บทที่ 92 เซี่ยหยวนหยวนประหลาดใจ
เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ เสียงครางของหยางเฟินค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆ อีกนิดก็จะเสียงก็จะดังและสูงมาก ตัวก็มีอาการสั่นเป็นระยะๆ
มือที่ใหญ่ของหลินหยางก็ได้หยุดทำการทำงานลง พูดลากเสียงยาวอย่างโล่งๆว่า นวดคุณเสร็จแล้ว
หยางเฟินนอนราบอยู่ในอ้อมกอดของหยางหลิน ถอนหายใจเฮือกใหญ่ มองเห็นสายตาของหลินหยางมีความหยาดเยิ้ม คิดถึงตัวเองในช่วงที่ช่วยตัวเองต่อหน้าหลินหยาง ในใจของเธอเต็มไปด้วยความอับอายและหงุดหงิด วันนี้ตัวเองเป็นอะไรไป ความละอายใจสักนิดก็ไม่มี
หลินหยางเหลือบไปมองในกางเกงตัวจิ๋วกลับเห็นว่ามันเปียกแฉะตั้งนานแล้ว เห็นหยางเฟินล้มอยู่ในอ้อมอกของตัวเอง ร่างกายไม่มีแรงอ่อนปวกเปียก และไม่มีทีท่าว่าจะลุกออก หลินหยางก็ถือโอกาสโอบกอดหยางเฟิน สองมือเอาไปวางที่ทรวงอกอันขาวอวบคู่นั้นใหม่อีกครั้ง
ตบทรวงอกขาวดั่งหิมะคู่นั้นไปมา หลินหยางยิ้มแล้วพูดว่า “น้าเฟิน คุณลองดูสิ รู้สึกว่ามันดีกว่าเมื่อก่อนหรือเปล่า”
หยางเฟินที่สภาพหมดเรี่ยวแรง ได้ยินคำพูดก็ลองมองดู แววตาก็เบิ่งโตขึ้นมาในทันใด หน้าอกตัวเองเป็นอย่างไร ตัวส่องกระจกอยู่ทุกวัน
ด้วยระยะเวลาอันสั้นครึ่งชั่วโมงกว่าๆ มองดูยอดเขาที่อกของตัวเองอีกครั้ง เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน ดีขึ้นกว่าสักหน่อย ดูชูชันกว่าเมื่อก่อนสักหน่อย
ถึงแม้ว่าไม่ได้ชูชันกว่าเมื่อก่อนจนน่าประหลาดใจ แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามันดีขึ้น
ออกแรงกะพริบตาแล้ว หยางตื่นเต้นพูดว่า “หลินหยาง เห็นผลจริงๆ ดูงอนขึ้นมาสักหน่อยแล้วจริงๆ”
หลินหยางหัวเราะ พยักหน้าเห็นด้วย “ใช่แล้ว ดีขึ้นมาหน่อย หากคุณทำต่อเนื่องไปอีกสักหนึ่งสัปดาห์ จะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก นี่เป็นการนวดครั้งแรก ฉะนั้นผลลัพธ์อาจจะไม่ค่อยดีเท่าที่ควร รอนวดหลังจากครั้งที่สามสี่ห้า ในทุกๆครั้งจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก”
“หลินหยาง ครั้งนี้ขอบคุณคุณจริงๆ พรุ่งนี้ไม่รู้ว่ามันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกหรือเปล่า” หยางเฟินพูดด้วยความกังวลใจ
“ไม่หรอก ตอนนี้เป็นอย่างไรพรุ่งนี้ก็เป็นอย่างนั้น คุณวางใจได้” หลินหยางรับประกัน
