ตอนที่ 103 การชิดเข้ามาใกล้ของจ้าวจินฟ่ง
“ฮาโหล เซียนเฉ่า ทำไมโทรมาให้ผมดึกดื่นแบบนี้ละ?”หลินหยางยิ้มแล้วรับโทรศัพท์
“นี่ก็มาบอกข่าวดีให้คุณละสิ?คุณรู้ไหม?ครีมแผลลายพวกนั้นฉันขายหมดแล้วนะ ถูกคนแย่งกันซื้อจนหมด เรียกได้ว่าไม่เพียงพอจริงๆ”เสียงอีกฝั่งของไป๋เซียนเฉ่ามีความกระตือรือร้น
หลินหยางได้ยินแบบนี้ยักคิ้ว ครีมแผลลายยี่สิบขวด ถูกผู้หญิงคนนี้ขายจนหมด?ถ้าเธอขายขวดละห้าแสนหยวน งั้นยี่สิบขวดก็สอบล้าน!
ตัวเลขใหญ่ขนาดนี้ หลินหยางเคยเห็นแค่ในทีวีและในนิยาย ตอนนี้ในมือไป๋เซียนเฉ่าได้เงินมาสิบล้าน ถึงแม้จะตัดต้นทุนออก ก็เป็นเก้าล้าน ผู้หญิงคนนี้ สมแล้วที่เป็นคนเก่งในด้านการค้า
“โห คุณเก่งจริงๆ ผมยินดีกับคุณด้วยนะ ใช่แล้ว ครีมแผลลายยังจะเอาอีกไหม?”หลิน หยางเอ่ยปากถาม
“เอา เอาแน่นอน คุณคงยังมีอยู่นะ?”ไป๋เซียนเฉ่ายิ้มแล้วถาม
“จากการตอบรับในตอนนี้ ตลาดของครีมแผลลายนี้ถือว่ากว้างอยู่ ฉันก็ไม่รู้ว่าครึ่งเดือนคุณจะทำออกมาได้กี่ขวด ฉันจองกับคุณไว้ยี่สิบขวดก่อนละกัน ยังมีคนบางส่วนต้องการซื้อ ฉันกลัวคุณทำออกมาไม่ได้ ก็เลยไม่ได้รับมา”ไป๋เซียนเฉ่าพูดด้วยความขี้เกียจ เหมือนเงินไม่สามารถทำให้เธอสนใจมากนักในสายตาของเธอ
แต่ว่าฟังจากน้ำเสียงของเธอ หลินหยางรู้ได้ว่ามีความตื่นเต้นและความหวังอยู่ในนั้นบ้าง
“ตอนนี้ผมยังอยู่เมืองจินหลิง เวลาครึ่งเดือน ถ้าไม่มีเหตุขัดข้อง สามารถทำออกมาประมาณห้าสิบขวด ถึงเวลาผมโทรให้คุณนะ”หลินหยางพูดแล้วยิ้ม
“ใช่แล้ว ยังมีครีมโต้วโค่วด้วย วันนี้ฉันเสนอออกมาด้วย ได้รับการชื่นชอบจากผู้หญิงมากมาย อันนี้ฉันไม่รู้ว่าภายในครึ่งเดือนคุณทำออกมาได้เท่าไหร่ ฉันขอจองไว้ยี่สิบขวดก่อน ถ้าคุณสามารถทำออกมาได้ ทำมาเผื่อฉันบ้างนะ”
“อืม ครึ่งเดือนนี้ผมจะทำออกมาห้าสิบขวด ถึงเวลานั้นแบ่งให้คุณบ้าง”หลินหยางคิดดูสักพัก “ใช่แล้ว ผมต้องการขวดเพิ่ม คุณทำขวดของครีมโต้วโค่วให้ผมหน่อย อีกหกวันผมจะกลับไปที่เมืองเจียงหลินหนึ่งครั้ง ถึงตอนนั้นผมเอาครีมโต้วโค่วให้คุณ”
ได้ยินการรับปากของหลินหยาง ไป๋เซียนเฉ่าดีใจมาก ยิ้มแล้วพูด”ได้ งั้นถึงตอนนั้นคุณโทรให้ฉันนะ ห้ามผิดนัดละ”
