บทที่142 ทั้งหมดสี่สิบล้าน
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินหยาง สีหน้าของมู่เฉินก็นิ่งขรึม สายตาที่จ้องมองหลินหยางก็เปลี่ยนไป เมื่อหายใจเข้าลึกๆอารมณ์จึงกลับมาสงบได้ ถามออกไปด้วยเสียงนิ่งดั่งน้ำ “มีเงื่อนไขอะไรบ้าง หมอโจวบอกมาได้เลยไม่เป็นไร”
“คุณมู่ตรงไปตรงมาจริง ๆ อย่างนั้นผมก็ขอพูดตรง ๆเลยแล้วกัน ข้อที่สอง เนื่องจากร่างกายของคุณหนูมู่มีความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ หยินหยางไม่สมดุล หลังจากผมทำการฝังเข็มแล้ว ก็จำเป็นจะต้องได้รับอัญมณีของผู้ชายโดยทันที”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ มู่เฉินก็ลดตัวลง ถามอย่างเย็นชา “หมอโจวกำลังล้อผมเล่นใช่ไหม”
“ล้อคุณเล่นงั้นหรือ หมอห่วงใยคนไข้ดุจพ่อแม่ ถ้าหากรักษาไม่หาย ผมจะระบุเงื่อนไขพวกนี้ทำไมกัน และไม่ใช่ต้องการให้เธอกินเซรั่ม และในขณะที่ผู้ชายกำลังตื่นตัวนั้น สิ่งนั้นก็จะหลั่งสารหล่อลื่นบางอย่างออกมา ผมคิดว่าพวกคุณคงจะรู้ว่ามันคืออะไรนะ อีกอย่างสิ่งที่สำคัญกว่านั้น จำเป็นต้องให้ผู้ชายคนเดียวกันนั้นทำต่อเนื่องไม่หยุดในเวลาหนึ่งชั่วโมง” หลินหยางเม้มริมฝีปากอย่างดูถูก ในใจก็แอบด่าว่าเป็นพวกลวงโลก
ทุกคนเงียบไปชั่วขณะ เมื่อได้เห็นดวงตาที่เปลี่ยนไปของหลินหยาง ทุกคนต่างคาดเดาตัวตนที่แท้จริงของหลินหยาง พวกเขาต่างไม่เชื่อว่าหมอเล็ก ๆ จะกล้ากำเริบเสิบสานทำตัวเป็นนักเลงโต และที่สำคัญกว่านั้น หมอที่มีทักษะทางการแพทย์สูงขนาดนี้ คงจะไม่มีทางออกมาจากครอบครัวธรรมดาสามัญแน่นอน
อีกทั้งเงื่อนไขที่สองที่หลินหยางพูดมานั้น ก็เป็นเรื่องที่ลำบากอย่างยิ่ง ความหมายของหลินหยางชัดเจน ต้องให้มู่เสี่ยวซือใช้ปากทำให้ผู้ชายที่กำยำแข็งแรงนั้นเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง และยังจะต้องกลืนสิ่งที่น่าขยะแขยงนั่นเข้าไปด้วย
“มีข้อที่สามไหม” สีหน้าของมู่เฉินดูนิ่งขรึมอย่างหดหู่
“ข้อที่สาม นั่นก็คือต้องเอาเงินให้ผมก่อน สามสิบห้าล้าน ชำระครั้งเดียวครบทั้งหมด” หลินหยางกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา นั่งลงบนเก้าอี้ด้วยตนเอง มองดูคนตรงหน้าอย่างขี้เล่น
จ้าวจินฟ่งยืนอยู่ด้านหลังของหลินหยาง มองไปยังร่างกายที่ไม่ได้กำยำ มองดูลักษณะภายนอกแล้วถึงกับผอมบางของชายหนุ่ม หัวใจกลับสั่นรุนแรงถึงสองครั้ง เพียงแค่ชายหนุ่มผอมบางแบบนี้ ตอนนี้กำลังระบายความคับแค้นของตนเอง เธอรู้สึกได้แต่เพียงมีความเปียกที่มุมตา แต่ยังคงกัดฟันทำเป็นสงบ ในสถานการณ์แบบนี้ เธอต้องอดกลั้นเข้าไว้ เพื่อไม่ให้หลินหยางเสียหน้า
