บทที่ 182 ถูกจับได้แล้ว
หลินหยางกลับไม่คิดแบบนี้ สาวสวยอย่างไป๋เซียนเฉ่า อย่าว่าแต่ไปดูดาวเป็นเพื่อนเธอ ต่อให้อยากไปดวงจันทร์ เขาก็กล้าที่จะขึ้นสายฉางเอ๋อ ไปดวงจันทร์เป็นเพื่อนเธอ
“จะบอกว่าขอบคุณ ยังไม่รีบ บอกเรื่องของผมให้พ่อของคุณเข้าใจก่อนเถอะ” หลินหยางพูดขึ้น
ไป๋เซียนเฉ่าไม่ตอบ เพียงแค่ยืนขึ้นมาโทรหาบอดี้การ์ด ให้พวกเขามารับตน ท่านใดนั้นด้านล่างภูเขาก็มีรถคันหนึ่งแว่นมาอย่างรวดเร็ว บอดี้การ์ดพวกนี้ช่างมืออาชีพจริงๆ
“รถออดี้คันนั้นของคุณพังแล้ว ถือว่าเป็นเพราะรับเคราะห์แทนฉัน รถมาเซราติคันนั้นของฉันยกให้คุณละกัน” ไป๋เซียนเฉ่ายื่นกุญแจรถให้เขาแล้วพูดขึ้น
ไม่มีการบ่ายเบี่ยง หลินหยางยื่นมือรับมา พยักหัวพูดขึ้นว่า “งั้นก็ได้ คุณเดินทางปลอดภัย เรื่องบางอย่างค่อยกลับไปคุยกับคุณที่บริษัทอีกที”
เมื่อไป๋เซียนเฉ่าไปแล้ว หลินหยางขับรถมาเซราตินคันใหม่เอี่ยม กลับมาที่บ้านของตน
ผลักประตูเปิดออก ก็เห็นจ้าวจินฟ่งร้องห่มร้องไห้อยู่ กั่วเหมิงก็ตาแดงทั้งคู่ เห็นทีสองวันนี้พวกเธอคงตกใจแย่แล้ว
“คุณ…คุณไม่เป็นไร” หนานกงหยูนเห็นหลินหยาง ที่เพิ่งเข้ามาตอนนี้ก่อนคนอื่น
หายใจเข้าลึกๆหนึ่งที หลินหยางพยักหัว ไม่รู้จะอธิบายยังไงให้พวกเธอฟัง เงียบไปสักพักแล้วค่อยพูดขึ้นว่า “รถคันนั้นเป็นของผม แต่ผมไม่เป็นไร ส่วนเรื่องเป็นยังไงพวกคุณไม่ต้องถามแล้ว หนานกงคนสวย ผมหิวแล้ว จะเป็นเกียรติทานอาหารมื้อดึกฝีมือของหนานกงได้ไหม?”
“อาหารมื้อดึก…อ่อ ในครัวมีเกี๊ยวนิดหน่อย” แล้วหนานกงหยูน ก็ไปต้มเกี๊ยวให้เขาจริงๆ
แล้วหลินหยางก็ยื่นแขนไปโอบกอดจ้าวจินฟ่งกับกั่วเหมิง ที่นิ่งอึ้งอยู่ ดมกลิ่นหอมๆของเส้นผมทั้งสองคนแล้วก็พูดปลอบขึ้นว่า “ยังไงก็ที่บ้านดีที่สุด พวกคุณอยู่ที่นี่ยิ่งดีที่สุดเลย”
คำพูดเพียงประโยคเดียวทำให้ ความเครียดในใจของผู้หญิงทั้งสองคนดับหายมลายสิ้น ความเป็นกังวลกับความหวาดกลัวทั้งหมดกลายเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยน ผู้หญิงทั้งสองคนถูกโอบกอดไว้อยู่แบบนี้ก็ไม่เอียงอาย กลับต่างก็กอดเขาไว้อย่างแน่น
หลินหยางพูดคืนนี้อย่างพอใจว่า “เป็นความผิดของผมที่สองวันนี้ทำให้พวกคุณไม่สบายใจ เพื่อเป็นการลงโทษในความผิดนี้ คืนนี้ลงโทษไม่ให้ผมนอนเลยละกัน”
ไม่นอน? ถ้าไม่นอนแล้วจะทำอะไร เดิมทั้งสองคนถูกเขากอดอยู่แบบนี้อย่างไม่รู้สึกอะไร คราวนี้ต่างก็หน้าแดงขึ้นมาแล้วก็ไม่กล้ามองเขา
และตอนนี้ หนานกงหยูนก็กำลังยกถ้วยเกี้ยวที่ต้มเสร็จแล้วเข้ามาพอดี เห็นหลินหยางโอบกอดซ้ายคนขวาคน ในใจก็หงุดหงิดขึ้นมาทันที วางถ้วยลงบนโต๊ะ จนน้ำแกงกระเด็นออกมาไม่น้อย
