บทที่138 วางแผนเปิดบริษัท
หลินหยางรู้สึกสบายจากการที่หยางหวั่นทำให้ แต่พอได้ยินเสียงเธอก็รู้สึกเซ็งๆ
“ไม่รีบ ถ้าชอบก็กินมากหน่อย ต่อไปอาจจะไม่มีโอกาสแล้วก็ได้”เผิงจิ้งแอบหัวเราะอยู่ข้างๆ
“ไปตายเถอะ เธอชอบเธอก็กินมากหน่อยแล้วกัน!”หยางหวั่นหน้าแดง
“ไม่ชอบแล้วมือกำแน่นขนาดนี้”เผิงจิ้งมองไปที่เจ้าโลกที่ยาวตรงเหมือนดาบของหลินหยาง ในใจก็แอบอุทานว่าหลินหยางนี่สุดยอดจริงๆ แฟนตัวเองนี่แทบจะเทียบไม่ติด
“ไงล่ะ จับหน่อยไม่ได้หรือไง เมื่อกี้ยังไม่รู้เลยว่าตรงไหน ที่โดนเล่นไปตั้งชั่วโมงกว่า”พอหยางหวั่นร่านขึ้นมาก็อะไรก็เอาไม่อยู่ ล่อซะเผิงจิ้งหน้าแดง
“พูดบ้าอะไรเล่า หาเรื่องชัดๆ!”หยางหวั่นที่อายจนโกรธหันไปข่วนเผิงจิ้ง
หยางหวั่นทนไม่ไหวรีบไปคุกเข่าขอร้องอยู่ด้านข้าง เผิงจิ้งอาศัยจังหวะนี้ปีนขึ้นไปบนขาของหลินหยางอีกครั้ง อารมณ์จุดสุดยอดเมื่อกี้ยังค้างอยู่ สีหน้ายังคงแดงระเรื่อ เธอใช้มือโอบคอหลินหยาง เผิงจิ้งใช้ริมฝีปากประทับลงไปบนหน้าหลินหยาง
หลินหยางอุทานในใจว่าผู้หญิงคนนี้กระหายขนาดนี้เชียวหรือ หลังจากที่หยุดชะงักไปแป๊บ นึง เขาก็เริ่มตอบสนองเผิงจิ้ง ทั้งคู่นัวเนียกัน
จากออรัลเซ็กส์ที่หยางหวั่นทำให้เมื่อครู่ หลินหยางก็พร้อมสู้เต็มหน่วย พอเขาเห็นเป้าหมายที่จะเข้าโจมตี มือจึงประคองเอวเผิงจิ้ง แล้วยิงปืนของเขาเข้าไป
“เผิงจิ้ง เธอยังจะมาอีก!เมื่อกี้ไม่ไหวแล้วไม่ใช่เหรอ”หยางหวั่นเบิกตาโตถาม
“เธอยังเด็กไม่รู้อะไรหรอกน่า จะไปรู้ได้ไงว่าของรักแบบนี้เนี่ยมันสะกดวิญญาณแค่ไหน รอเธอโตหน่อยมีผัวแล้วก็รู้เองแหละ”เผิงจิ้งหรี่ตายิ้ม นั่งกระแทกก้นลงไป ความรู้สึกเติมเต็มแผ่ซ่าน ทำให้เธอคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง
“เธอไหวเหรอ”หยางหวั่นมองร่างของเผิงจิ้งอย่างกังวล
“ไม่สนหรอก ของหลินหยางเนี่ยเป็นของล้ำค่า กินแล้วก็อยากกินอีก พอเธอมีผัวแล้ว เธอต้องดูนะว่าของผัวเธอหนักเท่าไหร่ ถ้าเล็กน่ะไม่ได้นะ มันไม่มีความรู้สึกอะไรเลย มีผล กระทบต่อชีวิตคู่ด้วย”เผิงจิ้งบิดตัวพูดเสียงดัง ตามจังหวะความรู้สึกสบาย แล้วเธอก็ส่งเสียงครางออกมาอีก
เมื่อโดนเด็กสาวสองคนรุมสวิง หลินหยางก็ยิ่งดุเดือด เสียงของเผิงจิ้งขึ้นๆลงๆตามจังหวะ ดูมีความสุขมาก ผ่านจุดสุดยอดครั้งแล้วครั้งเล่า จนร่างของเธอแผ่ราบอย่างกับดินโคลน แต่เธอก็ยังอดที่จะครางออกมาไม่ได้
พอถึงจุดสุดยอดอีกรอบ เผิงจิ้งดูเหมือนจะเป็นลมไป ในวันหนึ่ง เธอถึงจุดสุดยอดสิบสามครั้ง สมรภูมิแบบนี้ บางทีทั้งชาติเธออาจจะไม่มีโอกาสได้ลิ้มลองอีก