ผู้อยู่ในเหตุการณ์ล้วนแต่เลิกคิ้ว เด็กคนนี้กล้าจะขอได้ทุกราคา สามสิบห้าล้าน! นี่มันไม่ใช่เงินสามหยวนห้าเหมา แค่พูดออกมาเพียงเบาๆ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลซึ่งอยู่ด้านข้างก็ถึงกับกรีดร้องในใจ ตนเองคิดว่าโรงพยาบาลของตนเองนั้นคงจะมืดมากพอ ด้วยเหตุนี้เด็กคนนี้จึงกลายเป็นผู้มีอำนาจที่สุดในความมืดดำ
“ได้” เอาบัญชีมาให้ผม หวังแค่หมอโจวจะไม่ทำให้ผมผิดหวัง” มู่เฉินกัดฟันพูด
“อืม เรื่องนี้ได้แน่นอน ยังมีอีกอย่าง ถ้าไม่สามารถหาผู้ชายที่เหมาะสมมาทำยาล้างพิษได้ ก็สามารถมาหาผมได้ แต่ต้องตกรางวัลให้ห้าล้าน และแน่นอนคุณสามารถไปหาคนอื่นได้ เรื่องนี้แล้วแต่คุณเลย” หลินหยางพูดเบาๆ
“เสี่ยวหวาง โอนเงินให้หมอโจวสี่สิบล้าน สามารถพูดได้ว่าหมอโจวเป็นอันดับหนึ่งในวงการแพทย์แล้วล่ะ รักษาหนึ่งโรคสี่สิบล้าน” มู่เฉินมีน้ำเสียงไม่พอใจเล็กน้อย
“สี่สิบล้านเพื่อแลกกับชีวิตคนหนึ่งคน ถ้าเป็นผม ผมก็ยอมแลก” หลินหยางพูดไปพลางปรบมือไปด้วย “อย่างนั้นก็เริ่มกันเลย ไปหาห้องที่ชั้นสามได้เลยตามสบาย”
“ต้องใช้เวลานานแค่ไหนจึงจะหายเป็นปกติ” เมื่อได้ยินดังนั้นมู่เฉินก็พูดอย่างดีใจ และรีบถามออกไป
“แบ่งการรักษาออกเป็นสามครั้ง ทุก ๆครึ่งเดือนมารักษาหนึ่งครั้ง เมื่อคุณจะมาให้โทรมาหาผม หลังจากเสร็จสิ้นครั้งที่สามก็จะหายเป็นปกติ ถ้าตนเองรู้สึกว่าหายป่วยแล้ว และถูกขัดจังหวะระหว่างนั้น ภายหลังเมื่ออาการกำเริบ ก็จะมาโทษวิชาการแพทย์ของผมไม่ได้”
“เรื่องนี้สบายใจได้ จะได้รับการรักษาตามเวลาแน่นอน” มู่เฉินกัดฟันพูดต่อไป เมื่อคิดว่าลูกสาวของตนเองต้องใช้ปากทำให้เด็กคนนี้หนึ่งชั่วโมง ในใจของเขาก็รู้สึกอึดอัดราวกับต้องกินขี้อย่างไรอย่างนั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องของเด็กคนนี้ ที่ทำให้ลูกชายของตนเองเกือบจะพิการ เขามีอาการที่กระตุ้นให้อาเจียนเป็นเลือด
“อีกหนึ่งชั่วโมงพวกคุณมารับคนไปก็ได้แล้ว คนอื่นก็กลับไปเถอะ อย่าอยู่ที่นี่ให้มีผลกระทบต่อธุรกิจของผม ยังมีอีกหลายคนที่ต้องการมาซักผ้า” หลินหยางโบกมือสั่งให้แขกทั้งหมดออกไป
เมื่อทุกคนได้ยินก็มีสีหน้าแปลกใจขึ้นมาอีกครั้ง เวลาคนอื่นไปหาหมอ ถ้าได้รับค่ารักษาถึงสี่สิบล้าน ก็คงจะต้องให้การต้อนรับคนนั้นอย่างกระตือรือร้น แต่เด็กคนนี้ กลับรีบไล่คนออกไป ต้องการจะซักผ้าอย่างนั้นหรือ การซักผ้าจะได้เงินสักเท่าไรกัน
แต่ทุกคนไม่กล้าพูดอะไรเช่นกัน มองเห็นร้านกาแฟที่อยู่ไม่ไกลจากร้านซักรีด ทั้งกลุ่มนั้นจึงเดินตรงไปที่นั่น