จ้าวจินฟ่งกับกั่วเหมิงรีบปล่อยเขา แล้วก็หันหลังไปด้วยความรู้สึกเก้อเขินขึ้นมา หลินหยางหน้ายื่นเข้าไปดมดู แล้วก็พูดชมอย่างหน้าด้านๆว่า “เกี๊ยวนี้ ต้องใช้ใจกับความสวยงามรวมกันถึงสามารถห่อออกมาได้สวยขนาดนี้”
“นี่เป็นแบบแช่แข็ง ห่อละสิบหยวน คุณจะไปซื้อเกี๊ยวที่ห่อด้วยใจและความงามแบบนี้มาไว้สักสองห่อไหม?” หนานกงหยูนไม่ไว้หน้าเลยสักนิด
หลินหยางไม่ถือสาคุณหนูตระกูลใหญ่ นั่งลงแล้วก็ทานเกี๊ยวอย่างหิวโหย
“ทานช้าๆหน่อย เดี๋ยวลวกปาก” หนานกงหยูนพูดขึ้นอย่างทนดูไม่ไหว
“ไม่เป็นไร ร้อนแค่ไหนก็ไม่อันตรายเท่า เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์” หลินหยางตั้งใจเปลี่ยนเรื่องพูดถึงอุบัติเหตุรถยนต์
การพูดคุยกันเมื่อกี้ ได้ดึงจิตใจของผู้หญิงออกจากความเศร้าโศกแต่แรกแล้ว คราวนี้ต่างก็จ้องมองดูเขายังแปลกใจ หลินหยางก็ไม่อ้ำอึ้ง เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในหลายวันนี้ออกมาให้ฟัง
“มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ? เจียงหัวคนนั้น เหิมเกริมในเมืองเจียงหลิงขนาดนี้ ยังไงก็ต้องมีอิทธิพลหนุนหลัง ต่อไปคุณจะต้องอยู่ในเจียงหลิงไปอีกนาน? จะทำอย่างไร” จ้าวจินฟ่งพูดขึ้นอย่างเป็นห่วง
“ทำยังไง? จัดการเขาก่อนไง จะให้พวกคุณดูบางอย่างที่ค่อนข้างไม่เหมาะสมกับเด็กอายุต่ำกว่าสิบแปด” หลินหยางพูดเสร็จแล้วก็ล้วงเอากล้องตัวนั้นออกมา
ผู้หญิงทั้งสามคนขยับเข้าไปใกล้กัน เมื่อเปิดกล้องออกมาดู ก็เกือบที่จะโยนกล้องทิ้งไป ดีที่หลินหยางเตรียมตัวไว้แต่แรกแล้ว จึงรับไว้ทัน
“คุณทุเรศมาก นี่ก็คือเจียงหัวหรือ? พุงใหญ่กว่าคนท้อง 10 เดือนเสียอีก เขาทำท่าอนาถขนาดนี้ออกมาได้อย่างไร?” กั่วเหมิงถามขึ้น
หลินหยางดีดนิ้วพร้อมพูดว่า “ท่าพวกนี้เขาเป็นคนโพสต์ขึ้นมาเอง ผมเพียงแค่บันทึกภาพไว้เอง แต่อาศัยเพียงพวกนี้ยังไม่สามารถจัดการเขาได้ หนานกงคนสวย เรื่องอย่างอื่นผมไม่ขอร้องคุณ น้องสาวที่บ้านสองคนนี้ขอฝากให้คนดูแล คนคนนี้จะต้องหาทุกวิธีจัดการกับผม”
หนานกงหยูนพยักหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “วางใจเถอะ มีฉันอยู่ไม่มีใครแตะต้องพวกเธอได้”
ดึกมากแล้ว หลินหยาง กะจะไปอาบน้ำอุ่นเสียก่อนแล้วค่อยเข้านอน แล้วก็คิดอยากที่จะพาจ้าวจินฟ่งไปอาบน้ำด้วยกัน แต่สาวคนนี้กลับอิดออดไม่ยอมเข้ามาสักที
“ทำไมหรือ? ไม่สบายหรือ?” หลินหยางพูดขึ้นอย่างเป็นห่วง
จ้าวจินฟ่งกัดริมฝีปากพยักหัว แล้วก็ชี้ไปด้านล่าง แหวกชุดนอนกระโปรงของตนเองขึ้น แล้วข้างในก็บวมๆ เซ็งจริงๆ นี่ประจำเดือนรวมตัวกันมาหรือไง
