บทที่ 186 การโต้กลับอย่างบ้าคลั่ง
หลินหยางแนบหูฟัง ฟังการเคลื่อนไหวภายนอกอย่างตั้งใจ มีคนยื่นเหล็กแท่งหนึ่งออกมาจริงๆ จะงัดประตูรักษาความปลอดภัยของบ้านหลินชิง!
สวมเสื้อคลุมแล้วลุกขึ้น เปิดประตูออกมาดู พบว่ามีนักเลงสองคนสวมแว่นกันแดดอยู่ที่ประตู
หลินหยางเปิดประตูกะทันหันอย่างนี้ นักเลงทั้งสองก็ตกตะลึงค้างไว้ มองเขาอย่างงุนงง ทันใดนั้นก็ไม่รู้ว่าจะตอบสนองอย่างไร
“ทั้งสอง มีคนอยู่ข้างใน แค่เคาะประตูก็ได้แล้ว เอาแท่งเหล็กใหญ่ขนาดนี้ จะงัดประตูปล้นทรัพย์เหรอ?”
หลินหยางหัวเราะเยาะ
นักเลงทั้งสองยืนขึ้นในทันที พับแขนเสื้อขึ้น ราวกับว่ากำลังจะลงไม้ลงมือ เจ้าหนุ่มสองคนนี้ ได้เปรียบที่ตัวเองรูปร่างสูงใหญ่กว่าหลินหยาง ขยับเข้าหาอย่างหน้าเชิด
หลินหยางบีบนิ้วเบาๆ ขยับเล็กน้อยก็ลงมือก่อนเลย สะบัดมือตบหน้าทันที ตบจนเจ้าหนุ่มที่อยู่ด้านหน้า หมุนตัวหลายรอบ แล้วล้มลงไป อีกคนหนึ่งดูสถานการณ์ผิดปกติ กำลังจะวิ่งหนี หลินหยางยกเท้าขึ้น แล้วเตะไปทันที เจ้าหนุ่มนี่ กลิ้งลงบันไดไปหลายขั้น ก่อนจะหยุด
จัดการกับนักเลงเด็กเหลือขอแค่สองคน แม้แต่กำลังภายในก็ไม่ต้องใช้ด้วยซ้ำ เตะต่อยครั้งเดียวก็ล้มลงกับพื้นแล้ว เจ้าหนุ่มสองคนถูกหลินหยางกระชากตัวขึ้นมา ใช้เชือกมัดไว้
หลินชิงถามอย่างตกใจ “สองคนนี้มีหัวนอนปลายเท้ายังไง?”
“คุณเข้าไปนอนในห้องก่อนเถอะ จัดการกับโจรกระจอกสองคน ฉันจะให้พวกมันรู้ถึงเหตุผลความเป็นมนุษย์ได้ในไม่กี่นาที!” หลินหยางพูดยิ้ม
หลังจากที่นักเลงทั้งสอง โดยหลินหยางจัดการจนล้มนอนกับพื้น ในตอนนี้กำลังแกล้งตาย ไม่ขยับเลยสักนิด หลินหยางปลดเข็มขัดออก สะบัดอย่างแรง ส่งเสียงดังเพี้ย ทำให้เจ้าหนุ่มทั้งสองตกใจสะดุ้งตื่น
ไอ้ขี้ขลาดทั้งสอง แค่นี้ก็กลัวจนเผยธาตุแท้ออกมาเลย หลินหยางทำเสียงถุ้ย พูดด่าขึ้น “รายงานที่มาของตัวเอง พวกนายเป็นลูกน้องของใคร? มาทำอะไร!”
“เรา……เจ้านายของเรา จะไม่ปล่อยนายไปแน่!” นักเลงคนหนึ่ง พูดขึ้นอย่างอวดดี
“เจ้านายของพวกนาย จะปล่อยหรือไม่ปล่อยฉันไปนั้น ไม่ต้องพูดถึง พวกนายแค่ต้องรู้ว่า วันนี้ฉันจะไม่ปล่อยพวกนายไป ก็ได้แล้ว เชื่อฟังหน่อยดีกว่านะ!”