“คุณอยู่ที่นี่เฝ้าร้านนะ ผมจะขึ้นไปดูผู้หญิงชั้นต่ำนั้น” หลินหยางยักไหล่และออกคำสั่ง
“อืม เข้าใจแล้ว”
เมื่อหลินหยางขึ้นไปชั้นบน ดวงตาของจ้าวจินฟ่งก็แดงก่ำ น้ำตาไม่สามารถหยุดไหลได้ เป็นเวลาหลายปีแล้ว ที่ตนเองไม่ได้รับความสุขจากความรู้สึกของการถูกปกป้องและคุ้มครอง แต่ตั้งแต่ตนเองได้พบกับหลินหยาง ในหัวใจก็อบอุ่นมากแบบนี้
มาถึงชั้นสาม เมื่อเห็นมู่เสี่ยวซือนอนอยู่บนเตียงใหญ่ ตาดวงโตก็กะพริบ ขนตายาวสวยมาก แต่ใบหน้าเต็มไปด้วยความอับอายและความโกรธเหมือนสิงโตที่กำลังโกรธเกรี้ยว ขมวดคิ้วมองหลินหยาง
“เมื่อกี้นี้คุณได้ยินเรื่องวิธีการรักษาแล้วใช่ไหม หากคิดดีแล้วก็ทำตามคำสั่ง ถอดเสื้อผ้าออกก่อน” หลินหยางมองไปยังมู่เสี่ยวซือ
“ไสหัวออกไป แกจะเชื่อหรือไม่ฉันก็จะฆ่าแก!” มู่เสี่ยวซือขู่ออกไป แต่ร่างกายนั้นอ่อนแอมาก เสียงขู่นั้นไม่อาจจะขัดขวางหลินหยางได้เลย
“ค่ายาของเธอถูกจ่ายมาแล้ว สี่สิบล้าน” หลินหยางหยิบโทรศัพท์ออกมา ค้นหาข้อความที่ธนาคารส่งมา บนนั้นมีเลขสี่หนึ่งตัวแล้วตามด้วยเลขศูนย์จำนวนมากมาย “ถ้าคุณไม่ต้องการคุณภาพผมก็ไม่มีวิธีแล้ว แต่ค่ารักษาพยาบาลคงจะคืนไม่ได้แล้วแน่นอน”
“แก……” มู่เสี่ยวซือตนเองไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่จะคุยกับผู้ชายคนนี้ อีกทั้งส่วนใด ๆของร่างกายก็แทบจะเจ็บปวดไปทั้งหมด มันทำให้ในใจของเธอหมดความหวังที่จะฟื้นฟูกลับมา มองไปยังหลินหยางและพูดว่า “อย่างนั้นคุณก็รักษาเถอะ”
“เสื้อผ้าของคุณ” หลินหยางทำปากจู๋ แทบจะถอดออก
มู่เสี่ยวซือโกรธจนหน้าแดง ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อน แต่การที่จะต้องถอดเสื้อผ้าต่อหน้าคนแปลกหน้า มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะไม่รู้สึกเขินอาย
“ฉันไม่มีเรี่ยวแรงเลย คุณก็ช่วยฉันสิ”
ได้ยินคำพูดที่กำลังโกรธของมู่เสี่ยวซือ หลินหยางก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ “เฮ้อ พ่อของคุณไม่ได้อยู่ที่นี่ ไม่อย่างนั้นผมจะขอค่าธรรมเนียมตรงนี้เพิ่มด้วย”
อดทนต่อความรู้สึกที่จะอาเจียนเป็นเลือด มู่เสี่ยวซือมพูดอะไรอีก แม่ว่าเธอจะโกรธ แต่ก็ไม่โง่ ตรงกันข้ามกลับฉลาดมาก ไม่เช่นนั้นหลายปีมานี้ ก็คงจะไม่สามารถช่วยพ่อของเธอดูแลและจัดการบริษัทได้อย่างราบรื่นเหมาะสม แทนที่จะทะเลาะกวนประสาทผู้ชายคนนี้ ทำไมไม่รอให้เขารักษาตนเองเสียก่อน แล้วค่อยหาวิธีการอื่นจัดการกับเขา