หลินหยางอาบน้ำคนเดียวจนเสร็จอย่างอารมณ์เสีย ตอนที่เดินออกมากลับเจอหนานกงหยูน ถือเสื้อผ้าตนเองแล้วก็กำลังจะมาอาบน้ำ
“คุณมาทางนี้ได้อย่างไร? ก๊อกน้ำในห้องของคุณเสียแล้วหรือ?” หลินหยางค่อนข้างดีใจ
หนานกงหยูนกลอกตามองบนใส่เขา ทำท่าทีเหมือนรู้ทั้งรู้แล้วทำเป็นถาม ผลักตัวหลินหยางแล้วก็เดินเข้าไป
หลินหยางมอดูหนานกงหยูน ตอนที่เดินผ่านตนเองไปได้เบียดเสียดกับเจ้าปืนใหญ่ของเขา ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือว่าไม่ตั้งใจ แล้วความร้อนรุ่มก็ลุกขึ้นมาทันที
ผู้หญิงคนนี้หมายความว่ายังไง? ก๊อกน้ำเสีย? บังเอิญขนาดนี้เลยหรือ? พูดออกมาใครจะเชื่อ หลินหยางไม่เชื่อเด็ดขาด ตัดสินใจเอาโอกาสที่พลาดจากการอาบน้ำกับสาวกลับคืนมาอีกครั้ง
หลินหยางฮึดสู้ขึ้นมา ปืนขึ้นไปบนตึก ห้อยหัวลงที่หน้าต่างเหมือนกับค้างคาว ภายในห้องน้ำเต็มไปด้วยไอน้ำอุ่น หนานกงหยูนยังไม่ได้ถอดเสื้อผ้าออก แต่ก็เหลือเพียงกางเกงในตัวจิ๋ว
เพียงแค่รูปร่าง หนานกงหยูนนับได้ว่าไร้ที่ติอย่างที่สุด อ้วนอิ่มหนึ่งจุด ผอมเล็กน้อยอยู่หนึ่งสองจุด ไหปลาร้าของหนานกงหยูน เป็นจุดที่ทำให้หลินหยางหลงใหลอย่างที่สุด เผยให้เห็นถึงลำคอที่ขาวผ่องของหนานกงหยูน เมื่อมองลงไปเห็นซาลาเปาสองลูกด้านล่าง คราวนี้ถูกบดบังไว้ แต่มันไม่ได้บดบังทัศนียภาพที่ยอดเยี่ยมภายในเลย
หนานกงหยูนยืนอยู่ตรงหน้าฝักบัว เริ่มเอื้อมมือไปปลดตะขอยกทรงด้านหลัง เมื่อตะขอถูกปลด ซาลาเปาอมชมพูกลมๆสองลูกก็เผยออกมาให้เห็น หลินหยางอดกลั้นไม่ให้เลือดกันเดาไหลออกมา จ้องมองดูอยู่จนแทบลืมหายใจ
น่าเสียดายที่มีไอความร้อนภายใน ทำให้หน้าต่างมัว มองไม่เห็นข้างในอย่างชัดเจน
เมื่อครุ่นคิดดูแล้ว หลินหยางก็มีไอเดีย หัวเราะขึ้นมาหนึ่งที กำลังจะใช้พลังภายในเปิดหน้าต่างแง้มออกนิดนึงเพื่อให้ลมเย็นๆได้เข้าไป ใครจะไปรู้ว่ามีเสียงหนึ่งดังขึ้น หนานกงหยูนเอามือปิดหน้าอกไว้แล้วก็เปิดหน้าต่างออก
หากไม่ใช่เพราะมือเท้าทั้งคู่ของหลินหยาง จับราวด้านบนไว้อย่างแน่น ตอนนี้คงจะตกลงไปจากชั้นสามแล้ว
“น่าดูไหม?” หนานกงหยูนเอามือปิดหน้าอกแล้วถามขึ้น
หลินหยางยิ้มอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรพร้อมพูดว่า “เห็นไม่ชัด มัวมากเลย”
ช่างซื่อสัตย์เสียจริงๆ หนานกงหยูนที่มีพลังสูงแบบนี้ ความเคลื่อนไหวเพียงนิดเดียวก็ทำให้เขารู้ตัวแล้ว หลินหยางค่อนข้างอารมณ์เสีย แต่หนานกงหยูนกลับดึงลากเขาเข้ามา
หลินหยางถามขึ้นอย่างแปลกใจว่า “คุณจะทำอะไร?”
