บทที่178 ซุ่มซ่อน
ไป๋ชิงเฟิง? ชื่อนี้วนเวียนอยู่ในความคิดหนึ่งรอบ จางเยว่ค่อยคิดขึ้นมาได้ นี่คือผู้บัญชาการทหารยันจิงไม่ใช่หรือ? ทำไมเขาถึงโทรมาหาตนโดยตรง?
“สวัสดีค่ะ ดิฉันจางเยว่ เกี่ยวกับอุบัติเหตุเมื่อคืนนี้พวกเราจะค้นหาความจริงโดยเร็วที่สุด” จางเยว่ตอบกลับ
จางเยว่วางสายโทรศัพท์ ในหัวเริ่มครุ่นคิด ก่อนหน้านี้ที่หลินหยางโทรมาทำให้เธอไม่อาจสงบสติได้
ถึงแม้จะรู้ว่าตอนนี้หลินหยางปลอดภัยดี แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะกังวลว่าเจ้านั่นไปทำให้ผู้มีอิทธิพลคนไหนขุ่นเคือง ถึงได้ทำให้ผู้บัญชาการทหารอย่างไป๋ชิงเฟิงออกหน้า
ไป๋ชิงเฟิงเป็นคนยังไง จางเยว่ไม่รู้ แต่เธอรู้ว่าในฐานะที่เป็นบุคคลสำคัญในทางทหาร แล้วการเข้าแทรกแซงขอให้เธอค้นหาความจริงของเหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าคนที่อยู่เบื้องหลังมีอิทธิพลอย่างมาก
ถึงแม้จางเยว่ไม่รู้ว่าทำไมไป๋ชิงเฟิงถึงได้สนใจคนร้ายคนนี้ แต่ก็สามารถฟังรู้ได้ว่า เขาสนใจคนที่อยู่ในรถออดี้คนนั้นมากกว่า
“ไม่รู้ว่าไอ้สารเลวนี้ไปยุ่งกับลูกสาวคนอื่นหรือเปล่า” จางเยว่พูดเองอยู่คนเดียว
จางเยว่รีบสั่งให้ลูกน้องเริ่มตามสืบทันที แต่หลักฐานที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุถูกทำลายไปแต่แรกแล้ว รถเสียหายอย่างหนัก ถือว่าเสียแล้วอย่างสิ้นเชิง หลังจากมีการสอบสวนอย่างละเอียดแล้ว จางเยว่ขับรถออกไป เธอจะไปถามหลินหยางให้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ที่หอพักของจางเยว่ หลินหยางรออยู่แต่แรกแล้ว เขามีกุญแจของเธอ
“คุณ…ไม่เป็นไรใช่ไหม?” จางเยว่ยังคงตรวจสอบร่างกายหลินหยางอย่างประหม่า
“เป็น และก็ไม่เป็น ยังไม่ต้องรีบถามถึงเรื่องนี้ มานั่งลงคุยอย่างอื่นกันก่อน” มือของหลินหยางล้วงเข้าไปในเครื่องแบบของจางเยว่อย่างไม่รู้ตัว
ยกทรงไม่สามารถกีดขวางมือของหลินหยางได้ ไม่นานเมล็ดถั่วที่หน้าอกก็ร่วงหล่น จางเยว่ร้องขึ้น กัดริมฝีปากพร้อมด่าว่า “สารเลว เพิ่มกลับมาก็จะลงไม้ลงมือ ยังพูดเรื่องสำคัญไม่เสร็จเลย”
หลินหยางหัวเราะพร้อมพูดว่า “เรื่องสำคัญ? มีอะไรที่สำคัญไปกว่านี้อีก?”
