บทที่175สยบหนานกงเห้อ
ถึงแม้ไม่รู้ว่าความสามารถที่ของหลินหยางเป็นยังไงบ้างกันแน่ แต่ลึกๆแล้วไม่นึกเลยว่าตัวเองจะเชื่อใจหลินหยางอย่างมาก
และบางทีอาจจะเป็นเพราะว่าครั้งก่อนตัวเองถูกพิษคางคกน้ำแข็งและตกอยู่ในอันตราย แล้วบังเอิญหลินหยางช่วยเธอรอดจากเคราะห์ครั้งนั้น ถึงได้เชื่อใจหลินหยางขนาดนี้?
ไม่นานหนานกงหยูนก็ล้มเลิกความคิดที่จะพึ่งหลินหยาง เธอรู้ความสามารถของอาสามตัวเองดี หลินหยางเพิ่งจะอายุเท่าไหร่เอง? จะเป็นคู่ต่อสู้ของอาสามได้ยังไง?
“รีบไสหัวไปซะ ทำไมไล่ก็ยังไล่ไม่ไปอีก?”จ้าวจินฟ่งมือเท้าเอวและด่าทอ
“เสี่ยวหย่วน ให้เธอหุบปากไปซะ!”อาสามพูดน้ำเสียงเย็นชาคำนึง
เถียนหย่วนมีความคิดเกินเลยกับจ้าวจินฟ่งตั้งนานแล้ว นาทีนี้ได้ยินคำพูดของอาสามแล้วยังจะรอช้าอยู่ได้ยังไง? เขายิ้มอ่อนๆแล้วกล่าวขอโทษคำนึง จากนั้นก็พุ่งตัวเข้าใส่
เดิมทีเถียนหย่วนก็เห็นจ้าวจินฟ่งเป็นคนธรรมดาอยู่แล้ว และเขาก็แน่ใจด้วยว่าหนานกงหยูนมีอาสามของเธออยู่ข้างกาย เธอไม่กล้าลงมือกับเขาหรอก เพราะฉะนั้นเขาเลยวางใจและไปจับจ้าวจินฟ่งอย่างใจกล้า
แต่เห็นได้ชัดว่าเถียนหย่วนคงลืมคิดไปว่า หนานกงหยูนที่อยู่ข้างๆจะยอมปล่อยให้เพื่อนบาดเจ็บเพื่อตัวเองได้ยังไง? กำลังภายในหมุนเวียน พลังฝ่ามือผลักไปที่เถียนหย่วน
เถียนหย่วนเห็นแล้วตกใจเลยรีบพลิกตัวหลบทันและนี่ก็ถือว่าโชคดีที่หนานกงหยูนแค่อยากบีบเขาให้ถอยไป ไม่ได้ใช้กำลังทั้งหมดที่มี
“เสี่ยวหยูน นี่เธอคิดจะกบฏเหรอ?”เห็นหนานกงหยูนถึงกับลงมือขึ้นมา ตาแก่หนานกงเลยตะคอกขึ้นมาคำนึง ไม่นึกเลยว่าจะลงมือไปจับหนานกงหยูนด้วยตัวเอง เดิมทีตัวเองมาครั้งนี้ก็เพื่อมาหาหนานกงหยูน จับกลับไปโดยตรงเถอะ หนานกงหยูนย่อมไม่กล้าลงมือกับอาสามอยู่แล้ว มองดูร่างเงาที่ยิ่งอยู่ยิ่งใกล้เข้ามา หัวใจของเธอก็ได้ดิ่งลึกลงไปอย่างแรง เพื่อเชื่อมสายสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลแล้ว ต้องยอมทิ้งความสุขของตัวเองไป ถึงแม้ตอนที่ยังเด็กมากๆ เธอก็เคยเตรียมใจไว้แล้ว แต่พอเอาเข้าจริง ก็ยากที่จะรับได้ในชั่วขณะ
ในขณะที่อาสามของหนานกงหยูนจะเข้าใกล้ตรงหน้าของหนานกงหยูน จู่ๆขนลุกซู่พัดไปด้านหลัง กลิ่นไอที่อันตรายสุดขี้ได้ปรากฏขึ้น ทำให้เขาหยุดลงในทันที
“ผู้ชายสองคนรังแกหญิงสาวสองคน หนังหน้าของพวกคุณหนาแค่ไหน ในเวลาอันสั้นคงประมาณการไม่ออกแน่”ในที่สุดหลินหยางก็ได้เดินลงจากบันไดเสียที
“หลินหยาง คุณลงมาแล้วเหรอ!”จ้าวจินฟ่งเรียกด้วยความเซอร์ไพรส์
ทั้งสี่คนมองกำลังผู้ชายที่ลงมาจากชั้นบนพร้อมกัน ขอบหน้าที่ชัดเจนประดับด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ
จ้าวจินฟ่งและหนานกงหยูนหัวใจเต้นแรง พลานุภาพที่หลินหยางฟุ้งกระจายออกมามีแรงดึงดูดที่ผู้หญิงยากจะต้านทาน นี่ถ้าไม่ใช่เพราะยังมีคนอื่นอยู่ในเหตุการณ์ คาดว่าอาการบ้าผู้ชายของทั้งสองก็คงจะกำเริบแล้ว
