บทที่ 198 มีชื่อเสียงฉาวโฉ่
เช้าวันต่อมา ชายชราตรงไปยังตรอกอันเงียบสงบในเมือง ที่นี่มีแพทย์จีนอาวุโสที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองเจียงหลิง ชื่อของเขาคือ หยังวั่นเฉียน
หยังวั่นเฉียนรออยู่ที่หน้าประตูแล้ว เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักแวะมา เขาปลื้มใจเป็นอย่างมาก
หลังจากที่พาเพื่อนรักเข้ามาในบ้าน หยังวั่นเฉียนยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ได้เจอกันนาน นายยังแข็งแรงดีนะ สีหน้าดูดีกว่าหนุ่มสาวตั้งเยอะ”
“นายไม่ต้องมาชมฉันแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะการรักษาของนาย ฉันคงตายไปตั้งนานแล้ว ที่ฉันมาครั้งนี้เพราะต้องการสอบถามเรื่องของคนที่ชื่อหลินหยาง”
เมื่อได้ยินชื่อของหลินหยาง หยังวั่นเฉียนหัวเราะออกมาเสียงดัง แล้วพูดว่า “เพื่อนรัก นายมาหาถูกคนแล้ว คนคนนี้คืออนาคตรุ่นต่อไปของวิทยาการการแพทย์ เขามีพื้นฐานที่ดีมาก เรียนด้านการแพทย์ตั้งแต่เด็ก มีความเชี่ยวชาญโรคที่รักษาได้ยากหลายโรค ขนาดคนแก่อย่างฉันยังนับถือเขาเลย นายมาหาเขาทำไมเหรอ”
“พูดอย่างนี้แสดงว่านายรู้จักกับหลินหยางเหรอ นายเล่าเรื่องของเขาให้ฉันฟังอย่างละเอียดได้ไหม” ชายชราถามขึ้น
“เอาอย่างนี้ละกัน ฉันที่เป็นนายกสมาคมแพทย์แผนจีน ไม่สามารถพัฒนาการแพทย์แผนจีนได้อย่างจริงจัง ความคิดเพียงอย่างเดียวของพวกเราในตอนนี้คือหวังว่าคนหนุ่มอย่างเขาจะเผยแพร่วิชาทางการแพทย์ให้แพร่หลาย ฉันจะได้นอนตายตาหลับ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถทำให้ความปรารถนาของฉันเป็นจริง ฉันกับเขาเป็นเพื่อนกับ เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนที่มีอายุต่างกันเลยล่ะ” หยังวั่นเฉียนพูดออกมาอย่างหดหู่
เมื่อได้ยินเพื่อนของตัวเองพูดถึงเขาเช่นนี้ ทายาทลำดับสองของตระกูลเซินถู เซินถูกง ก็มีสีหน้าประหลาดใจ
“เพื่อนรัก นายอยากรู้จักเขาหรือมาหาเขาเพราะมีธุระอะไรหรือเปล่า” หยังวั่นเฉียนเอ่ยขึ้น
“ไอ้หลายชายของฉันไปเกี่ยวข้องกับเขานิดหน่อย แค่เรื่องเล็กน้อยน่ะ” เซินถูกง พูดอย่างคลุมเครือ
หยังวั่นเฉียนขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “อย่าให้ตระกูลของนายไปมีเรื่องกับเขานะ ฉันเคยเห็นความสามารถของเด็กคนนี้ กลัวว่าตระกูลของนายจะจบไม่สวย”