“วางใจได้เลย จะไปโกหกคุณทำไม”หลินหยางพูดด้วยความไม่รู้จะทำยังไง
“ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ดี ก็กลัวคุณจะผิดสัญญานิ ใช่แล้ว หลายวันแล้วนะ คิดถึงพี่บ้างไหม ทำไมไม่โทรให้ฉันเลย ยังต้องรอให้ฉันโทรหาคุณเหรอ”น้ำเสียงไป๋เซียนเฉ่าเปลี่ยน ถามด้วยความอ่อนโยนอย่างกะทันหัน
หลินหยางถูกคำถามของไป๋เซียนเฉ่าถามจะไม่รู้จะตอบยังไง จากนั้นยิ้มแล้วตอบ “แน่นอน แต่ว่าผมโทรให้คุณแบบนี้ ก็กลัวว่าจะไปทำลายความสงบคุณ ผมไม่กล้าไปโทรให้คุณหรอก”
“ไสหัวไปเลย ร่างกายของเค้าก็โดนคุณเห็นจนหมดเปลือกแล้ว ตอนนี้คุณทำกับฉันแบบนี้ คอยดูครั้งหน้าจะจัดการคุณยังไง!”ไป๋เซียนเฉ่าพูดด้วยความไม่พอใจ
หลินหยางได้ยินแบบนี้แล้วหัวเราะ พูดไม่ออกสักคำ
“ตอนนี้คุณยังอยู่หมู่บ้านบางเพทไหม?”ไป๋เวียนเฉ่าถาม
“ไม่อยู่ ผมอยู่ที่เมืองจินหลิง ส่งพี่เยว่กลับบ้าน สุดท้ายพบคนป่วย จึงอยู่รักษาให้คนอื่น
“………….”
ทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน พูดตั้งนานจึงค่อยวางสายลง และจ้าวจินฟ่ง ก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ตอนที่หลินหยางวางสายลง
เมื่อหลินหยางเห็นจ้าวจินฟ่งที่เดินออกมาจากห้องน้ำ ดวงตาโต ผมที่เดิมทีมัดไว้ปล่อยไว้ในไหล่ ใบหน้ารูปไข่ สายตาที่ดื้อรั้นเผยความอ่อนโยนออกมา ผ้าขนหนูสีขาวห่อหุ้มไว้บนตัว ก้อนหิมะสองอันใหญ่โต ซ่อนอยู่หลังผ้าเช็ดตัว เผยความสวยงามออกมาเล็กน้อย
และขาเรียวคู่นั้น ขาวเหมือนหิมะ นุ่มลื่นไม่มีเนื้อส่วนเกิน มองแล้วเลือดแทบกระเด็นออกจากตา
หลินหยางมองดูคนตรงหน้า เอ่ยปากพูด “คุณสวยจริงๆ
ได้ยินหลินหยางเอ่ยชมตรงๆแบบนี้ ใบหน้าของจ้าวจินฟ่งแดง มองบนใส่หลินหยาง “ถือว่าคุณสายตาดี”
วางเสื้อผ้าของตนเองไว้บนเก้าอี้ หาเครื่องเป่าผมแล้วเป่าผมให้แห้ง เดินไปนั่งข้างเตียงภายใต้สายตาของหลินหยางที่มองอยู่
“มองอะไรของคุณ ยังไม่รีบไปอาบน้ำอีก “สัมผัสถึงสายตาอันเร่าร้อนของหลินหยาง จ้าวจินฟ่งหน้าแดง ดุเบาๆ
หลินหยางได้ยินแล้วหัวเราะอย่างร้ายๆ จากนั้นเริ่มถอดเสื้อผ้ากลางห้อง
“คุณบ้าเหรอ!ถอดเสื้อที่ไหน?”จ้าวจินฟ่งตะโกนด้วยความตกใจ
“ถอดเสื้ออาบน้ำ ทำไม คุณอาบน้ำใส่เสื้อเหรอ?”