“แหม ฉันหุบขาไม่ลงแล้วนะเนี่ย”หลังจากที่ขึ้นคร่อมบนขาหลินหยางแล้ว เผิงจิ้งร้องออกมาอีก
“สมน้ำหน้า เมื่อกี้ไม่รู้นางจิ้งจอกตัวไหน ส่ายไปส่ายมาอยู่ข้างบนอย่างเมามันส์ ตอนนี้ไม่ไหวแล้วสิ”หยางหวั่นหัวเราะอยู่ข้างๆ แม้ว่าเธอจะยังไม่ประสีประสา แต่ว่าเธอเรียนแพทย์ เรื่องหญิงๆชายๆก็ต้องพอรู้บ้าง เธอรู้ว่าเผิงจิ้งแค่เหนื่อย พักผ่อนไม่กี่วันก็หาย
“เธอจะไปรู้อะไรล่ะ ของหลินหยางน่ะ โคตรสบายเลย”เผิงจิ้งมองหลินหยางอย่างยั่วเย้า
หลินหยางยิ้ม หยอกล้อกับสองสาวสักพัก แล้วจ้องมองหยางหวั่นที่ยังไม่สวมเสื้อผ้า พูดขึ้น“ไม่เช้าแล้ว พวกคุณใส่เสื้อผ้าเถอะ ผมไปส่ง”
พูดจบจึงลงไปหยิบเสื้อผ้าที่แห้งแล้วของสองสาว
“แหม หลินหยาง ฉันเหนื่อยจนขยับไม่ไหวแล้วล่ะสิ คุณใส่ให้ฉันหน่อยสิ”เผิงจิ้งไร้เรี่ยวแรง
ในจังหวะที่ไม่ตั้งใจ หลินหยางเหลือบไปเห็นอกที่สั่นเทา หัวใจหลินหยางสั่นไหว ตอนที่ใส่เสื้อ ผ้าให้เธอ ก็คอยใช้มือแต๊ะอั๋งอยู่ร่ำไป แต่เผิงจิ้งก็หลับตาอย่างเคลิบเคลิ้ม แล้วคอยพ่น ลมร้อนออกจากปาก
หลังจากที่แลกเบอร์ติดต่อกันและกัน หลินหยางก็ส่งสาวๆกลับบ้าน เห็นเผิงจิ้งเดินกะเผลกๆ หลินหยางจึงเรียกเธอกลับมานวดให้บนรถ
“ก็ไม่ได้เจ็บเท่าไหร่นี่!”ตอนนี้ในรถมีแต่หลินหยางกับเผิงจิ้ง เผิงจิ้งรู้สึกว่าตนเองคล่องตัว ขึ้นมาก จึงอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ
“นี่แหละเสน่ห์ของแพทย์แผนจีน ได้ผลแบบนี้แหละ ไม่มีในแพทย์แผนตะวันตกหรอก” หลินหยางยังคงเผยแพร่แพทย์แผนจีน
“แล้วทำไมไม่บีบให้ตั้งแต่ตอนแรกเล่า ทำฉันตกใจหมดกลัวกลับบ้านโดนด่า”เธอค้อนหลินหยางควับ เผิงจิ้งลงรถ หลินหยางโบกมืออำลา
ตัณหาราคะที่มาจากบ้านพี่หาน เขาได้ระบายออกเต็มที่บนตัวเผิงจิ้ง หลินหยางกลับบ้านอย่างสบายอารมณ์ พอทักทายจ้าวจินฟ่งเรียบร้อย อาบน้ำ แล้วก็มานั่งครุ่นคิดถึงต้นหญ้ากรดน้ำ จุดประสงค์หลักคือ ใช้ลบรอยแผลเป็นสาวๆ แต่ถ้าตลาดพวกนี้อยู่ใน เมืองเจียงหลิงแล้วล่ะก็ มันจะน่าสนใจแค่ไหน
ลังเลอยู่ชั่วครู่ หลินหยางจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาต่อสายของไป๋เซียนเฉ่า
“ฮัลโหล หลินหยาง เกิดมีน้ำใจอะไร คิดถึงพี่ได้”ไป๋เซียนเฉ่าพูดอย่างเอื้ออาทร เธอช่างเหมือนกับนางพญาผู้โอบอ้อมอารีจริงๆ
“ฮิฮิ แค่โทรมาถามเรื่องตลาดนิดหน่อย ครีมแผลลายเป็นไงบ้าง”หลินหยางยิ้ม
“ขายดีทีเดียว ที่ให้มาสามสิบขวดน่ะ ฉันขายหมดแล้วนะ กำลังคิดว่าอีกสองวันจะมาเร่งพอดี เธอก็โทรมาซะก่อน ช่วงนี้ถ้าว่าง จัดมาให้อีกสามสิบขวดหน่อยสิ”ไป๋เซียนเฉ่าเหมือนมีเรื่องร้อนใจ ว่าของหมด