ส่วนบทหลงเฟิ่งเจว๋นี่มีเพียงแต่องค์จักรพรรดิในสมัยโบราณถึงมีได้ มีพลานุภาพสยบใต้หล้าแฝงอยู่รางๆอีกเช่นเคยน้อยมากที่หลินหยางจะแผ่พลานุภาพแบบนี้ออกมา เพราะน้อยมากที่จะเจอศัตรู ครั้งนี้หลินหยางได้ปล่อยพลังออกมากสุดฤทธิ์ มันช่างทรงพลังมาก
หนานกงหยูน อาสามและเถียนหย่วนต่างมองหน้าหลินหยางด้วยความตื่นเต้น ไม่นึกเลยว่าพ่อหนุ่มคนนี้ จะให้กลิ่นไอที่เหมือนเจอศัตรูอันตรายกับเขาสองคน
“ข้าหนานกงเห้อ ไม่ทราบว่าท่านคือ……”อาสามถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
“ผมชื่อหลินหยางครับ เป็นหัวหน้าของร้านซักรีดร้านนี้ครับ ทั้งสองท่านคือต้องการมาซักผ้าเหรอครับ?ถ้าใช่ก็ยินดีต้อนรับ แต่ถ้าไม่ ก็รบกวนออกไปด้วยครับ จะได้ไม่เสียเวลาทำมาหากินของผม”หลินหยางพูดอย่างราบเรียบ
“พ่อหนุ่ม เสี่ยวหยูนเป็นเรื่องภายในของตระกูลหนานกงของเรา”หนานกงเห้อพูดทีละถ้อยคำ
หลินหยางย่อมเข้าใจความหมายของหนานกงเห้ออยู่แล้ว นี่คือเรื่องภายในครอบครัวของหนานกง นายก็อย่ายุ่งเลย ไม่อย่างนั้นผิดใจกับครอบครัวหนานกง นายได้แบกรับผลที่ตามมาแน่
ถึงแม้หลินหยางจะไม่ใช่คนหยิ่งยโส แต่ก็ไม่เคยเห็นว่าตระกูลๆนึงใหญ่แค่ไหนกันแน่ ในใจเลยไม่ได้รู้สึกกลัวสักเท่าไหร่ เขาหัวเราะอย่างสบายใจและเดินเข้าไป แขนข้างนึงยื่นมือไปกอดหนานกงหยูนไว้ ออร่าบนตัวไหลลงมาดั่งกระแสน้ำ:“ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในครอบครัวของใครกรุณาอย่ามาลงมือในร้านของผม อีกอย่างผมของเตือนพวกคุณอย่าทำให้เสี่ยวหยูนลำบากใจ เพราะเธอคือผู้หญิงของผม”
หนานกงเห้อและเถียนหย่วนต่างก็รู้สึกตกตะลึง นัยน์ตาของเถียนหย่วนยิ่งแล้วใหญ่ได้หดลงอย่างรวดเร็ว สายตาที่จ้องหลินหยางค่อนข้างดุร้าย
“พ่อหนุ่ม วันนี้ไม่ว่ายังไงฉันก็จะพาเสี่ยวหยูนกลับไปให้ได้ หวังว่าคุณจะไม่ขัดขวางนะ”หนานกงเห้อพูด
“เสี่ยวหยูน ดีที่สุดเธอรีบกลับไปกับฉันซะไม่อย่างนั้นพอถึงเวลาหัวหน้าบ้านหนานกงกล่าวโทษขึ้นมา เธอต้องเจอกับจุดจบยังไงเธอน่าจะรู้ดีที่สุด”ถึงแม้เถียนหย่วนจะรู้สึกว่าหลินหยางเก่งกาจมาก แต่เขาไม่คิดว่าหลินหยางจะเก่งกาจสู้หนานกงเห้อได้ มีคนแบบนี้คอยหนุนหลังอยู่ เขาก็รู้สึกใจกล้าขึ้นไม่น้อยเลย
“ไสหัวออกไป!”หลินหยางพูดอย่างเย็นชาคำนึง
“นายรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร……”
“เพี๊ยะ!”ไม่รอให้เถียนหย่วนพูดจบ เสียงตบที่ใสชัดก็ได้ก้องมา เถียนหย่วนรู้สึกแค่ว่าใบหน้าของตัวเองปวดแสบปวดร้อน
“ไม่รู้มารยาท ผู้ใหญ่เขาคุยกัน นายมาแทรกอะไรด้วย!”หลินหยางพูดอย่างเย็นชา
“นี่แก!”เถียนหย่วนที่ถูกตบจะทนไหวได้อย่างไร เขาจ้องหลินหยางด้วยสายตาดุแล้วแล้วจะพุ่งเข้าไป กลับถูกหนานกงเห้อจับแขนเอาไว้
“หยุดนะ!”ด่าสั่งสอนเถียนหย่วนไปทีนึง หนานกงเห้อมองหน้าหลินหยางแล้วพูด:“พ่อหนุ่ม เรื่องภายในครอบครัวของฉันกับหนานกงหยูนแน่ใจหรอว่าพ่อหนุ่มจะยุ่ง?”