หลินหยางสะบัดเข็มขัดพร้อมพูดข่มขู่
เจ้าหนุ่มทั้งสองมองหน้ากันไปมา สีหน้าตึงเครียด ต่างไม่ส่งเสียงอะไรทั้งนั้น
หลินหยางหงุดหงิดแล้ว เตะต่อยไอ้สารเลวสองตัวนี้ ก็ให้พวกมันได้เปรียบเกินไปแล้ว หยิบเข็มเงินที่ติดตัวไว้ตลอดออกมา แล้วฝังเข็มเข้าไปในหัวของนักเลงทั้งสองทันที
จุดฝังเข็มมีความแม่นยำมาก กลางศีรษะของเจ้าหนุ่มทั้งสองมีปฏิกิริยาทันที ความรู้สึกที่แตกร้าว เริ่มกระจายไปทั่ว
“โอ้ย แม่เจ้า! คุณพี่รีบดึงเข็มออกมาเร็ว เจ็บเกือบตายแล้ว!” นักเลงคนหนึ่ง เริ่มทนไม่ไหวก่อน
“อย่าเพิ่งรีบสิ ตอนนี้แค่เวลาเที่ยงเองนะ ฉันเตรียมที่จะเล่นเป็นเพื่อนจนถึงที่สุด! เริ่มคุยกันที่พวกนายชื่อว่าอะไรแล้วกัน แต่นิสัยของฉันไม่ดีมากๆ ถ้าพวกนายโกหกหรือหลบเลี่ยงในคำพูด ฉันจะฝังเข็มพวกนายเพิ่มอีก ฉันสามารถบอกกับพวกนายได้อย่างชัดเจนเลยว่า ในกะโหลกศีรษะ ยังมีจุดฝังเข็มที่มหัศจรรย์อีกหลายจุด ซึ่งสามารถควบคุมการร้องไห้และหัวเราะของพวกนายได้ และยังสามารถทำให้พวกนายเมื่อยและคันไปทั้งตัว! พวกนายอยากจะลองรสชาติแบบไหน สามารถบอกฉันได้นะ!” หลินหยางจับเข็มไว้ แสดงท่าทางไปด้วย
เจ้าหนุ่มคนหนึ่ง ตะโกนร้องไห้ขึ้นมาทันที “ลูกพี่ คือลูกพี่โจวส่งพวกเรามา บอกว่าจะลักพาตัวผู้หญิงในบ้านหลังนี้!”
“ไม่เลว นายนี่มันเฉลียวฉลาด แย่งตอบเป็นด้วย! ถ้าอย่างนั้นฉันถามนาย ลูกพี่โจวของพวกนาย สองวันนี้ลุกขึ้นจากโรงพยาบาล ได้เจอกับใครบ้างไหม? ตัวอย่างเช่นเจียงหัวแห่งบริษัทเครื่องสำอางเอซีซี!” หลินหยางถาม
นักเลงทั้งสองส่ายหัวและพูดว่า “ลูกพี่ พวกเราเป็นแค่ลูกน้องเท่านั้น เรื่องนี้ฉันไม่รู้จริงๆ แต่ฟังน้ำเสียงของลูกพี่โจวแล้ว เหมือนจะแก้แค้นแทนใคร! บอกว่าหลังจากที่เรื่องนี้จบลง สาวคนนี้จะให้พวกเราสองคนเล่น!”