“ทำอะไร? นี่ต้องถามคน หลบดูอยู่ข้างบน ไม่ถือว่าเป็นสุภาพบุรุษ จะดู คุณก็ต้องมีความสามารถเข้ามาดูอย่างโจ่งแจ้งสิ” หนานกงหยูนพูดขึ้นอย่างยิ้มเย้ย
หลินหยางเกาหัวพูดขึ้นว่า “แค่ล้อเล่นเอง หนานกงคนสวย ขออภัยที่ทำให้ขุ่นเคือง ผมไปก่อนละ ”
หนานกงหยูนกลับดึงตัวเขาไว้พร้อมพูดว่า “ใคร…ใครให้คุณไป คุณจะดูไม่ใช่หรือ? วันนี้จะให้คุณดูอย่างเต็มที่”
หลินหยางอ้าปากค้างจนคางแทบหลุด ผู้หญิงคนนี้เป็นบ้าอะไร ถูกจับได้ที่แอบดูเธอแล้วไม่ถูกฉีกเนื้อเป็นชิ้นๆก็นับว่าบุญมากแล้ว นี่ยังอยากจะทำแบบไหน
หนานกงหยูนไม่ได้ล้อเล่น เธอพูดแล้วก็ทำได้อย่างที่พูด มึงทั้งคู่ค่อยๆลดลงมาจากหน้าอก เนื้อขาวผ่องทำให้สายตาหลินหยางแทบทะลักออกมา
“ตรงนี้น่ามองขนาดนี้เลยหรือ?” หนานกงหยูนค่อนข้างสงสัย
หลินหยางไอเบาๆหนึ่งที แล้วพูดว่า “ที่จริง…ก็ยังดี ผมอยากดู ตอนที่ถอนพิษให้คุณอยากจะดูยังไงก็ได้ดูอย่างนั้นแล้ว”
“งั้นคุณก็ยังจ้องมองดูอยู่” หนานกงหยูนถามกลับ
หลินหยางหน้าแดง แล้วก็ทำเป็นพูดขึ้นว่า “เพราะตรงนี้ของคุณไม่เหมือนกับคนอื่น ผมมาเพื่อตรวจสอบวิจัยดู ตรงนี้คู่ควรแก่การวิจัยดูอย่างมาก”
“คู่ควรแก่การวิจัย? คิดถึงฝีมือทางการแพทย์ที่ล้ำเลิศของหลินหยาง ทำให้หนานกงหยูนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง”
หลินหยางจึงรีบพูดเสริมขึ้นว่า “คุณดูตรงนี้ของคุณสิ เพราะว่าตรงนี้ล้วนเป็นไขมัน เพราะว่าไม่มีกล้ามเนื้อ ของผู้หญิงทั่วไปจะคล้อยลง ก็เหมือนกับคอตกแบบนั้น แต่ของคุณไม่เหมือน ตรงนี้ของคุณทั้งกลมทั้งตึง นอกจากไม่มีร่องรอยคล้อยลงแล้ว ตรงหัวทั้งสองข้างก็ไม่เหมือนกับคนอื่น”
หนานกงหยูนก้มมองดูหลินหยางจับนี่จับนั่นบนหน้าอกของตน ความน่าเชื่อถือจึงมีเพิ่มมากขึ้น เธอจึงทำเป็นสงบสติอารมณ์พร้อมพูดขึ้นว่า “เพราะฉันฝึกฝีมือการต่อสู้มานานหลายปีก็เลยเป็นเช่นนี้”
“ไม่ใช่ การฝึกฝีมือการต่อสู้จะไม่ช่วยทำให้ตรงนี้ของคุณตึง ตรงนี้จะต้องมีเหตุผลอย่างอื่นแน่ คุณดูตรงหัวนี้สิ ผู้หญิงทั่วไปล้วนนูนเข้าไปข้างใน ตรงนี้ของคุณทั้งกลมทั้งนุ่มลื่น เหมือนอย่างกับลูกองุ่น” หลินหยางพูดความเท็จได้อย่างสมจริง
หลังจากพูดถึงเรื่องพวกนี้แล้ว หนานกงหยูนเกือบลืมไปว่าตนดึงเขาเข้ามาเพื่ออะไร หน้าอกถูกเขาลูบไปมาจึงค่อยทำให้นึกขึ้นมาได้ เธอบิดเอียงร่างกาย แล้วก็จ้องมองดูหลินหยาง
มองเห็นสายตาที่ค่อนข้างแปลกของหนานกงหยูน หลินหยางถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว
“คุณ…มองผมแบบนี้ทำไม อย่า…อย่าเข้ามานะ หากคุณยังเข้ามาอีกผมจะร้องแล้วนะ” หลินหยางยึดอกพูดขึ้น
หนานกงหยูนค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ แล้วก็ดึงตัวหลินหยาง เข้าไปในอ่างอาบน้ำกว้างพร้อมกับตนเอง ทั้งสองคนตัวเปียกขึ้นมาทันที หนานกงหยูนยังดี เดิมก็มีเพียงกางเกงในตัวเดียว หลินหยางที่เพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าเปียกไปหมดทั้งตัว
“คุณอยากจะดูให้ชัดเจนไม่ใช่หรือ? จะให้คุณดูอยู่ที่นี่อย่างละเอียด” หนานกงหยูนขึ้นยังประชดประชัน
หลินหยางสับสนไปหมด อารมณ์ของผู้หญิงคนนี้ไม่สามารถคาดเดาได้แล้ว แต่ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันในสภาพแบบนี้ ยังไงเขาก็ไม่ขาดทุน
“ฮ่าๆ ดี งั้นเรามาศึกษาด้วยกันว่า ทำไมหน้าอกตรงนี้ถึงได้เต่งตึง” หลินหยางยังแกล้งต่ออีก
เมื่อกี้ตอนที่หนานกงหยูนดึงเขาเข้ามาในอ่างอาบน้ำ ได้ใช้ความกล้าหาญของตนเองไปจนหมดแล้ว ตอนนี้จึงไม่กล้าแม้แต่จะมองเขา จึงทำได้เพียงหันหน้าไปทางอื่น คุณหนูตระกูลใหญ่ผู้หยิ่งผยองที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ในวันนี้ มีปัจจัยมาจากหลายสาเหตุ ตอนที่เธอเห็นหลินหยาง ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ จนกลายเป็นสภาพแบบนั้นในทีวี ทำให้เธออึ้งไปในทันที
ตอนนั้นผู้หญิงอีกสองคนที่อยู่ในห้องได้ร้องห่มร้องไห้แต่แรกแล้ว หนานกงหยูนก็แทบน้ำตาไหล ผ่านไปสองวันอย่างมึนๆงงๆ แล้วก็เห็นหลินหยางกลับมาแล้ว อารมณ์ที่ขุ่นมัวของเธอก็กลับขึ้นมาเป็นปกติทันที การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ทำให้เธอรู้สึกสับสน ตอนที่กำลังต้มเกี๊ยวอยู่ เธอปลอบตัวเองว่า จะต้องเป็นเพราะกลัวไม่มีใครช่วยตนรักษาพิษ แต่เมื่อเธอออกมาพร้อมกับเกี๊ยวต้ม แล้วเห็นสองสาวระบายความรู้สึกของพวกเธออย่างไร้ยางอายเธอถึงค่อยเข้าใจ
ความรักที่เป็นสิ่งแปลกประหลาดนี้ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง หลังจากที่หนานกงหยูนเข้าใจแล้ว ก็กลายเป็นคับข้องใจขึ้นมาทันที เดิมเธอไม่อยากที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตของเขาคนนี้ แต่ความรักก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจเข้าใจ เมื่อตกหลงรักเขาไปแล้ว ก็ไม่สามารถถอนตัวออกมาได้
นั่งอยู่ภายในอ่างน้ำอุ่นๆ หนานกงหยูนอยากที่จะเอาตัวเองจมลงไปใต้น้ำ แต่ด้านข้างกลับมีคนซื่อบื้อคนหนึ่งนั่งอยู่
“คุณ…ขยับมา” หนานกงหยูนพูดออกมาเหมือนออกคำสั่ง