“ผมเคยพูดแล้วว่าหนานกงหยูนเป็นผู้หญิงของผมครับ”หลินหยางหันไปจับแก้มของหนานกงหยูน หนานกงหยูนเหม่อลอยไปครู่นึง ในระหว่างที่มึงงงอยู่ หัวใจถูกหวั่นไหวไปครู่นึง
ฉันเป็นผู้หญิงของเขา! หนานกงหยูนคิดย้อนอยู่ในใจ แล้วรู้สึกหวานชื่นขึ้นมา
“งั้นคุณรับฝ่ามือของฉันหนึ่งฝ่ามือ ถ้าสามารถรับไหว เรื่องของวันนี้ก็จบแค่นี้ แต่วันข้างหน้าเรื่องที่หัวหน้าบ้านหนานกงจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง ก็หวังว่าพ่อหนุ่มจะรับไหวด้วยนะ!”หนานกงเห้อพูดไปคำนึง เจินชี่อันทรงพลังได้ระเบิดออกมาจากภายใน กระดูกดังกึกๆ ฝ่ามือแฝงไปด้วยพลานุภาพผลักไปที่ร่างกายของหลินหยาง!
หลินหยางผลักหนานกงหยูนออกเบาๆ หายใจลึกๆทีนึงผลักฝ่ามือออกไป
รู้สึกถึงพลานุภาพของหลินหยางแล้ว หนานกงเห้อหัวคิ้วกระตุก หลินหยางที่เดิมทีดูธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษ จู่ๆทำให้เขารู้สึกมีพลังอันยิ่งใหญ่ทำให้เขาลอยขึ้นจากพื้นเข้าไปในกลีบเมฆ
ส่วนฝ่ามือที่มาอย่างรวดเร็วนั้น ราวกับภูเขาที่เต็มไปด้วยพลานุภาพอันยิ่งใหญ่
“ปัง!”เสียงเบาๆก้องมา หนานกงเห้อตกใจอีกครั้ง
เดิมทียังคิดว่าหลินหยางจะพุ่งชนกับตัวเองอย่างแรง แต่พอสัมผัสถึงฝ่ามือของหลินหยางแล้ว เขากลับรู้สึกเหมือนได้ผลักเข้าไปในสำลีก้อนนึง ลดทอนความสามารถของตัวเองไปทีละชั้นๆ พอถึงสุดท้าย ไม่นึกเลยว่าพลังของตัวเองจะถูกกำจัดไปหมดสิ้น
อยู่ในสายตาของคนธรรมดา หนานกงเห้อก็แค่แตะมือของหลินหยางเบาๆ ดูเหมือนกำลังเล่นเกมส์ตบมือกัน
รับมือได้อย่างง่ายดาย!
หัวใจของหนานกงเห้อใช้คำว่าสยองขวัญมาอธิบายก็ไม่เพียงพอแล้ว
ไอ้หมอนี่ดูแล้วอายุเพิ่งจะเท่าไหร่เอง ไม่นึกเลยว่าจะมีวรยุทธสูงถึงขั้นนี้
อีกอย่างดูท่าทางที่หลินหยางต้านรับได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ ใครจะไปรู้ว่ากำลังภายในของพ่อหนุ่มคนนี้มีพลังแฝงอยู่มากแค่กันแน่
“ข้านับถือจริงๆ!”หนานกงเห้อมองหน้าหลินหยางพร้อมคารวะและพูด
“ขอบคุณที่ออมมือให้ครับ”หลินหยางก็คารวะกลับด้วยรอยยิ้ม
“วันนี้ก็ขอลาที่นี่เลย ถึงแม้วรยุทธของนายไม่เลว แต่ตระกูลหนานกงของเราก็ใช่ว่าจะไม่มีคนวรยุทธ์ขั้นสูง ถึงเวลาสี่ยวหยูนต้องกลับไปใครก็ขัดขวางไว้ไม่ได้”หนานกงเห้อพูด
“ไม่ต้องครับ ประโคมยกโขยงกันมาถึงโลกภายนอก ผมเชื่อว่าก็ไม่ใช่สไตล์ของตระกูลลับที่ซ่อนเร้นแน่นอน ตอนนี้เพิ่งจะเดือนสิบเอง รอก่อนตรุษจีน ผมจะเป็นคนพาหนานกงหยูนไปเจอหัวหน้าเผ่าของตระกูลหนานกงเองครับ”หลินหยางเอามือข้างนึงไขว้หลังไว้แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
ได้ยินคำพูดของหลินหยางแล้ว ตาของหนานกงเห้อเปล่งประกายขึ้นทันที ใบหน้าก็เผยให้เห็นความอุ่นใจ:“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้ากลับไปต้องไปรายงานหัวหน้าเผ่าอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นหวังว่าพ่อหนุ่มจะไม่ผิดคำสัญญานะ”
“ลูกผู้ชายพูดคำไหนคำนั้นครับ”ง่ายๆคำนึง เผยให้เห็นความในใจของหลินหยาง
หนานกงเห้อรู้สึกเชื่อใจพ่อหนุ่มตรงหน้าคนนี้มาก เมื่อเขารับปากแบบนี้แล้ว หนานกงเห้อก็ไม่เสียเวลาอยู่ต่อ เขาได้ดึงเถียนหย่วนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยโกรธแค้นจากไป
ก่อนจากไปเถียนหย่วนยังได้หันหน้ามามองหลินหยางทีนึง หลินหยางยกมุมปากขึ้น คนใจแคบแบบนี้ ถึงจะใช้แผนชั่วร้ายเป็นก็เป็นคนไม่เอาไหนหรอก
“หลินหยาง เมื่อกี๊คุณหล่อจังเลย!”จ้าวจินฟ่งตบไหล่ของหลินหยางแล้วพูด
ถึงแม้ภายนอกจะดูโผงผางไม่ใส่ใจ แต่ในใจของจ้าวจินฟ่งก็แอบเสียใจและมีความขมขื่นเสี้ยวนึง ตัวเองรู้จักหลินหยางนานกว่ากั่วเหมิงและหนานกงหยูน แต่ปรากฏหลินหยางกลับนอนกับเพื่อนสนิทของตัวเองก่อน ตอนนี้ก็ยังมาบอกว่าหนานกงหยูนเป็นคนของเขา ต่อหน้าผู้ใหญ่ของหนานกงหยูนอีก
งั้นตัวเองล่ะ? ตัวเองอยู่ในใจของหลินหยางคือฐานะอะไรกันแน่?