มาพูดตอนนี้มันก็สายไปเสียแล้ว หลินหยางได้ทำให้หลานชายของเขา เซินถูอ๋างหรันเหมือนตายทั้งเป็น และสร้างความขัดแย้งขึ้นมาแล้ว
เซินถูกงไม่ได้อยู่เจียงหลิงต่อ วันเดียวกันเขาได้พาหลานชายของตัวเอง ซึ่งก็คือชายสูงคล้ำคนนั้นกลับไปที่ยันจิง
“อ๋างหรัน ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป แกต้องฝึกอย่างหนัก ไอ้เด็กแซ่เซียวกับเพื่อนรักของฉันมันมีความเกี่ยวข้องกัน ฉันไม่สะดวกใจที่จะลงมือ และไม่สามารถลงมือแทนแกได้ แกต้องจำเอาไว้ว่าอย่าทำให้ตระกูลของเราเสียศักดิ์ศรี!” เซินถูกงพูดอย่างเด็ดเดี่ยว
เซินถูอ๋างหรันคำนับอยู่อย่างนั้น แล้วพูดออกมาว่า “ท่านลุงรอง ผมจะไม่ทำให้ลุงผิดหวัง”
เซินถูอ๋างหรัน เริ่มฝึกฝนอย่างหนัก หลังจากผ่านไปหลายเดือนเขาจึงออกมาจากการฝึกฝน แต่ทว่าในตอนนี้หลินหยางกำลังนอนพักผ่อนอย่างมีความสุขอยู่ในโรงพยาบาล สิ่งที่น่าสนุกก็คือจะมีผู้หญิงมาอยู่เป็นเพื่อนเขาทุกวัน ดูเหมือนว่าพวกผู้หญิงจะปรึกษาเรื่องเวลาและตารางมาอย่างดี โดยไม่เจอหน้ากันด้วยซ้ำ
วันนี้หลินหยางประเมินดูร่างกายของตัวเอง ร่างกายของเขาใกล้จะหายดีแล้ว เขาจึงพูดกับไป๋เซียนเฉ่าว่า “ถ้าฉันอยู่ต่อไปคงจะเบื่อแย่ ให้ฉันกลับบ้านเถอะ”
“ไม่ได้ นายพักอยู่ที่นี่ก่อนเถอะ ถ้าร่างกายของนายยังไม่แข็งแรงก็ห้ามออกไปเด็ดขาด ข้างนอกมันอันตรายมาก” ไป๋เซียนเฉ่าพูดอย่างน่ากลัว
นี่เป็นเพราะจะขัดหลินหยาง จ้าวกางเถียน ทั้งสองพี่น้องถูกย้ายไปรักษาตัวที่ยันจิงตั้งนานแล้ว ส่วนเหลยหยุนตอนนี้เขาเหมือนหมาข้างถนน ถิ่นของมันโดนแก๊งอื่นยึดครองไปแล้ว ส่วนมันก็หนีออกจากเมืองเจียงหลิง และไม่รู้ว่าไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน
หลินหยางรู้ว่านี่เป็นการแก้แค้นของไป๋เซียนเฉ่า แก้แค้นที่เขาเข้าไปเผชิญอันตรายและแบกทุกอย่างไว้เพียงคนเดียว
“แต่ฉันเบื่อมากที่ต้องอยู่ที่นี่ ฉันต้องไปฝึกฝนการทำยา ถ้าครีมแผลลายขายดีขึ้นมาแล้วเราไม่มีของสำรองไว้จะทำยังไง” หลินหยางพูดเหตุผลของตัวเองออกมา
“นายไม่ต้องกังวลเรื่องนี้หรอก ตอนนี้ฉันได้พักการขายไปชั่วคราวแล้ว รอให้หลิวจิ่นวางช่องทางการขายให้เรียบร้อยแล้วค่อยว่ากันอีกที” ไป๋เซียนเฉ่าพูดอย่างไร้ความกังวล
หลินหยางพูดอย่างเหนื่อยใจว่า “งั้นเอาอย่างนี้ ฉันจะอยู่ที่นี่อีกสองสามวัน แต่เธอต้องอยู่เป็นเพื่อนฉัน”
“คนที่อยู่เป็นเพื่อนนายมีตั้งหลายคน ขาดฉันไปสักคนจะเป็นไรไป” ไป๋เซียนเฉ่ากลอกตามองบน
หลินหยางตัดสินใจเงียบและนอนนิ่งๆ บนเตียง ไป๋เซียนเฉ่าใจอ่อนแล้วจับมือของเขา จากนั้นพูดขึ้นมาว่า “โอเค นายอยู่ที่นี่อีกสักสองสามวัน ถ้าแน่ใจว่าร่างกายไม่เป็นอะไรแล้วค่อยออกไป ในโรงพยาบาลมีพยาบาลสาวที่เป็นอาหารตาตั้งเยอะ”
หลินหยางเอ่ยขึ้นมาว่า “ผู้หญิงแต่งหน้าหนาๆ พวกนั้นดูดีตรงไหน ดูเธอยังจะดีกว่า ขนาดเธอไม่แต่งหน้ายังสวยกว่าคนพวกนั้นตั้งเยอะ”
ไป๋เซียนเฉ่ายิ้มออกมาแล้วพูดว่า “งั้นนายลองว่ามาสิว่าตรงไหนของฉันดูดี”
“อันที่จริงตอนที่ผมเอารอยแผลเป็นออกให้คุณ ผมก็รู้สึกว่าคุณสวยจนใจสั่น เมื่อเห็นคนสวยอย่างคุณผมก็ทำตัวไม่ถูก” หลินหยางพูดอย่างเก้ๆ กังๆ
ยิ่งฟังก็ยิ่งถูกใจ ไป๋เซียนเฉ่าจึงถามต่อว่า “แล้วมันตรงไหนกันล่ะ”
“เธอดูคิ้วของเธอสิ ไม่ต้องไปตัดแต่งมันเลย มันโก่งอย่างงดงาม ใบหน้าของคุณก็เรียบเนียนสดใสราวกับหยก ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็เห็นโครงหน้าและความอ่อนวัย จมูกของเธอไม่ได้โด่งแต่มันจิ้มลิ้มเข้ากับริมฝีปากบางของคุณ มันรวมความงดงามเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ สรุปเลยนะมันงดงามราวกับแกะสลัก” หลินหยางจ้องเธอแล้วพูดออกมาอย่างจริงจัง
นี่นับว่าเป็นคำชมที่ออกมาจากใจของหลินหยาง เมื่อไป๋เซียนเฉ่าได้ยิน ตาของเธอก็เป็นประกาย คำชมแสนหวานของชายหนุ่มหลอมละลายความรูปลักษณ์อันเด็ดเดี่ยวของเธอ เธอก้มหน้าลงไปจูบหลินหยาง เธอเริ่มมีอารมณ์แล้ว
หลินหยางยื่นมือออกมาจับหน้าอกน้อยๆ ของหญิงสาว เขาหัวเราะแล้วพูดว่า “ช่วงนี้ยืดงานออกไปเลย”
“นายไม่รู้หรอกทุกครั้งที่เห็นหลินชิงเดินส่ายไปส่ายมาต่อหน้าฉัน ฉันอยากดึงเธอมาถามว่าทำยังไงให้มันใหญ่” ไป๋เซียนเฉ่าพูดอย่างหงุดหงิด
หลินหยางหัวเราะแล้วพูดว่า “หรือว่าจะให้ผมทำให้มันใหญ่”
“ที่นี่คงไม่ดีหรอก ถ้าหมอเดินเข้ามาจะทำยังไง” ไป๋เซียนเฉ่าพูดตะกุกตะกัก
“ไม่ต้องไปสนใจหรอก ฉันหูดี อีกอย่างหมอก็เข้ามาตรวจแล้ว ตอนนี้ก็ค่ำแล้ว ถ้าเราไม่เรียกพวกเขาก็ไม่เข้ามา” หลินหยางพูด
มือของไป๋เซียนเฉ่าวันไปวนมาอยู่ที่กระดุม แต่สุดท้ายเธอก็ดึงมันออก จากนั้นก็เอนตัวลงไปบนเตียงของหลินหยาง
ที่นี่เป็นห้องพักผู้ป่วยที่ค่อนข้างมีระดับ เตียงกว้างมาก ถึงแม้ว่าจะเทียบได้กับเตียงที่ห้องทำงานของไป๋เซียนเฉ่า แต่ก็ยังมีพื้นที่เหลืออีกเยอะสำหรับพวกเขาสองคน
หลินหยางใช้พลังมังกรและหงส์อีกครั้ง จากนั้นก็นวดคลึงขึ้นไปบริเวณท้องน้อยของไป๋เซียนเฉ่า ถึงแม้ว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่มือของหลินหยางได้สัมผัสส่วนที่อวบอิ่มทั้งสองข้าง แต่ไป๋เซียนเฉ่าก็ยังคงรู้สึกสะท้าน โดยเฉพาะตอนที่หลินหยางจงใจสัมผัสโดนยอดปทุมถันของเธอ ทำให้เธอรู้สึกจั๊กจี้ขึ้นมา
“นะ..นายเบาๆ หน่อย ร่างกายของนายฟื้นตัวดีหรือยัง อย่าทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า” ไป๋เซียนเฉ่าพูดอย่างเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร รักษาการนวดคลึงให้สม่ำเสมอทุกวัน หลินชิงต้องอิจฉาเธอแน่ๆ” หลินหยางหัวเราะแล้วพูดออกมา
ไป๋เซียนเฉ่าไม่มีเวลามาสนใจเรื่องไร้สาระระหว่างเขากับหลินชิง เพราะตอนนี้ตรงจุดข้างล่างของเธอต้องการเขา
“ดีขึ้นแล้วจริงเหรอ ฉันต้องการตรงนั้น!” ไป๋เซียนเฉ่าส่งเสียงครางออกมา
ตั้งแต่หลินหยางมานอนที่โรงพยาบาล เขาก็ไม่ได้แสดงความเสน่หากับผู้หญิงมานานแล้ว ขนาดตอนที่เขาฝึกวิชาก็รู้สึกว่าไม่ค่อยมีกำลังเท่าไร ตอนนี้ไป๋เซียนเฉ่าเอาตัวเองมาป้อนถึงปากเขา มีเหตุผลอะไรที่เขาจะไม่กินล่ะ
หลินหยางรีบมุดเข้าไปในผ้าห่ม แล้วเอาหน้าผากไปแนบกับหน้าผากของเธอแล้วพูดว่า “เดี๋ยวเธอก็ส่งเสียงออกมาเบาๆ หน่อยแล้วกัน”
ไป๋เซียนเฉ่าหน้าแดง เธอหยิกเอวของหลินหยางอย่างหงุดหงิด เสียงของเธอไม่ได้ดัง ครั้งก่อนเธอแค่ตั้งใจส่งเสียงดังออกมาให้จางเยว่ได้ยิน โดยปกติเธอไม่ได้หน้าหนาขนาดนั้น
แต่ตอนที่หลินหยางสอดเข้ามา ไป๋เซียนเฉ่าก็ร้องออกมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ หลังจากที่หลินหยางได้รับบาดเจ็บครั้งนี้ แน่นอนว่าร่างกายของเขาบอบช้ำ แต่มันก็แค่เล็กน้อย พลังภายในตัวของเขายังคงแข็งแกร่ง
หลินหยางรวบตัวของหญิงสาวเอาไว้ จากนั้นก็กระซิบที่ข้างหูของเธอว่า “บอกให้เบาๆ ไง”
“ไอ้เลว ก็เพราะนายนั่นแหละ อีกอย่างถ้าฉันอยากจะตะโกนออกมาจะทำยังไงล่ะ” ไป๋เซียนเฉ่าพูดออกมาด้วยความหงุดหงิด
หลินหยางขำพรืด “งั้นก็ร้องออกมาเถอะ กลับกันพวกเราก็มีชื่อเสียงฉาวโฉ่อยู่แล้ว”
หลินหยางมีผู้หญิงสวยประกบซ้ายขวาตลอดเวลา พวกผู้หญิงแบ่งเวลาแวะเวียนมาหาเขา พวกพยาบาลเอาแต่พูดพึมพำ หลินหยางได้ยินทั้งหมดเพราะเขามีการฟังของเขาดีมาก
หลินหยางไม่สนใจว่าใครจะมองยังไง เขาแค่อยากมีอะไรกับคนที่ตัวเองชอบ
ไป๋เซียนเฉ่าชอบมาก ตัวของเธอรัดแน่น รอให้หลินหยางบดขยี้ร่างของเธอให้แหลกละเอียด ภายใต้ผ้าห่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ นี่คือผลข้างเคียงของพลังมังกรและหงส์ อุณหภูมิในร่างกายจะสูงขึ้นทีละนิด เจินชี่จะปกคลุมรอบๆ
“ร้อนมาก” ไป๋เซียนเฉ่าพูดพึมพำ
ไม่เพียงแค่ร้อน แต่อยากจะปล่อยอะไรออกมาข้างนอก พลังมังกรและหงส์ของหลินหยางควบคุมจังหวะไว้ได้เป็นอย่างดี โดยไม่ทำให้ไป๋เซียนเฉ่าปล่อยอะไรออกมา อีกทั้งยังทำให้ตัวเขาเองได้รับความสุขนานขึ้นอีกด้วย
ค่ำคืนอันเงียบสงบ เสียงครวญครางดังออกมาจากห้องผู้ป่วยสุดหรูเป็นระยะๆ พวกพยาบาลได้ยินก็หน้าแดง ตอนที่ไป๋เซียนเฉ่าพาร่างอันเหนื่อยล้าของตัวเองออกมา เธอเห็นภาพพวกนั้น และเธอก็ไม่มาที่โรงพยาบาลอีก ในขณะเดียวกันเธอเร่งให้หลินหยางทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
ความคิดของผู้หญิงเปลี่ยนไปมาอย่างรวดเร็ว หลินหยางอยากรีบออกจากโรงพยาบาลอยู่แล้ว ช่วงบ่ายเขาจึงทำเรื่องออกจากโรงพยาบาล
หลินหยางไม่ได้พักต่อที่บ้าน วันต่อมาเขาไปทำงานตามปกติ
เขาออกมาจากลานจอดรถใต้ดิน เจอกับหลินชิงพอดี หญิงสาวทั้งตกใจที่ได้เจอเขา และรีบหลบหน้าเขา
“เป็นอะไร หลบทำไม” หลินหยางถามขึ้น
“มะ ไม่มีอะไร ประธานไป๋รู้เรื่องของพวกเราแล้ว” หลินชิงพูดอย่างเคร่งเครียด
“ไม่มีเหตุผลอื่นเหรอ” หลินหยางถามต่อ
หลินชิงเงยหน้าขึ้น และพูดอย่างแน่วแน่ว่า “จะมีเหตุผลอะไรอีกล่ะ เหตุผลนี้ยังไม่พอเหรอ”
“งั้นก็ไม่จำเป็นต้องหลบ เธอไม่ได้จะกินคุณซะหน่อย” หลินหยางพูดแล้วหัวเราะ
หลินชิงละอายใจเพราะรู้สึกเหมือนตัวเองขโมยของรักของไป๋เซียนเฉ่า หลินหยางรั้งเธอไว้แล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร ถ้าเขาจะกินเธอก็ต้องกินฉันก่อน”
“อย่า วันนี้มีแขกมา นายขึ้นไปก่อนเถอะ ประธานไป๋ ต้องรอนายอยู่แน่ๆ” หลินชิงพูดแล้วย่นปากยู่
หลินหยาพยักหน้าอย่างจำใจจากนั้นก็เดินขึ้นไป เลขาคนนี้ช่างเอาใจใส่จริงๆ มักจะคิดถึงคนอื่นก่อนเสมอ
เมื่อมาถึงหน้าห้องทำงานของไป๋เซียนเฉ่า หลินหยางได้ยินเสียงที่คุ้นเคย พอเขามาก็เป็นเธอจริงๆ!