หลินหยางก็ไร้ความเกรงใจ ยื่นมือออกไป ฉีดเสื้อยืดของเธออก ถามกลางเสียงร้องของความหวาดกลัวของมู่เสี่ยวซือ ก็ได้ถอดกางเกงขาสั้นของเธอออก เดิมทีคิดว่าเมื่อทำแบบนี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้นแล้ว แต่ท้ายที่สุดเจ้าสัตว์ร้ายตัวนี้ก็ยังไม่หยุด จัดการถอดชิ้นส่วนที่เหลืออีกสองชิ้นออกด้วยตนเอง ตนเองจึงต้องเผชิญหน้ากับหลินหยางอย่าง “อย่างตรงไปตรงมา”
“คุณมันไอ้บ้ากาม ทำไมต้องถอดของฉันจนหมดด้วย!” มู่เสี่ยวซือรู้สึกทั้งโกรธทั้งอับอาย
“การฝังเข็ม ถ้ามองเห็นจุดต่าง ๆไม่ชัดเจน ปักเข็มลงไปโดนจุดตายเข้ามันก็คร่าชีวิตคนได้ ถ้าคุณตายนะเรื่องเล็ก แต่มันจะไม่ดีกับชื่อเสียงของผมนะสิ”คำพูดแต่ละคำของหลินหยางเหมือนดั่งมีด ยั่วยุความโกรธของมู่เสี่ยวซืออย่างต่อเนื่อง
“หึ คุณรีบๆทำเถอะ” มู่เสี่ยวซือพูดอย่างเย็นชา เจ็บปวดไปทั้งร่างกาย มันทำให้เธออึดอัดเป็นอย่างมาก
หลินหยางก็ไม่ได้พูดไร้สาระเช่นกัน แม้ว่าเพียงแค่แตะต้องร่างกายของเธอไม่กี่ครั้ง เพียงแค่ฝังเข็มสกัดจุดเลือดลมก็เป็นอันใช้ได้ แต่ตนเองก็ต้องรักษาผู้หญิงคนนี้ให้ดี เกรงว่าตนเองจะยังเตรียมพร้อมมาไม่ดี ก็อาจจะถูกแก้แค้นจากบริษัทมู่กรุ๊ป
หยิบกล่องฝังเข็มออกมา หยิบเข็มเงินออกมา มือไม้ว่องไว ฝังเข็มลงไปในจุดฝังเข็มหลายจุดบนร่างของมู่เสี่ยวซืออย่างแม่นยำ
มู่เสี่ยวซือไม่ได้ป่วย ร่างกายก็แข็งแรงมาก แม้ว่าจะเคยป่วยหนักเมื่อตอนเด็ก แต่ไม่กี่ปีมานี้มีการตรวจร่างกายตามปกติ ก็ไม่พบว่ามีโรคอะไรผิดปกติ หากหลินหยางไม่จงใจใช้กลอุบายเล็กน้อย เขาก็คงไม่มีโอกาสได้รับเงินสี่สิบล้าน
หลังจากที่ฝังเข็มเข้าไปยังจุดฝังเข็ม ร่างกายของมู่เสี่ยวซือก็ผ่อนคลายลง ถอนหายใจอย่างโล่งอก รู้สึกได้ว่าความเจ็บปวดลดลงอย่างช้า ๆ ในใจของเธอก็ยังประหลาดใจกับทักษะทางการแพทย์ของหลินหยางเป็นอย่างมาก ผู้ชายที่น่ารังเกียจตรงหน้า จริง ๆแล้วมีความสามารถทางด้านนี้ขนาดนี้ ถ้าเธอรู้ว่าหลินหยางจะทำให้เธอต้องเป็นเช่นนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะสามารถหนีหลินหยางไปสุดชีวิต
“แบบนี้ก็ได้แล้วใช่ไหม” มู่เสี่ยวซือมองไปยังหลินหยางที่อยู่ด้านข้างอย่างไม่ไหวติง ถามด้วยความประหลาดใจ ก่อนหน้านี้เธอได้ยินมาว่าจะมีวิธีการที่น่ารังเกียจแบบนี้
“ไม่ใช่อย่างแน่นอน ก่อนหน้านี้คุณไม่ได้ยินหรือว่าจะต้องทำอะไรอีก แต่ต้องรอเวลาสักนิดนะ ก่อนที่เธอจะใช้ปาก ผมยังต้องเตรียมตัวนิดหน่อย” หลินหยางจ้องไปยังร่างของมู่เสี่ยวซือ ไฟแห่งความชั่วร้ายปรากฏขึ้นในสายตา แม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่ทำให้หลินหยางชื่นชอบ แต่หน้าตาและรูปร่าง ก็ยังพอไปได้