แววตาของหลินหยาง ทันใดนั้นก็ประกายแสงเยือกเย็น ฝังเข็มสามเล่มเข้าไปในกะโหลกศีรษะของไอ้หมอนี่อย่างแม่นยำและว่องไว
จากนั้นเรื่องมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น ไอ้หมอนี่ทั้งร้องไห้และหัวเราะ ตัวสั่นสะท้านไปทั้งตัว
ไอ้หนุ่มที่อยู่ข้างๆ ตกใจหวาดกลัวแทบตาย กางเกงเปียกโชกไปหมด ดูเหมือนจะฉี่ราดแล้ว
“ลูกพี่ มีอะไรพูดคุยกันดีๆ พี่ถามอะไร ฉันรู้จะบอกให้หมดเลย!” ไอ้หมอนี่เหงื่อแตกจนไหลท่วมตัว
หลินหยางส่ายหัวพูดถอนหายใจ “สายไปแล้ว ตอนนี้ฉันไม่มีความสนใจสำหรับคำถามคำตอบของพวกนายแล้ว แต่ตอนนี้พวกนายยังมีประโยชน์นิดหน่อย!”
ฝังเข็มอีกสองเล่ม เข้าที่ใต้รักแร้ของเจ้าหนุ่มทั้งสอง จากนั้นก็บริหารกำลังภายใน เส้นเลือดของเจ้าหนุ่มทั้งสองก็ปูดขึ้นทันที
“เห็นหรือยัง? เข็มได้ดำเข้าไปแล้ว ยังเคลื่อนตัวอยู่ในนั้นด้วย! เล่าเรื่องสนุกให้พวกนายฟังเรื่องหนึ่ง ใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียว เข็มนี้ก็จะเคลื่อนตัวเข้าไปในหัวใจของพวกนาย! ดังนั้น ถ้าพวกนายไม่เชื่อฟังคำสั่งของฉัน หนึ่งชั่วโมงต่อมา ก็ไม่มีใครสามารถช่วยพวกนายได้แล้ว!” รอยยิ้มของหลินหยางน่าสยดสยองมาก
เจ้าหนุ่มทั้งสอง ยังกล้าที่จะขัดขืนเสียที่ไหน พยักหน้ารัวๆ ราวกับลูกไก่จิกข้าว หลินหยางกระซิบข้างหูพวกเขาสองสามคำ เจ้าหนุ่มทั้งสองสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก เปลี่ยนเป็นขาวซีด
“กลัวเหรอ? งั้นก็รอให้เข็มดำเข้าไปในหัวใจของพวกนาย จากนั้นทิ่มแทงหัวใจของพวกนาย มีรูอยู่ทุกที่ เลือดที่อยู่ข้างในพุ่งทะลักออกมา!” หลินหยางอธิบายพร้อมแสดงท่าทางเลียนแบบ
เจ้าหนุ่มทั้งสองพูดร้องไห้ฟูมฟาย “ลูกพี่ เราผิดไปแล้วจริงๆ พี่จะให้เราทำอะไรก็ได้ แต่ถ้าทำเรื่องนี้แล้ว เราสองคนก็จบกันแล้วจริงๆ!”
“จบกันแล้วเหรอ? ใครเป็นคนพูด? หลังจากทำเรื่องสำเร็จ ฉันจะให้เงินพวกนายสองคนก้อนหนึ่ง หนีไปให้ไกล ออกไปจากเมืองเจียงหลิง โจวจู้ไอ้โง่เง่านั่นจะทำอะไรพวกนายได้?” หลินหยางพูดหว่านล้อม
เจ้าหนุ่มทั้งสอง จ้องมองเส้นเลือดที่ปูดโปนของ ตัวเอง กัดฟันแน่นยอมตกลงแล้ว
หลินหยางเรียกหลินชิงตื่นขึ้นมา หลังจากพึมพำสองสามคำ ก็เดินตามเจ้าหนุ่มทั้งสองออกไป
ในเวลาประมาณตีหนึ่ง เจ้าหนุ่มทั้งสองขับรถมาที่โกดังแห่งหนึ่งในแถบชานเมือง ในเวลานี้ โจวจู้และเจียงหัวพาพรรคพวกกลุ่มใหญ่ ได้รออยู่ที่นี่ตั้งนานแล้ว
เมื่อเห็นเจ้าหนุ่มทั้งสองขับรถเข้ามา โจวจู้ก็พูดอย่างมั่นใจว่า “หึม ตรงเวลาไหม คนของฉันทำเรื่องน่าเชื่อถือ ไว้วางใจได้แน่นอน!”
เจียงหัวสีหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ มักจะรู้สึกว่า เรื่องราวราบรื่นเกินไป มีบางอย่างผิดปกติ
โจวจู้ลุกขึ้นแล้วเข้าไปต้อนรับ เจ้าหนุ่มทั้งสองลงจากรถ ชี้ไปที่รถแล้วพูดว่า “พี่ใหญ่ ได้พาคนมาแล้ว พี่เข้ามาดูสิ!”
โจวจู้หัวเราะชอบใจ เดินตามไป เพิ่งเข้าไปไม่ถึงครึ่งก้าว เจ้าหนุ่มทั้งสองก็ควักหัวตัดออกมา ฟันเข้ามาอย่างกะทันหัน แขนทั้งสองข้างของโจวจู้ แยกออกจากร่างในทันที การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเช่นนี้ ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ตกใจจนตะลึงค้าง ตอนที่ยังไม่ทันตั้งตัว หลินหยางก็เดินออกมาจากรถ
เมื่อเห็นหลินหยาง หลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างก็ขนหัวลุก บางคนเคยประสบกับฝีมือการต่อสู้ของหลินหยางแล้ว
“โอ้ นี่พี่ใหญ่โจว โจวจู้ นักสู้ยอดฝีมือที่อยู่ยงคงกระพันแห่งเมืองเจียงหลิงไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงน่าสังเวชเช่นนี้ แขนทั้งสองข้างทำไมถึงหายไปแล้ว? อุ้ยๆ นี่ไม่ใช่ประธานเจียงแห่งบริษัทเครื่องสำอางเอซีซีหรือ? รูทวารของคุณยังสบายดีไหม?” หลินหยางเย้ยหยันอย่างกำเริบเสิบสาน
หยิบเข็มออกมาสองเล่ม แล้วฝังเข้าไปตรงกลางศีรษะของโจวจู้ เลือดของไอ้หมอนี่ หยุดไหลอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่ามันเป็นเพียงชั่วคราว
“พี่ใหญ่โจว ที่คุณส่งลูกน้องสองคนนี้ไปทำเรื่องไม่ดีในวันนี้ คงน่าจะเป็นความคิดของประธานเจียงสินะ เพียงแค่คุณพยักหน้า ฉันจะไว้ชีวิตคุณไม่ให้ตาย ไม่เช่นนั้น ฉันจะดึงเข็มบนหัวคุณออกมา รับประกันว่า เลือดจะไหลจนหมด ก่อนที่จะส่งคุณไปถึงโรงพยาบาลแน่นอน!” หลินหยางถามอย่างเย็นชา
โจวจู้พยักหน้าเบาๆ เจ็บปวดจนไม่สามารถพูดอะไรได้แล้ว
เจียงหัวไม่เคยเห็นฉากแบบนี้มาก่อน น่องขาสั่นสะท้านไปหมด
หลินหยางพูดเสียงดัง “กรรมเกิดจากเหตุ มีเหตุจึงมีผลตามมา หากวันนี้คุณพาพรรคพวกมาต่อสู้กับฉันยกหนึ่ง อย่างมากที่สุด ฉันก็แค่ต่อยพวกคุณนอนกองกับพื้น จะไม่ปล่อยให้พวกคุณเลือดหลั่งไหลเต็มพื้นอย่างแน่นอน แต่พวกที่กล้าแตะต้องผู้หญิง ล้วนจะต้องไม่ได้ตายดีทั้งหมด!”