ของที่ตัวเองผสมขึ้นมาได้รับการตอบรับจากตลาดดีขนาดนี้ หลินหยางรู้สึกดีใจ แต่ข่มความดีใจเอาไว้ หลินหยางถามเสียงหนักแน่น“เซียนเฉ่า อยากถามอะไรหน่อย หวังว่าจะบอกความจริงกับฉันนะ”
“คำถาม คำถามอะไร”นานๆทีไป๋เซียนเฉ่าจึงจะเห้นหลินหยางดูจริงจังขนาดนี้ จึงอดถามไม่ได้
“ก็เกี่ยวกับครีมแผลลายนั่นแหละ อยากถามหน่อย ยอดขายของครีมแผลลายน่ะ ถ้า ขายลอตใหญ่ ในเมืองเจียงหลิงจะขายได้เท่าไหร่”หลินหยางถามจริงจัง
เสียงปลายสายเงียบไป หลินหยางรู้ว่าเซียนเฉ่ายังอยู่ แต่แค่กำลังครุ่นคิดอยู่ก็เท่านั้น
เป็นดังคาดจริงๆ หนึ่งนาทีหลังไป๋เซียนเฉ่าอุทานออกมาว่า“เธอนี่หัวการค้านะ แล้วก็มี ทัศนวิสัยด้วย ใช้วิธีนี้กระตุ้นความต้องการทางตลาดในเมืองเจียงหลิง พอมีคนต้องการอุปทานก็จะมากกว่าอุปสงค์ แบบนี้ก็จะมีผลในทางการตลาด”
“แต่ฉันว่าตอนนี้ไม่ต้องการสร้างตลาดแล้วล่ะ พวกสาวๆมีเงินในเมืองเจียงหลิง ส่วนมากชอบใช้ครีมแผลลายนี้ทั้งนั้น ตอนนี้ถ้าอยากให้มีของพอแล้วล่ะก็ ต้องขายดีแน่ๆ แถมยังขายดีตลอดด้วย”
“พูดให้ตรงประเด็น”ได้ยินน้ำเสียงตื่นเต้นของไป๋เซียนเฉ่า หลินหยางรู้สึกพูดไม่ค่อยออก
“งั้นก็ได้ ถ้าของมีพอนะ รอให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อน แต่ละเดือนก็น่าจะราวๆสี่สิบห้าขวด ยังไงซะเมืองเจียงหลิงเป็นเมืองที่ผู้หญิงไม่เยอะ หลายคนไม่อยากเสียเงินกับอะไรแพงๆ” ไป๋เซียนเฉ่ารู้สึกรำคาญ
ถ้าคิดสี่สิบขวด ครีมแผลลายขวดละแปดหมื่น แต่ละเดือนหลินหยางก็จะได้สามแสนสอง เงินนี้เป็นจำนวนไม่น้อย แต่ว่าหลินหยางเองก็มีเงินไม่น้อยอยู่แล้ว เขารู้สึกเฉยๆกับตัวเลขนี้ มีแต่ตัวเลขสูงๆเท่านั้นที่จะกระตุ้นความสนใจเขาได้
“ถ้าครีมแผลลายมีของพอ เธอขยายตลาดหน่อยได้ไหมล่ะ เช่น ขยายไปอีกหลายๆเมือง หรือระดับมณฑล ระดับประเทศ”หลินหยางถามขึ้นมาคำหนึ่ง
“ถ้าของมีพอน่ะ อย่าว่าแต่ทั่วประเทศเลย ทั่วโลกก็ยังได้ ผู้หญิงเกือบครึ่งใช้ของๆเรา!”ได้ยินหลินหยางพูด ไป๋เซียนเฉ่าจึงรู้สึกฮึกเหิม ในเรื่องเศรษฐกิจนี้ เธอมั่นใจว่าเธอทำได้
หลินหยางไม่สงสัย เรื่องที่ครีมแผลลายขายดิบขายดีในเมืองเจียงหลิง ดูจากที่เธอรีบเอาของ เห็นได้ชัดว่าเธอมีกลยุทธ์การขายที่ค่อนข้างดีทีเดียว
“เรามาเปิดบริษัทร่วมกันเถอะ”หลินหยางพูดเสียงเรียบ
“เปิดบริษัทร่วมกันเหรอ เปิดยังไงล่ะ”ได้ยินคำพูดของหลินหยาง ไป๋เซียนเฉ่าก็รู้สึกคึกคักขึ้นมา การค้าแบบนี้เลิศไปเลย เธอค่อนข้างอ่อนไหวกับเรื่องเงินๆทองๆ
