมาโดยไม่ทันได้คาดคิดเมื่อรู้ว่าตัวเองถูกหลินหยางตีจึงพูดขึ้นมาอย่างอายๆว่า:“เสี่ยวหยางเธอทำอะไรเนี่ย?”
“ลงโทษคุณไงครับที่คุณพูดจาไร้สาระ”หลินหยางหัวเราะออกมาเบาๆ
ฮันน่ารู้สึกแปลกๆนิดหน่อยหลังจากที่ตัวเองถูกหลินหยางตีแต่ในใจกลับไม่ได้รู้สึกโกรธเลยแม้แต่น้อย
“เธอกล้าเอาเปรียบป้าอย่างนั้นเหรอ?รอผู้ใหญ่บ้านเธอกลับมาก่อนฉันจะไม่ให้เขาทำความสะอาดให้เธอเลยล่ะ”ฮันน่าหัวเราะออกมาพร้อมทั้งดุไปด้วย
“ผมเอาเปรียบคุณที่ไหนกันไม่ใช่ว่าคุณต้องการจะใส่ร้ายผมหรอกเหรอ”หลินหยางพูดออกมาจากปากของเขาเองแต่ในใจของเขากลับนึกถึงแต่ความเด้งดึ๋งจากก้นของฮันน่ามันทั้งนุ่มและให้ความรู้สึกสบายมือจริงๆ
“ได้ๆเป็นฉันที่ผิดเองอย่างนั้นใช่ไหม?”ฮันน่าพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้
หลินหยางยังคงนวดคอให้ฮันน่าต่อไปเรื่อยๆตั้งสมาธิอยู่กับร่างกายของเธออยู่เป็นเวลานานเอวของหลินหยางจึงรู้สึกปวดขึ้นมาเล็กน้อย
“เหนื่อยแล้วเหรอหรือเธอจะขึ้นมานั่งคร่อมบนตัวฉันก็ได้นะ”ฮันน่าพูด
“ได้ยังไงกันล่ะครับผมตัวหนักแบบนี้”หลินหยางปฏิเสธออกไปอย่างรวดเร็ว
“ไอ้หยาเธอจะมาเกรงใจอะไรกับฉันผิวหนาออกขึ้นมานั่งเถอะเร็วๆเข้า”ฮันน่าพูดกับหลินหยางอย่างรีบร้อนพยายามที่จะดึงแขนของหลินหยางเพื่อให้ขึ้นเขาขึ้นมาบนเตียง
เมื่อเห็นฮันน่าทำแบบนั้นหลินหยางก็ไม่ปฏิเสธเขาถอดรองเท้าแล้วขึ้นไปบนเตียงนั่งคร่อมลงไปบนร่างของฮันน่ามือก็ยังคงนวดต่อไป
เมื่อรู้สึกได้ถึงร่างกายอันบอบบางของฮันน่าที่อยู่ภายใต้ร่างของตนสะโพกอันเซ็กซี่นั้นเย้ายวนชวนให้หลินหยางเกิดแรงกระตุ้นเยอะมากเดิมทีไม่ได้รู้สึกอะไรแต่ตอนนี้กลับเริ่มรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้น
เขานวดอยู่ในท่านี้อยู่ประมาณสิบนาทีหลินหยางจึงพูดขึ้นว่า:“ฮันน่าตอนนี้คุณลองหันคอดูสิว่ายังเจ็บอยู่หรือเปล่า”
หลังจากได้ยินเสียงบิดคอไปมาของฮันน่าทันใดนั้นดวงตาของเขาก็ฉายแววตาประหลาดใจออกมาเมื่อมองไปที่หลินหยางก็พูดขึ้นมาด้วยความประหลาดใจว่า:“เสี่ยวหยางไม่เจ็บแล้วจริงๆด้วยเทคนิคของเธอเนี่ยมันน่าทึ่งจริงๆ!”
“นั่นคือมันเป็นเทคนิคการรักษามาจากบรรพบุรุษน่ะครับ”หลินหยางพูดขึ้นด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจและพูดต่อว่า:“ฮันน่าคุณนอนราบต่อไปก่อนนะผมจะฝังเข็มให้”
ฮันน่าได้ฟังดังนั้นก็ยังคงนอนราบต่อไปหลินหยางดึงเข็มเงินออกมาจากกล่องเข็มเงินบางส่วนมองไปที่จุดฝังเข็มแล้วก็สอดเข็มเงินเข้าไปตรงลำคอหกจุด
เลือดลมในร่างกายสูบฉีดพลังต่างแล่นเข้าสู่ลำคอของฮันน่าผ่านเข็มเงินความรู้สึกมีชีวิตชีวาและความมึนงงก็แสดงออกมาทำให้ฮันน่ารู้สึกสบายขึ้น
จากนั้นก็บิดเข็มเงินเบาๆเพื่อปรับตำแหน่งของเส้นเลือดบางส่วนของฮันน่าหลังจากที่ทำมากว่าสิบนาทีในที่สุดก็ถอนหายใจของมายาวๆจากนั้นจึงดึงเข็มเงินนั่นออก
“โอเคครับต่อไปในอนาคตถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุก็จะไม่คอเคล็ดอีกแล้วครับ”หลินหยางพูดพร้อมดึงเอาเข็มเงินออก
“เธอนี่เก่งจริงๆวันนี้เลยต้องรบกวนเธอแล้ว”ฮันน่าพูดขึ้นด้วยความดีใจและขอบคุณพร้อมรอยยิ้ม
“ไม่เป็นไรครับคนบ้านเดียวกันครับมีอะไรที่พอช่วยได้ก็ช่วยๆกันครับ”หลินหยางพูดออกมาอย่างไม่สนใจ
“เธอไม่มีอะไรแล้วฉันก็ไม่มีอะไรแล้วล่ะความเจ็บปวดทรมานนี้ถ้าไม่ได้เธอฉันก็คงเจ็บไปอีกหลายวัน”ฮันน่ารู้สึกขอบคุณหลินหยางเป็ยอย่างมากเมื่อมองตาหลินหยางแล้วทันใดนั้นก็บิดสะโพกด้วยความเขินอายและพูดว่า:ยังไงเนี่ยนั่งบนตัวป้าแล้วสบายจนไม่อยากลงเลยสิน?”
เมื่อรู้สึกถึงการบิดสะโพกไฟราคะอันชั่วร้ายในตัวหลินหยางก็แสดงออกมาความมีชีวิตชีวานั้นก็อูมนูนออกมาอย่างชัดเจน
หลินหยางพูดพลางลุกขึ้นว่า:“ลืมไปเลยครับงั้นผมลงแล้วนะครับ”
ฮันน่าพลิกตัวลุกขึ้นมานั่งบนเตียงมองที่ตาของหลินหยางแล้วถามว่า:“เท่าไหร่ล่ะฉันจะจ่ายให้เธอเอง”
“ไม่คิดเงินหรอกครับอาการป่วยนี้ไม่ได้ใช้ยาอะไรเลยไม่ต้องจ่ายเงินค่าอะไร”หลินหยางรีบโบกมือเป็นเชิงปฏิเสธ
“ในเมื่อรักษาแล้วทำไมจะไม่ต้องการเงินล่ะสิบเหรียญโอเคไม๊”ฮันน่าลุกขึ้นไปหยิบเงิน
“ผมไม่ต้องการเงินจริงๆครับตอนนี้ผมก็ไม่ได้ขัดสนด้วยถ้าคุณจะจ่ายเงินผมผมจะโกรธแล้วนะครับ”หลินหยางรีบดึงฮันน่ากลับมาและกดไว้กับเตียง
“ถ้าหมอคนอื่นเป็นแบบเธอพวกเขาจะไม่อดตายกันหมดเหรอ”แม้ว่าฮันน่าจะพยายามจ่ายเงินในราคาสิบเหรียญแต่หลินหยางก็ไม่รับเงินในใจก็รู้สึกมีความสุขและเล่นมุกตลกกับหลินหยาง
“มันไม่เหมือนกันคนอื่นอาจจะต้องการเงินแต่สาวสวยก็ไม่ต้องการเงิน”หลินหยางยังคงเล่นมุกกับเธอทันใดนั้นก็ทำให้ฮันน่ารู้สึกมีความสุขมากขึ้น
“เธอไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยจากการเข้าไปในเมืองเลยหรออย่างการพูดจาแถไถนี่ก้าวหน้าขึ้นเยอะเลย”ฮันน่ายิ้มตอบ
“งั้นผมก็จะบอกตามตรงเลยนะครับ”สีหน้าของหลินหยางดูซีเรียสขึ้นมา
“โอเคอย่ามาเสแสร้งเลย”ฮันน่ายิ้มและเหลือบตามองลงไปที่ขาของหลินหยางหลังจากเห็นร่างกายที่เคลื่อนไหวอยู่นั้นหัวใจของเธอก็พลันเต้นแรงเมื่อคิดไปถึงก่อนหน้านี้ที่เขานั่งคร่อมอยู่บนร่างของตัวเธอเองแน่นอนว่ามันคงไปกระตุ้นเขาแน่ๆ
เธอเอื้อมมือออกมาสัมผัสเข้ากับขาของหลินหยางกุมเอาไว้ในมือก็รู้สึกได้ถึงความยาวอันน่าทึ่งฮันน่าจึงพูดขึ้นว่า:“เสี่ยวหยางทำไมปฏิกิริยาของเธอถึงได้ใหญ่ขนาดนี้ล่ะ?”
“ไม่ใช่เพราะว่าคุณสวยเกินไปจนดึงดูดผม”
“ที่เธอพูดมามันน่าแปลกใจจริงๆที่เธอพูดแบบนี้ทำไมถึงไม่เชิญชวนหญิงสาวมาล่ะ”ฮันน่าส่งเสียงหัวเราะคิกคัก
“ปกติก็มักจะอยู่หอไม่ได้ออกไปข้างนอกจะมีผู้หญิงที่ไหนเจอล่ะครับ”
ฮันน่าจ้อมมองหลินหยางด้วยแววตาเป็นประกายและเอ่ยถามขึ้นเบาๆว่า:“หรือว่าฉันจะช่วยแนะนำให้เธอดีล่ะ?”