“หลินหยาง ขอบคุณๆมากเลยนะ”หนานกงหยูนเงยหน้าขึ้นมามองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า และกล่าวขอบคุณจากใจจริง
มองหนานกงหยูนที่คิ้วเข้มดั่งหมึกวาดภาพ หลินหยางยิ้มอ่อนๆ ส่ายหัวบอกว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
“หลินหยาง ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าจะกลับบ้านกับฉัน เป็นเรื่องจริงหรอคะ?”หนานกงหยูนถามเสียงเบา
“ก็จริงสิครับ” มองหนานกงหยูนที่สีหน้าแฝงด้วยความเศร้าทีนึง หลินหยางพูดต่อ:“แค่กลับไปดูหน่อยเอง แต่ไม่จำกัดอิสระของคุณหรอก เรื่องแต่งงานเชื่อมสายสัมพันธ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นแน่นอนครับ”
“ขอบคุณค่ะ” ได้ยินหลินหยางรับประกัน หนานกงหยูนรู้สึกอุ่นใจ
เธอพูดไปคำนึงว่าตัวเองยังมีธุระ หลินหยางก็เดินขึ้นชั้นบนกลับห้องนอนของตัวเอง นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง หลินหยางที่ก่อนหน้านี้ยังพูดคุยหัวเราะอยู่ นาทีนี้สีหน้าซีดเซียวลงมาทันที
ในฐานะที่หนานกงเห้อเป็นผู้อาวุโสของตระกูลหนานกง ความสามารถย่อมไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ฝ่ามือที่ผลักออกก่อนหน้านี้ คาดว่าวัวทั้งตัวก็จะถูกเขาเอาตายได้ ยังไงซะหลินหยางยังหนุ่มอยู่ ฝืนต่อต้านไปหนึ่งฝ่ามือก็ถือว่าไม่ง่ายแล้ว
“พวู้!” มุมปากมีเลือดไหลออกมาเสี้ยวนึง หลินหยางยิ้มอย่างขมขื่น และใช้ทิชชูเช็ดให้สะอาด:“ความสามารถยังด้อยเกินไป เมื่อไหร่ถึงจะสามารถทะลวงขั้นหนึ่ง เข้าสู่พลังมังกรและหงส์ขั้นสองก็ดีแล้ว”
นั่งตัวตรงอย่างลำบาก พลังมังกรและหงส์ในร่างกายหมุนเวียนอย่างช้าๆ ซ่อมแซมชีพจรภายในที่ได้รับรับเจ็บจากการถูกกระทบกระแทกทีละนิดๆ
เที่ยงของวันถัดมา หลังจากที่หลินหยางทานเมื้อเที่ยงเสร็จ เดิมทีอยากไปคุยเรื่องครีมแผลลายระดับล่างกับไป๋เซียนเฉ่า เสียงโทรศัพท์กลับดังขึ้นอีกอย่างไม่บังเอิญ
เขาแอบถอนหายใจ พูดอย่างลับๆทำไมวันๆมีแต่คนมาขัดลาภตัวเอง พอเห็นเบอร์โทรศัพท์แล้ว หลินหยางยกมุมปากขึ้นอย่างห้ามใจไม่ได้ คนที่โทรมาไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่เป็นหลิวหลิงหลิงของเมืองจินหลิง
ยังจำได้ว่าตอนนั้นตัวเองอยู่เมืองจินหลินได้ส่งจางเยว่กลับบ้าน แต่กลับได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือของจางเยว่ ก็คือหลิวหลิงหลิงที่ถูกพิษพิศวาส ยังเป็นตัวเองที่อุทิศตนช่วยเธอไว้
นึกถึงหุ่นที่งดงามของหลิวหลิงหลิง ในใจของหลินหยางก็เร่าร้อนขึ้นมา
“ฮัลโหล หลิงหลิง วันนี้ไม่ต้องทำงานเหรอครับ?”หลินหยางถามด้วยรอยยิ้ม
“ทำไมยังมุ่งหวังให้พี่ทำงานอยู่เรื่อยเลย ไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นลับหลังพี่อีกแล้วใช่มั้ย ”เสียงใสๆของหลิวหลิงหลิงก้องมา
ได้ยินเสียงที่คล้ายแม่บ้านแม่ศรีเรือนของหลิวหลิงหลิง หลินหยางยิ้มอย่างขมขื่น สาวน้อยคนนี้เห็นตัวเองเป็นแม่บ้านแม่ศรีเรือนแล้วจริงๆ:“แหะๆ เปล่าสักหน่อย”
“เชอะ เรื่องรักๆใคร่ๆเหล่านั้นของนาย พี่ตรวจสอบมาอย่างชัดเจนมากเลยนะ ได้ยินมาว่าที่ๆนายพักอยู่ก็ซ่อนไว้สามคนแล้ว เก่งไม่เบาเลยหนิ ยิ่งอยู่ยิ่งใจกล้าแล้ว!”
หลินหยางได้ยินแล้วตกใจ ทีนี้ถึงดึงสติกลับมาได้ว่าสาวน้อยคนนี้อยู่เมืองจินหลิงเป็นถึงหัวหน้าของสถานีตำรวจ ตรวจสอบตัวเองเป็นเรื่องที่ไม่ยากเลยจริงๆ
“เอาล่ะ ไม่ถือสากับนายแล้ว ตอนเย็นพี่กับพี่เยว่ก็จะไปเมืองเจียงหลิงแล้ว ถึงเวลาอย่าลืมมารับพี่นะ”
“เสี่ยวเยว่ก็มาเหรอครับ? ได้สิครับ เดี๋ยวพี่ใกล้ถึงแล้วโทรหาผม ผใจะไปรับพี่แน่นอนครับ!”หลิงหยางพูดรับประกัน