“ชื่อบริษัทเอาตามสะดวก ขอแค่ทำธุรกิจแขนงนี้ก็พอ ตีตลาดชั้นสูงทั่วโลก พวกเราขาย ครีมแผลลายได้ แถมยังเป็นยาบำรุงผู้ชายได้ด้วยนะ ต่อไปอาจจะยิ่งดีกว่านี้ก็ได้”หลินหยางวาดแผนการไว้ในใจ รู้สึกค่อนข้างตื่นเต้น แม้ว่าจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นหมอเทวดา แต่ หลินหยางอายุเพิ่งยี่สิบเท่านั้น ถ้าสินค้าของตนสามารถขายได้ทั่วโลก คงจะภูมิใจไม่น้อย
“ถ้ามีของมากพอล่ะก็ ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้นะ”ไป๋เซียนเฉ่าไม่ลังเล รับคำทันที
“ในเมื่อเปิดบริษัท เรื่องหุ้นก็ต้องพูดให้เรียบร้อย เธอออกทุนกับการขนส่ง ฉันรับผิดชอบเรื่องสินค้า แบ่งกันคนละครึ่ง ฉันรับประกันว่าจะหายาวิเศษมาให้”
เมื่อให้ครีมแผลลายขวดละแปดหมื่นแก่หลินหยาง ไป๋เซียนเฉ่าเอาไปขายได้อีกขวดละสี่ แสนห้า ตอนนี้กลายเป็นแบ่งกันคนละครึ่ง ก็ต่างกันไม่มากเท่าไหร่
หากแต่ไป๋เซียนเฉ่ารีบคำนวณดูแล้วถึงให้คำตอบ“ตกลง งั้นตอนนี้จดบริษัทได้เลย แบ่ง กันคนละครึ่ง”
หลินหยางพอใจกับท่าทีของไป๋เซียนเฉ่ามาก เขายิ้มเล็กน้อย“งั้นขอให้พวกเราร่วมมือกันด้วยดีนะ วันนี้ที่โทรมาก็แค่โทรมาคอนเฟริม์เรื่องครีมแผลลายเท่านั้นแหละ ฉันจะเปิดศูนย์ฝึกอบรม ที่เพาะบุคลากรเฉพาะด้านของครีมแผลลายออกมา แบบนี้ ต่อไปบริษัทเราขยายใหญ่ได้ ตอนนี้ฉันอยากถามว่าเธอเปิดศูนย์เพาะได้หรือเปล่า”
“เธอจะเพาะยาเองเหรอ ดีมากเลย เรื่องศูนย์เพาะเธอไม่ต้องห่วงนะ ถ้าทุนไม่พอฉันช่วยเธอออก”ไป๋เซียนเฉ่าพูดอย่างดีใจ สำหรับครีมแผลลาย เธอรู้ว่าลงทุนไปแล้วคืนทุนแน่นอน
“ฉันถามว่ามันเพาะยังไง ไปซื้อที่ดินที่ไหน”
“เธอลองไปศึกษาดูว่าสมุนไพรชนิดนี้เหมาะที่จะปลูกบนที่ดินแบบไหน จากนั้นหาผู้เชี่ยวชาญมาช่วยดู ส่วนเรื่องรูปที่ดิน ก็ลองไปดูที่กรมที่ดินนะ ช่วงนี้ฉันค่อนข้างงานยุ่ง เธอลองไปวิ่งดูก่อนได้ ใช้เงินสักสองสามหมื่นก็น่าจะเอาอยู่”ไป๋เซียนเฉ่าหัวเราะ
“ถ้าจะเพาะในหมู่บ้านชนบท ก็ไปที่เมืองของเธอก็ได้นี่”ไป๋เซียนเฉ่าเตือน
หลินหยางเห็นด้วยกับเรื่องนี้ จึงถาม“แล้วสมุนไพรพวกนี้เพาะกันยังไง ไปสอบถามได้ที่ไหน”
“ฉันให้เบอร์โทรศัพท์เธอแล้วกัน เขาเป็นศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัย และก็เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในคณะพฤกษศาสตร์ ตอนนี้อยู่บ้านเฉยๆ เธอไปถามดูได้”
“เอาเบอร์โทรศัพท์มา”หลินหยางถาม
ไป๋เซียนเฉ่าเอาเบอร์ให้เขา หลินหยางจดเบอร์ไว้ แล้วคุยกับไป๋เซียนเฉ่าต่ออีกสองสามคำ แล้ววางหูไป