“คุณกำลังจะทำอะไร” เมื่อเห็นหลินหยางยื่นมือออกไปอย่างตั้งใจ มู่เสี่ยวซือก็พูดขึ้นอย่างแปลกใจ
“ทำอะไรงั้นหรือ ก็เตรียมความพร้อมนะสิ เพื่อจะเอาเลือดเหลวๆของคุณออกมา อีกสักครู่จะได้ง่ายต่อการซึมซับพลังแห่งความเป็นชายชี่แท้หยวนหยาง!” ปากของหลินหยางแกว่งไปมา ทำการตกรางวัลให้กับลูกบอลหิมะก้อนใหญ่ทั้งสองทันที
สัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลในมือ หัวใจของหลินหยางก็เริ่มหวั่นไหว จึงเพิ่มความรวดเร็วในการบีบทันที และถูอย่างไม่หยุดหย่อน
มองดูหลินหยางกำลังใช้มือเล่นกับเม็ดหยกของตนเอง มู่เสี่ยวซือเริ่มจะโมโห แต่ความสุขก็ได้เอ่อล้นมาจากด้านบน ทำให้เธอกอดที่จะส่งเสียงไม่ได้
หลังจากที่ถูกหลินหยางเล่นกับเม็ดหยกไปไม่กี่นาที หลินหยางก็ได้ปล่อยเม็ดหยกที่นูนขึ้นและอิ่มตัวทั้งสองเม็ด มองไปยังมู่เสี่ยวซือ “เริ่มการดูดซับชี่แท้หยวนหยาง คุณต้องให้ความร่วมมืออย่างจริงจัง ไม่อย่างนั้นหากอาการป่วยไม่ดีขึ้นผมก็ไม่รับผิดชอบนะ”
มู่เสี่ยวซือที่ถูกหลินหยางกระทำอยู่ครึ่งวัน ตอนนี้แก้มก็แดง สายตาดั่งฤดูใบไม้ผลิ ลมหายใจเร็วและถี่ เธอรู้สึกเพียงสวนท้อศักดิ์สิทธิ์ของตนเอง ได้มีกระแสน้ำไหลท่วมอยู่นานแล้ว บิดขาทั้งสองข้างอย่างไม่สบายตัว พูดกระซิบไป “รู้แล้ว หวังว่าคุณคงไม่ตั้งใจจะพลิกฉันไปมา”
หลินหยางไม่เกรงใจ ปลดกระดุมกางเกงออกต่อหน้ามู่เสี่ยวซือ
มู่เสี่ยวซือจ้องมองหลินหยาง เมื่อเห็นมังกรยักษ์ได้ถูกปล่อยจากพันธนาการออกมา ดวงตาก็กลมโตทันที
แม้ว่าโดยปกติแล้วมู่เสี่ยวซือจะดูแลจัดการบริษัทอย่างแข็งขัน แต่กลับไม่ค่อยให้ความสนใจกับชีวิตส่วนตัว ทำให้ความต้องการของร่างกายนั้นมีมาก แรกที่สุดก็คือวันนั้นที่เธอเป็นผู้ใหญ่ ได้ไปเปิดห้องกับแฟนตัวเอง ส่งมอบตนเองเป็นครั้งแรก
เมื่อพูดถึงแฟนหนุ่มทั้งสองสามคนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยก็รู้สึกไม่พอใจ ตอนนี้นอกจากจะดูแลบริษัทแล้ว ในยามว่างก็จะหาผู้ชายแข็งแกร่งมาเติมเต็มความสุข โดยที่มู่เสี่ยวซือก็ไม่รู้ว่าเล่นกับผู้ชายมาแล้วกี่คน
เธอคิดเองว่าผู้ชายมีมากมายนับไม่ถ้วน เคยเห็นสไตล์ของแต่ละประเทศ แต่เมื่อได้เห็นมังกรยักษ์นี้ ทำให้หัวใจยังกระตุกอย่างรุนแรง แข็งแรงมากเลยจริงๆ!
ในช่วงเวลาอันสั้น สถานที่ศักดิ์สิทธิ์นั้นที่มีน้ำไหลเชี่ยวอยู่แต่เดิม ก็ยิ่งไหลออกมาอย่างตามอำเภอใจ ความเขินอายแต่เดิมนั้นหายไปแล้ว มันถูกแทนที่ด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า