สามห้าสองทีก็สามารถถอดกางเกงของจางเยว่ทิ้ง แล้วก็เห็นกางเกงในลูกไม้สีดำที่เขาซื้อให้กับจางเยว่ ตรงกลางเป็นรูโพรง เส้นขนสองสามเส้นถูกเจาะออกอย่างดื้อๆ ยื่นมือไปลูบ หลินหยางก็สัมผัสได้ถึงความเปียกชื้น
“เปียกเร็วขนาดนี้เลยหรือ? ระหว่างทางกลับมาก็เกิดอารมณ์แล้วใช่ไหม?” หลินหยางหยอกล้อ
เมื่อถูกจับได้ความในใจ จางเยว่พูดขึ้นอย่างเอียงอายว่า “เพราะคุณนั่นแหละ เอามือปลาหมึกของคุณออกไป”
นี่เพิ่งผ่านประตูมาเอง หลินหยางยอมปล่อยเธอเสียที่ไหน มือหยาบใหญ่เริ่มกระสวยไปตามช่องประตู เอ้อระเหยที่ปากทางเข้าถ้ำ ม่านน้ำถ้ำแห่งนี้กลายเป็นมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ในทันที จางเยว่หลับตาอยู่อย่างเพลิดเพลิน
ตอนนี้หลินหยางยิ่งอยู่ยิ่งเชี่ยวชาญทางนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เขาสามารถแยกแยะเสียงของผู้หญิงได้อย่างชัดเจน เสียงครางแผ่วเบาบ่งบอกถึงความสุขที่มีอย่างไม่น้อย ยังต้องกระตุ้นต่อไป งั้นต้องทำให้ตื่นเต้นอีกสักหน่อย นิ้วมือของหลินหยางบุกล้วงเข้าไป จางเยว่ครางแล้วก็ลืมตาขึ้น ก้มมองดูก็เห็นหลินหยางกำลังยิ้มจ้องมองดูเธอ
“สารเลว คุณไม่ทำก็ช่าง อย่ามาทรมานฉัน” จางเยว่พูดขึ้นอย่างโกรธจัด
หลินหยางไม่สนใจ เพียงแค่ค่อยๆปลดกระดุมเครื่องแบบของเธอ แต่ไม่ต้องถอดเสื้อคลุมของเธอ บราหลุดออกมา หลินหยางก้มหน้าลงเตรียมที่จะกัดลูกองุ่นน้อย
“อืม…” เสียงถอนหายใจด้วยความพึงพอใจ จางเยว่ล้มตัวลงบนโซฟาและปล่อยให้เขาทำอำเภอใจ
หลินหยางเห็นใบหน้าแดงๆของเธอ ความเร่าร้อนในใจก็พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน ไม่พอใจกับความสุขแบบผิวเผินอีกต่อไป ถอดเสื้อผ้าของตนออกจนหมด
โซฟาที่กว้างขวางนี้เหมาะสำหรับทำสิ่งที่ดีนี้ ค่อยๆสำรวจทางเข้าถ้ำด้วยอาวุธหนัก ค่อยๆลื่นไปยังจุดที่ลึกที่สุด
จางเยว่ร้องคราง แล้วก็ยิ้มอย่างพอใจ เมื่อเจ้านี่เข้าไปแล้วค่อยมีความสุข
“ทำไมไม่ถอดออกให้หมด เสื้อผ้ารัดจะแย่แล้ว” จางเยว่ขมวดคิ้วพูดขึ้น
หลินหยางยิ้มพูดขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ว่า “คุณที่เป็นแบบนี้สวยมาก”
มองดูชุดในเครื่องแบบของตนแล้วจางเยว่ค่อยเข้าใจ ไอ้นี่คิดที่จะเล่นในเครื่องแบบ ช่างไร้ยางอายจริงๆ แต่ในเมื่อคนรักชอบ ก็ตามใจเขาล่ะกัน จับเอวของเขา ไว้ มองดูร่างกายที่แข็งแรงของหลินหยาง หน้าตาที่หล่อเหลา ในขณะที่เขาขยับขึ้นลง เสียงนั้นก็ดังขึ้นเรื่อยๆ
“เร็ว…เร็วอีกหน่อย” สติสัมปชัญญะจางเยว่เริ่มพร่าเลือน