เสียงที่เยือกเย็นพร้อมพลังภายใน ทำให้หูของทุกคนสั่นสะเทือน นี่คือเสียงคำรามที่วางอำนาจของหลินหยาง เจียงหัวเกือบจะคุกเข่าลงพื้น ร้องอ้อนวอนขอความเมตตาแล้ว
หลินหยางหันหน้า ทำมือคารวะ พูดกับนักเลงทั้งสองว่า “ดีมาก เรื่องในวันนี้ พวกนายทำได้ดีมาก!”
ตบที่แขนของพวกเขา บีบเข็มออกมาสองเล่ม แล้วก็หยิบบัตรสองใบออกมาส่งให้หลินหยางพูดขึ้น “ขับรถออกไปเถอะ เงินในนี้ เพียงพอสำหรับให้พวกนายใช้ชีวิตเสเพลแล้ว!”
เจ้าหนุ่มทั้งโยนมีดทิ้ง แล้วก็ขึ้นรถหนีไปเลย คนรอบข้าง ใครก็ไม่กล้าขยับเข้ามารนหาที่ตาย นี่ได้บรรลุเป้าหมายของหลินหยางแล้ว
ในไม่ช้า เสียงไซเรนของตำรวจก็ดังขึ้น จางเยว่พาเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มหนึ่ง ปรากฏตัวตรงเวลาพอดี
จางเยว่กระโดดลงจากรถ เห็นหลินหยางสองมือกอดอก ยืนอยู่ตรงกลางอย่างไม่สนใจไยดี เหยียบไหล่ของโจวจู้อยู่ตรงนั้น พร้อมกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก ไอ้หมอนี่ใจกล้าเกินไปแล้ว
“ทำไม……กลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง?” จางเยว่ถามอย่างกังวล
“ดูเหมือนว่าจะฆ่ากันเองนะ ลูกน้องทั้งสองคนของโจวจู้ ตัดแขนของเขาทิ้งแล้ว ฉันบังเอิญผ่านมาพอดี ได้เห็นโศกนาฏกรรมนี้ ใจเมตตากรุณา ฝังเข็มเพื่อห้ามเลือดให้กับเขาแล้ว พี่ใหญ่คุณ คุณว่าใช่ไหม?” หลินหยางพูดมั่วซั่ว
ทั้งชีวิตของโจวจู้ถูกบีบอยู่ในเงื้อมมือของเขา กล้าที่จะพูดอะไรเสียที่ไหน พยักหน้าสุดชีวิต หลินหยาง เตะเขาอย่างดุเดือด โจวจู้กลิ้งไปหลายตลบ แล้วถูกลูกน้องพยุงตัวขึ้น
พวกลูกน้องรีบพาโจวจู้ไปส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว เจียงหัวอยากจะนี้ตามไปด้วย ถูกหลินหยางกระชากตัวได้
“เฮ้ ประธานเจียง นี่คุณจะไปไหนกัน ฉันกำลังจะมาคุยปรึกษากับคุณเรื่องหนึ่งพอดี!” หลินหยางไม่ซ่อนไอสังหารบนใบหน้าแม้แต่น้อย
เจียงหัวชำเลืองมอง เห็นแขนทั้งสองข้างบนพื้น ยังสามารถยืนทรงตัวได้เสียที่ไหน ทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้น
“เฮ้ ทำไมคุณถึงซื่อตรงมากขนาดนี้ ไม่ใช่ญาติโกโหติกาอะไร คุณคุกเข่าให้กับทำไม? ฉันจะถามคุณว่า ยังกล้าที่จะเล่นกลอุบายอะไรอยู่ลับหลังอีกหรือเปล่า?” หลินหยางพูดหัวเราะเบาๆ
เจียงหัวก็เสียใจมากจริงๆ หาใครไม่ดี ดันจะหาโจวจู้ นอกจากจะไม่ได้ผลประโยชน์แล้ว ยังจะหาเรื่องเข้าตัวอีกด้วย!