“ใครให้คุณถอดที่นี่ละ?”
“เข้าไปแล้วเปียกทำไง อีกอย่างคุณไม่มองก็ได้แล้วนิ”หลินหยางพูดด้วยความไม่อาย จ้าวจินฟ่งโมโหจนหันหน้าไปอีกทางไม่ไปมองหลินหยาง
หลังจากเห็นจ้าวจินฟ่งใบหน้าแดง หลินหยางก็ไม่แกล้งเธอแล้ว ถอดเสร็จก็เดินไปในห้องน้ำ
ห้านาทีผ่านไป หลินหยางเดินออกมาจากห้องน้ำ มองดูจ้าวจินฟ่ง เธอห่มผ้านอนดูทีวี ฉวยโอกาสที่ตนเองไปห้องน้ำ ได้สวมเสื้อยืดเสร็จแล้ว
เสื้อยืดสีเหลืองอ่อนบางมาก ด้านบนสองก้อนเห็นได้ชัดมาก เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ใส่เสื้อใน มองดูก้อนเนื้อสองก้อนนั้นเหมือนจะทะลุออกมาจากเสื้อ หลินหยางอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย
เหมือนรู้สึกสายตาอันเร่าร้อนของหลินหยาง จ้าวจินฟ่งดึงผ้าห่มมา ปิดภาพบนหน้าอกไว้
“ไอ้ทะลึ่ง ยังกล้ามาคิดไม่ดีกับพี่เหรอ?”จ้าวจินฟ่งทนไม่ได้แล้วพูด
“ตรงไหน ผมก็แค่ถูกดึงดูด ถ้ามองจากมุมปกติ ไม่ผมไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย แสดงว่าไม่ตั้งแน่นอน”หลินหยางใช้คำพูดของจ้าวจินฟ่งสวนกลับไป
ได้ยินคำพูดของหลินหยาง จ้าวจินฟ่งมองบนใส่หลินหยางไม่ไปสนใจ จากนั้นตั้งใจดูทีวี
เห็นจ้าวจินฟ่งไม่สนใจตนเอง หลินหยางก็ไม่พูดมาก ดูทีวีพร้อมกับจ้าวจินฟ่ง สองคนนั่งอยู่บนเตียง กลิ่นหอมอ่อนๆบนตัวจ้าวจินฟ่งโชยมา ใจของหลินหยางเต้น ข้างในตันเถียนเริ่มเต้น
ในใจกระตุก ถ้าตนเองรู้สึกแบบนี้ แสดงว่าเจอคนที่ยังซิง จำได้ว่าตอนที่ตนเองเข้าใกล้ลั่วหยิ่งกับฉีเยนเอ๋อร์ก็เคยมีความรู้สึกแบบนี้
“หลินหยาง คุณมีแฟนไหม?”
“ยังไม่มี”
“ต่อไปคุณอยากทำอะไร?”
“ตอนนี้ยังไม่รู้ แต่ว่าจะทำสายการแพทย์ตลอด”หลินหยางตอบ
ทั้งสองคนดูทีวีไปด้วยพูดคุยไปด้วย สักพักก็สามทุ่มครึ่งแล้ว นักศึกษาตอนนี้นอนดึกกัน แต่จ้าวจินฟ่งจบมาสองปีแล้ว การใช้ชีวิตถือว่ามีระบบ สามทุ่มครึ่งก็เริ่มหาวละ
“ง่วงก็นอนได้แล้ว “หลินหยางยิ้มแล้วพูด
“อื้ม ได้”จ้าวจินฟ่งบิดขี้เกียจ
หลินหยางเปิดผ้าห่มออกจะไปนอน ก็ได้ยินเสียงร้องของจ้าวจินฟ่ง หลินหยางตกใจจนถอยออกห่างๆ วินาทีที่เปิดผ้าห่มออก หลินหยางรู้สึกว่ามีขาสองข้างผ่านหน้าของเขา
ไม่รอให้หลินหยางถาม จ้าวจินฟ่งรีบเอาผ้าห่มทับไว้บนตัว ตะโกนบอกว่า “ไอ้อันธพาล เปิดผ้าห่มทำไม!”
หลินหยางถูกถามจนไม่รู้ตอบยังไงดี ยิ้มด้วยความเก้อเขิน เอ่ยปากอธิบาย “ผมจะไปรู้ได้ไงว่าคุณไม่ได้ใส่กางเกง ถ้าไม่งั้นผมจะกล้าได้ไง”
เตียงนอนคู่นี้มีแค่ผ้าห่มใหญ่หนึ่งอัน หลังจากหลินหยางใส่กางเกงในเสร็จ มองดูจ้าวจินฟ่งที่หน้าแดง ปิดไฟ จากนั้นเปิดไฟบนหัว ไม่ไปเปิดผ้าห่ม แต่มดเข้าไปตรงๆ
ทั้งสองคนนอนอยู่บนเตียงอย่างเงียบๆ ตั้งนานเห็นจ้าวจินฟ่งไม่พูด หลินหยางหลับตาลง ภายในร่างกายเริ่มขับเคลื่อนพลังมังกรและหงส์ เริ่มฝึกอย่างเงียบๆ
จ้าวจินฟ่งที่เดิมทีแค่หัวใจเต้นแรง ทันใดนั้นรู้สึกมีกลิ่นไอที่ดึงดูดคนแพร่ออกมาจากตัวของหลินหยาง ในใจมีความคิดอยากชิดเข้าไปใกล้ตัวหลินหยาง
ในใจคิดแบบนี้ จ้าวจินฟ่งแอบด่าตนเองว่าต่ำ แต่ความดึงดูดนี้ยิ่งอยู่ยิ่งแรงขึ้นทุกที สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะขยับตัวไปใกล้หลินหยาง
หลินหยางยังไม่ได้ฝึกอย่างจริงจัง เห็นจ้าวจินฟ่งขยับมาทางนี้ ขาที่อ่อนนุ่มถูกตัวของหลินหยาง จ้าวจินฟ่งร้อง มองดูหลินหยางด้วยใบหน้าที่แดง พูดด้วยความไม่พอใจ “คุณยื่นขามาทำไม?”
หลินหยางได้ยินเช่นนี้รู้สึกอาย รีบอธิบายว่า “ผมไม่ได้ทำสักหน่อย คุณเองไม่ใช่เหรอที่ขยับมาใกล้ผม”
“คุณมีวิชามารอะไรใช่ไหม?ทำไมเมื่อกี้ฉันจะอยากเข้าใกล้คุณโดยไม่รู้ตัว”จ้าวจินฟ่งมองดูหลินหยางแล้วถาม
หลินหยางเอียงตัวแล้วมองจ้าวจินฟ่ง เห็นใบหน้าที่สวยงามของเธอ ในใจอดไม่ได้ที่จะเต้นไปสองที ยิ้มแล้วพูด “อาจเป็นเพราะว่าตอนนอนผมมีเสน่ห์ที่สุดก็ว่าได้นะ”
“ไปตายเหอะ!”จ้าวจินฟ่งจ้องมองหลินหยางแรงๆ จากนั้นขยับร่างกายไปที่เดิม
หลินหยางไม่พูดมากอีก ฝึกวิชามังกรและหงส์ต่อ จ้าวจินฟ่งรู้สึกว่ามีแรงดึงดูดมากมายข้างกายหลินหยาง คิดไม่ถึงว่าหลินหยางจะใส่แค่กางเกงใน ตนเองก็ใส่แค่กางเกงใน ตนเองขยับไปแบบนี้ไม่ดี ทำได้แค่ยับยั้งความคิดในหัว
สะลึมสะลือ จ้าวจินฟ่งค่อยๆหลับไป ภายใต้ไม่มีสติอะไร กลิ้งไปที่ของหลินหยาง
หลินหยางที่กำลังฝึกฝนอยู่ไม่รู้สึกมีอะไรผิดปกติ ทั้งคืนไม่พูดอะไรกัน
ถึงตอนเช้า แสงแรกในยามเช้าผ่านความมืดสุดท้ายในกลางคืนออก แสงสีม่วงส่องเข้าไปในร่างกายของหลินหยาง หลินหยางที่กำลังฝึกฝนวิชามังกรและหงส์หยุดทำการฝึกลง ค่อยๆลืมตาขึ้น แสงสีม่วงวาบผ่าน
หลินหยางที่ตื่นมา รู้สึกว่าร่างกายมีอะไรบางอย่างพันอยู่ เมื่อสัมผัสดูดีๆ ที่แท้ตั้งแต่เช้าเจ้าตัวนั้นก็ลุกขึ้นมา กระปี้กระเป่าเชียว
ขาขาวสวยๆของจ้าวจินฟ่งกำลังวางไว้บนตัวตนเอง เหมือนสัมผัสได้ถึงมีที่หนึ่งมีหญ้าลื่นผ่าน และแขนของเธอ อบกอดหลินหยางไว้ ก้อนเนื้อนิ่มๆสองก้อนนั้น ทับไว้บนตัวของหลินหยาง หลินหยางสัมผัสลูกเชอรี่สองลูกนั้นได้ชัดเจนมาก
ในตอนนั้นเสียงหายใจของหลินหยางเริ่มเร็ว มือขวาของตนเองก็วางไว้ที่ก้นของจ้าวจินฟ่ง สัมผัสความรู้สึกที่นุ่ม ในใจหลินหยางรู้สึกกระตุก
หันหน้าไปมองจ้าวจินฟ่ง เขาพบว่าแก้มอมชมพู มุมปากยังอยู่ในความฝันที่สวยงาม หลินหยางไม่รบกวนจ้าวจินฟ่งนอน มือที่ใหญ่ลูบไปมาบนก้นของเธอ
ภายใต้การกระตุ้นของหลินหยาง จ้าวจินฟ่งกลับขยับก้นของตนเอง ขายกมาด้านบนเล็กน้อย
สัมผัสความยืดหยุ่นบนก้นของจ้าวจินฟ่ง หลินหยางเริ่มรู้สึกไม่พอใจ ยังไงจ้าวจินฟ่งก็ยังหลับอยู่ หลินหยางอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกมา มุดเข้าไปในกางเกงในของจ้าวจินฟ่ง
แต่ว่าหลินหยางไม่อยากถูกประณามว่าเป็นอันธพาล เข้าไปสักพักแล้วรีบเอามือออก จากนั้นหลับตาลงแล้วนอนต่อ
จ้าวจินฟ่งตื่นนอนตามเวลา เมื่อหกโมงเช้า จ้าวจินฟ่งก็จาม มาท่าทีที่จะตื่นนอน
“อือ……..”จ้าวจินฟ่งผายร่างกายออก ตอนแรกก็กอดหลินหยางไว้ ตอนนี้ทับหลินหยางไว้ทั้งตัว
หลินหยางแค่รู้สึกว่าสถานที่พร้อมจะออกศึกถูกน่องขาของจ้าวจินฟ่ง
จ้าวจินฟ่งเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ ยังไม่ตื่นหมด แค่รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างขวางขาของตนเองไว้ ก็ยื่นมือไปจับ
ตอนแรกอยากเรียกจ้าวจินฟ่งตื่น แต่ก็กลัวเธอจะด่าว่าตนเองเป็นอะนธพาล ทำได้แค่อดทนไว้ หลับตาทำเป็นนอน
ไม่นานจ้าวจินฟ่งก็ได้สติ หลังจากลืมแล้วพบว่าตนเองอยู่ในสภาพนั้น อยากกริ๊ดเสียงดัง สุดท้ายก็ตั้งสติแล้วกลบเสียงลงไป หุบปากไว้