แต่สำหรับหลินหยางนี่เพิ่งกำลังเริ่มตัน ดังนั้นจึงยึดถือหลักการแห่งความยินดีร่วมกัน หลินหยางลดความถี่ลง แต่ช่วงของการเคลื่อนไหวเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ
“ทำ…ทำไมช้าลง? อ้า…ลึกมาก” จางเยว่พูดขึ้นอย่างตกใจ
ไม่เพียงลึก หลินหยางยังใช้ลมปราณ ใช้พลังบทหลงเฟิ่งเจว๋กระตุ้นอารมณ์ของทั้งสองคน เช่นนี้แล้ว จางเยว่รู้สึกว่าสิ่งยอดเยี่ยมจนทำให้เธอหลงใหลมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ทั้งๆที่เมื่อกี้กำลังจะถึงจุดสูงสุดของความสุขแล้ว กลับยังวนเวียนอยู่ที่เดิม แต่ความสุขอย่างต่อเนื่องนี้ทำให้ร่างกายของเธอรับไม่ไหวแล้ว เหงื่อบนหน้าผาก เริ่มแตกอย่างเห็นได้ชัด ไรผมเปียกชื้นไปหมด ร่างกายที่คล้อยตามการกระทำของหลินหยางเริ่มควบคุมไม่ได้ อาการสั่นเทาเริ่มเพิ่มมากขึ้น
มองดูดอกไม้ตำรวจที่อยู่ภายใต้ร่างของเขาคล้อยไปตามการกระทำของเขาอยู่ตลอด ในใจหลินหยางพอใจอย่างบอกไม่ถูก เขาก็จะค่อยๆถึงจุดสุดยอด ครั้งนี้เขาจะไม่หยุดอีกต่อไป ค่อยๆปล่อยพลังออกมา เหงื่อไหลท้วมตัว ในอากาศดังก้องไปด้วยดั่งเสียงของรถไฟเหาะตีลังกาของคนสองคน
เมื่อทุกอย่างกลับสู่ความสงบ จางเยว่ไม่มีแรงเหลืออีกแล้ว
“อุ้มฉัน…ไปอาบน้ำหน่อย” จางเยว่ไม่มีแม้แต่แรงที่จะพูด
หลินหยางกลับรู้สึกว่าฝีมือของตนดีเพิ่มขึ้นอีกแล้ว เห็นทีบทหลงเฟิ่งเจว๋ช่างล้ำค่าจริงๆ โอบกอดเบาๆ จางเยว่ก็ถูกเขากอดแนบอก แต่ทั้งสองคนกลับยังคงตัวติดกันไม่ได้แยกออกจากกัน
โยกไปมาจนมาถึงห้องน้ำ ร่างกายจางเยว่ไวต่อความรู้สึกมาก เพียงไม่กี่ก้าวสั้นๆ ก็ทำให้เธอค่อนข้างทนไม่ไหวแล้ว
“อย่า…อย่าทรมานฉัน คนเลว ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้” เสียงเข้มของจางเยว่ฟังดูไม่เหมือนโกรธเลย กลับดูเหมือนยั่วมากกว่า
หลินหยางไม่ปล่อยเธออยู่แล้ว มือหนึ่งโอบกอดเธอไว้แน่น มือหนึ่งเปิดก๊อกน้ำปรับอุณหภูมิให้อุ่น แล้วก็อุ้มเธอเข้าไปนั่งในอ่างอาบน้ำกว้าง
ไม่ช้าน้ำอุ่นก็ท่วมร่างของคนสองคน คลื่นซัดพวกเขาเป็นระลอก
“สบายไหม?” หลินหยางพูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจ
“ไม่…ยัง…ยังไม่พอ” จางเยว่พูดไม่ตรงกับใจ
หลินหยางออกแรงดันทันที จางเยว่รู้สึกได้ทันทีว่าด้านล่างแข็งตั้งขึ้น คนเลวนี่เอาแรงมาจากไหนมากมาย นี่คิดที่จะทรมานเธอให้ตายเลยหรือไง
จางเยว่รีบพูดขอร้องขึ้นมาว่า “อย่า…ไม่ไหวแล้ว”
“อย่าอะไร? ผมไม่มีชื่อหรือ? เรียกผมว่าพี่ชายคนดี” หลินหยางพูดข่มขู่
“พี่ชายคนดี ขอร้องเถอะ ด้านล่างฉันบวมไปหมดแล้ว คุณเอาแรงมาจากไหนกัน” จางเยว่พูดขึ้นอย่างอ่อนแรง
หลินหยางหัวเราะพร้อมพูดว่า “มีมาตั้งแต่เกิด ผมดูสิบวมจริงไหม?”
