บทที่158 ไป๋หยุนผู้ถูกรุก
ผลลัพธ์งานสัมมนาในคราวนี้ มหาวิทยาลัยการแพทย์เจียงหลิงวิ่งนำเป็นม้ามืด เดิมทีเป็นแค่เทคนิคการแพทย์กระจอกๆ ตอนนี้กลับพุ่งนำขึ้นเป็นแชมป์เปี้ยน
ผู้อำนวยการเถายิ้มแก้มปริราวกับดอกไม้บาน มองดูนักเรียนทั้งสามของตนเอง ด้วยแววตาอันปีติ สร้างชื่อเสียงจริงๆ!กลับถึงโรงเรียนต้องจัดรางวัลให้สามคนนี้หน่อยแล้ว!
รอจนจบงานสัมมนา หลินหยาง、โจวโต่และหลงเฉียนต่างมาที่กลุ่มคณะกรรมการ
“วันนี้ที่เรียกทุกท่านมา เพราะได้ประจักษ์เห็นฝีมือทางการแพทย์ของทุกคน ไม่ทราบว่าต่อไปทุกคนคิดวางแผนอนาคตไว้อย่างไร”หัวฉีถามอย่างเป็นมิตร
“ยังไม่ได้วางแผนอะไรค่ะ”โจวโต่พูดเสียงค่อย
“ฮ่าๆ ยายหนูนี่ไม่เลวเลยจริงๆ ไม่ทราบว่าหนูสนใจการแพทย์ในมณฑลเราหรือเปล่าจ๊ะ ถ้าสนใจ จะสมัครให้ รอให้เรียนจบ ก็มาฝึกงานที่เมืองจินหลิงหนึ่งปี แล้วเข้าทำงานที่ศูนย์วิจัยเลย”หัวฉียิ้ม
“จริงเหรอคะ งั้นต้องรบกวนอาจารย์หัวแล้วล่ะค่ะ”แม้ว่าจะเตรียมใจไว้แล้ว แต่โจวโต่ยังคงไม่คิดว่าจะมีเรื่องเซอร์ไพรส์ที่ใหญ่ขนาดนี้ สถาบันวิจัยประจำมณฑล มีนักศึกษาคนไหนบ้างล่ะที่ไม่อยากไป
“เจ้าหนู แล้วนายล่ะ”หัวฉีถามหลงเฉียนด้วย
“ผมก็ยังไม่ได้คิดครับ”หลงเฉียนรีบตอบ
“ถ้านายก็สนใจสถาบันวิจัยประจำมณฑลด้วยแล้วล่ะก็ จะมาสมัครพร้อมกับยายหนูด้วยก็ได้นะ ว่าไงล่ะ”หัวฉีหัวเราะเหอะๆถามขึ้น
“ดีมากเลยครับ ขอบคุณมากๆครับ!”หลงเฉียนพยายามอดกลั้นความตื่นเต้น แล้วโค้งคำนับให้หัวฉี
หัวฉียิ้มตาหรี่มองคนทั้งคู่ เขารู้ว่าสถาบันวิจัยแห่งมณฑลเป็นตัวดึงดูดหนุ่มสาวพวกนี้ ไม่เพียงแต่เงินเดือนจะสูง แถมยังได้ศึกษาศาสตร์การแพทย์ที่ลึกลงไปอีกด้วย ได้เข้าไปทำงานในโรงพยาบาลดีๆ ต่อสู้ไม่กี่ปีก็ได้เป็นปรมาจารย์แห่งวงการแพทย์แล้ว แต่การที่ได้เข้าไปอยู่ในสถาบัน ไม่ได้หมายความว่าจะเรียนรู้ศาสตร์การแพทย์อะไรได้มากมายนัก บางทีอาจจะได้อาศัยพรสวรรค์และความสามารถ ได้กลายเป็นปรมาจารย์ทางการแพทย์ระดับโลก!
“หลินหยาง ไม่รู้ว่านายจะสนใจสถาบันวิจัยแห่งมณฑลมั้ย แม้ว่านายจะเรียนแพทย์แผนจีน แต่เราก็จะลองยื่นดูให้นายได้นะ ให้นายได้เข้าไป”หัวฉีเปิดประเด็นโดยตรง
โจวโต่กับหลงเฉียนฟังแล้วตกตะลึง หลินหยางกลับไม่ต้องฝึกงานหนึ่งปี ก็เข้าไปได้เลยเหรอ แต่จะว่าไปเขาก็มีความสามารถนี้จริงๆ ครั้งนี้ถ้าไม่ใช่เพราะหลินหยาง บางทีพวกเขาอาจจะไม่มีโอกาสแบบนี้ก็ได้
“หลินหยาง นายเข้าไปรอก่อน ถึงเวลาพวกเราตามเข้าไป นายก็ดูแลพวกเราด้วยแล้วกันนะ”หลงเฉียนยักคิ้วหลิ่วตาให้หลินหยาง
ก่อนหน้ายังวางสีหน้ายโสใส่ ตอนนี้หลงเฉียนทำสีหน้าแสนกล หลินหยางอดกลอกตาขาวไม่ได้
“ผมยังมีธุระอื่นที่ต้องสะสางก่อนครับ ตอนนี้ยังไปไม่ได้ ไว้รอโอกาสหน้า จะไปรบกวนนายท่านหัวนะครับ”หลินหยางส่ายหน้าปฏิเสธ
หลงเฉียนกับโจวโต่ชะงักงัน นายคนนี้ปฏิเสธเชียวเหรอ คนจำนวนเท่าไหร่ที่อยากเข้า แต่เขากลับปฏิเสธ นี่มันหลักการอะไรกันเนี่ย!
หัวฉีได้ฟังคำตอบของหลินหยาง รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ในความทรงจำคนจำนวนน้อยมากที่ปฏิเสธโอกาสแบบนี้ เขานิ่งงันแล้วพูดขึ้น“เรื่องนี้ยังไม่ต้องรีบปฏิเสธก็ได้ ค่อยๆคิดดูก่อน”
“ผมว่าตาหัวเก็บความปรารถนาดีไว้ก่อนเถอะครับ หลินหยางเป็นแพทย์แผนจีน จะไปวิจัยอะไรในนั้น ถ้าจะไปต้องไปที่สมาคมแพทย์แผนจีนสิครับ”หยังวั่นเฉียนที่เงียบมาตลอดกล่าวขึ้น
“สมาคมแพทย์แผนจีนหรือครับ คืออะไร”หลินหยางถามอย่างตกใจ
“สมาคมแพทย์แผนจีนไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมากมายนักในประเทศ แต่ก็เป็นที่รวบรวมปรมาจารย์ด้านแพทย์แผนจีนไว้ทั้งหมด แพทย์จีนอย่างผมก็อยู่ในนั้น และก็ถูกจัดอันดับที่สิบขึ้นไป แต่พอนายเข้าไป ก็จะมีคนมาแลกเปลี่ยนศาสตร์แพทย์แผนจีนกับนายมากยิ่งขึ้น”หยังวั่นเฉียนยิ้มอธิบาย
หลินหยางฟังแล้วรู้สึกสนใจ พูดขึ้นด้วยแววตาเป็นประกาย“ศาสตร์การแพทย์ของนายท่านหยัง จัดอยู่อันดับที่สิบกว่าเท่านั้นหรือครับ”
“ใช่แล้วล่ะ ในสมาคมแพทย์แผนจีน ยังมีคนเก่งๆอีกมาก ว่าไงล่ะ สนใจเข้าร่วมไหม”หยังวั่นเฉียนเห็นหลินหยางรู้สึกสนใจ จึงพูดเปิดประเด็น
“สนใจครับ สนใจแน่นอน ไม่ทราบว่าต้องมีเงื่อนไขอย่างไรบ้างครับ”หลินหยางถาม
“ง่ายมาก เดี๋ยวเอาใบสมัครให้ นายกรอก แล้วส่งกลับมาก็พอ”
หลินหยางไม่มีความเห็นใดๆ พยักหน้าตอบรับเรื่องนี้
“เอาล่ะๆ คุยอะไรกันตรงนี้เล่า เราไปหาที่กินข้าวค่อยๆนั่งคุยกันดีกว่า”หัวฉีร้องทัก มองไปที่หลงเฉียนกับโจวโต่แล้วพูดขึ้น“พวกเธอสองคนก็ตามไปด้วยกันสิ”
พอเดินเข้าไปในประตูใหญ่ ก็มีรถเฉพาะออกมารับ โจวโต่และหลงเฉียนนั่งอยู่บนรถคันหนึ่ง ส่วนหลินหยางนั้นโดนหัวฉีลากมาขึ้นรถของพวกเขา
“วั่นเฉียน นายรีบบอกพี่มา เทคนิคการแพทย์ของน้องเซียวเป็นไงบ้าง”บนรถ หัวฉีรีบถาม
“ล้ำลึกอย่าบอกใคร!”หยังวั่นเฉียนคิดแล้วคิดอีก ในที่สุดก็ตอบออกมา
“นายท่านหยังชอบเกินไปแล้วครับผม เทคนิคการแพทย์ของผมก็แค่เพิ่งก้าวขาออกจากประตูแค่นั้นเอง”หลินหยางพูดอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน
“น้องชายอย่าถ่อมตนไปหน่อยเลย ถ้าวั่นเฉียนชมขนาดนี้ คิดว่าทั่วประเทศคงจะมีอยู่ไม่กี่คนหรอก คนที่ได้รับคำชมจากเขา ก็มีหัวหน้าเขานี่แหละ”
“จริงสิ วั่นเฉียน หัวหน้าสมาคมหยูกับหลินหยางเทียบกันแล้ว ห่างไกลกันแค่ไหน”หัวฉีดวงตาเป็นประกาย รีบถามขึ้น
“อันนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันสิครับ เทคนิคทางการแพทย์ของหัวหน้าสมาคมหยูดั่งต้องมนต์สะกด แต่ว่าเทคนิคทางการแพทย์ของน้องชายนั้นล้ำลึก เทียบกันยากครับ ตัดสินออกมาไม่ได้ แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ ความเข้าใจด้านการแพทย์ของน้องเซียว แข็งกว่าตาแก่อย่างผมมาก”
“นายท่านหยังอย่ายกยอผมเกินไปเลยครับ”หลินหยางยิ้มฝืนๆ
รอจนทุกคนมาหาที่รับประทานอาหาร หยังวั่นเฉียนจึงให้หลินหยางอยู่ถกเรื่องการแพทย์ต่อ หลินหยางให้หลงเฉียนกับโจวโต่กลับไปก่อน ส่วนตัวเองกับหยังวั่นเฉียนอยู่ในห้องสนทนากันต่อ
กลางคืนตอนสองทุ่ม หลินหยางจึงบอกลาหยังวั่นเฉียน แล้วโบกรถกลับโรงแรมไป
พอมาถึงโรงแรม หลินหยางกำลังจะกลับไปที่ห้องตัวเอง ก็ได้ยินเสียงแหลมเล็กของหญิงสาวดังลอดออกมา
ผนังโรงแรมที่นี่กันเสียงได้ดี ถ้าไม่ใช่เสียงที่ดังมากจริงๆจะไม่สามารถได้ยินมาถึงข้างนอก หลินหยางเอาหูแนบประตูเพื่อฟังความเคลื่อนไหวชัดๆ
“ปล่อยฉันนะ ถ้าไม่เชื่อจะแจ้งความคอยดู!”
“หึหึ แจ้งไปเลยจ๊ะ แม่สาวน้อยร้อยชั่ง เมื่อกี้ให้ดื่มน้ำส้มดันดื่มไปแค่แก้วเดียว เสียยาปลุกอารมณ์ของฉันหมด!”เสียงเจ้าเล่ห์ของผู้ชายดังลอดมา
“ไอ้สัตว์เดรัจฉาน ฉันจะฆ่าแก!อุ๊บ——”
“หึหึ เธอหุบปากของตัวเองก่อนเถอะ ไว้ตอนไม่แหกปากแล้วค่อยเอาออกให้!”
หลินหยางได้ฟังเสียงจึงขมวดคิ้วไม่หยุด โลกนี้เดิมทีก็วุ่นวายอยู่แล้ว ตัวเองก็ไม่ได้อยากจะยุ่งด้วยนักหรอก แต่เสียงผู้หญิงนี่คุ้นๆ แม้ว่าจะนึกไม่ออกว่าเป็นใคร แต่หลินหยางก็ตัดสินใจช่วย
“ก๊อกๆๆ!”หลินหยางเคาะประตู
“ใครกัน”เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูข้างนอก ผู้ชายที่อยู่ข้างในก็เริ่มลนลาน แต่แกล้งถามเสียงแข็ง
“กาแฟที่คุณสั่งครับ”หลินหยางกดเสียงให้แหบ
“กาแฟอะไรวะ กูไม่ได้สั่งกาแฟ”ผู้ชายข้างในตวาดออกมาอย่างเสียอารมณ์
“ขอโทษนะครับคุณผู้ชาย แต่เป็นกาแฟห้องคุณจริงๆ!”
“กูไม่ได้สั่ง ไสหัวไป!”
เขาไม่สนใจคำตวาดกรรโชกของผู้ชายด้านใน หลินหยางยังคงเคาะประตูต่อ
“กูบอกแล้วว่าไม่ได้สั่งกาแฟ มึงจะเคาะหางานศพพ่อมึงหรือไง ไสหัวไป!ไปสิ……”ยังไม่ทันได้พูดต่อ หลินหยางก็เริ่มขยับตัวแล้ว
ผู้ชายคนนั้นยังไม่ทันได้ดูตาม้าตาเรืออะไร ก็โดนหมัดของหลินหยางปล่อยออกไป
“โครม!”
หลังจากที่ปล่อยหมัดออกไป หลินหยางยกเท้าก้าวขึ้นหน้าไปสวบๆ ชายคนนั้นชะล่าถอยหลังไป
หลินหยางแทบไม่เว้นจังหวะให้ชายผู้นั้นหายใจ เขารีบปิดประตู แล้วกระโจนใส่ชายที่อยู่บนพื้น หลังจากที่ชายผู้นั้นร้องโอดครวญ ก็โดนหลินหยางต่อยสลบ
เห็นผู้ชายที่เป็นลมล้มพับไป หลินหยางจึงออกแรงถีบไปสองที ถึงได้เห็นผู้หญิงที่อยู่บนเตียง
ผู้หญิงที่อยู่บนเตียงมีของยัดอยู่ในปาก เบิ่งตาโพลงมองมาที่เขา เขาจ้องมองหญิงสาวคนนั้นอย่างละเอียด หลินหยางถึงจำได้ว่าเป็นใคร
ผู้หญิงคนนี้ เจอกันในงานสัมมนาทางการแพทย์วันนี้พอดี คือไป๋หยุนคนที่สงสัยในฝีมือของเขา
ไป๋หยุนในตอนนี้ ถูกมัดมือมัดขา เสื้อผ้าท่อนบนกระดกขึ้น หน้าอกใหญ่สองข้างตั้งตรง ขาวดุจหิมะ เมื่อแสงไฟส่องกระทบลงมาจึงดูเป็นขาวอมชมพู
กระโปรงสั้นท่อนล่างโดนกระชากออก เหลือเพียงแต่กางเกงในตัวเดียวเท่านั้น พงหญ้าสีดำค่อยๆโผล่แพลมออกมา ดูลึกลับและยั่วยวน
หลินหยางแก้เชือกที่มัดมือเท้าของไป๋หยุนออก แล้วเอาสิ่งที่อุดปากเธอไว้ออกมาด้วย พร้อมกับถามอย่างรีบร้อน“เกิดอะไรขึ้น”
ไป๋หยุนผู้ที่โดนแก้มัดยังไม่หายตกใจ พอตั้งตัวได้ก็ระเบิดร้องไห้ใส่หลินหยาง
“เอาล่ะๆ ไม่ต้องร้องไห้แล้ว เล่าให้ผมฟังสิว่าเกิดอะไรขึ้น”หลินหยางปลอบเสียงเบา
“ฉัน……ฉันกำลังจะโทรหาคุณให้มาตรวจร่างกายให้ฉันหน่อย แต่ดันลืมเบอร์โทรศัพท์ ก็เลยตั้งใจมาหาคุณ ปรากฏว่ามาถึงแล้วหาไม่เจอ ผู้ชายคนนี้ถามฉันว่าตามหาใคร ฉันบอกชื่อคุณออกไป เขาบอกว่าคุณอยู่ในห้องของเขา แล้วก็พาฉันเข้ามา ปรากฏว่า……ฮือๆๆ……”ไป๋หยุนซบหน้าลงกับอกหลินหยางแล้วปล่อยโฮออกมา
หลินหยางฟังแล้วยิ้มแข็งๆ สุดท้ายแล้ว สาเหตุของเรื่องก็คือตัวเขาเองนั่นแหละ
ทันใดนั้น มีกลิ่นหอมลอยเตะเข้าจมูกหลินหยาง หลินหยางก้มหน้าลงมอง เห็นแต่กระต่ายขาวสองตัวของไป๋หยุนเบียดเข้ากับร่างกายของเขาเอง ตามการสั่นกระเพื่อมของไป๋หยุน ความรู้สึกอ่อนนุ่มนั้นเสียดสีเข้ากับร่างกายของหลินหยางไม่หยุด ไม่นานนักมังกรที่ซ่อนอยู่ใต้กางเกงของหลินหยางก็ผงาดขึ้น
“เอาล่ะๆ ไหนๆเรื่องก็ยังไม่เกิดขึ้นไม่ใช่เหรอ”หลินหยางยื่นมือออกไปลูบปลอบไป๋หยุน มือไม่ทันระวังไปทาบลงบนยอดทั้งสองยอดนั้น ความรู้สึกนุ่มมือราวกับจับแอ่งน้ำ
หลินหยางผู้รู้สภาพตัวเอง รีบชักมือกลับอย่างกระดากอาย รีบพูดแก้ต่างว่า“อุบัติเหตุนะอุบัติเหตุ เป็นอุบัติเหตุจริงๆ”
เมื่อโดนหลินหยางทักจนรู้สึกตกใจ ไป๋หยุนก็หยุดร้องไห้ทันที ดวงตาที่คลอไปด้วยน้ำตามองไปที่หลินหยาง ปากพูดมุบมิบ“ผู้ชายไม่มีดีสักคน”
“ผมส่งคุณกลับบ้านแล้วกัน ส่วนคนนี้ก็ส่งไปที่สถานีตำรวจ”หลินหยางมองดูผู้ชายที่หมอบอยู่บนพื้น แล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“หึ ไม่ปล่อยให้ลอยนวลแน่!”ไป๋หยุนพูดอย่างโกรธจัด“แจ้งความเถอะ”
หลินหยางฟังแล้วพยักหน้าหงึกๆ หยิบมือถือออกมากดเบอร์สถานีตำรวจ
“มองอะไรเล่า หันหน้าไปสิ!”ไป๋หยุนผู้ที่กำลังสวมยกทรง เห็นแววตาของหลินหยางกำลังจับจ้องมาที่ตนเอง จึงตวาดแหว
“ผมมองที่ไหนกัน หันหน้าไปก็จบ”แม้ว่าจะไม่เต็มใจนัก แต่หลินหยางก็หันหน้ากลับไปอย่างว่าง่าย อย่างไรเสียตรงหน้าเตียงมีกระจกบานหนึ่ง มองผ่านกระจก หลินหยางก็ยังคงเห็นไป๋หยุนอยู่ดี
ไป๋หยุนไม่ได้สังเกตว่าหลินหยางสามารถแอบมองตัวเองผ่านทางกระจกได้ ผู้ชายคนก่อนได้บีบกระต่ายขาวสองตัวของเธอแล้ว ไป๋หยุนใช้มือคลึงกระต่ายสองตัวของตัวเอง เมื่อเห็นฉากเด็ดขนาดนี้ หลินหยางจึงเลือดกำเดาไหลพุ่งออกมา
รอจนไป๋หยุนสวมเสื้อผ้าเรียบร้อย เห็นหลินหยางจ้องกระจกตาไม่กระพริบ จึงคิดได้ว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น
“ยังกล้าแอบมองอีกเหรอ!”ไป๋หยุนตวาดแหว
“เปล่านะ……”หลินหยางอธิบายเสียงอ่อยๆ