งั้นก็ดี ตอนที่ฉันทำที่สถาบันเสริมความงาม ในเวลาครึ่งเดือนตามเดิมฉันก็คิดว่ามันก็น่าจะได้แบบนี้ สถาบันความงามบอกฉันว่าครึ่งเดือนทำหนึ่งครั้ง หนึ่งปีจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก แต่ว่าผ่านไปครึ่งเดือนก็ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลง ฉันก็เลยหมดหวังกันเลยทีเดียว
เมื่อได้ฟังที่หยางเฟินพูด หลินหยางก็มีความคิดแล่นมาในทันใด ตัวเองไปเปิดร้านนวดกระชับอกสักแห่งก็สิ้นเรื่อง แต่ความคิดนี้แล่นมาก็แล่นไป ตัวเองเป็นผู้ชาย ไม่เหมาะที่ทำงานสายนี้ หากจะทำจริงๆ เกรงว่าจะต้องเกิดคำครหานับไม่ถ้วน
เสียวอยู่ตั้งนาน หยางเฟินรู้สึกว่าขาทั้งสองของตัวเองไม่ค่อยสบายขาสักเท่าไหร่ มองที่นาผืนน้อยของตัวเองที่เปียกแฉะไปแล้วนั้น นึกถึงตอนที่ตัวเองฟินอยู่นั้น หน้าก็แดงขึ้นมา
“ขำอะไร ก็คุณนั่นแหละที่ทำให้เป็นแบบนี้” เห็นสีหน้าหยอกเย้าของหยางหลิน หยางเฟินหน้าแดงแล้วได้พูดออกมา
“ผมหัวเราะคุณที่ไหนกัน ผมก็แค่ดีใจที่อกของคุณเห็นผลดีขึ้น” หลินหยางรีบพูดแก้ต่าง
“คุณยังมีหน้าจะมาบอกอีกว่าไม่ได้ล่วงเกินฉัน ถ้าอย่างนั้นตอนนี้คุณทำไมถึงยังจับหน้าของฉันอยู่” เห็นมือของหยางหลินยังคงวางอยู่ที่หน้าอกของตัวเอง จางเยว่ได้ด่าออกมา
“ผมก็บริการดูแลรักษาหลังนวดเสร็จไง ทำแบบนี้จะเห็นผลชัดยิ่งขึ้น” หลินหยางพูดอย่างจริงจัง
หยางเฟินเอามือข้างหนึ่งจับมือข้างของหลินอยาง วางตรงที่นาผืนน้อยของตนเอง หลินหยางใจเต้นตุ๊บตั๊บ ลูบคลำที่นาผืนน้อยตรงนั้นไปมาสองสามรอบ หยางเฟินก็ครางขึ้นมาอีกสักพัก
“ พอแล้ว ถือว่าให้กำไรคุณแล้วกัน ฉันจะกลับไปอาบน้ำแล้ว” หยางเฟินพูดเสร็จ ควานหาชุดแซกสีม่วงของตนเอง หลังจากที่ใส่เสร็จทำจิตใจให้สงบ ผลักประตูแล้วเดินออกไป
จางเยว่และเซี่ยหยวนหยวนแม่ของเขา นั่งอยู่โซฟาห้องรับแขก เห็นสองคนเดินออกมา เซี่ยหยวนหยวนยิ้มแล้วถามว่า “เป็นยังไง นวดกันเสร็จแล้วเหรอ หยางเฟิน รู้สึกเป็นอย่างไรบ้างจ๊ะหนู”
“เดี๋ยวหนูค่อยมาบอกนะคะ หนูขอตัวกลับบ้านก่อน เดี๋ยวกลับมา” หยางเฟินพูดจบแล้วก็รีบออกจากบ้านไป เห็นได้ชัดว่าจะกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนชั้นใน
“เสี่ยวหยาง นวดครั้งนี้เห็นผลหรือเปล่า” จางเยว่มองแล้วถามหลินหยาง
“ครับ เบื้องต้นก็เห็นผลบ้าง ถ้าทำต่ออีกสักอาทิตย์หนึ่ง จะเห็นผลยิ่งขึ้น” หลินหยางพยักหน้า
เนื่องจากว่าหลินหยางเป็นผู้ชาย เซี่ยหยวนหยวนไม่กล้าถามมาก รอให้หนางเฟินกลับมาแล้วค่อยถาม
คุยกันไปได้สักพัก หลินหยางยิ้มแล้วพูดว่า “อ่อ ผมขอตัวไปหาโรงแรมพักก่อนนะครับ ถ้าไม่อย่างนั้นตอนค่ำจะไม่สะดวก”
“ไปหาโรงแรมอะไรกัน ที่นี่ก็มีห้องว่างไม่ใช่หรือ” เซี่ยหยวนหยวนรีบรั้งตัวหลินหยางไว้
“ได้อย่างไรครับ ผมว่าไปหาโรงแรมอยู่น่าจะสะดวกกว่าครับ” หลินหยางส่ายหน้าปฏิเสธ
“ฉันไปหากับคุณ เมืองจินหลิงฉันคุ้นเคยดี” จางเยว่ดึงแขนของหลินหยางออกไป
เห็นออกไปกันสองคน เซี่ยหยวนหยวนก็ไม่ได้ขัดขวางอะไร ยังบอกให้ระวังตัวกันด้วย สองคนนั้นก็เดินออกไป
หลินหยางกับจางเยว่ออกไปได้ไม่ไกล ขับรถไปสักเจ็ดถึงแปดนาทีก็เจอโรงแรมที่ใช้ได้ แม้ว่าจะเป็นโรงแรมสามดาว แต่ทว่าหลินหลินหยางก็พอใจอยู่
“คุณคะ พักโรงแรมใช่ไหม” พนักงานต้อนรับที่เคาน์เตอร์ใบหน้ายิ้มแย้มด้วยการงานที่ทำ มองเห็นหลินแล้วถาม
“ใช่ครับ ผมพักเจ็ดวัน” หลินหยางนำบัตรประชาชนออกมา ทำการเช็คอินเรียบร้อย เดินขึ้นห้องไปกับจางเยว่ ห้องพักหมายเลข303 เป็นห้องที่หันไปทางพระอาทิตย์ขึ้น หลังจากผลักประตูเข้าไป พบว่าในห้องอุปกรณ์เพียบพร้อมไปหมด ใส่กลอนในห้องเสร็จเดินเข้าไปในห้องกับจางเยว่
เปิดแอร์ สองคนนั่งจ้องหน้ากันอยู่บนเตียง จางเยว่หน้าแดงใกล้หลินหยาง พูดเสียงเบาๆว่า “เสี่ยวหยางเรื่องของเรา แม่ฉันรู้แล้วนะ”
“คุณรู้ได้อย่างไร” หลินหยางถามด้วยใบหน้าอันยิ้มแย้ม
“ก่อนหน้านี้หยางเฟินนังตัวดีแอบฟังเราสองคนมีอะไรกัน นางได้ยิน แม่ฉันก็ต้องได้ยิน แม้ว่าแม่ฉันจะไม่พูด แต่ว่านางเอาเรื่องที่เกิดขึ้นของเราสองคนที่บ้านคุณไปเล่าให้ฟังอย่างละเอียดอีกรอบ” จางเยว่ซบอกหยางหลิน หน้าแดงก่ำ
หลินหยางโอบกอดร่างอันบอบบาง พูดอย่างใจเย็นว่า “รู้ก็รู้ไปสิ คุณโตขนาดนี้แล้ว จะให้ไม่มีความอยากได้อย่างไร คุณก็ไม่ใช่แม่ชี เสพสุขเล็กๆน้อยๆจะเป็นอะไรไป”
“คุณพูดง่าย แต่ฉันสิทำตัวไม่ถูก” จางเยว่พูดแล้วกระทืบเท้าเบาๆสลับไปมา
“เอิ่ม เรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้ว กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ คุณก็ไม่ต้องคิดมากแล้ว” หลินหยางพูดปลอบใจต่อ
“โทษคุณนั่นแหละ ทำรุนแรงกับฉันขนาดนั้น คุณจะชดใช้ให้ฉันอย่างไร” จางเยว่ถามพลางกำมือทุบที่หน้าอกของหลินหยาง
หลินรวบกำมือเล็กๆของจางเยว่ หัวเราะแล้วพูดว่า “ตอนแรกผมก็จะไม่รุนแรง แต่ใครก็ไม่รู้ตอนนั้นปากร้องบอกว่า แรงอีก แรงอีก เสียงนี้สูงเชียว”
“คุณนี่ ร้ายที่สุด” จางเยว่หน้าแดงก่ำ ผลักหลินหยางล้มลงบนเตียง ก้นทับลงบนตัวของหลินหยาง พูดด้วยความโหดเหี้ยม “ปากร้ายอย่างนี้ คอยดูวันนี้ฉันจะจัดการคุณ”
“หา”จางเยว่จะตัวเหมือนวางก้าม ทันใดนั้นสองมือคว้าเต้าทั้งสองเร็วดังสายฟ้าแล๊บ ร้องเสียงหลง จางเยว่ทันใดนั้นร่างกายก็ยวบยามล้มลงบนอ้อมกอดของหลินหยาง
“เมื่อกี้เพิ่งจะทำไป คุณจะทำอีกเหรอ” ทรวงอกของจางเยว่ถูกหลินหยางเล่นอยู่สักพักหนึ่ง หายใจคล่องแล้วจึงถาม
“เปล่า ผมก็แค่อยากสำรวจร่างกายคุณสักหน่อย ว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า” หลินหยางอธิบาย
“มีการตรวจแบบนี้ด้วยเหรอ ฉันว่าคุณจะทำเรื่องที่ไม่ดีมากกว่า” พูดเสร็จสองมือก็คว้าไปที่ระหว่างขาของหลินหยาง ปืนใหญ่สู้มือขึ้นมาในทันใด แก้มทั้งสองข้างแดงเสมือนผ้าแดง
หลินหยางยิ้มอย่างมีเลศนัย ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก สองมือยังคงเล่นทรวงอกอันอวบอิ่มต่อไป จางเยว่ถูกหลินหยางกระตุกความรู้สึก ปากแดงๆประกบกับปากของหลินหยาง ทั้งสองจูบกันอย่างดื่มด่ำ
ไม่กี่นาทีผ่านไปเหงื่อกลิ่นหอมของจางเยว่ไหลเต็มไปทั่วร่าง ใบหน้าแดงก่ำ นอนอยู่บนเตียง เสื้อผ้าบนกายหลุดลุ่ยไปหมด ก็ถอดให้มันหมดไปซะเลย
เมื่อมองเห็นภูเขาอันตระหง่านต่อหน้า หลินหยางมองอย่างไม่ละสายตา ก้มหัวลงกินลูกเกดลูกหนึ่ง และกายของหลินหยางก็ได้นาบอยู่บนร่างของจางเยว่
รู้สึกได้ถึงร่างกายอันเร่าร้อน จางเยว่ได้ส่งเสียงครางแสดงถึงความพอใจออกมา มองไปยังสายตาของหลินหยาง แต่ไปด้วยเสน่ห์และความอบอุ่น
จางเยว่เป็นตำรวจ รูปร่างดีเป็นเดิมทุนอยู่แล้ว ถึงว่าจะออกศึกกับหลินหยางมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ตอนนี้ยังคงมีอารมณ์ร้อนรุ่มอยู่ตลอดไม่จางหาย
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ร่างกายของจางเยว่กอดแน่นอยู่กับหลินหยาง สั่นอยู่สักหนึ่งนาทีก็สงบลง
เห็นผู้หญิงที่มีความปรารถนาร้อนแรงขนาดนี้ ในใจหลินหยางเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจ สามารถสยบผู้หญิงประเภทนี้ได้
ความรู้สึกประสบความสำเร็จแบบนี้ช่างเร้าใจจริงๆ
“ตอนนี้ก็ดึกแล้ว รีบเก็บแต่งตัวแล้วกลับกันเถอะ” หลินหยางพูดพลางลูบใบหน้าอันน่ารักของจางเยว่
“ค่ะ” จางเยว่พยักหน้า นอนพักอยู่บนเตียงสักครู่หนึ่ง ถึงลุกขึ้นมาแต่งตัว
รอจนทั้งสองคนแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ถึงจะกลับไปที่บ้านจางเยว่
“เสี่ยวหยาง ตอนที่คุณนวดน้าเฟิน เอามือขึ้นไปนวดบนอกเธอดื้อๆอย่างนั้นเลยหรอ” บนรถ จางเยว่นินทาถามหลินหยาง
“แน่นอน ตอนที่อยู่ที่บ้านผม ผมก็ทำแบบนี้นั้นไม่ใช่หรือ” หลินหยางตอบพลางยิ้ม
“ฉันเข้าใจว่าพวกคุณจะมีเสื้อผ้ามากั้นซะอีก คิดไม่ถึงว่าน้าเฟินจะเป็นคนแบบนั้น มีหน้าถอดเสื้อให้คุณนวดอก คุณนี่เสน่ห์ไม่เบาเลย” จางเยว่พูดหยอกล้อ
“ไปถึงโน่น สนงเสน่ห์อะไรกัน ฝึกพลังยุทธ์แค่ไม่กี่วันผมก็อดไม่ไหวแล้ว ก็เลยต้องกินคุณไง” หลินยางหัวเราะร้าย
“ไปตายไป” จางเยว่โกรธค้อนใส่หลินหยาง ตัวเองเหมือนกับว่าเกิดเพื่อให้หลินหยางรังแก
“พี่เยว่ คุณอย่าโกรธเลย ผมไม่ใช่ว่าชมคุณสวยหรอกเหรอ แค่ดูจากรูปร่างหน้าตา คนอื่นก็คิดว่าคุณเป็นน้องสาวผม” หลินพูดชมเชย
ได้ยินหลินหยางประจบ ในใจจางเยว่รู้สึกสบายใจขึ้นมา รู้สึกสวยขึ้นมาในทันใดเปิดปากพูดออกมาว่า “ถือว่าคุณตาถึง นี่ เต้า 2 ข้างของ น้าเฟิน ใหญ่ไหม”
“ครับ ก็พอได้อยู่ เล็กกว่าคุณนิดหนึ่ง” แม้ว่าของหยางเฟินจะไม่ต่างไม่จากจางเยว่ แต่ทว่าหลินหยางไม่โง่ ผู้หญิงก็ต้องชมโอ๋โอ๋อยู่บ่อยๆ
จางเยว่ได้ที่ยินรู้สึกดีใจ มองไปตรงระหว่างขาของหลินหยาง ถามต่อว่า “เสี่ยวหยาง เธอคงไม่ได้มีอะไรกับน้าเฟินหรอกนะ”
“จะเป็นไปได้อย่างไร ผมไม่ใช่ว่าเจอใครแล้วจะเอาไปเรื่อย” หลินหยางตอบเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง
“ใครมันจะไปรู้หล่ะ ไม่แน่คนบางคนอาจจะทนไม่ไหวก็เป็นได้” จางเยว่มองหลินหยางพูด
“หากเกิดเรื่องแบบนั้นในสถานการณ์แบบนั้นจริงๆ ก็มีเพียงแค่ปัจจับสมยอมที่จะเกิดขึ้นได้เท่านั้น คุณต้องเชื่อในความเป็นลูกผู้ชายของผม ผมมีคุณธรรมเป็นเลิศ ซื่อสัตย์จริงใจ รู้จักทำนองคลองธรรม ….”
“พอแล้ว พอแล้ว” ได้ยินหลินหยางพูดคุยโวยกยอตัวเอง จางเยว่ยิ้มตัดบทหลินหยาง มองดูหลินหยางด้วยความเสน่หา พูดว่า “คุณหน่ะขี้โม้ สองสามวันนี้หากฉันไม่ติดอะไร ฉันจะไปหาคุณ ถึงตอนนั้นคุณต้องอยู่นะ”
“จะมาหาผมก็โทรศัพท์มา ผมก็ยังอยู่เมืองจินหลิงไม่ได้ไปไหน สะดวกมาก” หลินหยางพยักหน้าตอบ
สองคนสนทนากันสักพัก ก็ถึงด้านล่างคอนโดของจางเยว่ หลังจากที่จอดรถ ทั้งสองคนกวักมือเรียกจางเยว่เข้าไปในบ้าน
ในบ้านจางเยว่ ห้องนอนเซี่ยหยวนหยวน เซี่ยหยวนหยวนเมาส์มอยกับหยางเฟินอย่างเมามัน
“ว้าว หยางเฟิน อกเต่งตึงขึ้นมาหน่อยจริงๆด้วย เดิมทีตรงนี้ของเธอมันก็ใหญ่มากอยู่แล้ว ตอนนี้เต่งตึงขึ้นมาเห็นแล้วน่าหลงใหลจริงๆ” เซี่ยหยวนหยวนรูดซิปชุดแซกของหยางเฟินโดยพลการ ปลดชั้นในออก มองข้างในด้วยความอัศจรรย์ใจ
“พี่นี่ทะลึ่งนี่ แก่จนป่านนี้แล้ว ยังจะมาแก้ผ้าฉันอีก” หยางเฟินแสดงสีหน้าไม่พอใจมองบนใส่เซี่ยหยวนหยวน
“ทำไมเหรอ หลินหยางก็เห็นตรงนี้ของเธอหมดแล้ว ชายแปลกหน้ายังดูของเธอได้ เธอยังจะกลัวคนข้างบ้านอย่างฉันอีกเหรอ” เซี่ยหยวนหยวนยิ้มอย่างมีเลศนัย