เอามือล้วงเข้าไปดู ถึงจะไม่บวม แต่ตรงนั้นก็ค่อนข้างร้อน หากทำอีก พรุ่งนี้สาวคนนี้ก็ไม่ต้องไปทำงานแล้ว แม้แต่ลงจากเตียงก็ไม่ไหว
มือทั้งคู่โอบกอดรอบหน้าอกของหญิงสาวไว้ และจับหยอกล้อ หลินหยางหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “คุณว่าผมโชคดี หรือโชคร้าย?”
“ทำไมหรือ? กำลังคิดถึงเรื่องอุบัติเหตุหรือ? ฉันก็กำลังอยากถามคุณ คุณไปมีปัญหากับใครหรือ?” จางเยว่เอียงกายถามขึ้น
เนื้อนูนนุ่มแนบติดชิดร่างกายของหลินหยาง ราวกับว่าหน้าอกของคนสองคนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน คราวนี้หลินหยางไม่มีอารมณ์เล่นแล้ว ถอนหายใจพูดขึ้นอย่างปิดบังว่า “ผมเป็นคนดีขนาดนี้จะไปมีเรื่องกับใครได้”
“คุณเป็นคนดี? บอกมาตรงๆว่าไปคบกับลูกสาวของไป๋ชิงเฟิงหรือเปล่า? วันนี้เขาถึงกับโทรมาหาฉัน สั่งให้ฉันจบคดีโดยเร็ว” จางเยว่พูดขึ้น
ไป๋ชิงเฟิง? หลินหยางครุ่นคิด ดูเหมือนจะไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับคนคนนี้ เขาจึงถามขึ้นอย่างแปลกใจว่า “ไม่รู้จัก เป็นใครหรือ หากผมคิดจะคบ ก็ต้องคบกับคุณสิ มาเรามาคบกันต่ออีกดีกว่า”
ในใจจางเยว่หวานฉ่ำ แต่ปากกลับพูดอย่างโกรธเคืองว่า “ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณไปคบกับผู้หญิงมามากน้อยเท่าไหร่ แต่ไป๋ชิงเฟิงคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา อิทธิพลของเขามีมากกว่าที่คุณคาดคิด เขาเป็นผู้บัญชาการทหารของยันจิง วันนี้ที่เขาโทรมาหาฉันฉันก็ตกใจเหมือนกัน เห็นได้ชัดว่าเขาค่อนข้างที่จะสนใจเรื่องของคุณมาก ฉันคิดว่าในเมื่อคุณไม่รู้จักไป๋ชิงเฟิง งั้นก็จะต้องเกี่ยวข้องกับลูกสาวของเขาแน่”
จางเยว่สันนิษฐานอย่างง่าย แต่นี่กลับเป็นสิ่งที่ตรงที่สุด หลินหยางครุ่นคิด คนเดียวที่น่าจะเกี่ยวข้องกับไป๋ชิงเฟิง ก็มีเพียงไป๋เซียนเฉ่า
“หรือว่าพ่อของไป๋เซียนเฉ่าไป๋ชิงเฟิง?” หลินหยางพูดขึ้น
“ไป๋เซียนเฉ่า? คุณหมายถึงเธอหรือ?” จางเยว่ลุกขึ้นนั่งทันที จับแขนของเขาเขย่าพร้อมพูดขึ้น