หลินหยางกระชากตัวไอ้อ้วนนี้ขึ้นมา พูดหัวเราะเยาะ “เอาล่ะ ฉันจะไม่ทรมานคุณแล้ว เพียงแค่เตือนคุณเรื่องหนึ่ง! ถ้ายังกล้าที่จะกระพือให้เรื่องใหญ่โตให้สื่อมวลชน ฉันก็จะแบ่งปันสิ่งดีๆในมือนี้ ให้กับพวกเกย์ทุกคนที่หลงใหลไอ้อ้วน!”
หยิบแผ่นซีดีออกมาแผ่นหนึ่ง หลินหยางโยนออกไป หน้าปกของซีดี เป็นภาพของเจียงหัว ที่ตัวเปลือยเปล่า ถูกชายแข็งแกร่งกำยำคนหนึ่งกระทำชำเรา อวัยวะสำคัญยังเป็นภาพโมเสคด้วย!
เจียงหัวรีบเก็บแผ่นซีดีไว้ พูดด้วยเสียงสั่น “ฉันผิดไปแล้ว ผิดแล้วจริงๆ!”
หลินหยางพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ฉันจะให้คำแนะนำกับคุณ ไสหัวออกไปจากเมืองเจียงหลิงอย่างสงบเสงี่ยม อย่างนี้คุณก็จะไม่ได้เห็นฉันอีกต่อไปแล้ว ไม่เช่นนั้น หากวันไหนฉันอารมณ์ไม่ดี จะไปหาเรื่องคุณทั่วทุกมุมโลก!”
ทิ้งเจียงหัวออกไป หลินหยางกอดจางเยว่ไว้ จากไปอย่างสง่า เจียงหัวทรุดตัวลงบนพื้น แต่พบว่า นั่งอยู่บนแขนที่ถูกตัดขาดของโจวจู้ ตกใจจนกระโดดขึ้นอย่างรวดเร็ว
หนีกลับไปด้วยความตื่นตระหนก ในดึกดื่นเจียงหัวฝันร้ายติดต่อกัน ประสบการณ์ในหลายวันนี้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า หลินหยางคนนี้ เป็นแผ่นเหล็กชัดๆ เตะโดนก็คือใบหน้าฟกช้ำดำเขียว
หลังจากลุกขึ้นจากเตียง เจียงหัวก็ตัดสินใจทั้งหมดในทันที ไม่นานหลิวจิ่นก็ได้โทรมาหา
“ประธานหลิว เรื่องอะไรหรือ?” เจียงหัวถามอย่างไม่สบอารมณ์
“ประธานเจียง นี่คุณเป็นอะไรหรือ การติดตามรายงานของสื่อ ทำไมถึงถูกถอนออกไปทั้งหมด? นี่ถึงช่วงเวลาสำคัญแล้ว คุณกำลังทำอะไรอยู่หรือ?”
หลิวจิ่นพูดอย่างโกรธเคือง
เจียงหัวส่ายหน้าแล้วพูดว่า “น้องชาย ฉันเล่นไม่ไหวแล้ว นายค่อยๆเล่นไปเถอะ ฉันจะไปแล้ว!”
เจียงหัวไปจากเมืองเจียงหลิงในวันนั้นเลย ไม่เคยกลับมาอีก หลังจากที่หลิวจิ่นรู้เรื่องนี้ กระทืบเท้าด้วยความโกรธ แต่เรื่องราวได้ดำเนินมาถึงขั้นตอนนี้แล้วถ้าไม่เดินหน้าต่อไป นี่ก็จะต้องล้มเลิกแต่กลางคันแล้ว เขาไม่เต็มใจ!
แต่หลิวจิ่นไม่รู้ว่า ไม่เต็มใจนี้ จะทำให้ตัวเองเดือดร้อนไปด้วย!