หลินหยางรีบส่ายหัวพร้อมพูดว่า “ไม่ได้มีเรื่องอะไรกันเลย แต่ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับเธอ ผมกับไป๋เซียนเฉ่าเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ ครีมที่ผมทำเธอเป็นคนขาย เราสองคนร่วมหุ้นกันเปิดบริษัท ผมไม่ได้ทำอะไรเธอนะ”
ในหัวสมองของหลินหยาง เขาก็ได้คิดถึงศัตรูของตนเองไปแล้วรอบหนึ่ง คนที่น่าสงสัยที่สุกมีอยู่หลายคน บางคนมีความลับอยู่ในมือของตน บางคนเคยถูกตนข่มขู่แต่ก็ยังไม่มีปัญญาที่จะเอาคืนตน แต่ครั้งนี้ หากครุ่นคิดถึงคู่แข่งของไป๋เซียนเฉ่า นั่นก็จะค่อนข้างพูดยาก
เหลยหยุน? มีความเป็นไปได้ แต่เขาจะไม่ลงมือกับตนแบบนี้เด็ดขาด มากสุดก็หาพวกพวกหนึ่งมารุมทำร้ายตน ไอ้สารเลวคนนี้ไม่มีสมองขนาดนั้น ส่วนคู่แข่งของไป๋เซียนเฉ่า ก็มีเพียงเธอคนเดียวที่รู้ที่ดีที่สุด
และตอนนี้หลินหยางไม่อยากติดต่อกับเธอ เพราะเขาจะต้องหลบอยู่ในที่มืดจะได้สืบหาคนที่ลงมือได้อย่างสะดวก เวลาแบบนี้หากติดต่อไป๋เซียนเฉ่า ละครเรื่องนี้ก็จะไม่สนุกแล้ว หลินหยางตั้งใจแกล้งตาย ก็เพื่อหลอกล้องูพิษที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดและกำลังพยายามทำร้ายเขาปรากฏตัว ขอเพียงตนไม่ออกมา อีกฝ่ายจะต้องกระโดดออกมาเองแน่ รอเมื่อคนร้ายที่อยู่เบื้องหลังปรากฏตัวแล้ว ก็อาจจะถึงเวลาที่เขาจะรวบแห
เรื่องมาถึงตอนนี้ หลินหยางเปลี่ยนกลายเป็นระมัดระวังตัว ความคิดของเขาได้ขยายกว้างไกลขึ้น ไม่ใช่ชายหนุ่มที่อยู่แต่ในหมู่บ้านเล็กๆ บนภูเขา ไม่เคยเห็นโลกภายนอกคนนั้นอีกต่อไปแล้ว หากเขาสามารถเปลี่ยนสิ่งต่างๆในครั้งนี้ได้ เมื่อถึงตอนนั้น คนที่คิดอยากทำอะไรเขา ก็จะต้องชั่งใจตัวเองก่อนแล้ว
มองเห็นท่าทีขมวดคิ้วของหลินหยาง จางเยว่พูดปลอบขึ้นว่า “วางใจ ขอเพียงคุณอยู่ข้างกายฉัน จะไม่มีใครสามารถทำอะไรคุณได้”
มองดูหญิงสาวที่มีความมั่นใจในตัวเองคนนี้ หลินหยางก็มีพลังขึ้นมาทันที ค่ำคืนนี้ยังเช้าอยู่เลย เมื่อกี้เป็นเพียงแค่การอุ่นกาย ด้านล่างของหลินหยางแข็งแกร่งขึ้นมาอย่างเป็นพิเศษ
รู้สึกได้ถึงความต้องการของหลินหยางอีกครั้ง จางเยว่รีบลุกขึ้นเพื่อจะหนี แต่ภายในสถานที่คับแคบนี้เธอจะหนีไปไหนได้? ถูกหลินหยางโอบกอดไว้แน่น ล้มทับจมลงบนอ่างอาบน้ำ สงครามครั้งใหม่ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง